ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1043 – ทำให้อับอายต่อหน้าผู้คน
ในเวลานั้น ก็มีเงาบุคคลทั้งสามปรากฏที่ด้านนอก
พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนหนุ่ม แต่พวกเขายังสวมชุดของศิษย์หลัก การเพาะปลูกของพวกเขาก็ไม่ธรรมดา ในบรรดากลุ่มของพวกเขามีสองคนอยู่ในระดับ 8 จ้าวแห่งสงคราม ส่วนอีกคน อยู่ในระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม
ซึ่งการปรากฏตัวของชายทั้งสาม ทำให้คนรอบๆต่างยำเกรง ไม่ใช่ว่าเป็นการเพาะปลูกของพวกเขา แต่เป็นสถานะตำแหน่ง ทั้งสามคนถือว่ามีชื่อเสียงอย่างมากในบรรดาเหล่าศิษย์ทั้งหมดของ พฤกษาคราม ตอนใต้ แม้จะบอกว่าพวกเขาเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดก็ใช่ว่าจะเกินจริง
ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาปรากฏตัว ไม่ต้องพูดถึง หลี่ เล่ย แม้แต่ อาวุโสที่อยู่บริเวณนั้นก็ไม่กล้าที่จะพูด
ผู้ที่มีโอกาสจะได้เป็นความหวังของพฤกษาครามตอนใต้ หากคิดว่า ที่ชูเฟิง เป็นคนพิเศษของ ฉีคง ไจ้ชิง จะมีตำแหน่งสูงแล้ว แต่ทั้งสามคนก็เช่นเดียวกัน สำหรับคนทั่วๆไปคงจะมีใครกล้าขัดใจเขา “หืม . . นั้นมัน จ้าว เกิ๋นชัว และพรรคพวกหนิ พวกเขาคือศิษย์ที่ทรงพลังที่สุดของพฤกษาครามตอนใต้ของเรา พวกเขาไม่ได้มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่พวกเขายังมีชาติตระกูลที่ไม่ธรรมดา แล้วทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ ?!”
แม้ว่า ผู้คนจากทะเลตอนใต้ จะเพิ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่นาน แต่พวกเขาก็หาข่าวสารและข้อมูลของศิษย์เก่งๆของพฤกษาครามตอนใต้มาบ้าง ดังนั้น พวกเขาจึงรู้จัก จ้าว เกิ๋นชัว และยังรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะควรเข้าไปตอแย
ปัจจุบันทุกคนต่างพากันแตกตื่น พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่า จ้าว เกิ๋นชัว และพรรคพวก ไม่ได้มาดี “มีอะไร ?! ทำไมเจ้าไม่ตะโกนให้ดังมากกว่านี้อีก หรือว่าตอนนี้เจ้าเป็นใบ้ . . . . เจ้ากำลังมองอะไร ?! ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่”ทันใดนั้น ชายระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม ก็ชี้นิ้วไปที่ หลี่ เล่ย พร้อมกับตะโกนใส่ “อะ . อะ . . อาวุโส ท่านต้องการอะไร ?!”
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อเขามี ชูเฟิง หนุนหลัง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับทั้งสาม โดยเฉพาะ จ้าว เกิ๋นชัว หลี่ เล่ย ก็ไม่กล้าที่จะยโส “เจ้าเรียกใครว่า อาวุโส หรือว่าเจ้าเห็นข้าแก่ขนาดนั้น! บัดซบ เจ้าอายุมากกว่าข้า แต่ดันมาเรียกข้าอาวุโส”
จ้าว เกิ๋นชัว ตะหวาดด้วยความโกรธ “งะ. . งะ. . งั้น ข้า ควรเรียกท่านว่ายังไง ?!”
หลี่ เล่ย กล่าวอย่างรอบคอบ ขณะที่ริมฝีปากสั่น เขารู้สึกหวาดกลัว จ้าว เกิ๋นชัว มาก กลัวว่าตนจะตกเป็นเหยื่อลองรับอารมณ์ของเขา “แล้วแต่เจ้าจะเรียก ?! ในเมื่อเจ้าคิดว่าข้าแก่กว่าเจ้า เจ้าก็เรียกข้า ว่าท่านบรรพบุรุษ โครตเง่าที่มาจากขยะทะเลตอนใต้ เป็นยังไง บางทีบรรพบุรุษเจ้าคนนี้อาจจะยอมปล่อย ให้เรื่องที่เจ้าพูดจาไร้สาระเป็นแค่การภายลม”
จ้าว เกิ๋นชัว ชี้ไปหน้า หลี่ เล่ย ขณะที่เยาะเย้ย “เจ้า . . . . .”
ได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใบหน้าของหลี่ เล่ยก็กลายเป็นสีเขียว การที่ให้ หลี่ เล่ย เรียกเขาว่าบรรพบุรุษต่อหน้าคนทั้งหมด มันเท่ากับหยามเขาต่อหน้าที่สาธารณะ แม้ว่า หลี่ เล่ย จะเป็นคนขี้ขลาด แต่เขาก็ไม่ใช่พวกก้มหัวให้ใครกดขี่ตลอดไป ยิ่งบรรพชนถูกลบหลู่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทนไหว “จ้าว เกิ๋นชัว สิ่งที่ หลี่ เล่ย กล่าวก่อนหน้านี้ ไม่ได้หมายถึงเจ้า ?! ทำไมเจ้าต้องทำให้เขาลำบาก ?!”
ในตอนนั้น อาวุโสเฒ่า ก็ไม่อาจที่จะทนดูเฉยอีกต่อไป เขาจึงเปิดปากและพยายามบอกให้ จ้าว เกิ๋นชัว เข้าใจ “อาวุโสเฒ่า มะกี้ท่านกล้าเรียกชื่อข้าห้วนๆงั้นหรอ ท่านรู้มั้ยว่าเร็วๆนี้ข้าจะกลายเป็นศิษย์ของ หุบเขาไม้คราม ? ท่านรู้ถึงความต่างระหว่างสถานะของท่านและข้าที่เป็นศิษย์หลักของหุบเขาไม้คราม หรือเปล่า ?!”
จ้าว เกิ๋นชัว ชำเลืองตามองอาวุโสเฒ่า โดยไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของการเคารพ แววตาเขามันเต็มไปด้วยการดูถูกและเหยียดหยาม เนื่องจากเขาไม่มีสถานะตำแหน่งที่สามารถลงโทษ จ้าว เกิ๋นชัวได้ เขาจึงไม่เห็นอาวุโสเฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตา “เจ้า . . . . . . .”
ได้ยินแบบนั้นจากปาก จ้าว เกิ๋นชัว อาวุโสเฒ่า ก็เริ่มขมวดคิ้วลง พร้อมกับมุมปากที่กระตุกอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ว่ายังไง จ้าว เกิ๋นชัว ก็ยังเป็นแค่ศิษย์หลักของ พฤกษาครามตอนใต้ แต่เขากับถูกคุกคามโดยศิษย์ต่อหน้าใครหลายๆคน มันจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทนได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทบทวนจุดแข็งของ จ้าว เกิ๋นชัว เช่นเดียวกับสถานภาพของเขา อาวุโสเฒ่าจึงยอมระงับความโกรธ เขาไม่อยากพูดใดๆต่อ เขาจึงสบัดแขนเสื้อ พร้อมกับเดินจากไป
เห็นว่า อาวุโสเฒ่า ยอมถอยให้ รอยยิ้มที่พึงพอใจก็ปรากฏบนใบหน้าของ จ้าว เกิ๋นชัว มากขึ้น จากนั้นเขาก็จ้องมองทุกคนที่มาจากทะเลตอนใต้และตะโกน”
พวกเจ้าทุกคน คุกเข่าลงกับพื้นซะ!!!”
หลังจากที่กล่าวประโยคนั้นจบ แรงดันที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา มันเป็นแรงดันมหาศาลที่ห่อหุ้มอากาศและบีบลงมาจากด้านบน แล้วจะมีใครในทะเลตอนใต้ที่สามารถทนต่อความกดดันขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี ก็ต่างไม่มีใครยอมเต็มใจที่จะคุกเข่า แต่พวกเขาก็ไม่สามารถขัดขืนได้ “จ้าว เกิ๋นชัว เจ้ากำลังทำอะไร ?!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงนึง ตะโกนเข้ามา เสียงนั่นเต็มไปด้วยแรงกดดัน เหมือนต้นเสียงของมันจะอยู่ออกไปไม่ไกล และในเวลาเดียวกัน ก็มีร่างทั้ง 18 ปรากฏ
กลุ่มคนทั้ง 18 ประกอบไปด้วย บุรุษและสตรี พวกเขาทุกคนล้วนแต่ดูสง่างาม สำหรับบุรุษพวกเขานั้นหล่อมาก ส่วนทางด้านสตรีก็งดงามทีเดียว ในกลุ่มพวกเขาที่ดูอายุน้อยที่สุดเห็นจะมีอายุแค่ 20 ต้นๆ ส่วนคนที่ดูอายุมากสุด ก็เหมือนจะไม่เกิน 30 คนที่มีพลังวิญญาณน้อยสุดนั้นอยู่ที่ระดับ 7 จ้าวแห่งสงคราม ส่วนคนที่เกร่งสุดอยู่ในระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม เท่าๆกับ จ้าว เกิ๋นชัว
คนเหล่านี้ มีสถานะเทียบเท่ากับ จ้าว เกิ๋นชัว ซึ่งเป็นศิษย์หลักของพฤกษาครามตอนใต้ที่ได้รับเลือก พวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างดีและเตรียมตัวเข้าร่วมกับ หุบเขาไม้ครามในปีนี้ พวกเขานับเป็นศิษย์ที่ยอดที่สุดของพฤกษาครามตอนใต้
เมื่อพวกเขาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับ ชูเฟิง พวกเขาจึงตัดสินใจมาเยี่ยมเยือน แต่พวกเขาไม่นึกเลยว่า เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้ พวกเขาจะได้เจอ จ้าว เกิ๋นชัว รังแก คนจากทะเลตอนใต้ “จ้าว เกิ๋นชัว เจ้ากำลังทำอะไร ?! พวกเราต่างก็เป็นสหายร่วมพรรค แต่เจ้ากับรังแกศิษย์น้องร่วมพรรคแบบนี้ ถือว่าใช้ได้งั้นหรอ ?! “หลังจากที่มาถึง สตรีหนึ่งในกลุ่มของคนทั้ง 18 ก็ประณามความเลวของ จ้าว เกิ๋นชัว “โอ้วว พวกเจ้าทุกคน มาได้ถูกเวลาจริงๆ เจ้าคอยดูว่าข้าจะจัดการพวกขยะทะเลตอนใต้เหล่านี้ยังไง”
หลังจากที่เห็นกลุ่มคนทั้ง 18 จ้าว เกิ๋นชัว เผยความวิตกออกมาทางสีหน้าเพียงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันมาจ้องหน้า หลี่ เล่ย และคนอื่นๆ พร้อมกับกล่าวเสียงดัง “พวกเจ้าจากขยะทะเลตอนใต้พากันแห่มาทุกปี ทุกปี พวกเจ้าทำให้พฤกษาครามตอนใต้ของเราต้องตกต่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี ทะเลตอนใต้ก็ยังมีแต่ขยะ สหายร่วมพรรคงั้นหรอ พวกมันก็แค่สวะชั้นต่ำของพฤกษาครามตอนใต้ของเรา คุ้มแล้วหรอที่เราพฤกษาครามตอนใต้จะต้องมาเสียเวลาและทรัพยากรดูแลสวะพวกนี้”
จ้าว เกิ๋นชัว ถามหลี่ เล่ย และคนอื่นๆ พวกเขาทำได้แค่ก้มหน้า โดยไม่พูดใดๆ นั้นเป็นเพราะสิ่งที่ จ้าว เกิ๋นชัวพูดนั้นคือเรื่องจริง นอกจากพวกเขา ยังมีคนอีกมากมายจากทะเลตอนใต้ บางคนในคนเหล่านั้น แม้แต่พวกเขาก็ต่างรู้จัก
แต่ไม่มีใครเลย ที่จะประสบความสำเร็จและเป็นที่เชิดชู พวกคนที่มาจากทะเลตอนใต้ หลังจากที่เข้ามาในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์และเข้าร่วมกับพฤกษาครามตอนใต้ พวกเขานั้นได้กลายเป็นภาระอันที่หนักอึ้งท่วงแข้งท่วงขาสถานที่แห่งนี้ พวกเขาไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้ เนื่องจากพวกเขาเองก็รู้ว่าเป็นได้แค่ขยะ “ฮ่าๆ ไอพวกขยะ ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าลำบาก ตราบใดที่พวกเจ้ายอมรับว่าตัวเองเป็นขยะ ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป””อย่างไรก็ตาม หากมีใครในกลุ่มของพวกเจ้าปฏิเสธที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นขยะ ข้าก็จะไม่ทำให้อะไร เพียงแต่ พวกเจ้าจะต้องคุกเข่าอยู่ที่นี้ หากใครกล้ายืน ข้าจะหักขามัน”
จ้าว เกิ๋นชัวตะโกนเสียงดัง “จ้าว เกิ๋นชัว เจ้าบ้าไปแล้วหรอ ?! ที่ทำกับสหายร่วมพรรคแบบนี้ เจ้าไม่กลัวท่านปรมาจารย์ลงโทษงั้นหรอ ?!”
ชายในกลุ่มคนทั้ง 18 พูด “ลงโทษข้า ทำไมข้าต้องถูกลงโทษ หรือเจ้าจะบอกว่าข้าพูดผิด ข้าก็แค่เรียกสติขยะพวกนี้ ให้มันรู้ตัว ว่าพวกมันเป็นแค่ขยะ มันผิดตรงไหน ?! หรือเจ้าจะบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ขยะ ?! บอกมาสิ ?!”จ้าว เกิ๋นชัว ยังคง จ้องหน้า หลี่ เล่ย และคนอื่นๆ ขณะที่ตะโกนถามกลุ่มคนทั้ง 18
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของจ้าว เกิ๋นชัว กลุ่มคนทั้ง 18 ก็มองหน้ากันและกัน พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบออกไปยังไง เพราะลึกๆในใจของพวกเขา หลี่ เล่ยและคนอื่นๆ ก็คือขยะ ?!
แน่นอนว่าพวกเขาที่เป็นศิษย์คนสำคัญและยืนอยู่จุดสูงสุดของบรรดาศิษย์ พวกเขาย่อมมีความภาคภูมิ พวกเขาไม่เห็นแม้แต่อาวุโสอยู่ในสายตา ดังนั้น สำหรับศิษย์ปลายแถว ที่ไม่มีที่มาที่ไป ในสายตาพวกเขาก็คือเศษสวะ
ทำไมพวกเขาถึงยอมช่วยเหลือ หลี่ เล่ย และคนอื่นๆ หรอ แน่นอนมันไม่ได้เป็นเพราะพวกเขามีคุณธรรม หรือ เมตตาธรรม พวกเขาไม่ใช่คนดีขนาดที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่ทั้งหมดนี้ก็เพราะ ชูเฟิง
วีรกรรมของชูเฟิงนั้นได้แผ่กระจายไปทั่วทั้ง พฤกษาครามตอนใต้ ทุกคนรู้ว่า ชูเฟิง มีฝีมือร้ายกาจ เขาไม่เพียงแต่จะสังหารอาวุโสและศิษย์จากตระกูล ฮั้น แต่เขายังทำให้ตระกูลฮั้นถูกขับไล่ ดังนั้นจึงไม่มีใครในพฤกษาครามตอนใต้กล้าไปตอแย
การปรากฏของบุคคลผู้นี้ เป็นดั่งความหวังของพฤกษาครามตอนใต้ พูดตรงๆ ทั้ง18คน ต่างก็อยากคบหา ชูเฟิง เป็นสหาย และนั้นก็คือเหตุผลนึงที่เขา ช่วย หลี่ เล่ย และคนอื่นๆ
พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะช่วยหลี่ เล่ย และคนอื่นๆจากทะเลตอนใต้ แต่พวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อเลียแข้งเลียขา ชูเฟิง
ReaDMGA ////////////////////////////////////////A : เด๋ว พี่เฟิง กูมามืงอย่าวิ่งนะ อีดอก เกิ๋นชัว!!!
B : หลี่่ เล่ย ขอไว้คนนึง ส่วนคนอื่นๆช่างมัน โดยเฉพาะอีนาง เฉิน หง สมควรโดนหนักๆ!!!
C : ว่าแต่พี่เฟิงจะใกล้เข้าสู่ขั้น ราชันย์ยังนะ จะได้สายฟ้าเพิ่มอีกตัวสักที!
B : อีกไม่นานหรอก แต่ว่าการส่งตัวไปยังหุบเขาไม้คราม นี้จะให้ประลองกัน หรือว่า ส่งไปเป็นศิษย์ถาวรที่สาขาใหญ่
A : อันนี้ก็ยากที่จะตอบนะ ต้องรอดู!