I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1060 – วิกฤตที่ซ่อนอยู่

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1060 – วิกฤตที่ซ่อนอยู่

 

“เป็นแบบนี้นี่เอง พวกเขาถึงได้โอหังถึงขนาดไม่เห็นหัวปรมาจารย์ฉีคง ในสายตา”

 

ชูเฟิงพูดขึ้น เขานั้นไม่พอใจทั้ง 2 มาก

 

นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ทั้ง 2 เท่านั้นมันยังรวมถึงผู้อาวุโสของวิหารหมู่ดาวนักล่า อีกด้วย

 

ชูเฟิงนั้น รู้ว่าพวกเขาไม่ได้บอกให้ หยวน ฉิง และ ฉิน กวง มาทำความเคารพ แต่แค่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ2อัจฉริยะของพวกเขา

 

พวกเขานั้นต้องการให้ทุกคนเห็นความต่างระหว่างศิษย์ของพวกเขา ถูกต้องมันแค่การโชว์ศิษย์เท่านั้น และที่ทำกับปราการอสรพิษดำก็เป็นเพียงแค่การโชว์พลังของพวกเขาเท่านั้น

 

พวกเขานั้นต้องการแสดงพลังให้เห็นนั่นก็เพราะพวกเขานั้นต้องการให้คนเข้ามาร่วมกับพวกเขาเท่านั้น การแสดงพลังเช่นนี้เป็นการบ่งบอกให้เห็นว่าพวกเขานั้นสามารถทำให้คนรุ่งโรจน์ได้

 

ด้วยการที่เป็นสำนักใหญ่และเป็นที่รู้จัก การที่พวกเขาทำเช่นนี้นั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร อย่างไรก็ตอบหาคิดดู ในสิ่งที่คนจากวิหารหมู่ดาวนักล่า ทำกับคนของหบุเขาไม้ครามใต้แล้ว มันทำให้ชูเฟิงไม่พอใจอย่างมาก

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่า หุบเขาไม้ครามใต้ และยากที่หุบเขาไม้ครามใต้จะต่อกรด้วยได้ ชูเฟิงจึงทำได้แค่เงียบแล้วทนมัน “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง….”

 

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงกริ่งก็ดังขึ้นไปทั่วทิศทางจากกำแพง เมื่อหันไปมองก็พบ ว่าประตูนั้นกำลังค่อยๆเปิดขึ้นและเสียงนั้นก็มาจากประตูเมือง “ประตูเมืองเปิดแล้ว”

 

เมื่อเห็นเมืองของเหล่าภูติเปิดขึ้น ผู้คนก็ตะโกนเสียงดังลั่น พวกเขานั้นเหล่าราวกับเป็นมดที่อยู่ล้อมรอบประตูเมือง พวกเขานั้นหวังที่จะเห็นข้างในเมืองอย่างมาก “ผู้ฝึกตนเอ๋ย ใครที่ไม่ได้มาเข้าร่วมการฝึก ให้ถอยออกไปพันเมตร!”

 

ในตอนนั้น เสียงที่แปลกประหลาดก็ดังมาจากประตูเมือง ในเวลาเดียวกันก็มีลมพัดออกมาจากประตูเมือง เข้าใส่ผู้คน

 

หลังจากลมนั้นผ่านไป พื้นที่ว่างมากมายหน้าประตูเมืองก็ปรากฏขึ้น ในตอนนั้นฝูงชนที่กำลังตื่นตาตื่นใจก็นิ่งลง มีคนเล็กน้อยเท่านั้นที่กล้าขยับเข้ามาใกล้ประตูอีกครั้ง

 

ในตอนนั้นคนที่กล้าเดินไปยังประตูก็คือคนที่ถือ ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับสูง ที่ต้องการจะเข้าไปฝึกในสระนิรันดร์บรรพกาล

 

ในตอนนั้น ชูเฟิงและคนอื่นๆ ที่มาถึงหน้าประตูนั้นก็พบว่า มีหลายพันคนที่ใส่เสื้อสีเขียวยืนอยู่ด้านหน้าประตูนั้น

 

ชุดคลุมเหล่านั้นดูวิเศษมาก แน่นอนว่ามันไม่ใช่เสื้อธรรมดา แต่มันถูกถักขึ้นโดยพืชชนิดพิเศษ อย่างไรก็ตาม ชุดคลุมนั้นอาจจะไม่ได้งดงาม หรือถ้าใครบอกว่ามันงดงาม มันงดงามแบบธรรมชาติ

 

ผู้คนที่สวมชุดเท่านั้นคือเหล่าภูติ พวกเขาสูงพอพอกับมนุษย์ รูปร่างของพวกเขาค่อนข้างผอม สำหรับหน้าตาของพวกเขานั้นถูกปกคลุมด้วยชุดคลุมจึงมิอาจเห็นได้ แต่สำหรับชูเฟิงแล้วสามารถเห็นได้ ดวงตาของพวกเขานั้นแตกต่างจากมนุษย์เพราะมันมี สีเขียว

 

พูดตามตรงว่าดวงตาสีเขียวนั้นแปลกประหลาดมาก แต่ดวงตาของพวกเขาไม่ได้ให้ความรู้สึกเช่นนั้นแต่มันกลับงดงามอย่างมาก

 

และเพราะว่าภายใต้รูปแบบนี้นั้นเต็มไปด้วยพลังวิญญาณชูเฟิงจึงไม่สามารถตรวจสอบพลังพวกเขาได้ เขารู้เพียงว่าพลังของพวกเขานั้นไม่ได้น้อยๆแน่นอน

 

ในตอนนั้น ผู้คนที่เตรียมตัวเข้าไปยังสระบรรพกาล ก็เริ่มเดินเข้ามาพร้อมกับยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ของพวกเขา

 

คนกลุ่มแรกที่ก้าวเข้ามานั้นเป็นคนจากวิหารหมู่ดาวนักล่า พวกเขานั้นมั่งคั่งมาก เพราะทุกๆคนนั้นถือยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับสูง

 

เมื่อเห็นยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับสูงกว่า 3000 ชิ้นประกายยิบยับ ผู้คนจำนวนมากจึงตกใจอย่างมาก แม้ว่านั้นจะไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับสูงของพวกเขา แต่พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจ

 

อย่างไรก็ตามผู้คนจากวิหารหมู่ดาวนักล่า ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ท่าทางของพวกเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งอย่างมาก พูดได้ว่าในภูมิภาคนี้มีน้อยสำนักนักที่จะเทียบพวกเขาได้

 

ในที่สุด คนกว่า3000 คนจากวิหารหมู่ดาวนักล่า ก็ได้ผ่านเข้ามา แต่อย่างไรก็ตามพวกผู้อาวุโสนั้นไม่ได้ตามเข้ามาด้วย

 

ตามกฎของพวกภูติคือ ราชันย์สงครามนั้นต้องจ่ายเป็นยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ 10 ชิ้นถึงจะให้เข้า ส่วนระดับกึ่งจักรพรรดิสงคราม ไม่ให้เข้า

 

หลังจากวิหารหมู่ดาวนักล่า เจ้ามาคนจากที่อื่นๆก็เริ่มเข้ามาเห็นได้ชัดว่าแต่ละสำนักที่มานั้นส่งคนมาไม่มาก

 

เป็นดั่งที่ ฉีคง ไจ้ชิงได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะมีคนมารวมกันเป็นร้อยล้าน แต่ก็มีไม่เกินหมื่นคนที่เข้ามา “นี่คือยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ธรรมดา มันไม่ใช่ระดับสูง ถ้าเจ้าต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้แล้วเข้าไปล่ะก็เจ้าได้คิดผิดแล้ว”

 

ทันใดนั้น พวกภูติก็ได้โยนยุทธภัณฑ์คืน ชายร่างกำยำคนหนึ่ง พร้อมกับสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว “เป็นไปไม่ได้ ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์นี้เป็นแค่ของระดับธรรมดาอย่างนั้นหรือ ลองตรวจมันอีกรอบสิ”

 

ชายร่างกำยำไม่ยอมรับเขากำยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ในมือแน่น

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิงก็ส่ายหัว นั่นเป็นเพราะเขาแค่ดูด้วยตาก็รู้แล้วว่ายุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ในมือชายคนนั้นไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับสูง แต่มันเป็นยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับต่ำ ที่อ่อนกว่ายุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ทั่วไปเสียอีก “ไอ้หยา ทำไมพวกบ้า อยากตายแบบนี้ถึงได้โผล่มาทุกปีนักนะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้อาวุโส กงซุนก็พูดขึ้น

 

ชูเฟิงนั้นสับสนที่ ผู้อาวุโสกงซุนพูด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ชูเฟิงเข้าใจทันที “วูบ.”

 

ก่อนที่ผู้อาวุโสกงซุนพูดขึ้น พวกภูติตรวจสอบยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ก็แทงนิ้วใส่หัวของชายร่างกำยำ “เอื้อกก~~~”

 

ในตอนนั้นเมื่อภูติถอนนิ้วของเขาออกมา ชายคนนั้นก็ล้มลงและนั่งนิ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเมื่องมือของชายคนนั้นขยับขึ้น ชุเฟิงและคนอื่นๆก็พบสัญลักษณ์เลืองแสงสีเขียวบนหน้าผากของชายคนนั้น “มันคืออะไรกัน”

 

ชูเฟิงถามขึ้น “นั่นคือตราประทับแห่งภูติ ใครก็ตามที่ถูกตรานั้นเข้าไปจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนไร้ยางอาย พวกขี้โกงมันอาจไม่ถึงตายแต่ว่ามันจะถูกตราหน้าไปตลอด.””ในอดีต ตรานั้นไม่ถูกตีตราขึ้นมากนัก คนที่ถูกประทับตรานั้นจะนับว่าเป็นบุคคลที่ไร้ยางอายอย่างมาก และเป็นการเตือนพวกภูติให้ระวังคนคนนั้น.””แต่มันก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไรนัก ที่น่าสนใจคือผู้ที่ถูกประทับตราไว้แล้วไม่เคยออกจากที่นี่ไปได้โดยมีชีวิตอยู่.””มันไม่ใช่ว่าเหล่าภูติเป็นคนฆ่า แต่มันเป็นเพราะคนที่ถูกตรานี้นั้นสร้างความเสื่อมเสียให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์และสมควรตายอย่างมาก”ผู้อาวุโส กงซุนอธิบาย

 

หลังจากได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิงก็ชายคนนั้นหยิบยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ของเขาและบินออกจากที่แห่งนี้ทันที อย่างไรก็ตามในตอนนั้นก็มีบางคนตามเขาไป ถ้าเป็นอย่างที่ผู้อาวุโสกงซุนพูด ชายกำยำคนนั้นต้องตายแน่นอน

 

หลังจากเกิดเรื่องจากชายร่างกำยำขึ้น ก็ไม่มีใครทำเช่นนั้นอีก นอกจากนี้ ชูเฟิงยังพบว่ายุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ระดับสูงที่พวกเขาหยิบออกมานั้น แม้ว่ามันจะเป็นระดับสูงสมชื่อแต่มันก็ยังต่างจากดาบผนึกมารของเขามากนัก

 

นี่แสดงให้เห็นว่าในบรรดายุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ทั้งหมด ดาบผนึกมารของชูเฟิงนั้นแข็งแกร่งสุด สำหรับชื่อราชันย์ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ นั่นไม่ใช่จะตั้งขึ้นมาเล่นๆ

 

หลังจากนั้น ฉีคง ไจ้ชิง หยิบยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ออกมา 22 ชิ้นแจกจ่ายให้ชูเฟิงและคนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขานั้นผ่านประตูของเหล่าภูติเข้าไปข้างใน “พวกมันมาได้ยังไง!”

 

ในตอนนั้น เมื่อชูเฟิงและคนอื่นๆ ผ่านการทดสอบ ฉีคง ไจ้ชิง ก็ขมวดคิ้วแน่น ความไม่พอใจปรากฏขึ้นในตาเขา

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : ใคร ใคร ใคร . . . . . . .

 

C : สงสัยที่หยิบให้ เป็นถุงข้าวโพดล่ะมั้ง ?!

 

B : หิวมั้งไอสาด เลยหยิบ สลับถุง!!!

 

A : มันจะโง่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ แต่ช่างเถอะ ยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์ชั้นสูงพี่เฟิง ก็มีไม่ใช่น้อยๆ เขวี้ยง หอกมังกรเงินใส่ก็ตลึงจนหงายท้องล่ะ แต่เรื่องที่น่าตกใจ คงไปเจอคนที่ไม่สมควรเจอละมั้ง

 

C : แม่พี่เฟิง ?!!!!

 

A : แม่มืงสิ!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments