ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1012 – ต้องการคำอธิบาย
“ลู่ว รู่ !!”
หลังจากเห็นอาการของ ลู่ว รู่ นั้น ชายชราก็รีบสิ่งออกไป และรับร่างของลู่ว รู่ มาจากอ้อมกอดของ ลู่ว เหลียน และตรวจสอบอย่างระมัดระวังก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความกราดเกรี้ยวว่า “ใครมันเป็นคนควักลูกตาของ ลู่ว รู่ ไป !!””ท่านปู่ มันเป็นคนของวิหารโลหิตลี้ลับ !!”
ลู่ว เหลียน กล่าวออกมาขณะร้องไห้ “อะไรนะ !? วิหารโลหิตลี้ลับรึ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของชายชราก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความโกรธ และความกราดเกี้ยวของเขาถูกบดบังเอาไว้ ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาว่า”
เจ้าไปทำอะไรมา ถึงได้ถูกวิหารโลหิตลี้ลับเล่นงายมาเช่นนี้ !?””พวกเราสามคนไปยังหุบเขาสัตว์ป่าจระเข้เพื่อล่าพวกมัน แต่พวกเราไปถึงก็เจอกับคนของวิหารโลหิตลี้ลับกำลังล่าพวกมันอยู่ พวกเราจึงอ้อมไปรอบนอกโดยที่ไม่ได้ยุ่งกับพวกเขา !!””ยังไงก็ตาม ข้าไม่คิดว่าคนของวิหารโลหิตลี้ลับจะโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้ พวกเขาตามล่าพวกเรา และมีนังปิศาจคนหนึ่งบอกว่าดวงตาของ ลู่ว รู่ สวยกว่าดวงตาของนาง นางจึงยอมไม่ได้ และใช้นิ้วควักดวงตาของ ลู่ว รู่ …….”
ลู่ว เหลียน กล่าวพลางร้องไห้ และนางยิ่งร้องมากขึ้นกว่าเดิม “เจ้าโง่ !! เจ้าไม่รู้หรือว่าวิหารโลหิตลี้ลับมันเป็นปิศาจ !! แทนที่พวกเจ้าจะหนีพวกมันตั้งแต่แรก พวกเจ้ากลับสนใจแต่การล่า !!”
ในเวลานั้น ร่างกายของชายชราพลันสะท้าน ไม่ใช่ด้วยความโกรธ แต่มันเป็นเพราะความเจ็บปวดของ ลู่ว รู่ ที่ต้องบาดเจ็บเช่นนี้
ลู่ว รู่ อายุยังน้อย และนางก็ยังไม่มีประสบการณ์ อาการบาดเจ็บของนางตอนนี้ ย่อมส่งผลต่อชีวิตของนางอย่างมาก “ข้าก็เคยได้ยินมาว่าวิหารโลหิตลี้ลับเป็นปิศาจ แต่ข้าก็ไม่คิดว่าพวกมันจะไม่หลงเหลือความเป็นคนเช่นนี้ อีกอย่าง จ้าว เฉาฉิ่ว ก็อยู่กับพวกเรา แต่เขาก็มีพลังเพียงขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น !!”
ลู่ เหลียน กล่าว “จาว เฉาฉิ่ว หึ !! เจ้าทำอะไรบ้างล่ะ !?”
ชายชราถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา พร้อมกับจ้องมองไปที่ จาว เฉาฉิ่ว อย่างรวดเร็ว “ข้า…….”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ จ้าว เฉาฉิ่ว พลันเปลี่ยนเป็นปั้นยากในทันที เขาพยายามจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่เขาก็ลังเล เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น เขาก็เห็นทั้งหมด แต่เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรแม้แต่น้อยด้วยความกลัวของเขา แม้แต่จะกล่าวออกมาเขาก็ยังไม่กล้า “อย่าไปโทษ จ้าว เฉาฉิว เลย ในครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือของศิษย์จากวิหารโลหิต พวกมันได้มีพลังแค่ขั้นแดนสวรรค์ แต่พวกมันมีพลังขั้นจ้าวสงคราม !!”
ลู่ว เหลียน กล่าวออกมา เพราะนางได้เห็นความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้น “อะไรนะ ขั้นจ้าวสงคราม !! นี่มันเหล่าผู้นำของวิหารโลหิตลี้ลับเลยหรือนี่ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายชราก็ตกใจอย่างมาก “ไม่ว่าใครก็ทำเช่นนี้ได้ ในตอนนี้สิ่งสำคัญคือการรักษา ลู่ว รู่ ก่อน ผู้อาวุโส ส่งนางมาให้ข้า ข้าสามารถรักษานางได้ !!”
ชูเฟิง กล่าวออกมา ในขณะที่เดินเข้าไปหาชายชราเพื่อจะรับร่างของ ลู่ว รู่ มา “หยุด !! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร !! เจ้าก็รู้แล้วใครคือคนที่ทำให้ ลู่ว รู่ เป็นแบบนี้ แล้วเจ้าจะรักษานางได้รึ !?”
แต่ก่อนที่ชายชราจะได้กล่าวอะไรออกมานั้น ลู่ว เหลียน ก็ตะโกนออกมาก่อน แววตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัย “หุบปาก !!”
ชายชราตวาด ลู่ว เหลียน ออกมาอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะหันมาที่ ชูเฟิง และกล่าวว่า”
สหายน้อย ชูเฟิง ข้าขอฝาก ลู่ว รู่ ไว้กับเจ้าด้วย”
เขากล่าวออกมาพร้อมกับส่งร่างของ ลู่ว รู่ ให้กับ ชูเฟิง “ผู้อาวุโส ลู่ว ไม่ต้องกังวล ข้าจะรักษา ลู่ว รู่ ให้หายให้ได้ !!”หลังจากรับร่างของลู่ว รู่ แล้วนั้น ชูเฟิง ไม่รอช้า เขารีบตรงเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว “ท่านปู่ ลู่ว ท่านไว้ใจเขาหรือ !? เขาก็เป็นเพียงเด็กที่มาจากทะเลใต้เท่านั้น และเท่าที่ข้าเห็น เขาก็มีพลังเพียงแค่ขั้นแก่นแท้วิญญาณเท่านั้น ฝาก ลู่ว รู่ ไว้กับเขา ท่านไม่คิดว่าเขาจะทำอันตรายต่อนางหรือ !?”
หลังจากที่ ชูเฟิง เข้าไปในบ้านนั้น จ้าว เฉาฉิ่ว ก็กล่าวออกมาในทันที “ไว้ใจเขาอย่างนั้นรึ !? แล้วข้าควรไว้ใจใคร !? เจ้ารึ !? ข้าปล่อยให้ ลุ่ว รู่ ออกไปกับเจ้า แล้วดูสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ !!””เจ้ารู้ไหมว่าดวงตามันสำคัญกับเด็กแค่ไหน !? ถ้าหาก ชูเฟิง ไม่สามารถช่วย ลู่ว รู่ ได้ เจ้าสามารถช่วยได้เช่นนั้นรึ !?”
ชายชราตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ข้า…….”
หลังจากได้ยินเช่นนั้ย ใบหน้าของ จ้าว เฉาฉิ่ว พลันเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เขาพยายามจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่เขาก็ได้กล่าวออกมา และเขาก็ถอยออกไปพร้อมกับพึมพำบางอย่างกับตัวเองออกมา
ในเวลานั้น หลังจากที่ ชูเฟิง เข้าไปในบ้าน เขาก็ปิดประตูในทันที เพราะเขาไม่อยากให้ใครเห็นวิธีรักษาของเขา เพราะมันเป็นวิธีที่โหดร้ายอย่างมาก
ความจริงนั้น ไม่ว่าจะเป็นเขา หรือนาง ที่สูญเสียดวงตาไป เขาก็สามารถรักษาได้อย่างง่ายดาย
แต่ด้วยความที่ ลู่ว รู่ ยังเป็นเด็ก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะรักษานาง อีกทั้งนางก็ยังไม่มีพลังวิญญาณที่จะสามารถช่วยในการรักษาได้
ดังนั้น การรักษาดวงตาของนางจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่มันก็ไม่เกินความสามารถของ ชูเฟิง แม้แต่น้อย
หลังจากนั้นกว่าหนึ่งชั่วโมง ชูเฟิง ก็รักษาดวงตาของ ลู่ว รู่ จนเขามั่นใจว่าดวงตาของนางจะกลับมาเป็นปกติ และงดงามเช่นเดิม และมั่นใจว่านางจะไม่เจ็บปวดหลังจากตื่นขึ้น
เขาก็ได้ออกมาจากภายในบ้าน หลังจากรักษาดวงตาของ ลู่ว รู่ “สหายน้อย ชูเฟิง อาการของ ลู่ว รู่ เป็นยังไงบ้าง !?”
หลังจากเห็น ชูเฟิง ก้าวออกมานั้น ชายชราก็เดินเข้าไปถามด้วยความกังวง “ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ตอนนี้ ลู่ว รู่ ปลอดภัยแล้ว ข้าเชื่อว่านางจะฟื้นขึ้นมาในเร็วนี้ !!”
ชูเฟิง กล่าวด้วยรอยยิ้มพราวบนใบหน้า “อะไรนะ อาการของ ลู่ว รู่ ดีขึ้นแล้วหรือ !?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่ว เหลียน ก็โพล่งออกมาด้วยความสับสน
ชูเฟิง ไม่ได้สนใจคำกล่าวของ ลู่ว เหลียน เขาหันไปทางชายชราและกล่าวออกมาว่า”
ผู้อาวุโส วิหารโลหิตลี้ลับแข็งแกร่งมากไหม !? และคนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขามีพลังขั้นใด !?””วิหารโลหิตลี้ลับนั้นแข็งแกร่งมาก มีผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามสองคนเป็นผู้ดูแลทุกอย่าง และยิ่งผู้ก่อตั้งวิหารโลหิตนิรันดร์นั้น เยาได้อยู่ในจุดสูงสุดของระดับหนึ่ง ของขั้นราชันย์สงครามมาหลายปี ในตอนนี้ข้าคิดว่าเขาน่าจะมีพลังในระดับสอง ขั้นราชันย์สงคราม !!” “ผู้อาวุโส ท่านรู้ไหมว่าวิหารโลหิตลี้ลับตั้งอยู่ที่ใด !?”
ชูเฟิง กล่าวถามต่อ “สหายน้อย ชูเฟิง ทำไมเจ้าถึงถามเช่นนี้ !?”
ชายชราขมวดคิ้วแน่น เพราะเขาตระหนักได้ถึงบางอย่าง
ชูเฟิง รู้ว่าชายชรามีประสบการณ์มาอย่างมาก และชายชราจะต้องรู้ว่าเขามีพลังบางอย่าง ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ยอมส่ง ลู่ว รู่ ให้เขารักษา อย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจึงกล่าวออกมาตรงๆ ว่า”
ในเมื่อวิหารโลหิตลี้ลับกล้าทำเช่นนี้กับ ลู่ว รู่ พวกเขาก็ต้องหาคำอธิบายมาให้ข้าในเรื่องนี้ !!””อะไรนะ !? เจ้าจะให้วิหารโลหิตลี้ลับอธิบายเรื่องนี้เช่นนั้นรึ !! เจ้าไม่อวดดีเกินไปหน่อยรึ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่ว เหลียน ก็เลิกคิ้วสูงขึ้น ก่อนจะกล่าวเยาะเย้ย และหัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมา
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : กูขอกระโดดถีบหน้าอีนี้สักทีเถอะว่ะ!!!
B : ใจเย็นๆ!!! แหม๋เลือดร้อนจริงๆ!!! เด๋วไม่นานมันก็จะได้เงียบปาก
C : มาถึงได้ไม่กี่วัน เอาแล้วพี่เฟิงกู จะสร้างวีรกรรมให้โลกจารึก!!!
A : นิยายกำลังภายในมันก็ต้องสู้กันล้างผลาญสิ!!!
B : แต่ก็อยากให้มีโมเม้นแบบเอาของที่มันปล้นๆมาไปวางขาย หรือ ไม่ก็เอาไปประมูล แลกของแปลกๆดีๆที่ไม่มีประโยชน์กับคนอื่น แต่มีประโยชน์กับพี่เฟิง อย่าง ศิลาโอรถอเวจี
A : ใช้ พี่เฟิงแม่งแทบจะไม่เคย ช็อปปิ้งเลย แม่งใช้เงินเปนป่ะว่ะ ค่ำไหนนอนนั้น เจออะไร ตีแล้วลากมาแดก นี้มัน พี่เฟิง หรือ เบกิล กันแน่!!!