I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1049 – ปิดหูปิดตาผู้คน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1049 – ปิดหูปิดตาผู้คน

 

อย่างไรก็ตาม ใครจะไปคิดว่าพวกเขาที่ยอมกระทั่งทิ้งศักดิ์ศรี คุกเข่าต่อสาธารณะแล้ว ชูเฟิงก็เข้าไม่ให้อภัย เขาชี้ไปที่คนของตำหนักเมฆาอัศนีบาต แล้วพูดว่า,”

 

กราบแล้วยอมรับคำผิดซะ.””นี่มัน…”

 

เมื่อได้ยินคำสั่งของชูเฟิง พูดคนของตำหนักเมฆาอัศนีบาตก็พูดไม่ออก พวกเขานั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเสียแล้ว แม้พวกเขาจะยอมคุกเข่า แต่ว่าการหมอบแล้วกราบยอมรับความผิดนี่มันเป็นสิ่งที่มากเกินไปที่พวกเขาจะยอมได้. “ข้าจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว กราบแล้วยอมรับความผิดของพวกเจ้าต่อคนของป่าไม้ครามใต้ของข้าซะ”

 

ชูเฟิงไม่ลังเลพูดอีกครั้งเสียงของเขานั้นดังไปทั่ว

 

ในตอนนั้น ชูเฟิงเหมือนเป็นราชันย์ผู้ปกครองโลก นอกจากนี้ เขายังเป็นทรราชที่ไม่สามารถโค่นได้ ผลของการขัดขืนเขามีเพียงความตายเท่านั้น

 

ภายใต้แรงกดดันเช่นนั้น เหล่าศิษย์จากตำหนักเมฆาอัศนีบาตนั้นต่างวิตกอย่างมาก พวกเขายอมทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมด และหมอบกราบจากนั้นก็พูดว่า”

 

พี่น้องจากป่าไม้ครามใต้พวกเราผิดไปแล้ว พวกเรานั้นเป็นพันธมิตรกันโปรดยกโทษให้พวกเราด้วย.”

 

หลักจากพูดจบ พวกเขาก็เอาหัวก้มลงจมดิน พวกเขานั้นกราบและยอมรับความผิดตามที่ชูเฟิงบอกจริง “ชูเฟิง พอได้แล้ว!”

 

ในตอนนั้น เสียงของผ้อาวุโสก็ดังขึ้นข้างในวิหาร ราวกับฟ้าผ่า เสียงนั้นทั้งแสบแก้วหูแล้วเต็มไปด้วยการขู่ เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น ทุกคนในพระราชวังนั้นก็ตื่นตัวทันที “วูบ วูบ วูบ .”

 

หลังจากเสียงนั้นดังขึ้น ก็มีร่างของชายชรา บินลงมาจากท้องฟ้าราวกับดาวตก พวกเขานั่นบินลงมาที่ ห้องโถงของพระราชวัง

 

ชายชรากลุ่มนี้นั้นคือกลุ่มที่ชูเฟิงรู้จัก พวกเขานั้นเป็นกลุ่มผู้อาวุโสฝ่ายจัดการที่นำมาโดย ฉีคง ไจ้ชิง

 

และสำหรับคนอื่นๆนั้น เสื้อคลุมของพวกเขาต่างจากของป่าไม้ครามใต้ นอกจากนี้ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวนัก พวกเขานั้นคือผู้อาวุโสฝ่ายจัดการของตำหนักเมฆาอัศนีบาต และนอกเหนือจากนั้น ด้านข้าง ฉีคง ไจ้ชิงยังมีชายชราคนหนึ่งที่มีหงอนบนหัว กลิ่นอายของเขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขาคือประมุขของ ตำหนักเมฆาอัศนีบาต

 

ในตอนนั้น เมื่อเห็นศิษย์ของตำหนักเมฆาอัศนีบาตกำลังคุกเข่า พวกเขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนปากกระตุก ในตอนนั้นใบหน้าของพวกเขาน่าเกลียดราวกับได้กินเค้กที่ทำจากหมาเน่า “วูบ วูบ.”

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นเมื่อเห็น ฉี หยวนฮัง ก็รีบบินไปหาฉี หยวนหัง แม้ว่าประมุขตำหนักเมฆาอัศนีบาตจะไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ผู้อาวุโส 2 คนรีบบินไปทันที

 

เมื่อมาถึงพวกเขาไม่พูดอะไรมากรีบใช้พลังสร้างผนึก ผนึกตันเถียงของเขาไว้เพื่อหยุดพลังของเขาที่กำลังไหลออกไป หลังจากนั้นพวกเขาก็หยิบยาขึ้นมาและป้อนให้ ฉี หยวนฮัง ต่อ

 

ในตอนนั้น พวกเขามาช้าไปนิด แม้ว่าจะรักษาพลังของ ฉี หยวนหังไว้ได้ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับ 1 ราชันย์สงครามอีกแล้ว แต่ตอนนี้พลังของเขาเหลือเพียง 8 จ้าวแห่งสงครามเท่านั้น แม้ว่าจากต่างกันแค่ 2 ระดับ แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะฟื้นคืน “ท่านประมุข เขาทำร้ายศิษย์น้อง ฉี และบังคับให้พวกเรากราบเขา ท่านประมุขโปรดช่วยพวกเราด้วย !”

 

เมื่อเห็นประมุขของพวกเขา เหล่าศิษย์ก็รีบวิ่งมา แล้วฟ้องทันที จากนั้นพวกเขาก็คุกเข่าและทำเช่นเดียวกับที่ทำให้ชูเฟิง “หุบปาก!”

 

อย่างไรก็ตามใครจะไปคิดว่าประมุขนั้นไม่เพียงแต่โกรธเท่านั้น แต่ยังสะบัดแขนตบหน้าเหล่าศิษย์ที่เหมือนกับสมบัติอย่างพวกเขา

 

หลังจากทำเช่นนั้นเสร็จ ประมุขตำหนักเมฆาอัศนีบาต ก็ประสานมือคารวะแล้วพูดกับ ฉีคง ไจ้ชิงว่า”

 

ท่านประมุข ฉีคง ข้านั้นสั่งสอนศิษย์ได้ไม่ดีพอ อย่างได้ตำหนิพวกเขา.””ฮ่าๆ พวกเขายังเยาว์นัก มันเป็นเรื่องดีที่มีการแข่งกัน และการประลองกัน”

 

, ฉีคง ไจ้ชิง ลูบเคราของเขาแล้วพูดขึ้น

 

จากนั้นเขาก็เหลือบมอง และพูดขึ้นอีกว่า”

 

อย่างไรก็ตามบางครั้งก็เกิดการเหิมเกริมมากเกินไป อย่างเช่นวันนี้ ไม่เพียงพวกเจ้านั้นอยากให้คนอื่นขายหน้า แต่พวกเจ้าเองก็กลัวที่จะต้องขายหน้า นอกจากนี้สิ่งที่เจ้าทำมันไม่เพียงทำให้พวกเจ้าเสียหน้าแต่ยังรวมไปถึงพรรคของพวกเจ้าอีกด้วย.””ท่านประมุข ไป่หลี่ ทั้ง 2 พรรคของพวกเรานั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก มันเป็นเรื่องง่ายที่จะปิดบังเรื่องนี้ ดังนั้นข้าจะไม่แพร่กระจายเรื่องที่เกิดขึ้นออกไป และจะไม่มีใครกระจายออกไปดังนั้น ชื่อเสียงของพวกท่านก็จะไม่ได้รับผลกระทบ.””อย่างไรก็ตาม ท่านต้องระมัดระวัง ถ้าสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยมหาอำนาจอื่นๆเช่น นิกายผู้ทรงปัญญา มันคงจะไม่ง่ายเช่นนี้แน่.”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของฉีคง ไจ้ชิงใบหน้าของประมุขศาลาเมฆสายฟ้าก็เปลี่ยนจากเขียวเป็นม่วง แล้วก็เปลี่ยนเป็นฟ้านั่นเป็นเพราะในคำพูดขึ้นแทรกการเยาะเย้ยไว้อยู่ อย่างไรก็ตามเขานั้นไม่กล้าทำอะไรมาก จึงพูดแค่ว่า”

 

ท่านพูดถูกแล้วในอนาคตข้าจะสั่งสอนศิษย์ข้าให้ดีขึ้น และจะไม่ให้เกิดการเสียหน้าอีก.””ปล่อยมันไปเถิด นี่ก็แค่เรื่องเล็ก เจ้าไม่ต้องเก็บไปคิดมาก.””เจ้าทั้งหมดนั่นก็เป็นแขกของพวกเรา และเป็นครั้งแรกที่ประมุขไป่ลี่ นำศิษย์และผู้อาวุโสมาเยือนพวกเรา ดังนั้นเราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก.””เด็กๆ จัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้คนจากตำหนักเมฆาอัศนีบาตเร็วเข้า “ฉีคง ไจ้ชิงพูดขึ้น

 

หลังจากนั้นงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น ผู้คนทั้งหมดก็ได้เข้าร่วมงานเลี้ยง

 

แม้ว่างานเลี้ยงจะจัดขึ้นเพื่อคนของตำหนักเมฆาอัศนีบาต แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความสุขมากนัก พวกเขาได้แต่เพียงกินอาหารพร้อมรอยยิ้มที่ขมขื่นเท่านั้น

 

แต่เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว เหล่าศิษย์ของป่าไม้ครามใต้ต่างมีความสุขมาก นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้ ไม่เพียงพวกเขาสามารถรักษาชื่อเสียงของป่าไม้ครามใต้ไว้ได้ แต่ยังสร้างความอัปยศให้กับตำหนักเมฆาอัศนีบาตได้อีก

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ลืมว่าคนที่ทำเรื่องนี้นั้นไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นชูเฟิง ชูเฟิงคนเดียวเท่านั้น

 

แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสฝ่ายจัดการของตำหนักเมฆาอัศนีบาตนั้นจะรู้สึกเช่นเดียวกับเหล่าศิษย์ แต่พวกเขาก็ยังเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยงพร้อมกับ ผู้อาวุโสของป่าไม้ครามใต้ได้

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้อาวุโสหรือเหล่าศิษย์ของตำหนักเมฆาอัศนีบาตก็คอยแอบมอง ชูเฟิงเป็นครั้งเป็นครา

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : มันคงอยากจะทาบถามชูเฟิงให้เป็นพวก

 

B : หรือไม่ก็หาจังหวะ กลับมาแก้แค้น แต่ถ้ามันยอมเป็นพันธมิตรดีๆตั้งแต่แรก ก็คงไม่มีปัญหา นี้ไงล่ะ ผลของการตลบหลัง!

 

C : ประมุขไป๋ลี่ กับ ปรมาจารย์ฉีคง ใครจะเก่งกว่ากันนะ!!!

 

A : น่าจะเป็นปรมาจารย์ฉีคง!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments