ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังจากอาหารเย็น นักเวทย์ขั้นต้นทุกคนรู้ว่าพวกเขาได้หัวหน้านักเวทย์ขั้นต้นคนใหม่
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นักเวทย์ส่วนใหญ่ไม่ได้มีปฏิกริยาใดๆเกิดขึ้นและไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับแอคโซรัส
กริมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับหัวหน้านักเวทย์ขั้นต้นคนใหม่ เอเลนที่ตอนนี้กำลังประกาศถึงตำแหน่งใหม่ในโรงอาหาร กริมแทบจะเก็บความโมโหเอาไว้ไม่อยู่แม้ว่าหัวหน้านักเวทย์คนก่อนจะไม่ได้ดี แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง สามารถใช้เวทย์ได้ 3-4 บท ถึงเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าฮ็อคอาย แมลงพิษหรือนารีคลั่ง แต่เขาก็แข็งแกร่งกว่านักเวทย์ส่วนใหญ่ในระดับเดียวกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ใครๆก็ไว้ใจเขา แม้ว่าเขาจะโหดเหี้ยมไปหน่อย
ในทางตรงกันข้าม ทุกคนรู้จักภูมิหลังของเอเลนดี เขาเป็นหน้าใหม่และใช้ได้เพียงเวทย์ ‘คมมีดวายุ’ และ ‘โล่ลม’ เขาใช้เวลาหลายปีเก็บตัวอยู่ในหอคอยซึ่งนั่นทำให้ทักษะของเขาอ่อนแอลง ถ้าเขาต่อสู้กับเหล่านักเวทย์ขั้นต้น เกินกว่าครึ่งของนักเวทย์ขั้นต้นสามารถ ต่อสู้ 1-1 และล้มเขาได้
แต่ลองมองไปที่เพื่อนทั้ง 4 คนที่อยู่รอบตัวเขา คนพวกนี้รู้ดีว่าเขาอ่อนแอและคอยช่วยเหลือเขา
ขณะที่เอเลนกำลังกล่าว ‘สุนทรพจน์’ ประตูไม้ของรงอาหารเปิดออกโดยคนๆหนึ่งที่ลอยมากระแทกกำแพงหินอย่างแรง
หลังจากที่ชายหนุ่มที่ตาซ้ายถูกปิดด้วยผ้าปิดตา เดินเข้ามาในโรงอาหารด้วยความเสียใจบนใบหน้า
ชายหนุ่มที่สวมผ้าปิดตาคนนั้นคือ 1 ใน 3 คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักเวทย์ ฮ็อคอาย
พวกเขาทุกคนแข็งแกร่งที่สุด แต่ละคนจะมีลูกน้องคอยรับใช้อยู่รอบๆตัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยมาที่โรงอาหารแห่งนี้ อาหารที่พวกเขากินทั้งหมดมาจากลูกน้องของพวกเขาเป็นคนนำมาให้
แน่นอน ฮ็อคอายไม่ได้เพื่อกินอาหาร แต่เขามาเพื่อหาคนบางคน
ฮ็อคอายกวาดตามองไปทั่วโรงอาหารด้วยตาข้างเดียวและนักเวทย์ขั้นต้นทุกคนที่สบตา เขาทุกคนก้มตัวลงหมด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำอะไรบางอย่างเพียงแค่มองเท่านั้น ดูเหมือนว่าทุกคนไม่กล้าสบตาเขา
เมื่อเห็นฮ็อคอายเริ่มเดินไปทางเขา กริมรู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้น เขารีบก้มหัวลงต่ำกว่าเดิน
โชคร้ายที่ฮ็อคเดินมาหยุดตรงหน้าเขา
“นายคือกริมใช่มั้ย? มากับฉันหน่อย!” ฮ็อคอายไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่พูดเพียงแค่นั้นทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธ หลังจากที่พูดจบ เขาหันหลังกลับและเดินจากไปโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของคนอื่น
ไม่ต้องหันไปมอง กริมรู้สึกได้ถึงสายตาที่น่ารำคาญของหัวหน้านักเวทคนใหม่ เอเลน ที่ตอนนี้รู้สึกเหมือนหัวกำลังถูกไฟเผา (หัวร้อนนั่นเอง ฮ่า ๆ)
กริมคิดอย่างหนักเกี่ยวกับเหตุผลที่ชายคนนั้นบอกให้ไปกับเขา ดังนั้นหลังจากที่เดินตามฮ็อคอายไปบนทางเดินมืดๆ เขามาถึงหน้าประตูไม้ เขาไม่แน่ใจว่ามาถูกห้องมั้ย?
นี่คือห้องของนารีคลั่ง ด้านในมีคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักเวทย์อีก 2 คนกำลังนั่งรออยู่ นั่นคือ แมลงพิษและนารีคลั่ง
ภายในห้องหินเหมือนกับห้องของกริมและยังมีเฟอร์นิเจอร์เหมือนกับห้องของกริมอีก มีเตียงไม้แข็งๆ โต๊ะเขียนหนังสือและเก้าอี้….ไม่มีอะไรอีกแล้ว
มีอีกอย่างหนึ่งอยู่ที่มุมห้อง หุ่นฝึกที่มีขนาดเท่ามนุษย์ซึ่งทำมาจากเหล็กทั้งหมด ที่เต็มไปด้วยร่องรอยการฝึกเต็มไปหมด นี่อาจจะถือเป็น ‘เฟอร์นิเจอร์’ ชิ้นหนึ่งก็ได้นะ
ยังมีดาบเหล็กขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนกำแพงด้านอื่นของห้องอีกด้วย
ฮ็อคอาย แมลงพิษและนารีคลั่ง ไม่ได้ลงรอยกันตลอดเวลา แต่มีบางอย่างที่ดึงความสนใจของพวกเขาไว้ กลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ได้ร่วมมือกันเพื่อทำบางอย่าง
นี่เป็นห้องของนารีคลั่งซึ่งเป็นคนทำความสะอาดคนเดียวทั้งหมด
เมื่อกริมไปถึง เขารู้สึกว่าตกอยู่ในสถานการณืที่น่าอึดอัดและยืนอยู่ที่กลางห้อง คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือนารีคลั่ง ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆเหมือนกับพวกบาบาเรี่ยน เธอกอดอกอยู่ นารีคลั่งคนนี้ไม่ได้สวมเสื้อคลุมแบบที่นักเวทย์ส่วนใหญ่ใส่กัน แต่สวมเสื้อหนังและกางเกงแทน
เสื้อหนังที่รัดจนเหมือนจะระเบิดออกเนื่องจากถูกกล้ามเนื้อของเธอดันออกมา กล้ามเนื้อของเธอเหมือนกับเหล็กทำให้กริมรู้สึกอิจฉา ความจริงแล้วเขาลองตรวจค้นความทรงจำก่อนๆดู เจาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่มีกล้ามเป็มัดขนาดนี้มาก่อน
“ฉันได้ยินมาว่านายเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายนี้หรือ? บอกทุกอย่างที่นายรู้มา! ถ้าสิ่งที่นายพูดมามีค่ามากพอละก็ เราจะให้รางวัลกับนายด้วย!” เสียงของนารีคลั่งเหมือนกับร่างกายของเธอ ที่แข็งกร้าวและทรงพลัง
เมื่อนารีคลั่งพูดออกมา แมลงพิษที่สวมเสื้อคลุมหนาได้เคลื่อนไหว เขากำลังเกาหัวของเขา ในขณะที่ฮ็อคอายที่เพิ่งนำกริมมาที่นี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย
…………….
ครึ่งชั่วโมงต่อมา กริมกลับห้องของเขา
หลังจากที่เขาปิดประตู เขาดันตัวเองไปพิงกับประตูไม้ที่ขอบทำด้วยเหล็กและไม่ได้พูดอะไร แต่เขากำลังคิดในหัวอยู่
“ข้อมูลที่ตรวจสอบได้เป็นอย่างไรบ้าง? เร็วเข้า แสดงข้อมูลทั้งหมดออกมา!”
*ปี๊ป* “การตรวจสอบสิ่งมีชีวิตเสร็จสิ้นแล้ว ผลการตรวจสอบที่ได้….”
หลังจากนั้นกระแสข้อมูลเริ่มไหลเข้าสู่สมองของเขา แต่ข้อมูลของนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด 3 คนเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
เนื่องจากชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพใช้งานได้ มันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับนักเวทย์จึงไม่มีข้อมูลเพื่อนำมาเปรียบเทียบ ดังนั้นการจัดระเบียบข้อมูลของนักเวทย์ทั้งหลายจึงทำไม่ได้ ในสมองของกริม มีข้อมูลมหาศาลเกี่ยวกับเวทมนตร์ อุปกรณ์เวทมนตร์และความคิดเห็นในแต่ละเรื่อง แต่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นการใช้เวทย์จริงๆ ทำให้ชิพไม่สามารถเก็บข้อมูลของเวทมนตร์และอุปกรณ์เวทมนตร์ได้
มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีเอาซ่ะเลย
แต่วันนี้ เขาได้สังเกตการณ์นักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 3 คน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลที่กริมได้รับจะมากมายมหาศาลขนาดไหน รวมถึงประโยชน์ที่จะใช้ข้อมูลในการกำหนดเส้นทางในการพัฒนาในอนาคตของเขา
แน่นอน ถ้าเขาได้สัมผัสความสามารถของจอมเวทย์จริงๆ มันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ เขากลัวว่าฟังชั่นการสแกนของชิพจะถูกจับได้ ถ้าเขากำหนดเป้าหมายชัดเจนเกินไป ดังนั้นกริมจึงรู้แค่ความสามารถพื้นฐานเท่านั้นที่ชิพสามารถดึงออกมาได้ เหมือนตอนที่จอมเวทย์เอนเดอร์สันปรากฏตัวออกมาเมื่อวานนี้
สำหรับวันนี้ เมื่อนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 3 คนได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาสามารถสแกนได้อย่างปลอดภัยและพวกเขาไม่ได้มีความสามารถในการควบคุมพลังที่สูงมาก ทำให้พลังเวทย์รั่วไหลออกมา นั่นทำให้ชิพสามารถสแกนและวิเคราะห์แต่ละคนได้ ทำให้กริมกลัวน้อยลงและสั่งให้ชิพดึงข้อมูลออกมาทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีการคำนวณค่าต่างๆออกมาเป็นตัวเลขซึ่งคำนวณออกมาจากเวทมนตร์
คลูท (ฮ็อคอาย)
มนุษย์(?)
นักเวทย์(ขั้นสูง)
ค่าสถานะ
Strength(ความแข็งแกร่ง) 9
Agility(ว่องไว) 7
Physique(กายภาพ) 11
Spirit(วิญญาณ) 18
ตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจมาก ตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งที่กริมคาดไม่ถึง ถึงแม้ว่าฮ็อคอายจะถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสามของนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยค่าสถานะของเขาในตอนนี้ เขาสามารถบดขยี้กริมให้จมดินได้เลยทีเดียว
สำหรับฮ็อคอาย ถึงแม้ว่าเขาจะมีแต้มความแข็งแกร่งน้อย แต้มความว่องไวก็น้อย ร่างกายของเขาไม่ได้อึดเท่าที่ควร เพียงแค่ใช้เวทย์อย่างเดียว ฮ็อคอายมีเป็นพันวิธีในการฆ่ากริมแล้ว นี่ยังไม่พูดถึงพลังมหาศาลในการใช้เวทมนตร์อีก!
แต่แต้มวิญญาณของฮ็อคอายทำให้กริมประหลาดใจ แต้มวิญญาณ 18 แต้มมันหมายถึงเขามีสัมผัสวิญญาณที่แข็งแกร่ง เขาสามารถรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจในระยะ 50 เมตรได้! ประสาทสัมผัสที่กว้างขนาดนี้เป็นเรื่องยากสำหรับศัตรูที่คิดจะโจมตีเขา
อย่างไรก็ตามชิพได้ใส่เครื่องหมายคำถามในช่องของ มนุษย์(?)….นั่นหมายความว่าตรวจพบพลังเวทย์ที่ไม่ใช่ของมนุษย์ อาจจะเป็นบางอย่างที่ฝังอยู่ในดวงตาของเขา?
แอคเทน (แมลงพิษ)
มนุษย์(??)
นักเวทย์(ขั้นสูง)
ค่าสถานะ
Strength(ความแข็งแกร่ง) ?
Agility(ว่องไว) ?
Physique(กายภาพ) ?
Spirit(วิญญาณ) ?
เมื่อเปรียบเทียบกับฮ็อคอาย ดูเหมือนว่าแมลงพิษจะมีพลังเวทย์มากกว่า ดูเหมือนว่าชิพจะไม่สามารถประเมินค่าสถานะออกมาได้ มีแต่แต้มวิญญาณ 19 แต้มที่ไม่สามารถซ่อนไว้ได้ ดูเหมือนว่า 2 คนนั้นมีโอกาสได้เป็นจอมเวทย์มากที่สุด
ดูเหมือนว่าเขาได้ปรับเปลี่ยนร่างกายในเยอะมาก จนชิพไม่สามารถตรวจสอบเผ่าพันธุ์ที่แน่ชัดได้
สรุปแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องมีแต้มกายภาพมากที่สุด เขาก็เป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ นี่แสดงให้เห็นถึงการร่ายเวทย์ที่ทรงพลังและการดัดแปลงร่างกายของตัวเอง
นารีคลั่ง
มนุษย์(บาบาเรี่ยน)
นักเวทย์ขั้นสูง
ค่าสถานะ
Strength(ความแข็งแกร่ง) 15
Agility(ว่องไว) 8
Physique(กายภาพ) 16
Spirit(วิญญาณ) 17
ดูจากค่าสถานะของนารีคลั่งแล้ว ทำให้หัวใจของกริมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต้มความแข็งแกร่ง 15 แต้ม แต้มกายภาพ 15 แต้ม เธอเป็นมนุษย์บ้าอะไรเนี่ย? ด้วยค่าสถานะแบบนี้เธอแทบไม่ต่างอะไรกับพวกปีศาจข้างนอกเลย
เมื่อเปรียบเทียบค่าความแข็งแกร่งของนักสู้ทั้งสองคน ถ้าแต้มห่างกัน 5 แต้มเป็นเรื่องง่ายมากที่จะน็อคฝั่งตรงข้ามลง แต่ถ้าแต้มห่างกัน 10 แต้ม เพียงหมัดเดียวอาจจะทำให้คนที่อ่อนแอกว่ากระดูกแตกกล้ามเนื้อถูกทำลายไปเลย ซึ่งความแข็งแกร่งของกริมและนารีคลั่งต่างกันถึง 11 แต้ม
นี่….นี่มันไร้สาระ! ถ้าให้สู้กับตัวเปล่า ต่อหน้านารีคลั่งเขาไม่เปรียบเสมือนแก้วน้ำที่ใกล้แตกรอวันถูกขยี้เลยหรือ? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่โดนเธอโจมตี เขาอาจจะกะโหลกแตกได้ในหมัดเดียว
ฉากการต่อสู้ปรากฏขึ้นมาในหัวของกริม แต่ทุกฉากจบลงด้วยการที่เขาถูกทุบตีหรือไม่ก็ตายในทันที
แต้มกายภาพ 16 แต้ม เป็นช่องว่างระหว่างเธอกับพวกเขา ต่อให้นารีคลั่งยืนอยู่ตรงหน้าโดยไม่ขยับไปไหนและรับฝ่ามือเปลวเพลิงของกริม เขาคิดว่าคงไม่สามารถสังหารเธอได้แน่นอน
เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกัน กริมตระหนักถึงความอ่อนแอที่เป็นอยู่ ความพยายามของเขาเมื่อเทียบกับช่องว่างของคนที่มีพรสวรรค์เหล่านี้แล้ว มันค่อยๆห่างชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ เขาคิดว่าคงไม่มีทางที่จะไปถึงระดับนั้นได้แน่
ดังนั้นถ้าเขาต้องการอยู่ในโลกที่แปลกปรพหลาดนี้ต่อไปละก็ สิ่งเดียวที่พึ่งพาได้นั่นคือชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพในตัวเขานั่นเอง
หลังจากที่ขบคิดถึงสิ่งต่างๆ กริมมองไปที่รางวัลที่เขาได้มาจากผู้แข็งแกร่งทั้ง 3
บนมือของกริม ปรากฏหนังสือเล่มหนาอยู่ตรงหน้าเขา
ด้วยการพูดอย่างมีหลักการและเล่าประสบการณ์ต่างๆออกมาได้อย่างถูกต้องถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น กริมอธิบายรายละเอียดออกไปทั้งหมดรวมถึงการเคลื่อนไหวของเด็กสาวในชุดแดงให้กับเหล่าผู้แข็งแกร่งทั้ง 3 จากนั้นเขาก็ได้รับหนังสือเวทมนตร์เก่าแก่มา 1 แล้ว
ตามกฎของหอคอยเวทมนตร์ การแลกเปลี่ยนความรู้มีกฎที่เคร่งครัดมาก นั่นคือการแลกเปลี่ยนหนังสือที่ถูกคัดลอกโดยเหล่านักเวทย์นั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ถ้าใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษโดยเจ้าของหอคอยนี้ ดังนั้นนารีคลั่งต้องนำหนังสือเล่มนี้มาจากที่อื่นหรือไม่ก็ให้กริมยืมเท่านั้น
กริมกลั้นหายใจด้วยความร้อนใจ จากนั้นเขาเปิดหน้าแรกของหนังสือออกมา
‘ตำราการสร้างโกเล็ม’!
****************************
ค่าสถานะอยากให้เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษครับ พวกแต้มความแข็งแกร่ง แต้มว่องไว แต้มวิญญาณ หรือจะเอา แต้มStrength แต้มSpirit
ไปคอมเม้นบอกได้ในเพจนะครับ
ไปกดติดตามเพจให้ด้วยนะครับ
เพจนี้เลย <<<<<< กดเลย