ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1089 – ก้าวขึ้นสู่นิกายสวรรค์
เเม้ว่านิกายสวรรค์จะตั้งอยู่ในอาณาเขตของหุบเขาไม้คราม เเต่มันก็ไม่อยู่ที่ภาคเหนือ เมื่อเทียบกับทางใต้ของเขา นั้นมันค่อนข้างห่างไกลเป็นอย่างมากท่าเทียบกับหุบเขาไม้ครามตอนใต้
ถึงเเม้ว่าที่ว่าดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้นจะมีรูปแบบมิติโบราณอยู่ เเต่มันก็ทำให้ ชูเฟิงเเละ ซีคง ไจ้ฉิง เดินทางมาโดยใช้เวลาหลายวันอยู่ดีกว่าจะถึงที่นิกายสวรรค์
ในขณะนี้ชูเฟิง เเละ ซีคง ไจ้ชิง ก็ได้มาถึงที่ดินเเดนนิกายสวรรค์
อำนาจสง่าราศีของที่เเห่งนี้สง่างามมาก สถานที่ที่นิกายสวรรค์ตั้งอยู่นั่นก็คือ บนจุดสุดสูงสุดของหุบเขาสวรรค์
หุบเขาสวรรค์เป็นสถานที่กว้างใหญ่เเละสวยงามเป็นอย่างมาก มันมีเทือกเขามากมายล้อมรอบเเละลึกเข้าไปก็ปรากฏกลุ่มเมฆหนาเเละน้ำตกที่ยาวเหยียดทอดหลายสายไป ในขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันมีสัตว์วิเศษประเภทนกอยู่บินอยู่ตามรอบเขาพวกเขาเรียกได้เรียกพวกมันว่า นกสวรรค์
พวกมันตัวใหญ่กว่านกเท่าไปนั่นเพราะว่ามันมีขนาดที่สูงถึง 10เมตร เเละมันไม่ใช่สัตว์อสูรขนาดยักษ์เพียงเเต่มันได้รับการพิจารณาให้เป็นนกธรรมดา เเต่มันก็มีความเร็วที่โดดเด่นโดยนิกายสวรรค์
สูงขึ้นไปข้างบนหุบเขานั่นคือพระราชวังที่สวยงามสิ่งสวยงามพวกนี้ ใช้เพียงเเค่สายตามอง ก็สามารถเชิดชูความงามของมันได้ พวกนกสวรรค์ บางครั้งมันก็มักจะบินผ่านกลุ่มเมฆสีขาวที่ลอยผ่าน พระราชไป พระราชวังเเห่งนี้เปรียบกับสรวงสวรรค์โดยเเท้ จริง บางคนเล่ากันว่ามันเป็นสถานที่ลี้ลับของพวกเซียน
ในความเป็นจริงมันก็เป็นเรื่่องที่ธรรมดาที่คนทั่วไปจะเล่าขานมัน นั่นเพราะว่านิกายสวรรค์เเห่งนี้เปรียบได้กับดินเเดนพระเจ้า ในฐานะที่ว่าบุคคลหลายคนที่มาจากที่เเห่งนี้นั้นมีความสามารถที่โดดเด่นเเละเป็นอัจฉริยะ
ถึงเเม้ว่านิกายสวรรค์จะมีคำมั่นสัญญาที่ดีกับ หุบเขาไม้ครามตอนใต้ เเต่ก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใดๆพิเศษเลย ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้มาเยือนที่นี่มาหลายปีเเล้ว เเละในตอนนี้เนื่องจากว่า ฉีคง ไจ้ชิง เป็นอาจารย์ใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ เเละครอบครองการบ่มเพาะพลังระดับ กึ่งจักรพรรดิ์เเห่งสงคราม นั่นจึงให้พวกเขาที่ขึ้นมาถึงนิกายสวรรค์ได้รับการต้อนรับค่อนข้างสุภาพ “อาจารย์ใหญ่ ฉีคง นับตั้งเเต่ท่านมาเยือนเราครั้งล่าสุดนี่ก็ผ่านไป 7 – 8 ปี เเล้วนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ท่านมาเยือนนิกายสวรรค์ของเรา พวกเราคิดว่าท่านจะไม่มาที่นี่อีกเสียเเล้ว”
ผู้ที่ต้อนรับ ฉีคง ไจ้ชิง คือผู้จัดการอาวุโสของที่นี่ ถึงเเม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้จัดการที่นี่เเต่ก็ยังครอบครองการบ่มเพาะพลังระดับ กึ่งจักรพรรดิ์เเห่งสงคราม ถึงเเม้ว่าสถานะของเขาในนิกายจะสูงส่งก็ตาม เเต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจ ชีคง ไจ้ชิง เขาค่อนข้างต้อนรับอย่างเป็นมิตร เเต่ถึงกระนั้นเขาก็ได้รักษาระยะห่างนั้นคือเป็นบุคคลที่เท่าเทียมกัน “อา อาวุโส โจว ความจำของท่านนี่ยังคงเเม่นยำเหมือนเดิม เเต่ก่อนนั้นอาวุโส โจว ก็มีพลังเพียงเเค่ เจ้าเเห่งสงคราม เเต่ตอนนี้การบ่มเพาะพลังของท่านอยู่ที่ กึ่งจักรพรรดิ์เเห่งสงคราม ความก้าวหน้าของท่านนั้นทำให้ข้ารู้สึกอับอายอย่างเเท้จริง”
ชีคง ไจ้ชิง หัวเราะข่มขืนในใจนั่นเพราะว่าตัวเองรู้สึกโดนเยาะเย้ยเมื่อมองไปที่เขา “อ่า นั่นมันก็นานมาเเล้ว ช่วงเวลานั้นข้าเป็นเพียงเเค่ เหล่าศิษย์ที่ต่ำต้อย ถึงเเม้ในตอนนี้จะเป็นผู้อาวุโสฝ่ายจัดการก็เถอะ เเต่ก็ต้องขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้การบ่มเพาะพลังของข้ามาถึงที่นี่ได้ ก็เพราะนิกายสวรรค์ของเรา มิฉะนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ความสำเร็จที่ก้าวหน้าของข้าในปัจจุบันจะมีมันได้”
อาวุโสโจว กล่าวในลักษณะภาคภูมิใจเล็กน้อย “ถึงเเม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเเต่มันก็มาจากความสามารถของท่านด้วยนี่น่า มิฉะนั้นพวกเขาจะช่วยเหลือท่านจนท่านมาถึงระดับกึ่งจักรพรรดิ์เเห่งสงครามหรอกหรือ”
ฉีคง ไจ้ชิง กล่าวชมเชยอาวุโสโจวต่อ “สิ่งที่อาจารย์ใหญ่ ฉีคง กล่าวนั้นก็เกินความจริงมากเกินไป เเน่นอนว่าในหลุ่มศิษย์รุ่นของข้าข้าเพียงเเค่ไปหนึ่งในบุคคลที่โดดเด่นที่สุดก็เพียงเท่านั้น”
เมื่อถูกยกย่องเชิดชูจาก ชีคง ไจ้ฉิง ลักษณะท่าทางที่อิ่มเอมจของอาวุโสโจวก็เด่นชัดมากขึ้นทัศนคติของเขาต่อ ชีคง ไจ้ฉิง ก็เป็นมิตรมากขึ้น เเละเขาจึงเริ่มถามออกมา “อาจารย์ใหญ่ ชีคง ข้าทราบว่า ท่านไม่ได้มาเพียงเเค่เยี่ยมชมสถานที่เเห่งนี้โดยไม่มีสาเหตุกระมั้ง ข้าอยากจะรู้ว่าอะไรดลใจให้ท่านมาเยือนนิกายสวรรค์ของเราในวันนี้?” “ถ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่ท่านต้องการเพียงเเค่กล่าวออกมา ถึงเเม้ว่าข้าจะเป็นเพียงเเค่ผู้อาวุโสฝ่ายจัดการตอนนี้ เเต่ข้าก็ยังได้รับการพิจารณาว่ามีความเเข็งเเกร่งอยู่พอสมควร ถ้ามีอะไรที่ข้าสามารถที่จะช่วยเหลือได้ ข้าจะก็จะช่วย” “ในเมื่ออาวุโสโจวกล่าวเช่นนี้ เเล้วละก็ข้าก็จะไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป ที่จริงเเล้วข้ามีเหตุผลมาที่นี่ในวันนี้ก็เพราะ เจดีย์หุบเขาไม้ครามใต้”
ฉีคง ไจ้ชิง กล่าวออกมาอย่างไม่ได้รู้สึกราญที่อาวุโจวใจจดใจจ่อถึงเจตนาของเขา “โอ้ว? เจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้ ?”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นดวงตาของอาวุโสโจว เป็นประกายในทันทีจากนั้นเขาก็เริ่มกล่าวออกมา”
หากว่าความจำของข้าล้วนถูกต้อง อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ครั้งก่อนท่านก็พาคนเดินทางมาที่นิกายสวรรค์ของเราเพื่อเข้าไปยังเจดีย์หุบเขาไม้ครามใช่หรือไม่” “เเต่ดูเหมือนว่าเหล่าศิษย์ที่ท่านนำมาตอนนั้นต่างล้วนล้มเหลวทั้งสิ้น ท่านวางเเผนที่จะลองเสี่ยงให้ศิษย์ของท่านเข้าไปในเวลานี้อย่างงั้นหรือ?”
เห็นได้ชัดว่าสายตาของอาวุโสโจวที่มีความรู้เกี่ยวกับเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้เป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงโยนสายตามองไปทางชูเฟิง “โอ้? ระดับ1 ราชันย์เเห่งสงคราม เป็นความจริงที่ว่าเขาค่อนข้างโดดเด่นกว่าศิษย์ที่ท่านพามาเมื่อนานมาเเล้ว เเละอายุของเขาก็ยังดูน้อยอีกด้วย”
เมื่อตรวจสอบชูเฟิงเสร็จสายตาของอาวุโสโจวก็เเปลกใจเล็กน้อย “เเน่นอนว่าข้ามีวัตถุประสงค์มาเพื่อเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้ บางที่อาวุโสโจวอาจที่จะ….”
อาจารย์ใหญ่ ฉีคง มีท่าทีที่จะสงวนคำพูด เขารู้ว่าถึงเเม้ว่าเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้จะเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ทิ้งเอาไว้ เเต่ว่ามันก็ตั้งอยู่ในดินเเดนสวรรค์ของนิกายสวรรค์ ในขณะนี้ ถ้านิกายสวรรค์ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเขา เขาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ในความเป็นจริง ฉีคง ไจ้ชิง พูดออกมาราวกับอ้อนวอนให้เขาช่วยเหลือน้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งเเละเบาบางอย่างมาก “อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ถึงเเม้ท่านจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ ข้าก็มีสถานะเพียงเเค่ผู้อาวุโสฝ่ายจัดการเพียงเท่านั้น ข้ารู้ว่าพวกเราได้ทำพันธะสัญที่ดีต่อกันระหว่างบรรพบุรุษของพวกเรา อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ได้โปรดตามข้ามา”
อาวุโส โจวยิ้มเเล้วหันไปรอบๆก่อนที่จะนำพวกเขาเดินไป
เมื่อเห็นว่าอาวุโสโจวตกลงช่วย ฉีคง ไจ้ชิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เเละเขาก็ส่งกระเเสจิตซิบไปที่ชูเฟิงว่า”
ชูเฟิง นิกายสวรรค์นั้น เเตกต่างจาก วิหารหมู่ดาวนักล่า เเม้ว่าสถานที่เเห่งนี้จะเป็นสัญญาที่บรรพบุรุษของเราทำไว้ เเต่ว่าการตัดสินใจในที่จะดำเนินการในตอนนี้พวกเขาล้วนมีอำนาจสูงสุด” “นอกจากนี้ นี่ก็ผ่านมาหลายปีเเล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรานำผู้คนเข้าไปในเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้ เเละไม่ได้รับอะไรกลับออกมา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่นิกายสวรรค์จะมองมาที่เราอย่างดูถูก” “ถ้าเจ้าสามารถที่จะได้รับผลประโยชน์กลับมาได้พวกเขาก็จะมองเราไปในอีกเเง่นึง เช่นนั้นถ้าพวกเขารู้ว่าเราเองก็สามารถทำได้ พวกเขาก็จะกลับมามองเราในเเง่ที่ดีอีกครั้ง” “อาวุโส ฉีคง ข้าเข้าใจดี เมื่อจุดยืนของเราถูกมองลงจนถึงต่ำสุด เป็นข้าก็ไม่อาจทนได้ ข้านั้นก็ไม่อาจทนได้ถึงการที่ดูถูกหรือมองเหยียดหยามเช่นเดียวกัน ข้านั้นล้วนเชื่อมั่นในตัวเองเเละจะไม่ยอมให้พวกเขาดูถูกข้าเด็ดขาด ข้าพอจะมีความสามารถเล็กน้อยได้โปรดท่านวางใจเเละเชื่อมั่นในตัวข้า”
ชูเฟิงรู้ความหมายสิ่งที่ ฉีคง ไจ้ชิง กล่าวออกมา เขารู้ดีถึงอารมณ์เช่นนั้น “อ่า”
เมื่อได้ยินการตอบสนองรับของชูเฟิง ฉีคง ไจ้ชิง ไม่ได้รู้สึกรำคาญที่จะกล่าวต่อ
ในขณะเดียวกันอาวุโสโจวก็อธิบายเเนะนำเกี่ยวกับชูเฟิงในที่สุดพวกเขาก็เห็นสิ่งที่เรียกว่าเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้มันเป็นเจดีย์ที่ดูโบราณเเละธรรมดาอย่างมาก อย่างน้อยที่สุดพื้นผิวของมันก็เเลดูธรรมดาเเต่ชูเฟิงรู้ว่าเจดีย์โบราณเเห่งนี้ค่อนข้างพิเศษ เเละมันยังมีการวางรูปแบบอำจาจที่เเข็งเเกร่งเเละน่ากลัวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้รูปเเบบที่เเข็งเเกร่งก็ถูกปกคลุมไปทั่ว เเละมันได้ขยายจนล้อมรอบเจดีย์โบราณ
ในขณะที่เขามองไปก็พบกับ เสา 99 เเกนตั้งอยู่เเละมันยังปลดปล่อยพลังงานการก่อตัวที่เเข็งเเกร่งออกมา บางทีสิ่งที่เรียกว่าเเกนนั้น อาจจะได้รับพลังบางส่วนมาจากเจดีย์ เเละมันได้รับการกลั่นออกมาทำให้พลังงานในตัวของมันล้วนมหาศาลทั้งสิ้นอาจกล่าวได้ว่าเจดีย์โบราณเเห่งนี้เป็นที่ฝึกฝนจิตใจเเละร่างกายโดยเเท้
ในขณะเดียวกันภายใน 99 เเกนที่ตั้งอยู่นั้นก็มีเหล่าบุรุษเยาว์วัยกำลังนั่งอยู่ในเเต่ละเเท่น
ในหมู่คนเหล่านั้นมีทั้งกลุ่มชายเเละหญิงพวกเขาทั้งหมดมีความสามารถที่เเข็งเเกร่งเเละในความจริงพวกเขามีพลังในระดับ ราชันย์เเห่งสงครามทั้งสิ้น 3 คนในหมู่ของพวกเขาได้ครอบครองการบ่มเพาะพลังระดับ 3 ราชันย์เเห่งสงคราม ชูเฟิงคิดว่าพวกเขาควรจะเป็นเหล่าศิษย์หลักของนิกายสวรรค์ คุณภาพความเเข็งเเกร่งของพวกเขาดูเหมือนว่าพวกเขาจะเเข็งเเกร่งว่าวิหารหมู่ดาวนักล่าเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่านิกายสวรรค์ใช้เจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้ที่ถูกสร้างโดยอาจารย์ใหญ่ ไป๋หลี่ เเละใช้มันเพื่อการฝึกฝนเเละพัฒนาศิษย์ของพวกเขา
เเต่นี่ก็นับว่าปกติมากนั่นเพราะว่าเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้นั้น ถูกจัดตั้งขึ้นภายในดินเเดนสวรรค์เเละจุดที่ตั้งของมันคือนิกายสวรรค์ ในขณะนั้นพลังงานที่มันปลดปล่อยออกมาล้วนมหาศาลเป็นอย่างมาก มันก็สมควรอยู่เเล้วที่พวกเขานิกายสวรรค์จะใช้ประโยชน์จากมันเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา
เเต่สิ่งที่เขาทนไม่ได้นั้นนั่นเพราะว่า ประตูที่ใช้ผ่านไปยังเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้นั้น ถูกตัดทิ้งไปเเละปิดผนึกมัน ไม่ใช่หมายความว่า พวกนิกายสวรรค์คิดจะฮุบเอาเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้ไว้ในครอบครองเเละยึดสถานที่เข้าออกเเละเป็นผู้ตัดสินใจเเต่เพียงผู้เดียว
พฤติกรรมของพวกเขานั้นดูโจ่งเเจ้งเเละไม่ให้เกียรติหุบเขาไม้ครามตอนใต้เลย ในความเป็นจริงพวกเขากระทำเกินไป
เเต่เมื่อพิจารณาถึงสถานะของเขาในปัจจุบัน ชูเฟิงจึงไม่ได้กล่าวอะไรออกไป เขาเพียงเเค่จ้องมองไปที่สายตาของ ฉีคง ไจ้ชิง เพื่อสื่ออะไรบางอย่าง
เมื่อเขามองไปที่ ฉีคง ไจ้ชิง เขาค้นพบว่า ฉีคง ไจ้ชิง ทำใบหน้าบึ้งตึง นอกจากนี้ชูเฟิงยังรู้อีกว่าการก่อตัวเเห่งนี้ถูกส้รางขึ้นมาไม่นานเเละเจดีย์หุบเขาไม้ครามตอนใต้เเห่งนี้ก็ถูกใช้โดยเหล่าศิษย์ของนิกายสวรรค์เพียงผู้เดียว บางทีสิ่งที่ ฉีคง ไจ้ชิงกับสิ่งที่เขาคิด นั้นก็คงจะคล้ายๆกัน
อย่างไรก็ตามอาวุโสโจว ก็ไม่ได้รับรู้หรือใส่ใจความรู้สึกของชูเฟิงเเละฉีคง ไจ้ชิง ทั้งยังกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้สึกผิดชอบ ออกมาว่า”
โอ้ข้าเกือบลืมไป เวลานี้เป็นเวลาที่พวกศิษย์หลักของนิกายสวรรค์ของพวกเรา ใช้ฝึกอยู่ เช่นนั้นได้โปรดพวกท่านช่วยรอก่อนละกัน”
P’Film////////////////////////////////////////A : เด๋วมืงพวกสาวกนิกายสวรรค์ เด๋วพวกมืงได้กระเด้งจากเสา!!!
B : งานนี้ อาวุโสเผลอ มีมวย 99 ต่อ 1
C : กูแทงข้าง ไป๋ ลั่วเฉิน!!!
B : ไอนี้ยังไม่จบ!!!