ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1046 – แบกหน้ามาขอร้อง
“ท่านปรมาจารย์ ท่านหมายความว่าไง ?!”
กงซุน ขัวถาม “ตำหนักเมฆาอัศนีบาต ตั้งอยู่ใกล้สระบรรพกาลนิรันดร์มากกว่าพวกเรา แทนที่จะเดินทางขึ้นเหนือ แต่กับพาสาวกเดินย้อนลงมาหาเรา นี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีวัตถุประสงค์แอบแฝง”
ฉีคง ไจ้ชิง กล่าว “จุดประสงค์แอบแฝง ?!”
กงซุน ขัว ก็ยิ่งสับสน “ข้าเคยได้ยินข่าวลือมาว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ตำหนักเมฆาอัศนีบาต ได้ส่งอาวุโสระดับสูง แซ่ ‘ หลง ‘ เพื่อเข้าไปยังพื้นที่ ที่ถูกควบคุมโดยขุมอำนาจอื่นๆ เพื่อลักลอบนำเด็กที่มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่น กลับเข้ามายัง ตำหนักเมฆาอัศนีบาต เพื่อฝึกฝนอย่างลับๆ””หลังจากที่ข้าสืบ ข้าก็ได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เกี่ยวกับเรา และพวกเราก็ไม่ได้มีความแค้นหรือเป็นปรปักษกับตำหนักเมฆาอัศนีบาต ข้าจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร” “เพียงชัวพริบตาก็ผ่านไป 20 ปี เด็กเหล่านั้นคงเติบโตกันหมดแล้ว ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะต้องมีจุดประสงค์ นำต้นกล้าที่เติบใหญ่ มาทดสอบ” “เมื่อไม่นานนี้ ตำหนักเมฆาอัศนีบาต ได้เกิดความขัดแย้งกับ นิกายทรงปัญญา แล้วครั้งหนึ่งพวกเขาก็เคยกล่าวว่า วันหนึ่งพวกเขาจะส่งสาวกที่มีความสามารถจนทำให้ พฤกษาครามตอนใต้ของเราตกใจ และแม้แต่ นิกายทรงปัญญา ก็ยังไม่ใช่คู่มือของ ตำหนักเมฆาอัศนีบาต พวกเขาวางแผนจะทำให้สาวกของนิกายทรงปัญญา ยอมสยบ โดยใช้สถานะของ หุบเขาไม้คราม” “ดังนั้น ข้าเชื่อว่า ตำหนักเมฆาอัศนีบาตต้องมีการฝูมฝักกลุ่มเด็กเมื่อ 20 ปีก่อน โดยวางแผนที่จะนำพวกเขาส่งไปยัง หุบเขาไม้คราม เพื่อสร้างความตะลึงให้กับคนทั้งโลก ไม่งั้น พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาโอ้อวดไว้แบบนั้น” “อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะส่งเด็กพวกนั้นไปยัง หุบเขาไม้ครามได้ พวกเขาจึงวางแผนทำให้พฤกษาครามตอนใต้ ต้องขอยืมกำลังของพวกเขา”
ฉีคง ไจ้ชิง กล่าว “ยืมมือของพวกเขางั้นหรอ พวกมันวางแผนไว้แบบนี้งั้นหรอ”
กงซุน ขัว เริ่มเกิดความไม่สบายใจ “เพราะไม่ว่ายังไง พฤกษาครามตอนใต้ของเรา ก็ยังเป็นแค่สาขาย่อยของหุบเขาไม้คราม แม้ว่าเราจะอ่อนแอกว่าอีกทั้ง 3 พฤกษา ดังนั้นสถานะเราในตอนนี้จึงไม่ต่างอะไรไปจาก นิกายทรงปัญญาและพวกเขา “ในแง่่ของชื่อเสียงสำหรับขุมอำนาจลำดับ 2 พฤกษาครามของเราก็ไม่ธรรมดา แต่หากสาวกของตำหนักเมฆาอัศนีบาต สามารถเอาชนะ ศิษย์ของเราพฤกษาครามตอนใต้ พวกเขานั้นจะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น”
ฉีคง ไจ้ชิงกล่าว “ข้าสงสัยแต่แรกแล้ว ที่ตำหนักเมฆาอัศนีบาต เริ่มตีซี้กับ พฤกษาครามตอนใต้ของเราในตอนนั้น มันต้องมีจุดประสงค์แอบแฝง ที่แท้พวกเขาต้องการคว้าโอกาสที่จะขึ้นเหยียบหัวเรา พฤกษาครามตอนใต้ พวกมันช่างน่ารังเกียจจริงๆ!!!”
ใบหน้าของ กงซุน ขัว เต็มไปด้วยความโกรธ “เห้อออ! ไม่ต้องโกรธไป นี่เป็นแค่การคาดเดาของข้า บางทีตำหนักเมฆาอัศนีบาต อาจจะต้องการเป็นมิตรกับ พฤกษาครามตอนใต้ของเราจริงๆ แต่ถ้ามันจะใช้ความสนิทนี้ เพื่อเป็นการหักหน้าเราพฤกษาครามตอนใต้ ข้าบอกได้ว่า พวกเขาเลือกผิดที่แล้ว” “หากเป็นเมื่อก่อน บางทีพวกเขาคงทำให้ พฤกษาครามตอนใต้ของเราตกที่นั่งลำบาก แต่ตอนนี้ ข้าว่าพวกเขาคงไม่มีโอกาสอีกต่อไป”ความมั่นใจอยู่เต็มแววตาที่ลุกโชนของ ฉีคง ไจ้ชิง “ใช่แล้ว พวกเรายังมีชูเฟิง หากตำหนักเมฆาอัศนีบาต มันกล้าตลบหลัง พวกมันจะต้องได้รับบทเรียนที่แสนอัปยศ”
กงซุน ขัว กล่าว “ฮ่าๆ ข้ากลัวว่า จะไม่ใช่เพียงแต่พวกตำหนักเมฆาอัศนีบาต นะสิ”
ฉีคง ไจ้ชิง โยนสายตาไปที่ ชูเฟิง ที่อยู่ไกลออกไป พร้อมกับรอยยิ้มที่ยกขึ้นตรงมุมปาก
หกวันผ่านไป ไวยังกับโกหก
ในหกวันต่อมา พวกชูเฟิงและคนอื่นๆมารวมกันที่ลานกว้าง และที่พักอาศัยของเขาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า นอกจากนี้เมื่อ 6 วันก่อน ยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ในบริเวณลานกว้าง
สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ประกอบไปด้วย บ้านเรือนที่ธรรมดาเหมือนดั่งในอดีต แต่พวกมันถูกเปลี่ยนเป็นตำหนักหลากหลาย แตกต่างกันไป ตำหนักที่อยู่ในลานกว้างที่รวมกันอาจพูดไม่ได้แล้วว่าเป็น ชุมชน แต่มันคล้ายกับ นครเล็กๆ ซึ่งเปรียบได้กับพื้นที่หลักของพฤกษาครามตอนใต้ เป็นสถานที่อีกแห่งที่ใครก็ต่างพากันใฝ่ฝัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าตำหนักเหล่านี้จะอลังการแค่ไหน แต่ก็ยังมีอีกสถานที่ที่เตะตากว่า จนบริเวณนี้ด้อยกว่าพระราชตำหนักสูงตระหง่าน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้อย่างเห็นได้ชัด และสาวๆก็ต่างกันพาให้ความสนใจ เพราะนั้นคือ ที่พักอาศัยของ ชูเฟิง ” ศิษย์พี่ ชูเฟิง อยู่ไม๊?!”
ในขณะที่ ชูเฟิง กำลังสนทนากับ หลี่ เล่ย จู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากนอกประตู เสียงของนางดังกังวาน นอกเหนือจากเสียงที่ดังแล้ว น้ำเสียงนางยังเต็มไปด้วยความรีบร้อน เหมือนกับว่านางมีเรื่องด่วน
ชูเฟิงก้าวออกจากพระราชตำหนักพร้อมกับ หลี่ เล่ย และพวกเขาก็พบกับผู้หญิงสองคน พวกนางงดงามอย่างมาก สัดส่วนก็นับว่ายอดเยี่ยม ขณะนั้นทั้งสองยืนอยู่ในท้องฟ้า นอกจากนี้ พวกนางยังมีออร่าที่พิเศษ พวกนางคือความงามที่น่าหลงไหล ที่สามารถดึงดูดสายตาของคนเข้าไป
ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ชูเฟิงพบว่าพวกนางคือหญิงทั้งสองคนที่อยู่ในกลุ่มคนทั้ง 18 ที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ 6 วัน หากในตอนนั้น พวกนางเข้าไปหยุด จ้าว เกิ๋นชัว ที่กำลังสร้างความอับอายให้แก่คนจากทะเลตอนใต้ ด้วยตัวของนาง ในวันนั้นบางที ชูเฟิง คงจะยอมเยพวกนางแต่โดยดี “พวกเจ้าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ?!”
แม้ว่าแม่นางทั้งสองจะงดงามแค่ไหน แต่ ชูเฟิง ก็ยังทำหน้าไม่มิตรใส่ ” ศิษย์น้อง ชูเฟิง เรามีเรื่องสำคัญที่จะต้องพบเจ้าให้ได้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวเกียรติของพฤกษาครามตอนใต้ของเรา เจ้าช่วยเราหน่อยได้หรือไม่ แล้วพวกเราจะบอกรายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง” แม่นางคนนึงกล่าวด้วยน้ำเสียงขอร้อง “เข้ามาก่อน”
ได้ยินว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ พฤกษาครามตอนใต้ ชูเฟิง ก็พยักหน้า พร้อมกับหันไปมองซ้าย มองขวา และเริ่มก้าวกลับเข้าไปในที่พัก อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ปิดประตู แต่เขาเปิดทั้งไว้ให้แม่นางทั้ง 2 เข้ามา [ C : เอาล่ะเว้ย เอาล่ะเว้ย ]
ทั้งสองคนเห็นแบบนั้น ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาทะยานลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับเดินเข้าในที่พักของ ชูเฟิง “เจ้ามีอะไรก็พูดมา”
ชูเฟิง ถามเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ศิษย์น้อง ชูเฟิง เจ้าน่าจะเคยได้ยินว่า สระบรรพกาลนิรันดร์จะเปิดในเร็วๆนี้ และท่านปรมาจารย์ก็วางแผนที่จะพาพวกเราไปบ่มเพาะ ที่สระบรรพกาลนิรันดร์ แล้วใช่มั้ย ?!”
ผู้หญิง ถาม “เรื่องนั้น ท่านปรมาจารย์บอกกับข้าแล้ว แต่เจ้าบอกว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเกียรติของพฤกษาครามตอนใต้ของเรา แล้วเรื่องนี้ไปเกี่ยวอะไรกับสระบรรพกาลนิรันดร์ ?!”
ชูเฟิงถาม “ที่จริงสระบรรพกาลนิรันดร์กำลังจะเปิดเร็วๆนี้ แต่ยังไงก็ยังเหลือเวลา ก่อนที่มันจะเริ่มขึ้น พวกตำนักเมฆาอัศนีบาตได้เดินทางมายังพฤกษาครามตอนใต้ของเรา โดยบอกว่าต้องการเดินทางไปสระบรรพกาลพร้อมกับเรา” “เมื่อมาถึง อาจารย์ใหญ่ของตำหนักเมฆาอัศนี ได้หารือกับ ปรมาจารย์และอาวุโสฝ่ายลงทัณฑ์ ดังนั้น สาวกของตำหนักเมฆาจึงถูกส่งไว้กับเรา” “เดิมทีเราคิดที่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ สาวกจากตำหนักเมฆาอัศนีบาต แต่ขณะที่งานเลี้ยงเริ่ม สาวกของตำหนักเมฆาฯ ก็ถามถึงเรื่องศิษย์ของตระกูลฮั้น” “หลังจากที่รู้ว่าตระกูลฮั้น ถูกขับไล่ออกจาก พฤกษาครามตอนใต้ สาวกตำหนักเมฆาฯ ที่ชื่อ ฉี หยวนหัง ก็กล่าวว่า ปรมาจารย์นั้นติดสินใจผิด ที่เลือกขับไล่ตระกูลฮั้น และถ้าหากเป็นเช่นนี้ สถานะของพวกเราจะต้องถูกลด เป็นลำดับ 3 และ ด้อยกว่าตำหนักเมฆาอัศนีบาต” “ได้ยินแบบนั้น จ้าว เกิ๋นชัว และ กง เหลียนเฟิง ก็โมโหกันอย่างมาก พวกเขาตกอยู่จุดที่จำต้องสู้และเขาก็สู้กับคนที่ชื่อ ฉี หยวนหัง แต่ใครจะไปนึกว่า สาวกของตำหนักเมฆาอัศนี จะร้ายกาจ แม้ว่าพวก จ้าว เกิ๋นชัว และ กง เหลียนเฟิง อยู่ในระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม ก็ยังถูก ซัดหมอบกับพื้นโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว””และตอนนี้ งานนี้ก็เต็มไปด้วยสนามประลอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรที่จะนำไปฟ้องท่านปรมาจารย์ มีใครรู้ว่าเราถูกตีโดยสาวกตำหนักเมฆาอัศนีบาต โดยไร้ทางตอบโต้ พวกเราพฤกษาครามตอนใต้ จะต้องสูญเสียอำนาจแน่ๆ” “แม้ว่าพฤกษาครามตอนใต้เราจะเป็นถึง สาขาย่อยภายใต้ หุบเขาไม้คราม แต่ในแง่สถานะของตำหนักเมฆาฯ ก็ไม่สามารถเอามาเทียบกับ พฤกษาครามตอนใต้ของเราได้””ดังนั้น ศิษย์น้อง ชูเฟิง ข้าหวังว่าเจ้าจะพิจารณาเพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของพฤกษาครามตอนใต้ เจ้าพอจะละทิ้งความเกลียดชังในอดีตยืนยัดเพื่อเราได้หรือไม่ ข้าอยากให้เจ้าไปมอบบทเรียนให้สาวกตำหนักเมฆาฯ”
ผู้หญิงคนนั้นถามชูเฟิงด้วยน้ำเสียงขอร้อง และสายของของพวกนางยังเต็มไปด้วยการอ้อนวอน
ส่วนชูเฟิงหลังจากที่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ความโกรธก็ปะทุขึ้นในใจ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดให้เสียเวลา รีบยืนขึ้นและกล่าว”
พาข้าไป!”
ReaDMGA////////////////////////////////////////A : เอาแล้ว พี่เฟิงกู จะกระทึบคนอีกแล้ว!!!
B : สนุกแน่ๆ งานเลี้ยงครั้งนี้!!!
C : ไอ้บ้าเอ้ย นึกว่าผู้หญิงสองคนนี้จะมาให้พี่เฟิงเย ซะอีก!!!
A : สมอง!!! เกิดเรื่องแบบนี้ ยังจะคิดเรื่องลามกจกเปรต
C : เป็นนิสัยธรรมดาของ ชายหื่น!