I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1010 – ทัศนคติที่ดูถูก

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1010 – ทัศนคติที่ดูถูก

 

หลังจากกล่าวกับ ชูเฟิง จ้าว เฉาฉิ่ว ก็ไม่ได้รอฟังการตอบกลับ เขาบินตรงเข้าไปยังลานว่างขนาดเล็ก

 

ชูเฟิง ไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถรับรู้ได้ทันที ว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล จากคำกล่าวของ จ้าว เฉาฉิว ดังนั้น เขาจึงใช้อำนาจพลังวิญญาณเพื่อฟังสิ่งที่เกิดขึ้นภายในลานว่าง และค่อยๆวิเคราะห์จากสิ่งที่ได้ยิน “เฉาฉิ่ว อะไรทำให้เจ้ามาที่นี้!!!”

 

หญิงสาว กล่าว ขณะที่มีท่าทางประหลาดใจ “ลู่ว เหลียน มีคนเดินทางมาจากทะเลตอนใต้ มันเป็นครั้งแรกที่เขามาเหยียบดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ เลยยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ เขาอยากถามเกี่ยวกับทางไปยัง ป่าไฝ่ใบไม้ร่าง”

 

จ้าว เฉาฉิ่ว กล่าว “อะไร ?! นี้เจ้าพาคนมารบกวนปู่ข้าอีกแล้วงั้นหรอ ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้ ?! เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าเจ้าจะไม่พาใครมารบกวนท่านปู่อีก”

 

หลังจากได้ยินคำกล่าวของ จ้าว เฉาฉิ่ว แม่นางน้อยที่ชื่อ ลู่ว เหลียน ก็มีท่าทางไม่พอใจ “ว้าวว มีคนที่มาจากทะเลตอนใต้ด้วยหรอ ?! ข้าอยากเห็นเขา ข้าอยากรู้ว่าทะเลตอนใต้มันเป็นสถานที่แบบไหน”

 

ในตอนนั้น สาวน้อยที่ไร้เดียงสาก็ตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ลู่ว รู่ อย่าไป!!!”

 

ในตอนนั้นเสียงของ ลู่ว เหลียน ก็ดังขึ้น แต่มันก็ช้าไป

 

* แต๊ก แต๊ก * ประตูของลานว่างที่เปิดอยู่ ชูเฟิง ได้พบกับสาวน้อยน่ารัก ที่มัดผมเป็นหางม้า ดวงตาแวววาวสดใส และดูท่าทางฉลาด นางดูเหมือนกับตุ๊กตาที่กำลังวิ่งมาด้วยความซุกซน “พี่ใหญ่ ท่านคือคนที่มาจากทะเลตอนใต้งั้นหรอ ?!” “ทะเลตอนใต้ มันเป็นที่แบบไหน ?! มันสวยมากไม๊ ท่านบอก ลู่ว รู่ หน่อยได้หรือเปล่า ?”

 

สาวน้อยไม่ได้กลัวคนแปลกหน้าเลย เมื่อนางเห็น ชูเฟิง ดวงตาสีดำโตของนางก็เป็นประกายหวิบหวับ หลังจากที่นางมาถึง นางก็วิ่งวนอยู่รอบๆตัวเขา และถามนั้น ถามนี้ไม่หยุด “ทะเลตอนใต้!”

 

ในเวลานั้น ชูเฟิง สับสน อย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขามาจากทะเลตะวันออก แต่ทำไมคนพวกนี้ถึงบอกว่าเขามาจาก ทะเลตอนใต้ ?! “พี่ใหญ่ ข้าชื่อ ลู่ว รู่ ท่านละชื่ออะไร ?! เรามาเป็นเพื่อนกัน จะได้ไม๊ ?!”

 

แม้ว่า ชูเฟิง จะตอบสนองนาง แต่สาวน้อยก็ยังถามด้วยความตื่นเต้น นางในตอนนั้นยื่นมือไปจับมือของชูเฟิง พร้อมกับเขย่าไปมา “ได้สิ ลู่ว รู่ ข้าชื่อ ชูเฟิง เจ้าจะเรียกข้าว่า พี่ใหญ่ ชูเฟิง ก็ได้”

 

ชูเฟิงรู้สึกว่า หนูน้อยคนที่ชื่อว่า ลู่ว รู่ น่ารักอย่างมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะอุ้มนางขึ้นมา “หยุดนะ!!! วางลู่ว รู่ ลง เด๋วนี้!!!”

 

ตอนนั้นก็มีเสียงตะโกนมาแต่ไกล หลังจากที่ ชูเฟิง อุ้ม ลู่ว รู่ ขึ้น

 

เมื่อยกหัวขึ้นมอง ชูเฟิง ก็พบกับ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ไกลออกไป นางคนนั้นสวมเสื้อผ้าธรรมดา น่าตาสวยทีเดียว การเพาะของนางก็ไม่ได้แย่มากมาย นางอยู่ในระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณ และแน่นอนว่านางก็คือ ลู่ว เหลียน “เจ้าออกไปได้แล้ว ปู่จะไม่บอกอะไรเจ้า หากเจ้าอยากรู้อะไร เจ้าก็ไปหาคำตอบเอาเอง แต่อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้ปู่ข้า”

 

หลังจากที่เห็นว่า ชูเฟิง วาง ลู่ว รู่ ลง ลู่ว เหลียน ก็กล่าวกับเขาอย่างเย็นชา

 

เห็นท่าทางแบบนั้นของ ลู่ว เหลียน ชูเฟิงก็ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย แสดงให้เห็นความไม่พอใจที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่ชูเฟิงได้พบคนมาแทบจะทุกประเภท ตั้งแต่แวปแรกที่เห็น เขาก็บอกได้เลยว่า ลู่ว เหลียน เป็นคนที่ตัดสินคนจากความแข็งแกร่ง

 

ในปัจจุบัน ชูเฟิง ไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาออกมา หากเขาแสดงพลังที่แท้จริง แน่นอนว่า ลู่ว เหลียน นางคงไม่กล้าพูดกับเขาเช่นนี้ “ลู่ว เหลียน นี้คือสิ่งที่เจ้าสำควรพูดกับแขกงั้นหรอ ให้สหายจากทะเลตอนใต้เข้ามา”

 

ในตอนนั้น ก็มีเสียงของชายชราดังขึ้นจากในบ้าน มันน่าจะเป็นเสียงของนักท่องยุทธภพ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญราชันย์แห่งสงครามในอดีต “ท่านปู่ . . . .”

 

ได้ยินปู่นางกล่าวอนุญาติให้ ชูเฟิงเข้ามา ลู่ว เหลียนก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน นางดูเหมือนจะไม่พอใจอย่างมาก “เห้อ ลู่ว เหลียน ท่านปู่ ลู่ว ก็ยอมเห็นด้วยกับมันแล้ว เจ้าก็อย่าได้กังวล”

 

เห็นแบบนั้น จ้าว เฉาฉิ่ว ที่ได้ประโยชน์จาก ชูเฟิง รีบกล่าวหว่านล้อม ลู่ว เหลียน และจากนั้นก็เบนความสนใจไปที่ ลู่ว รู่ โดยกล่าวว่า”

 

ลู่ว รู่ เจ้าไม่อยากไป หุบเขาสัตว์ป่า เพื่อล่า จระเข้ งั้นหรอ วันนี้ข้าจะพาเจ้าไป เจ้าอยากไปไม๊ ?” “ล่าจระเข้ เย้! เย้!”

 

ได้ยินแบบนั้น ลุ่ว รู่ ก็ดีอกดีใจ นางผงกหัวครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความฉลาดของนาง นางรีบยื่นไปเล็กๆของนาง ไปคว้ามือของ ลู่ว เหลียน ด้วยความเอาแต่ใจ และแกว่งไปมาพร้อมกับพูดว่า”

 

พี่สาว มาเล่นกับ ลู่ว รู่ นะ ?!”

 

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ลู่ว เหลียน ก็แสดงสีหน้าคาดหวัง ดูคล้ายกับนางเองก็อยากจะไป และล่าสัตว์ที่เรียกว่า จระเข้ เหมือนกัน ดังนั้น นางจึงแกล้งทำสีหน้าเหมือนกับลังเล ท้ายแล้วนางก็พยักหน้า “หุบเขาสัตว์ป่า ที่มีจระเข้ ที่พวกท่านพูด คือหุบเขาทางตอนใต้ของเมืองไหมทองอรุณ ใช่หรือเปล่า ?!”

 

ในตอนนั้น ชูเฟิง ก็พูดขึ้น

 

นั้นเป็นเพราะว่า เขาจำได้ว่า ขณะที่เขาบินผ่านเทือกเขาอันกว้างใหญ่ก่อนมาถึงที่นี่ มีหลายที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนๆกันก็คือมีสัตว์มหึมาอาศัยอยู่ในเทือกเขา พวกสัตว์มหึมาน่าจะเป็นเผ่าที่พิเศษ

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น มีกลุ่มคนหลายกลุ่มในเทือกเขาเหล่านั้น พวกเขากำลังสังหารสัตว์มหึมาเหล่านั้นอย่างทารุณ นอกจากนี้ ดูจากวิธีการของพวกเขาสามารถบอกได้ว่า พวกเขานั้นทำไปเพื่อความสนุก “ใช่แล้ว ยังไง!!!”

 

ลู่ว เหลียน รีบโยนสายตาที่เย็นชามาทาง ชูเฟิง สายตานางดูไม่เป็นมิตรเอามากๆ “หากเป็นที่นั้น ข้าว่ามันจะดีกว่า ถ้าหากทุกคนไม่ไปที่นั้นในตอนนี้ เพราะเนื่องจากมีกลุ่มคนที่ไม่ได้รับเชิญ อยู่ในที่นั้น ข้าว่าคนพวกนั้นดูจะไม่ใช่คนที่พวกท่านจะเข้าไปยุ่ง”

 

ชูเฟิงกล่าว “งั้นก็น่าสนุก เจ้าคงไม่รู้ถึงระดับพลังวิญญาณของ พี่ชาย เฉาฉิ่ว สินะ ? งั้นข้าจะบอกให้เจ้าฟัง รู้ไว้ซะว่า พี่ชาย เฉาฉิ่ว ของข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ กะอีแค่จระเข้ในหุบเขาสัตว์ป่า เขาในตอนนี้อยากไปที่ไหนก็ได้ที่เขาอยากจะไป”

 

ลู่ว เหลียน มองชูเฟิงด้วยสายที่แข็งกร้าว นำซ้ำมันยังเต็มไปด้วยการดูถูก “ฮ่าๆ ลู่ว เหลียน ไปกันเถอะ สหายจากทะเลตอนใต้ คงไม่คุ้นกับที่ของเรา วิถีของคนในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์”

 

เห็น ลู่วเหลียน มั่นใจในตัวเขา จ้าว เฉาฉิ่ว ก็หัวเราะชอบใจ เขาไม่ตอบใดๆกับคำพูดของ ชูเฟิง เพียงแค่ยื่นมือไปจับแขนของ ลู่ว เหลียน และ ลู่ว รู่ หลังจากนั้นทั้งสามคน ก็บินหายไปในอากาศตรงปลายขอบฟ้าแค่เพียงพริบตา

 

เห็นแบบนั้น ชูเฟิง เพียงยิ้มเบาๆออกมา เขาไม่ได้โกรธ เมื่อเห็นท่าทางการดูถูกเหยียดหยาม ของ ลู่ว เหลียน และ จ้าว เฉาฉิ่ว เพราะสำหรับเขา คนพวกนั้นไม่มีค่าพอที่จะไปโกรธ

 

ดังนั้น ชูเฟิงจึงก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ในเวลานั้น เขาพบกับ ชายชรา ชายชราคนนั้นกำลังปรุงอาหาร เขาสวมชุดบ้านๆธรรมดาๆ แม้ลักษณะของเขาจะดูยากจน แต่เขากับยิ้มรับแขกด้วยความอ่อนโยน “สหายจากทะเลตอนใต้ เจ้าเชิญเข้าไปรอในห้อง อาหารที่ข้าทำ ใกล้จะเสร็จแล้ว หากสหายมีเรื่องอยากถาม ไว้เราค่อยคุยกันที่โต๊ะ ว่าแต่เจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ?!”

 

ชายชรายิ้มออกมาบนใบหน้า ท่าทางของเขาก็ดูใจดีและอ่อนโยน “อาวุโส ขอโทษจริงๆที่ทำให้ท่านลำบาก”

 

ชูเฟิงไม่ได้ปฏิเสธ และ เดินตรงเข้าไปยังที่ชายชราชี้บอก

 

หลังจากเข้ามาภายในห้อง ชูเฟิง ก็สังเกตุเห็นภายใน ห้องมันไม่ได้ใหญ่และยังถูกตกแต่งด้วยของธรรมดาๆที่แสนจะเรียบง่าย แต่มันก็ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ กลางห้องมีโต๊ะกลมๆ รอบๆโต๊ะก็มีเก้าอี้สามตัวตั้งอยู่

 

ขณะนี้บนโต๊ะมีจานอยู่ 2 ใบ พร้อมกับขวดสุราและ จอก

 

ชูเฟิง นั่งลงบนเก้าอี้ รอชายชราทำอาหารให้เสร็จสิ้น จากที่เขาสังเกตุ เขาก็สามารถบอกได้จากปฏิกิริยาของชายชรา แม้นว่าผิวเผินเขาจะดูธรรมดา แต่ชายชราผู้นี้แท้จริงอาจจะเป็นผู้ที่สามารถช่วยเหลือเขาได้

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : มืงว่ามันจะเกิดไรขึ้นกับพวก จ้าว เฉาฉิ่วป่ะ ?!

 

B : กูว่าเด๋วได้เรื่อง และกูก็รู้ว่าพี่เฟิงต้องไปช่วยแน่ๆ แต่ที่ช่วยคงจะมีแค่ ลู่ว รู่ ส่วนสองคนที่เหลือปล่อยให้แม่งตายไป

 

A : กูว่า ลู่ว รู่ คงไม่ยอมทิ้งพี่สาวหรอก เพราะนางเป็นเด็กไร้เดียงสา

 

B : เห็นลุงคนนี้จนๆแบบนี้ เด๋วเจอพี่เฟิง ลุงได้รวยแน่ ดีไม่ดี การบ่มเพาะของลุงอาจจะกลับมา

 

A : พี่เฟิงทำได้ขนาดนั้นเลย

 

C : กูยังไม่เห็นอะไรที่มันทำไม่ได้เลย คืนชีพให้คนอื่นก็ทำมาแล้ว กะอีแค่ฟื้นการเพาะปลูก แค่ใส่ปุ๋ย รดน้ำบ่อยๆ เด๋วก็งอกกลับมาเหมือนเดิม!

 

B : พลังวิญญาณ ไอกรวก ไม่ใช่ ถั่วงอก!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments