I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1093 – ไป๋ รู่วเฉิน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1093 – ไป๋ รู่วเฉิน

 

“อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ข้าพอจะรู้เรื่องราวของข้อตกลงระหว่างท่านบรรพบุรุษของ นิกายสวรรค์ของเราเเละท่านบรรพบุรุษของหุบเขาไม้ครามตอนใต้” “เเต่มันก็เป็นเวลานานมากเเล้วที่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของท่านประสบพบกับความล้มเหลวที่จะได้รับบางสิ่งออกมาจากเจดีย์ไม้ครามใต้ ในช่วงเวลาเช่นนี้ ข้าเกรงว่าท่านที่มาเอาป่านนี้ถึงจะเข้าไปก็เสียเวลาปล่าวอยู่ดี” “ดังนั้นในความคิดของข้า ข้านั้นไม่คิดว่าจะให้ท่านจะต้องมาลองพบเสี่ยงอีกกี่ครั้งมันก็ล้มเหลวอยู่ดี ถ้าจะให้ข้ากล่าวตรงๆละก็ข้าขอเเนะนำให้ท่านไม่ต้องเข้าไปลองหรอกถึงพยายามไปมันก็ไม่มีความหมายอยู่ดี หรือถ้าจะให้บอกอีกความหมายคือท่านไม่ควรสร้างความอัปยศอดสู่ไปมากกว่านี้”

 

ฮูหยิน ประมุขกล่าวออกมา ในขณะที่นางกล่าวนางก็ได้สวมรอยยิ้มที่มีอัธยาศัยที่ดีบนใบหน้าของนางเพียงเเต่คำพูดของนางนั้นน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก

 

นี่คือความหมายของคำพูดเพราะว่าสถานที่นี้คือสถานที่ของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมก้มหัวให้ใคร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่ครอบครองความเเข็งเเกร่งมากกว่า ถึงเเม้ว่าจะมีอิทธิพลมากเพียงใดก็ต้องจำใจทนถึงเเม้จะโดนดูถูกเเละด่าทอก็ตามที “เเละถ้าพวกเราหุบเขาไม้ครามตอนใต้สามารถที่จะบอกปัดความล้มเหลวที่ผ่านมาเเละทำสำเร็จในครั้งนี้เล่า”

 

ในขณะเดียวกัน ชูเฟิงที่มองไปที่ ฉีคง ไจ้ฉิง ก็กล่าวออกมา ใบหน้าของเขาไม่ได้เเปรเปลี่ยนถึงความรู้สึกโดนดูถูกเเม้เเต่น้อย เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเองบางครั้งตนเองเท่านั้นที่จะปกป้องมันได้ “โฮ่ เจ้านับว่ากล้าหาญอย่างมากที่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ข้าขอชม เช่นนั้น เจ้าก็คือคนที่จะเข้าไปในเจดีย์ไม้ครามใต้ใช่ไม๊ ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจในตัวเองมากเลยนะ”

 

ในทันที ฮูหยิน ประมุข ก็ตรวจสอบชูเฟิง นางไม่ได้เเสดงท่าทางที่รังเกียจออกมา นางเพียงเเค่ประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น

 

จากนั้นนางก็หันไปยัง ฉีคง ไจ้ฉิง เเละกล่าวออกมาว่า”

 

อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ท่านได้พาเขามาที่นี่เพื่อที่จะเข้าไปยังสถานที่เเห่งนั้นใช่มั้ย เเสดงว่าท่านก็มีความมั่นใจน่าดูในตัวเขา เอาอย่างนี้ละกันถ้าท่านยอมรับข้อเสนอของข้า ข้าจะพิจารณาอีกทีถึงเรื่องนี้?” “ข้อเสนอที่ว่าคือสิ่งใดกัน”

 

ฉีคง ไจ้ฉิง ถาม “ข้าจะให้ศิษย์ของท่านเข้าสู่เจดีย์หุบเขาไม้คราม เพียงเเต่นี้จะเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น” “ถ้าเขาสามารถที่จะได้รับของบางอย่างออกมาจากเจดีย์หุบเขาไม้ครามใต้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพียง เเต่ถ้าเขาไม่สามารถที่จะได้รับอะไรออกมาเลยละก็ ข้าหวังว่าท่านจะไม่ย่างกายเข้ามาที่นิกายสวรรค์ของเราอีก นับจากนี้ นอกจากนี้ข้าจะขอเปลี่ยนจาก เจดีย์ไม้ครามใต้ เป็น เจดีย์นิกายสวรรค์ ตั้งเเต่วันนี้ เจดีย์นี้จะไม่ใช่ของ หุบเขาไม้ครามตอนใต้อีก เเต่จะเป็นของนิกายสวรรค์ของเรา ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับข้อเสนอเช่นนี้”

 

ในขณะที่น่างกล่าวออกมา ฮูหยิน ประมุขล้วนเเสดงสีหน้าที่อิ่มเอมใจ “นี่มัน….”

 

เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้นการเเสดงออกของ ฉีคง ไจ้ฉิง ก็เเปรเปลี่ยนไปในทันทีไม่ใช่หมายความว่าพวกเขาปฏิเสธหุบเขาไม้ครามตอนใต้ทั้งหมดเลยหรือ เมื่อเขาพิจารณาถึงคำพูดเหล่านั้น

 

เขาคิดอยู่เเล้วว่าข้อเสนอที่นางจะกล่าวออกมานั้นจะต้องไม่สามัญธรรมดา ไม่เพียงเเต่ นางจะปฏิเสธหุบเขาไม้ครามตอนใต้ เเต่สิ่งเเรกที่นางทำคือต้องการยึดเจดีย์ไม้ครามใต้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างข้อตกลงตั้งเเต่นี้ไปหรอกหรือ

 

ในขณะนี้สองมือของ ฉีคง ไจ้ฉิง กำเเน่นไปด้วยเสียงที่ดัง เขารู้สึกเกลียดตัวเองที่ไร้พลัง ถ้าเกิดเขามีพลังมากกว่านี้ละก็เขาคงจะไม่ถูกรังเเกหรือถูกข่มเหงจากผู้อื่นได้ง่ายเช่นนี้

 

ถึงเเม้ว่าเขาจะหมดหนทางไม่ว่าเขาจะโกรธมากมายเพียงใดเขาก็ไม่กล้าที่จะระเบิดโทสะออกมา “ข้าขอยอมรับข้อเสนอนั่นของท่าน”

 

เเต่ในที่สุดเขาก็ได้ทำใจเเละกัดฟันพูดออกมา ถึงเเม้ตัวเขาจะไม่เต็มใจก็ตามที

 

วิธีคิดของเขาค่อนข้างเรียบง่ายเพราะว่า ถ้าเขาตกลงก็ยังคงมีโอกาส เเต่ถ้าเขาปฏิเสธความต้องการของนางโอกาสที่เขาจะเข้าไปในเจดีย์ไม้ครามใต้อีกก็เป็นศูนย์ เเละความสัมพันธ์ของทั้งสองก็จะมลายหายไปสิ้นนับจากนี้ เพราะว่านิกายสวรรค์มีความคิดที่จะฮุบเจดีย์ไม้ครามใต้เป็นองตัวเอง นี่คือสิ่งที่ ฉีคง ไจ้ฉิง ไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะต้องลองเสี่ยงดูถึงของล้ำค่าบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้เเละนำมันออกมาจากข้างใน นี่คือทางเลือกของเขาทางสุดท้าย “ดีมาก เช่นนั้น เจ้าก็สามารถที่จะเข้าไปข้างในได้เเล้ว”

 

เมื่อเห็นว่า ฉีคง ไจ้ฉิง ตกลงยอมรับ มันทำให้ ฮูหยินประมุข ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์หลังจากนั้นนางก็กล่าวออกไปพร้อมโบกมือไปทางชูเฟิง “ฟุ่บ!!!”

 

เเต่ในขณะนั้นชูเฟิงที่ต้องการจะเข้าไปในทางเข้า ทันใดนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นของรูปแบบเส้นเเสงสีทองเเละมันก็ได้ปิดเส้นทางเข้าของเจดีย์ไม้ครามใต้ในทันที

 

เมื่อเขาหันศรีษะไปโดยรอบก็พบกับรูปแบบสีทองที่กำลังบินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็วเเละในท้ายที่สุดรูปแบบพวกนั้นก็บรรจบกันที่ด้านบนของเจดีย์ไม้ครามใต้

 

บุคคลที่ปรากฏนั้นเป็นหญิงสาว ที่สวมกระโปรงสีขาว ระโปรงของเธอนั้นพริ้วสไวตามสายลม ผมที่ยาวสลวยของเธอเป็นสีดำเข้ม ออร่าที่เธอเเสดงออกมาให้ความรู้สึกราวกับนางฟ้าที่มาจุติ

 

นอกจากนี้ไม่เพียงเเต่ ออร่าของเธอนั้นจะโดดเด่นเเม้เเต่ลักษณะใบหน้าของเธอก็โดดเด่นเป็นพิเศษ ผิวของเธอสวยงามราวกับหยกที่เปร่งเเสงอ่อนๆคล้ายผิวของทารกวัยเเรกเกิด ดวงตาของเธอสวยงามราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

 

ริมฝีปากที่ดูเซ็กซี่เริ่มที่จะมองเห็นได้อย่างช้าๆ พร้อมกับใบหน้ารูปไข่ของเธอ ร่างที่ดูสูงเเละทรงสง่าพร้อมกับ เขา 2 ลูกที่โค้งเว้า แสนจะดึงดูด โดยรวมๆแล้วนางงดงามอย่างมาก

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือใบหน้าของเธอนั้นคล้ายกับ ฮูหยิน ประมุข เพียงเเต่เธอนั้นสวยกว่า ฮูหยิน ประมุข อย่างเห็นได้ชัด

 

เมื่อเทียบกับลักษณะที่สวยงามเเล้วชูเฟิงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการบ่มเพาะพลังระดับ 3 ราชันย์เเห่งสงคราม

 

เเต่ในเเง่ของอายุของเธอดูคล้ายจะเท่ากับ จื่อหลิง เเละในความเป็นจริงดูเหมือนเธอจะอายุน้อยกว่า ชูเฟิง เสียอีก

 

ด้วยการบ่มเพาะพลังที่โดดเด่นเช่นนี้คงบ่งบอกได้สิ่งเดียว – นั่นคือความสามารถของเธอนั้นค่อนข้างโดดเด่นเป็นพิเศษ “พวกเราขอคาราวะ อาวุโสน้อย”

 

หลังจากที่ได้เห็นเธอนั้นบรรดาคนทั้ง 99 ของนิกายสวรรค์ต่างพากันตระโกนออกมาพร้อมเพรียงกันด้วยคำๆนี้ “อาวุโสน้อย ?!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทั้ง ฉีคง ไจ้ฉิง เเละชูเฟิง ต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

 

เธอนั้นดูเหมือนจะเด็กอย่างมากดูเเล้วอายุน่าจะไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำฉะนั้น เธอจะเป็นอาวุโสของพวกสาวกหลักพวกนี้ได้อย่างไร เเน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นมันไม่น่าจะใช่ด้วยซ้ำ “รู่วเฉิน ทำไมเจ้าพึ่งมาเอาป่านนี้?”

 

ในขณะเดียวกัน ฮูหยิน ประมุข ก็กล่าวขึ้น “ท่านเเม่ข้า ไม่อาจยอมรับให้เขาขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเจดีย์ไม้ครามใต้ได้ เขาไม่มีคุณสมบัติที่ย่างก้าวเข้าไปที่นั่น?” “ถ้าเขามีความตั้งใจที่จะขึ้นไปยังสถานที่เเห่งนั้นจริงๆละก็ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือเอาชนะข้า ไป๋ รู่วเฉิน คนนี้ มิฉะนั้นเขาไม่มีเเม้เเต่คุณสมบัติที่ย่างก้าวเข้าไปได้”

 

ไป๋ รู่วเฉินกล่าวออกมาในทันที

 

หลังจากที่เธอพูดชูเฟิงก็ตระหนักเข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมพวกเขาถึงเรียกเธอว่า อาวุโสน้อย มันกลับกลายเป็นว่าเธอนั้นเป็นธิดาของ ฮูหยิน ประมุข เเละมีความสัมพันธ์กับนางเป็นเเม่ บวกกับเธอที่มีความสามารถที่โดดเด่นเเละความเเข็งเเกร่งของเธอจึงทำให้เธอได้รับขนานชื่อเรียกว่า อาวุโสน้อย “เอ๋ ฮ่าๆลูกสาวของข้า ชอบแสดงความคิดออกมาตรงๆ สิ่งที่เธอบอกกล่าวออกไปข้าคิดว่านั่นก็สมควรอยู่ เกี่ยวกับสหายน้อยตรงนั้นถ้าเจ้าอยากที่เข้าไปจริงๆละก็ เช่นนั้นจงเอาชนะลูกสาวของข้าให้ได้ ตราบใดที่เจ้าสามารถเอาชนะเธอได้ข้าจะให้เจ้าเข้าสู่เจดีย์ไม้คราม” “นอกจากนี้หากเจ้าชนะได้จริงเจดีย์ไม้ครามเเห่งนี้ก็ยังอยู่ภายใต้การครอบครองของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของพวกเจ้าต่อไป ถึงเเม้ว่าเจ้าจะล้มเหลวที่จะได้รับของที่ถูกทิ้งไว้ภายในเจดีย์ไม้ครามใต้ก็ตามดี ข้ายินดีต้อนรับพวกเจ้าเสมอในโอกาสหน้าทุกเวลาที่พวกท่านต้องการ””เเต่ถ้าเจ้าไม่สามารถที่จะเอาชนะลูกสาวของข้าได้ก็ตามที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้เจดีย์ไม้ครามใต้จะไม่มีความเกี่ยวจ้องกับหุบเขาไม้ครามตอนใต้อีกนับตั้งเเต่วันนี้เเละข้าจะยังเปลี่ยนชื่อเป็นเจดีย์นิกายสวรรค์อีก เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

 

ฮูหยิน ประมุขกล่าว “ยอดเยี่ยม เอาตามนั้นละกัน”

 

ชูเฟิงไม่ได้รู้สึกรู้สากับคำพูดที่นางเหน็บเเนม เขามองไปที่ ไป๋ รู่วเฉิน เเละถามออกมาว่า”

 

สิ่งใดกันที่เจ้าต้องการจะวัดคุณสมบัติของข้า” “ผ่าง!!!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน ขยับนิ้วของนางในทันทีหลังจากนั้นเธอก็ดึงเเละวาดเส้นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางก่อนหนึ่งเมตรเเละหลังจากนั้นเธอก็โบกมืออีกทีเเละดึงวงกลมขยายออกไปร้อยเมตรด้านนอกของวงกลมหนึ่งเมตรไม่เพียงเเค่นั้นหลังจากนั้นนางก็หันไปกล่าวกับชูเฟิง “ตราบใดที่เจ้าสามารถก้าวผ่านเข้ามาในวงกลม100เมตรนี้ได้เช่นนั้นก็ถือว่าเจ้า พอมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าสู่เจดีย์ไม้ครามใต้” “เเละถ้าเจ้าสามารถที่จะบังคับให้ข้าออกจากวงกลมเล็กนี้ได้เจ้าก็จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้ชนะเเละข้อตกลงของเราเกี่ยวกับเจดีย์ไม้ครามใต้ เจดีย์นี้ก็จะเป็นของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ต่อไป นอกจากนี้เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก””ผู้อาวุโสเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกสาวของท่านกล่าวมานั้นท่านยอมรับด้วยหรือไม่?”

 

ชูเฟิงมองขึ้นไปถาม ฮูหยิน ประมุข “ไม่มีปัญหา หึหึ สหายน้อย เกี่ยวกับความกล้าหาญของเจ้าข้าจะกล่าวอะไรสักอย่างละกัน ด้วยการบ่มเพาะพลังของเจ้าในตอนนี้ล้วนไม่อาจที่จะเทียบกับเธอได้เลยเเม้เเต่น้อย ทีเจ้าทำรั้งแต่จะนำเอาความอัปยศอดสู่มาสู่ตัวเจ้าเอง หากเจ้าต้องการที่จะปะทะกับลูกสาวของข้า?”

 

ฮูหยิน ประมุขกล่าวพลางส่ายหัวของนางในทันที “ฮ่าๆ!!! ขอขอบคุณท่านละกัน สำหรับความปราถนาดี เเต่ข้าต้องขอปฏิเสธสำหรับความปราถนาดีของท่าน”

 

ชูเฟิงเพียงยิ้มอย่างเย็นชาก่อนที่จะย่างก้าวเดินเข้าไปพร้อมกับระเบิดพลังออกมาพร้อมพุ่งไปในทิศทางที่อำนาจการก่อตัวนั้นถูกวางเอาไว้เขาเริ่มที่จะบินผ่านเข้าไปในวงกลมที่ ไป๋ รู่วเฉิน วางไว้ในทันที

 

P’Film

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments