ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1104 – มีประสิทธิภาพอย่างมาก
“วูบ วูบ.”
หลังจากพูดจบ ประมุขนิกายสวรรค์ก็สะบัดมือเขา และได้เขาก็ได้สร้างรูปแบบวิญญาณขึ้นมา
ในตอนนั้น พลังวิญญาณสีทองก็ไหลออกมาจากร่างของเขาราวกับตะขาบตัวเล็กๆ มันแหวกว่ายอยู่ในอากาศและมารวมกันที่ประมุขนิกายสวรรค์ “พึ่บ.”
ในตอนนั้น พลังวิญญาณสีทองก็ได้มารวมตัวกัน และส่องแสงออกมาในตอนแรกนั้นมันรวมตัวกันอย่างช้าๆ และต่อจากนั้นมันก็เร็วขึ้นๆ เมื่อมันรวมตัวกันจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ประตูวิญญาณก็ปรากฏขึ้น ในตรงนั้น
ประตูนั้นเป็นรูปทรง 4 เหลี่ยม มันไม่ใช่ประตูธรรมดา แต่มันถูกสร้างโดยรูปแบบวิญญาณ แม้มันจะเหมือนประตูทั่วไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พลังวิญญาณของประตูนี้นั้นอัดแน่นกันมากมายนัก บนประตูมีรูกุญแจอยู่ 2 รูจะใช้เปิดประตูวิญญาณนี้ “วูบ~~~~.””วูบ~~~~~.”
ในตอนนั้น ประมุขนิกายสวรรค์ก็ได้เรียกกุญแจออกมาและใช้กุญแจนั้นไขประตูเพื่อเข้าไปข้างใน แต่เมื่อเขาไขเสร็จแล้ว ประตูนั้นก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน “รู่วเฉิน ชูเฟิง มันขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว”
ประมุขนิกายสวรรค์หันมาพูดกับชูเฟิง และ ไป่ รู่วเฉิน
เมื่อเห็นเช่นนั้น ไป่ รู่วเฉินก็ตรงไปที่ประตูวิญญาณ และใช้มือสีขาวของนางจับไปที่กุญแจรูปแบบวิญญาณทันที
กุญแจนั้นเต็มไปด้วยแสงที่แรงจนแสบตา นอกจากนี้มันมีอักขระมากมายคล้ายกับที่อยู่บนประตู อักขระนั้นเคลื่อนไหวซ้ายขวาราวกับมีชีวิต
อย่างไรก็ตาม แสนนั้นปกคลุมประตูวิญญาณนั่นครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่ต่างจากก่อนหน้านี้
ชูเฟิง เข้าใจทันที หลังจากกุญแจนั้นจดจำนายของมัน มันก็จะยอมแสดงพลังออกมา เขานั้นถูกจำโดยกุญแจวิญญาณดอกหนึ่งในเจดีย์ไม้ครามใต้ ส่วนอีกดอกนั้น คือมันยอมรับ ไป่ รู่วเฉินเป็นนายแล้ว
ดังนั้น ชูเฟิงจึงไม่ลังเลเดินตรงไปทันที เขาจับกุญแจที่ยอมรับเขาไว้แน่น และกุญแจนั้นก็ส่องแสงเช่นเดียวกับกุญแจในมือ ไป่ รู่วเฉิน
แสงอีกครึ่งของประตูนั้นได้สว่างขึ้น ในตอนนั้นอักขระบนประตูก็วิ่งเป็นวงกลม เกิดเสียงก้องออกมาจากประตูวิญญาณ “ชูเฟิง รู่วเฉิน ถอยออกมา”
เห็นเช่นนั้น ประมุขนิกายสวรรค์ก็ตะโกนลั่น
ทั้ง 2 รีบกระโดดออกห่างจากประตูรูปแบบวิญญาณทันที “วูบ~~~~~.”
หลังจากกระโดดออกมา ประตูนั้นก็ส่องแสงเจิดจ้า และประตูก็เปิดขึ้นในตอนนั้น ด้านหลังประตูเป็นอุโมงค์ไร้ที่สิ้นสุดไม่มีใครรู้ว่ามันจะพาไปที่แห่งใด “นี่คือที่ที่ บรรพชนของข้านั้นได้ทิ้งทักษะ มังกรหงส์ร่ายรำเอาไว้ “ในตอนนั้นประมุจนิกายสวรรค์ก็รู้สึกดีใจมาก เขารีบออกตัวเคลื่อนเข้าไปข้างในอุโมงค์ทันที “ตูม.”
อย่างไรก็ตาม เมื่อขาของเขาเข้าไปยัง อุโมงค์ก็ถูกบีบให้ถอยออกมาด้วยพลังมหาศาล พลังนั้นรุนแรงจนทำให้เขาลอยไปกระแทกกับกำแพง “มันคือม่านพลังป้องกันอย่างนั้นสินะ”
ในตอนนั้นประมุขนิกายสวรรค์ ก็นึกขึ้นได้ ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นแทนที่ความตกตะลึง “ให้ข้าลองหน่อ.”
เมื่อเห็นเช่นนั้น แม่ของไป่ รั่วเฉิน ก็ลองก้าวเข้าไปในอุโมงค์ “ตูม.”
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ นางนั้นถูกพลังจากอุโมงค์กระแทกเข้าที่ร่าง หลังจากพยายามเข้าไปในอุโมงค์ “วูบ วูบ.”
อย่างไรก็ตาม นางนั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ในตอนนั้นนางก็ได้สะบัดแขน และก็มีเข็มบินที่เกิดจากพลังของนาง พุ่งเข้าไปข้างในอุโมงค์ “เปรี้ยง!”
ในตอนนั้น เข็มบินมันไม่ได้ถูกสะท้อนออกมา แต่มันถูกทำลายโดยพลังไร้รุปร่าง มันระเบิดขึ้นทันที สร้างความตกใจให้ ประมุขและฮูหยินของนิกายสวรรค์มาก “นี่มันไม่ดีแล้ว มันคือม่านพลังป้องกันจริงๆ ถ้าเราดื้อรั้นจะเข้าไป ข้าเกรงว่าพวกเราอาจจะไม่รอดก็เป็นได้ ม่านพลังนี้นั้นทรงพลังเกินไปจริงๆ”
แม่ของไป่ รู่วเฉิน สายหน้าแล้วพูดขึ้น “ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น พวกเราได้เปิดประตูแล้วนี่ ทำไมพวกเราเข้าไปไม่ได้ ท่านบรรพชนทำไมท่านต้องทำเรื่องยุ่งยากเช่นนี้ด้วย”
ประมุขนิกายสวรรค์พูดขึ้นด้วยความสับสน และ ความกังวล
เขากังวลอย่างมาก มันเป็นเพราะเขารอเวลานี้มานานแล้ว และในที่สุดมันก็ได้เปิดขึ้นแต่เขาไม่สามารถเข้าไปได้มันทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก “ชูเฟิง เจ้ากำลังทำอะไร อย่าเข้าไปนะ!!!”
ฉีคง ไจ้ฉิงพูดขึ้น
ในตอนนั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น ประมุขและฮูหยิน นิกายสวรรค์ก็ได้หันมาแล้วพบว่าชูเฟิงได้มาอยู่หน้าอุโมงค์แล้ว และเขากำลังจะก้าวเข้าไปในอุโมงค์ “ชูเฟิง เจ้าจะทำอะไร เห็นๆอยู่ว่ามันทรงพลังเพียงใด อย่าคิดทำอะไรบ้าๆนะ”
ในตอนนั้น ประมุขนิกายสวรรค์ก็พูดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิงก็ไม่สนใจ และก้าวเข้าไป แต่สุดท้ายชูเฟิงก็เข้าไปยังอุโมงค์นั่นอย่างปลอดภัย และไร้สุ้มเสียงตอบสนองจากม่านพลัง “นี่มัน เกิดอะไรขึ้น”
ประมุขนิกายสวรรค์ตกใจมากเมื่อเห็นเช่นนั้น
เช่นนั้นแล้วชูเฟิง ก็เดินออกมาจากอุโมงค์และมาหาพวกเขา “ข้าเข้าใจแล้ว มันไม่ใช่ว่าม่านพลังนั้นไม่สามารถผ่านได้ มันเป็นเพราะคนที่จะผ่านไปได้คือ ชูเฟิง กับ รู่วเฉิน ที่เป็นคนเปิดมันเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ทำอะไรเขา ชูเฟิง เจ้าช่างฉลาดจริงๆ”
ฮูหยินพูดขึ้น ยกยอชูเฟิงเมื่อเห็นสิ่งที่เขาทำ
ในตอนนั้น ประมุขทั้ง 2 ก็เข้าใจว่าทำไม ชูเฟิงไม่ได้สนใจคำเตือนของพวกเขา เพราะมันเป็นเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึง การเป็นผู้นำของมหาอำนาจนั้นมันทำให้เขาลืมคิดเรื่องนี้ไป
และนี่ทำให้พวกเขาต้องนับถือชูเฟิงขึ้นอีกขั้น พวกเขานั้นมองชูเฟิงเป็นดั่งแสงสว่าง แต่พวกเขารู้สึกอับอายเล็กน้อย “ท่านประมุข ข้าคิดว่ามีแค่ข้า 2 คนเท่านั้นที่เข้าไปได้ ทำไมท่านไม่ปล่อยให้แม่นางไป่ และข้าเข้าไปและรับพลังจากท่านบรรพชนล่ะ”ชูเฟิงพูดขึ้น “เฮ้อ คงต้องเป็นเช่นนั้นแหละ ชูเฟิง รู่วเฉิน ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะสามารถทำตามความต้องการของท่านบรรพชนได้ แต่ข้าก็กลัวเรื่องที่จะเกิดกับพวกเจ้าเช่นกัน พวกเจ้าทั้ง 2 ต้องระวังให้ดี ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถผ่านไปได้ พวกเจ้าอย่าได้ดื้อรั้นและถอยกลับมาเสีย”
ประมุขนิกายสวรรค์พูดขึ้น “ท่านประมุข โปรดวางใจได้”
ชูเฟิงประสานมือ แล้วมองไปที่ ไป่ รู่วเฉินด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า”
แม่นางไป่ ไปกันเถิด”
หลังจากพูดจบ ชูเฟิงก็สะบัดมือ แล้วเข้าอุโมงค์ไป. “……”
ในตอนนั้น ไป่ รู่วเฉิน ก็บ่นขมุบขมิบปาก แต่ไม่มีใครได้ยิน เมื่อบ่นเสร็จนางก็เดินตามเขาไป
เมื่อเห็นทั้ง 2 หายไปในอุโมงค์แล้ว ท่าทางของประมุขนิกายสวรรค์ก็เปลี่ยนแปลงทันที เขาหันไปพูดกับ ฉีคง ไจ้ฉิงว่า”
ประมุข ฉีคง ศิษย์ของท่านช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก.”
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : เอาล่ะ สนุกแน่ อยู่กัน สองต่อสอง!!!
B : ตอนอย่างว่า ห่างหายไปนาน จะมีมาช่วงนี้ก็จะไม่แปลกใจเลย!!!
C : พออ่าน แล้วมักจะหยุดตัวเองไม่ได้เสมอ!!! งานนี้ยาวๆ!!!