ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1027 – ไปช่วยนาง!
“ศิษย์น้อง ชูเฟิง รอข้าก่อน!!!”
เมื่อ ชูเฟิง เดินออกจากโรงอาหาร เขาก็คิดจะที่มุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของตน ซึ่งเขาไม่นึกว่า หลี่ เล่ย จะวิ่งตามเขามา ด้วยท่าทีที่ดูผิดปกติและร้อนรน “ศิษย์พี่ หลี่ เล่ย ท่านมีอะไรหรือเปล่า ?!”
เห็น หลี่ เล่ย ไล่ตามมา ชูเฟิง จึงหันไปถามด้วยท่าทีสับสน “ที่พักข้ามันน่าเบื่อจะตาย ที่ต้องอยู่คนเดียว ข้าเลยคิดว่าจะตามศิษย์น้อง ชูเฟิง กลับที่พัก เพื่อสังสรรค์กันในราตรีนี้”
หลี่ เล่ย เกาหัวพร้อมกับพูดอย่างเปิ่นๆ “สังสรรค์งั้นหรอ ก็ดีเหมือนกัน งั้นเราไปด้วยกันเลย พอดีข้าอยากถามท่านเกี่ยวกับสถานการณ์ของ พฤกษาครามตอนใต้ ด้วย”
ในขณะที่ ชูเฟิง พูด เขาก็เดินมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของเขา สำหรับ ลี่ เล่ย เขารีบเดินตามหลัง ชูเฟิง ด้วยความตื่นเต้น นึงสิ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือเขาปรารถนาที่จะตีซี้กับ ชูเฟิง โดยหวังว่าพวกเขาจะกลายเป็นสหายที่ดี
หลังจากนั้น ชูเฟิง ก็ถาม หลี่ เล่ย เกี่ยวกับเรื่องพฤกษาครามตอนใต้ อย่างไรก็ตามเนื่องจาก หลี่ เล่ย มีตำแหน่งที่เล็กกระจ้อย และมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ขอบเขตที่เขารู้จึงมีจำกัด
ชิ้นส่วนของข้อมูลที่ได้มา อาจบอกได้ว่ามันน่าสนใจ เพราะหลายวันที่ผ่านมา หลี่ เล่ย บังเอิญไปเห็น กลุ่มอาวุโสระดับสูง รีบมุ่งหน้าออกจาก พฤกษาครามตอนใต้ เหมือนจะไปไล่ควาย
กลุ่มอาวุโสเหล่านั้นไม่ได้มีตำแหน่งที่ธรรมดาๆ แม้แต่เสื้อผ้าที่เขาสวม ก็ยังแตกต่างจากอาวุโสท่านอื่นๆ พวกเขาสวมชุดคลุมน้ำเงินเข้ม เสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มนั้นบ่งบอกว่า พวกเขามีอำนาจภายในพฤกษาครามตอนใต้อย่างมาก นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาบอกว่า อาวุโสเหล่านั้นมีตำแหน่งสูงปี๊ด. . .
นับตั้งแต่ที่อาวุโสเหล่านั้นออกไป ก็มีบางคนเริ่มถยอยกลับมาที่พฤกษาครามตอนใต้ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้กลับมา ภาระกิจที่อาวุโสระดับสูงได้รับหมอบหมาย นั่นคือสิ่งที่ยังไม่มีใครรู้ แต่ศิษย์หลายคนก็พอรู้เรื่องที่อาวุโสพากันแห่ออกไป และพวกเขาก็คิดว่าเรื่องนี้มันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ พวกเขาไม่อาจเดาได้ว่ามันคือภาระกิจอะไร [ A : ใครรู้ยกมือตอบครูอังคณาหน่อยลูก ?! ]
ในราตรีนี้ ชูเฟิง ใช้เวลาอยู่ที่ พฤกษาครามตอนใต้ รุ่งเช้าวันต่อมา หลี่ เล่ย ก็พา ชูเฟิง มาที่ลานกว้าง ศิษย์หลายคนก็มาในลานนี้ เขาบอกว่า ทุกๆเช้า ทุกคนจะมารวมตัวกัน ณ สถานที่แห่งนี้ เนื่องจากจะมีอาวุโสออกมา เพื่อชี้แนะการเพาะปลูก และ บอกกฏของพฤกษาครามตอนใต้
ชูเฟิง สำรวจรอบๆบริเวณที่เขายืน และพบว่าในลานแห่งนี้ นอกจากคนของทะเลตอนใต้ ก็ยังมีผู้เยาว์จากทั่วทุกสารทิศ ทั้งหมดมีอายุไม่มากนักและการเพาะปลูกพวกเขาก็ไม่นับว่าเท่าไหร่ อาจบอกได้ว่า พวกเขานั้นพอๆกับคนที่มาจากทะเลตอนใต้
เห็นความวุ่นวายของกลุ่มคนที่มารวมตัว อาวุโส เองไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ชูเฟิง จึงตระหนักได้ว่า พวกเขาเหล่านี้อาจถูกจัดอยู่ในศิษย์ชั้นปลายแถว ดังนั้น ความรู้และวินัย จึงเรียกได้ว่า ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
นั้นทำให้ ชูเฟิง รู้สึกค่อนข้างที่จะตะลึง หากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขาอาจจะโกหก เรื่องเมื่อวาน และบอกว่าเขานั้นไม่ได้จากทะเลตอนใต้ แต่หลังจากคิดให้ถี่ถ้วน ชูเฟิง ก็สงบจิตสงบใจ เพราะไม่ว่ายังไง สถานที่แห่งนี้ก็ตัดสินทุกอย่างด้วยความแข็งแกร่ง และ ชูเฟิง ก็ไม่ใช่ขี้ๆ เขาจึงรอให้มันเหม็น ในยามที่หมักหมม นอกจากนี้ยังมีเวลาอีกเหลือเฝือ ก่อนที่พฤกษาครามตอนใต้จะส่งศิษย์หัวกะทิ ไปยังหุบเขาไม้คราม ดังนั้น ชูเฟิงจึงไม่ซีเรียจ “เจ้าคือคนที่ทำให้พี่ชายข้า ต้องขายหน้าต่อหน้าทุกคน ใช่ไม๊ ?!!!”
ในตอนนั้นจู่ๆก็มี เสียงสตรีดังขึ้นมา
มองไปยังต้นทางของเสียง ชูเฟิง ก็พบสตรี 5 คน พวกนางยืนห่างจากเขาประมาณ 3 เมตร แม่นางทั้ง 5 มีหน้าตาสวยสดงดงาม และยังมีพลังวิญญาณไม่เลว โดยเฉพาะคนที่เดินนำหน้า ผิวของนางทั้งเนียนและขาว นางนับว่าสวยทีเดียว นอกจากนี้พลังวิญญาณของนางยังสูงสุดในกลุ่ม นางอยู่ในระดับ 2 จ้าวแห่งสงคราม
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้น แม่นางที่นำมา คิ้วขมวดบึ้งตึง ดูเหมือนความโกรธจะท่วมท้นใบหน้าของนาง นางใช้มือขาวๆของนาง ชี้ มาที่ใบหน้าของ ชูเฟิง ราวกับว่า เกลียดชังกันมาก่อน “แม่นางเป็นใคร ?! พวกเรารู้จักกันมาก่อนด้วยหรอ ?!”
ชูเฟิง สำรวจนางและคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับนาง นับตั้งแต่ที่ได้เจอผู้หญิงมาจนป่านนี้ เขามั่นใจว่าไม่เคยเห็นหน้านางมาก่อน ดังนั้นก็ไม่น่ามีเรื่องขัดแย้งใดๆระหว่างกัน”ศิษย์น้อง ชูเฟิง นี่คือน้องสาว ของ เฉิน หลาง นางมีนามว่า เฉิน หง นางคือผู้ที่มีชื่อเสียงของทะเลตอนใต้ นางนั้นแสบมาก นางนิสัยเสียและวางท่ายิ่งกว่า เฉิน หลาง ซะอีก”
ตอนนั้น เสียงของ หลี่ เล่ยก็ดังขึ้นมาในหูของ ชูเฟิง เมื่อเขาเหลือบหันไปมอง เขาก็พบว่า หลี่ เล่ยแอบอยู่หลังเขา ดูจากท่าทางของเขาก็รู้ว่า หลี่ เล่ย นั้นกลัว เฉิน หง มากๆ “นี่คือ น้องสาวของ เฉิน หลาง งั้นหรอ น่าสนใจจริงๆ พี่ชายที่ไร้ประโยชน์ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องฟ้องน้องสาวมากู้หน้า ช่างน่าชื่นชม””เมื่อคืน ข้าทำให้พี่ชายต้องตกที่นั่งลำบาก แต่ข้าก็แค่สั่งสอนเขาเบาๆสำหรับสิ่งที่เขาสมควรได้รับ ถ้าเจ้าไม่พอใจ เจ้าก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ”
หลังจากที่รู้แล้วว่านางเป็นใคร ชูเฟิง ก็ไม่สนใจใดๆ หลังจากที่พูดคำนั้นจบ เขาก็หันหลังกลับ และไม่อยากที่จะตอแยกับ เฉิน หง “หยุดเดี๋ยวนี้!!!”
เห็น ชูเฟิง ไม่สนใจ เฉิน หง ก็โกรธหนักกว่าเดิม ในตอนนั้นนางตะโกนสั่งให้ ชูเฟิง หยุด พร้อมกับใช้มือขาวๆยื่นออกไป นางต้องการที่จะคว้าตัว ชูเฟิง และที่นางใช้ไม่ใช่มือธรรมดาๆ แต่นางปลดปล่อยพลังวิญญาณในระดับ 2 จ้าวแห่งสงครามออกมาด้วย นางทำแบบนี้เพื่อต้องการทดสอบฝีมือ ชูเฟิง “หวืดดดด”
แต่ในเวลานั้น ขณะที่ ฝ่ามือของ เฉิน หง กำลังจะถึงตัว ชูเฟิง ก็หันกลับมา เขาไม่ได้กล่าวใดๆ เพียงแค่ใช้สายตาที่แสนจะเยือกเย็นกวาดผ่าน “งึกๆๆๆ”
เห็น ชูเฟิง จ้องมาที่นางแบบนั้น เฉิน หง ก็เริ่มตัวสั่น นางยังคงยืนหยุดตรงนั้นอย่างไร้จุดหมาย สายตาของนางมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ชิร์ น่าเบื่อชะมัด”
หลังจากที่จ้อง เฉิน หง ด้วยสายตาครู่เดียว ชูเฟิง ก็เริ่มออกจากลานกว้าง “ศิษย์น้อง ชูเฟิง อาวุโสจะมาแล้ว เจ้ากำลังจะไปไหน ?!”เห็นว่าชูเฟิงจะไป หลี่ เล่ย รีบถาม “ข้าจะไปเดินเล่นแถวๆนี้ แล้วข้าจะรีบกลับมา”
เมื่อ ชูเฟิง กล่าวจบประโยค เขาก็ทะยานขึ้นสู่นภา พร้อมกับหายไป “เฉิน หง เกิดอะไรขึ้น ?! ทำไมเจ้าปล่อยเขาไปง่ายๆ ?!”หลังจากที่ ชูเฟิง หายไป แม่นางทั้งสี่ ที่ตามมา ก็รีบเข้าไปถามนาง ด้วยท่าทีที่สับสน
หลังจากที่ได้คำถามเหล่านั้นจากแม่นางทั้ง 4 เฉิน หง ก็รีบเรียกสติกลับมา หลังจากที่นางพยายามควบคุมร่างกายให้หยุดสั่น ทันทีที่นางกลับมาเป็นปกติ นางก็กล่าว”
เขาไม่ใช่คนที่เราควรจะเข้าไปตอแต”
จริงๆแล้ว ชูเฟิง ไม่ได้ออกจากบริเวณลานกว้าง เขาแค่บินขึ้นมาบนต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับปกปิดกลิ่นอาย ขณะที่เริ่มยกหัวขึ้นมองผืนนภา สีคราม
ในเวลนนั้น ชูเฟิง ก็พบกับผู้อาวุโสเสื้อคลุมน้ำเงิน ที่กำลังบินกลับมายัง อาณาเขตพฤกษาครามตอนใต้ พลังวิญญาณเขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แม้แต่คนที่พลังน้อยสุดก็อยู่ในระดับ 5 ราชันย์แห่งสงคราม ส่วนที่เหลือนั้นมีพลังเหนือกว่า จนกระทั้งสูงถึงจุดสูงสุดของขั้นราชันย์แห่งสงคราม
คนเหล่านี้ น่าจะเป็นคนที่ หลี่ เล่ย พูดถึง พวกเขาคือเหล่าบรรดาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของพฤกษาครามตอนใต้ ตอนนี้อาวุโสระดับสูงได้กลับมาจากภายนอก ใบหน้าพวกเขาดูซีเรียจเลยทีเดียว พวกเขาเหมือนว่ากำลังแบกรับภาระที่หนักอึ้งเอาไว้ ด้วยความกดดัน พวกเขาหายเข้าไปยังส่วนลึกของพฤกษาครามตอนใต้ “พวกอาวุโสเหล่านี้ หน้าจะถูกส่งออกไปหลายครั้ง แสดงว่ามันต้องเป็นภาระกิจที่สำคัญมากๆ ข้าสงสัยว่าภารกิจนี้อาจจะ . . ?!”
เมื่ออาวุโสหายเข้าไปในกรีบเมฆ ชูเฟิง ก็บ่นพึมพำ
เหตุผลที่เขาออกมาจากลานกว้าง เป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงกลุ่มคนที่มีอ่อร่าที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึง ตัดสินใจที่จะขึ้นไปตรวจสอบ ผู้ที่ครอบครองออร่านั้น
แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่พบอะไรไปมากกว่านั้น
ขณะที่การออกมามันเริ่มน่าเบื่อ เมื่อไม่พบสิ่งที่น่าสนใจ ชูเฟิง จึงไม่ต้องการที่จะอยู่ต่อ แต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวอาวุโส ถึงต่อให้เขาปรากฏ ชูเฟิงก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร ไปมากกว่าความรู้ที่เขามี แต่ที่นั้นก็น่าจะมีอะไรให้ทำ
ดังนั้น ชูเฟิง จึงรีบมุ่งหน้ากลับไปยัง ลานกว้าง
แต่ในตอนนี้ ผู้คนในลานกว้างกำลังเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบ โดยคนกลุ่มใหญ่ล้อมรอบ ใจกลางของลานกว้าง และส่งเสียงเอ๊ะอ๊ะ
ชูเฟิง ได้ยินเสียงกรีดร้องออกมาเบาๆ มันเป็นเสียงของผู้หญิง และดูเหมือนเสียงนั้นจะเป็นเสียงของน้องสาว เฉิน หลาง เฉิน หง “ศิษย์น้อง ชูเฟิง ในที่สุดเจ้าก็กลับมา . . .”
เมื่อพบ ชูเฟิง หลี่ เล่ย ก็วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน สีหน้าของเขาดูสับสนอย่างมาก “ศิษย์พี่ หลี่ เล่ย มันเกิดอะไรขึ้น ?!”
ชูเฟิงถาม “ศิษย์น้อง ชูเฟิง เจ้าควรไปที่นั้นเพื่อช่วยนาง ไม่งั้น เฉิน หง คงได้พบจุดจบที่เลวร้ายสุดๆ!!!”
หลี่ เล่ย กล่าวอย่างรนราน ขณะที่เขาพูด เขาก็คว้า มือชูเฟิง ดึงไปยังทิศทางที่ผู้คนกำลังรวมตัว
ReaDMGA////////////////////////////////////////
A : หลังจากนี้ ความมันส์ของจริงกำลังจะเริ่มขึ้น!!!
B : เห็นฆ่ากันนัวร์เนียเลยล่ะ 5555+ อย่างที่คิดพี่เฟิงนี้แม่งอย่างกะโOนัu ไปที่ไหนที่นั้น มีคนตายตลอด!!!
C : ฉายา ที่โoนัน ได้ ก็คือ ไอเด็กนรก!!! ส่วนพี่เฟิง ก็ไอตัว หายนะ!!! ไปที่ไหนที่นั่นชิบหาย!!!
A : อย่าว่าพี่เฟิงกูนะ!!! พี่เฟิงช่วยคน ไม่ได้ทำเพื่อความสะใจสักหน่อย ไอคนที่ตายก็ล้วนแต่สมควรตาย ทั้งนั้น!!!
A4 : ใช่ น้อง A พูดถูกที่สุด!!!