ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1063 – ความห่างชั้นของพลัง
“ฮั่น หวัง , ฮั่น เจียว ทุกๆ คน !!”
เมื่อเห็นใบหน้าของทั้งแปดคนนั้น ใบหน้าของ หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่พวกเขากล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ
เพราะพวกเขาต่างรู้จักกับทั้งแปดคนนี้ดี และทั้งแปดคนนี้ก็อยู่ในสถานะเดียวกันกับ หวาง เว่ย และคนอื่นๆ นั่นก็คือ เป็นศิษย์ที่โดดเด่นของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ อีกทั้งพวกเขาทั้งแปดคนยังมีสถานะที่สูงกว่า หวาง เว่ย และคนอื่นๆ
ตลอดมานั้น หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ต่างถูกกลั่นแกล้งโดยพวกเขาทั้งแปดคน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขานั้น พวกเขาไม่อาจขัดขืนการกระทำของทั้งแปดคนได้ จึงทำให้ หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ทำได้เพียงอดทนต่อการกลั่นแกล้งนี้เท่านั้น
อีกทั้งพวกเขาเองก็ไม่สามารถตอแยกับตระกูลฮั่นได้
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ตระกูลฮั่นได้ถูกขับไล่ออกจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้จนหมดสิ้น ด้วยน้ำมือของ ชูเฟิง “ไม่ต้องกลัว ข้ารับรองว่าพวกเจ้าจะตายโดยไม่ทรมาน ถูกต้องไหมพี่ใหญ่ ฮั่น เต๋า !?”
ทั้งแปดคนยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะหันกลับมองที่อีกคนหนึ่งที่ยังคงสวมชุดคลุมสีดำอยู่ “ถูกต้อง แต่ ชูเฟิง เป็นข้อยกเว้น หากพวกเราไม่ได้ฉีกเขาออกเป็นแปดส่วนพวกเราก็จะไม่สามารถล้างแค้นให้ผู้อาวุโสได้ !!”
ในขณะนั้น ชายชุดดำก็สะบัดแขนของเขา พลันชุดคลุมสีดำก็หลุดออกในทันที ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นต่อหน้าทุกๆ คน
ใบหน้าของเขาคือชายวัยกลางคน ร่างกายกำยำ อีกทั้งการบ่มเพาะพลังของเขายังอยู่ในขั้นราชันย์สงครามระดับสาม แต่ออร่าพลังของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าขั้นราชันย์ระดับสามทั่วๆ ไปอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขามีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น
ที่สำคัญนั้น แววตาที่เขาจ้องมองมายัง ชูเฟิง อัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังอย่างชัดเจน “ตามที่พวกเจ้าบอก พวกเจ้ามาหาข้าเพื่อแก้แค้นเช่นนั้นสินะ !!”
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยรอยยิ้มเบาๆ “หึ !! สารเลว ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามก็ไม่อาจต่อกรกับเจ้าได้ อีกทั้งข้ายังได้ยินมาว่าเจ้าได้สังหารผู้อาวุโสของตระกูลฮั่นของข้าไปหลายคนอีก !!” “แต่ข้า ฮั่น เต๋า ไม่เชื่อข่าวลือพวกนั้นแม้แต่น้อย วันนี้ข้าจะนำหัวของเจ้ากลับไป เพื่อแสดงให้ผู้อาวุโสรู้ว่า คนที่พวกเขาบอกว่าเป็นอัจฉริยะก็ไม่อาจต่อกรกับข้าได้ !!””และอีกไม่นานก็จะไม่มีใครกล้าท้าทายข้าอีก เพราะข้าจะฆ่าเจ้าในวันนี้ และข้าจะยึดครองหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของพวกเจ้าในไม่ช้า !!”
ฮั่น เต๋า กล่าวออกมาอย่างรุนแรง ในขณะก้าวเข้าไปหา ชูเฟิง “หึ !!”
ในขณะนั้น ชูเฟิง เพียงสะบัดฝ่ามือเบาๅ รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณสีทองก็เข้าครอบคลุมทุกๆ คนเอาไว้อย่างรวดเร็ว “ทำอะไร !!”
ฮั่น เต๋า และคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงในทันที เพราะด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นภายในนี้ คนภายนอกจะไม่สามารถรับรู้ หรือได้ยินได้
อย่างไรก็ตาม รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณเหล่านี้คือสิ่งที่พวกเขาสมควรเป็นคนทำมากกว่า ชูเฟิง เพราะ ชูเฟิง สมควรจะวิ่งหนีไป ไม่ใช่สร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณขึ้นมาเช่นนี้ มันจึงทำให้พวกเขาตกตะลึง
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของทุกๆ คนนั้น ชูเฟิง เพียงยิ้มบาง และกล่าวออกมาว่า”
ข้าก็แค่จะได้ฆ่าคนอย่างสบายๆ หน่อยเท่านั้น !!””ฆ่าอย่างสบายๆ รึ !?”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของ ชูเฟิง นั้น คนของตระกูลฮั่น และปราการอสรพิษดำต่างเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
หลังจากคำกล่าวเหล่านั้น ด้วยรอยยิ้มบางบนใบหน้าของ ชูเฟิง ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง และอันตรายถึงชีวิตของพวกเขาได้อย่างชัดเจนจ่างร่างกายของ ชูเฟิง “ฆ่าอย่างสบายๆ เจ้าคิดว่านี่เป็นเรื่องตลกรึ เจ้าคิดว่าเจ้าจะรับมือข้าได้เช่นนั้นรึ !?”
ฮั่น เต๋า ไม่เสียเวลากล่าวออกมาอีกต่อไป เขารีบยกแขนสองข้างของเขาขึ้นมาพร้อมกับเข้าโจมตี ชูเฟิง ในทันที
***** ตูมมมม *****
แม้เขาจะไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ แต่ด้วยออร่าพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามนั้น พลังทำลายก็รุนแรงอย่างมาก ราวกับสัตว์ยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังเข้าขย้ำ ชูเฟิง
ในเวลานั้น ใบหน้าของ หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แม้ว่ามันจะเป็นพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสาม แต่ออร่าพลังของ ฮั่น เต๋า นั้นแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสที่ ชูเฟิง เคยฆ่าไปในก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
เพียงการโจมตีครั้งเดียวนี้ก็เพียงพอที่จะสังหารคนทั้งหมดที่เป็นศิษย์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ แบะศิษย์ของปราการอสรพิษดำ
***** วืดดดด *****
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ชูเฟิง ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่น้อย แต่ร่างกายของเขาแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
เพราะในตอนนี้ ทั่วร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเกราะสายฟ้า อีกทั้งออร่าพลังของเขายังเพิ่มขึ้นจากขั้นจ้าวสงครามระดับเก้า เป็นขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่ง
แต่ที่สำคัญนั้น ชูเฟิง เพียงยกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมกับปล่อยออร่าพลังของเขาออกมา พลังโจมตีของ ฮั่น เต๋า ที่พุ่งมายังเขาก็แตกกระจายไปในทันที “นี่……”
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้นั้น นอกจาก หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ที่ค่อนข้างสงบนั้น คนอื่นๆ โดยเฉพาะศิษย์ของปราการอสรพิษดำที่ต้องการสังหาร ชูเฟิง ต่างตกใจอย่างมาก แม้กระทั่งใบหน้าของพวกเขายังเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ
ในเวลานี้ พวกเขาตระหนักได้ดีถึงการเล่นละครของ ชูเฟิง ในก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เจอตอของจริงก็คราวนี้ เพราะ ชูเฟิง สามารถสะกัดพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น การสังหารพวกเขามันย่อมง่ายยิ่งกว่าการกระดิกนิ้วมาก
ในขณะนี้พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่ได้เดินเข้ามายังปากทางเข้าสู่นรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการออกจากขุมนรกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย “ดูเหมือนว่าเจ้าจะสามารถเพิ่มพลังจากขั้นจ้าวสงครามระดับเก้า เป็นขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่งได้ ผู้อาวุโสไม่ได้โกหกจริงๆ ว่าเจ้ามีทักษะบางอย่างที่สามารถทำให้พลังเพิ่มขึ้นได้ !!””ถ้าเช่นนั้นข้าจะเอาจริงให้ดู ข้าจะแสดงให้เห็นว่าความต่างชั้นของขั้นราชันย์สงคราม และขั้นจ้าวสงครามนั้นมันต่างกันเช่นไร !!””จ้าวสงครามย่อมไม่ใช่คู่มือของราชันย์สงคราม แม้ว่าเจ้าจะมีทักษะที่เพิ่มพลังได้ ข้าจะแสดงให้เห็นว่าเจ้าก็ยังไม่ใช่คู่มือของข้า !!”หลังจากกล่าวจบนั้น ฮั่น เต๋า ก็เรียกขวานที่เป็นยอดยุทธภัณฑ์ชั้นราชวงศ์ออกมาในมือของเขา
หลังจากที่ขวานปรากฏออกมาในมือของเขานั้น ออร่าพลังของ ฮั่น เต๋า ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้แต่จิตวิญญาณทางธรรมชาติที่อยู่ภายในรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณก็ได้รับผลกระทับจากพลังของขวานยักษ์นั่น พวกมันเริ่มหมุนวนโดยมี ฮั่น เต๋า เป็นจุดศูนย์กลาง ในเวลนี้ ราวกับว่า ฮั่น เต๋า คือคนที่สามารถควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้ ไม่เว้นแม้แต่ ชูเฟิง และชีวิตของทุกๆ คน
***** วูบ *****
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น ดาบสีดำได้ปรากฏออกมาในมือของ ชูเฟิง อย่างรวดเร็ว
***** ตูมมมม *****
ชูเฟิง ปักดาบตราประทับผนึกมารลงไปบนพื้น พลันออร่าพลังมหาศาลที่หมุนวนอยู่รอบ ฮั่น เต๋า ก็เปลี่ยนมาหมุนวนอยู่รอบดาบตราประทัยผนึกมารอย่างบ้าคลั่ง
ไม่เพียงแต่ออร่าพลังโดยรอบเท่านั้น แม้แต่ทุกๆ คนยังสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่ส่งออกมาจากดาบตราประทับผนึกมารอย่างชัดเจน
ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัวต่อดาบตราประทับผนึกมาร แม้แต่ ฮั่น เต๋า ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ความจริงนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ทุกคนเท่านั้น ที่หวาดกลัว แม้แต่ขวานยักษ์ในมือของ ฮั่น เต๋า ก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ออร่าพลังที่น่าเกรงขามของมันในก่อนหน้านี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย “นะ….นี่มันเกิดอะไรขึ้น ดาบนี่มัน………”
ฮั่น เต๋า เคยเห็นยอดยุทธภัณฑ์ชั้นราชวงศ์มามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นยอดยุทธภัณฑ์ชั้นราชวงศ์ที่มีพลังมหาศาลขนาดนี้อย่างดาบตราประทับผนึกมาร ที่แท้แต่ขวานยักษ์ของเขายังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
ในเวลานั้น ชูเฟิง ได้ดึงดาบตราประทับผนึกมารที่ปักอยู่บนพื้นขึ้นมา และใช้ปลายดาบชี้ไปที่ ฮั่น เต๋า พร้อมกล่าวออกมาว่า”
ตอนนี้เจ้าคงรู้ถึงความห่างชั้นระหว่างพลังของข้าและเจ้าแล้วสินะ !!”
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A ;กรี๊ดดดดด พี่เฟิงเท่จังเลย!!
B :อีดอก แต๋วแตกเลยนะมืง!!!