I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1045 – มาดีประสงค์ร้าย

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1045 – มาดีประสงค์ร้าย

 

“ข้าไม่กล้าแล้ว ข้าไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้อีกแล้ว!”

 

หลังจากที่ ชูเฟิง พูดประโยคนั้น จ้าว เกิ๋นชัว ก็รู้สึกเหมือนหลุดออกจากความกังวลที่ผูกมัด เขาตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น พร้อมกับทะยานขึ้นท้องฟ้า ออกจากลานกว้างด้วยทักษะที่รวดเร็วที่สุดของเขาไป โดยไม่ได้สนใจสิ่งใด แม้กระทัั้งคนที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย

 

เห็นปฏิกิริยาของ จ้าว เกิ๋นชัว เป็นถึงขนาดนั้น มันทำให้ทุกคนต่างตกใจอย่างมาก หลังจากที่ จ้าว เกิ๋นชัวออกไป รอบๆลานกว้างก็กลับคืนสู่ความเงียบที่ผิดปกติ ไม่มีใครกล้าพูดออกมาแม้แต่ครึ่งคำหรือส่งเสียงใดๆ พวกเขาเพียงยืนนิ่งเงียบจ้องมอง ชูเฟิง

 

โดยเฉพาะชาย 2 คน ที่มาพร้อมกับ จ้าว เกิ๋นชัว ขณะนี้พวกเขามีท่าทางไม่ต่างไปอะไรไปจาก จ้าว เกิ๋นชัว พวกเขายืนขาสั่น เนื่องจากความกลัวที่มีต่อ ชูเฟิง มันมากมายนัก พวกเขาไม่กล้าที่จะก้าวขาออกไป โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ ดังนั้นพวกเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความกดดัน “ทุกท่าน การแสดงมันจบแล้วไม่ใช่หรอ!”

 

จู่ๆชูเฟิงก็ทอดสายตาไปยัง กลุ่มคนทั้ง 18 แววตาของเขามันเต็มไปด้วย จิตอาฆาต “ศิษย์น้อง ชูเฟิง พวกเราไม่ . . . .” เห็นแบบนั้น กลุ่มบุรุษและสตรี ทั้ง 18 ก็เกิดความหวาดกลัว เพราะพวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของ ชูเฟิง พวกเขาทั้งเกิดความเคารพและยำเกรงไปตามๆกัน พวกเขาไม่ได้คิดที่จะทำให้มันเกิดความร้าวฉาน หรือ สร้างทัศนคติไม่ดีให้กับ ชูเฟิง พวกเขาจึงรีบเปิดปากโดยหวังว่าจะได้อธิบาย “ไปซะ!!! พวกเจ้าออกไปให้หมด!!! ถ้ายังมีใครที่ไม่ใช่คนของทะเลตอนใต้อยู่ที่ลานกว้างแห่งนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันได้ออกไปตลอดกาล”

 

ชูเฟิง ขมวดคิ้ว พร้อมตะหวาดด้วยความเกรี้ยวกราด

 

เห็นลักษณะของ ชูเฟิง แบบนั้น คนทั้ง 18 ก็ตกใจไม่น้อย แต่มันก็ยังอยู่ในสิ่งที่เขาคิดไว้ ดังนั่น พวกเขาจึงไม่ได้ตอบกลับใดๆ จากนั้นพวกเขาก็โดดขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับพากันออกจากสถานที่แห่งนี้ไปอย่างรวดเร็ว

 

พวกอาวุโสและศิษย์ที่เข้ามาเฝ้าดู ความสนุก ความน่าตื่นเต้น หลังจากได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็รีบพากันโกยขา ออกจากที่นี่ พวกเขากลัวว่าจะทำให้ชูเฟิงโกรธ และทำร้ายพวกเขา เหมือนกับ จ้าว เกิ๋นชัว

 

สิ่งที่ชูเฟิงก่อไว้ รวมถึงการทำให้ตระกูลฮั้นถูกเนรเทศ สำหรับเรื่องตอนนั้น หาก ชูเฟิง ต้องการฆ่าพวกเขา ก็จะไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งเขาได้

 

ในบริเวณนั้นเหลือเพียงแค่คนจาก ทะเลตอนใต้ รวมไปถึง ชูเฟิง และ หลี่ เล่ย

 

แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้ไปไหน ขณะที่ความหวาดกลัวปรากฏทั่วใบหน้าของพวกเขา มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความกลัวของพวกเขาเกิดจากการกระทำของ ชูเฟิง ก่อนหน้านี้ “อะไร! หรือว่าพวกเจ้ายังคุกเข่าไม่พออีก!!!”

 

เห็นผู้คนที่ยังคงนั่งคุกเข่าบนพื้น ชูเฟิง ก็ถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด

 

หลังจากได้ยินชูเฟิงถามแบบนั้น ทุกคนก็รู้ได้ทันทีและพวกเขาก็ลุกขึ้นยืน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะขยับออกไปไหนจากจุดที่พวกเขายืน พวกเขายืนเหมือนกับคนที่มีความผิดรอการพิพากษา “ชูเฟิง ก่อนหน้านี้เหล่าอาวุโสทั้ง 18 ได้ออกหน้าช่วยเรา เจ้าทำไมถึงไล่เขาแบบนั้น เจ้าคิดอะไรกันแน่ ?””ไม่ว่ายังไง เราทั้งหมดก็คือสหายร่วมพรรค โดยเฉพาะความสามารถของเจ้า ที่จะได้เข้าสู่หุบเขาไม้ครามในวันหน้า หากเจ้าสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา ถึงตอนนั้นเจ้าและพวกเขาก็จะได้ช่วยเหลือกันและกันในหุบเขาไม้คราม มันจะไม่ดีกว่าหรอ ?!”

 

หลี่ เล่ย เดินไปข้างๆชูเฟิง พร้อมกับถามอย่างไม่มีการวางตัว ด้วยความสัมพันธ์อันดีของพวกเขาจึงทำให้เขากล้าที่จะแสดงความเห็น “แม้ว่าพวกเขาจะพูดออกมาแบบนั้น แต่พวกเขาได้ออกมาหยุด จ้าว เกิ๋นชัว จากการทำให้พวกท่านขายหน้าหรือเปล่า ?!”

 

ชูเฟิงถาม “หึ พวกเขาไม่”

 

หลี่ เล่ย ส่ายหน้า “แล้วก่อนหน้านี้ พวกเขามาที่นี่เพื่อพบเจ้าหรือเปล่า ?!”

 

ชูเฟิง ถามอีกครั้ง “พวกเขาจะทำแบบนั้นทำไม พวกเขาเป็นศิษย์หลักผู้มีตำแหน่งสูงส่ง และเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดใดบรรดาสาวกของพฤกษาครามตอนใต้ พวกเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาพบคนอย่างข้าสักหน่อย”

 

หลี่ เล่ยส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มตอบอย่างขมขื่น “หากเป็นแบบนั้น แล้วพวกเขามานี้ทำไม”

 

ชูเฟิงยังคงถาม “นี่ . . . เป็นธรรมดาอยู่แล้วหากเป็นเจ้า เจ้าได้กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในพฤกษาครามตอนใต้ ตอนนี้เจ้าเป็นศิษย์รักของท่านปรมาจารย์ ไม่ว่าดูจากมุมไหน พวกเขาก็ด้อยกว่าเจ้า หากเป็นข้า ข้าก็จะทำแบบพวกเขาและหาวิธีที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเจ้า”

 

หลี่ เล่ยตอบ “ท่านก็เข้าใจหนิ ถึงสามารถอธิบายและวิเคราะห์ได้มากกว่าครึ่ง “แต่ ชูเฟิง ก็ส่ายหน้า จากนั้นก็กล่าวต่อ”

 

ไม่ว่าพวกเขาจะมีท่าทีเหมือนก่อนหน้า หากว่าเขามาสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรด้วยความจริงใจ ข้าคงต้อนรับพวกเขา แต่จากความคิดข้า พวกเขานั้นไม่ได้มาด้วยความจริงใจ แต่เขามาเพราะเหตุผลเดียวกับ จ้าว เกิ๋นชัว คือต้องการทดสอบฝีมือข้า” “ว่าข้าจริงๆแล้วจะมีความสามารถเหมือนกับในข่าวลือหรือเปล่า พวกเขาจึงวางตัวให้ดูเป็นมิตรก่อน แต่หากข้าไม่ได้เป็นอย่างในข่าวลือ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่เข้าหา พวกเขาอาจจะทำให้ข้าต้องพบกับความอับอาย เหมือนกับ จ้าว เกิ๋นชัว””ลองบอกสิว่าคนเช่นนี้ ข้าสมควรที่จะสร้างไมตรีด้วยหรือไม่ ?! “ชูเฟิง มองหลี่ เล่ย แล้วถาม “บ้าจริง! ข้านี้มันช่างไร้สมอง ถึงคิดไม่ได้”

 

หลังได้ยินสิ่งที่ ชูเฟิง กล่าว หลี่ เล่ย ก็ตบหน้าผากดัง ‘ เผี๊ยะ ‘ เพราะรู้ตัวว่า เขานี้มันโง่เขลาถึงพยายามกระตุ้นให้ ชูเฟิง ไปสนิทกับคนประเภทนั้น “หากท่านรู้จักคนประเภทนี้ถึงก้นบึ้ง พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับพวกต่ำช้า เมื่อท่านกำลังรุ่งโรจน์ พวกเขาก็จะพยายามหาทางเข้าใกล้ แต่หากตกต่ำเมื่อไหร่ พวกเขาจะหลีกไกลห่าง ไม่ก็กดหัวเราให้จมดิน ซึ่งมันจะดีกว่าหากไม่เข้าไปเสวนากับคนประเภทนี้”

 

เห็น หลี่ เล่ย สำนึกได้ ชูเฟิง ก็ยิ้มๆเบาๆ แล้วไม่ได้กล่าวอันใดต่อ จากนั้นสายตาเสียดแทงของเขาก็มุ่งไปที่ เฉิน หลาง และ เฉิน หง และกล่าว”

 

และสิ่งทำเจ้าทำในวันนั้น บวกพฤติกรรมในวันนี้แสดงให้แล้วว่า พวกเจ้ามันต่ำช้า แต่ยังไงเจ้าก็ยังเป็นคนจากทะเลตอนใต้อยู่วันยังค่ำ ข้าจะทำเป็นไม่สนใจ””ตอนนี้ ข้าได้หาลือกับท่านปรมาจารย์ ดังนั่นพรุ่งนี้ พวกเจ้าจะได้รับเข้าเป็นศิษย์หลัก ให้เจ้ามารวมตัวเพื่อพบกับผู้จัดการอาวุโสที่นี่ หากเจ้าต้องการ พวกท่านจะยอมรับพวกเจ้าเป็นศิษย์ในความดูแล” “ส่วนที่พักอาศัยของพวกเจ้าข้าไม่สนใจเนื่องจากข้าไม่อยากรบกวนท่านปรมาจารย์ไปมากกว่านี้ แต่ยังไง ท่านปรมาจารย์จะส่งคนมาสร้างที่พักใหม่ให้พวกเจ้าทั้งหมด”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของ ชูเฟิง ทุกคนต่างตะลึงงึงงัน พวกเขาทำหน้าราวกับมันเป็นความฝัน

 

ไม่ว่าจะยังไง พวกเขาก็ไม่นึกเลยว่า หลังจากที่ทำเรื่องเช่นนั้นกับ ชูเฟิง พวกเขาไม่เพียงแต่ จะได้รับการอภัย พวกเขายังได้รับโอกาสที่น่าอัศจรรย์ราวกับฝันไป

 

การเป็นศิษย์หลัก และยังได้รับเข้าเป็นศิษย์ติดตามของผู้จัดการอาวุโส นี้เป็นสิ่งที่เหล่าสาวกในพฤกษาครามตอนใต้ต่างใฝ่ฝัน แต่ใช่ว่าจะมีใครสามารถอยากเป็น ก็เป็นได้ สาวกส่วนใหญ่ตลอดเวลาทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสมัน “ชูเฟิง พวกเรา . . . .”

 

ในตอนนี้ ทุกคนต่างตื่นเต้นกันอย่างมาก สายตาที่เขามองไปที่ ชูเฟิง พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องกล่าวออกไปยังไง ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อ ชูเฟิง เลยสักอย่าง แต่ชูเฟิงกับปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี นี้ทำให้พวกเขารู้สึกละอายและสำนึกเสียใจ “พวกเจ้าไม่ต้องกล่าวใดๆ ข้ารู้พวกเจ้านั้นต้องผ่านความลำบากตั้งแต่ออกจากทะเลตอนใต้ เดินผ่านเข้ามาเส้นทางสวรรค์ จนกว่าจะถึงที่นี่ ดังนั้น ข้าหวังว่าในอนาคตอย่างน้อยที่สุด คนของเราก็ไม่ควรซ้ำเติมกันเอง”

 

ชูเฟิงกล่าว “ชูเฟิง วางใจได้ นับแต่วันนี้ หากข้า เฉิน หลาง กล้ารังแกใคร ชีวิตนี้ของข้าจะมอบให้เจ้าจัดการ!!!”

 

ได้ยินแบบนั้น เฉิน หลาง ก็ตบหน้าอก ให้คำมั่น “ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาสัญญา!”

 

เห็น เฉิน หลาง มีท่าทีแบบนั้น ชูเฟิง ก็พยักหน้ารับคำสัญญา

 

ภายใต้การจัดการของ ชูเฟิง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดของผู้คนจากทะเลตอนใต้ในลานกว้างก็ค่อยๆจางหาย และถูกปกคลุมภายใต้ความกลมเกลียวและความสุข ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากสิ่งที่ ชูเฟิง มอบให้ พวกเขารู้สึกทราบซึ้งและเคารพ ชูเฟิง เป็นอย่างมาก

 

แล้วบัดนี้ ลานกว้างขนาดใหญ่ ก็เปลี่ยนเป็น งานเลี้ยงฉลอง แต่ต้นไม้ใหญ่ที่ห่างอาจไป ชูเฟิง ก็สัมได้ถึง เงาสองเงา

 

หนึ่งในนั้นคือ ปรมาจารย์ของพฤกษาครามตอนใต้ ฉีคง ไจ้ชิง และส่วนอีกคนคือ อาวุโสฝ่ายลงทัณฑ์คนใหม่ กงซุน ขัว “เรื่องร้ายกลับกลายมาเป็นดีแล้วสินะ เขามีความสามารถที่ชักนำผู้คนแฝงอยู่ในตัว ด้วยความสามารถนี้ บางที ชูเฟิง อาจนำพาพฤกษาครามตอนใต้ให้เรื่องรุ่ง เขาไม่เพียงแต่จะสามารถปกครองคนจากทะเลตอนใต้ ข้าเชื่อว่าเมื่อพฤกษาครามตอนใต้ของเราต้องเผชิญหน้ากับศัตรู ชูเฟิง จะต้องเป็นหัวหอกสำคัญ ในการพิทักษ์ พฤกษาครามตอนใต้ของเรา” “ท่านปรมาจารย์ สายตาของท่านช่างเฉียบแหลมยิ่งนัก เด็กคนนี้แตกต่างคนอื่นๆ อย่างน้อยๆ ข้าก็ไม่เคยเห็นใครที่อายุเท่านี้ แล้วจะมีความแข็งแกร่งและปัญญาเลิศล้ำได้เพียงนี้”

 

กงซุน ขัว กล่าวยกย่องปรามาจารย์ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและประหลาดใจ

 

อย่างไรก็ตาม ฉีคง ไจ้ชิง ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆกับคำพูดของ กงซุน ขัว เขาเพียงยิ้มออกมา แล้วหันหน้าไปถาม”

 

เจ้าบอกว่า ตำหนักเมฆาอัศนีบาต ส่งจดหมายแจ้งมาว่าต้องการเดินทางไปยัง สระบรรพกาลนิรันดร์ด้วยกันกับเรา แล้วมันเริ่มเมื่อไหร่ ?!””อีกสิบวันคับ ที่สระบรรพกาลนิรันดร์จะเปิดขึ้น ข้าเชื่อว่า ตำหนักเมฆาอัศนีบาต จะเดินทางมาถึง พฤกษาครามตอนใต้ของเรา ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า . . . .”

 

กงซุน ขัว ตอบ “แม้ว่า ตำหนักเมฆาอัศนีบาต จะมีความสัมพันธ์อันดีกับ พฤกษาครามตอนใต้ แต่มันก็แค่เปลือกนอก พวกเขาไม่ได้มีเป้าหมาย ต้องการร่วมเดินทางไปยัง สระบรรพกาลนิรันดร์ด้วยกันกับเรา”

 

ฉีคง ไจ้ชิง ส่ายหน้า

 

ReaDMgA ////////////////////////////////////////

 

A : หรือว่าจะมาทดสอบว่า พฤกษาครามตอนใต้ ตอนนี้อ่อนแอถึงขนาดไหนสินะ ?!

 

B : งานนี้ พี่เฟิงกูได้ออกกำลังอีกแล้วสินะ ?!

 

C : กูเห็นใครมา ใครไป พี่เฟิงแม่งก็หาตีนมาตลอด!

 

A : แต่ไม่นึกเลยว่า แม้แต่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ จะมีผู้เชี่ยวชาญขั้น จักรพรรดิไม่กี่คน ตระกูลพี่เฟิง นี้แม่งสุดยอดจริงๆ กูสงสัยว่า ตระกูลพี่เฟิง จะเป็นตระกูลเทพเจ้า

 

B : ก็อาจเป็นไปได้!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments