I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Age of adept – บทที่ 5

| Age of Adepts | 956 | 2341 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หลังจากที่ส่งวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว โทนี่กลับไปห้องของเขาทันที ดูเหมือนว่าเขาอยากนอนหลับเต็มที่ ทุกครั้งที่ทำการสำรวจจะเค้นประสาทสัมผัสจนถึงขีดจำกัดและใช้พลังงานจำนวนมาก เขาทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับโทนี่ กริมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาหันหลังและเดินตรงไปที่ห้องสมุด

เวลาประมาณเที่ยง ไม่มีนักเวทย์ขั้นต้นอยู่ในชั้นนี้มากมายนัก

มันเป็นห้องโถงหินที่เรียบง่ายประดับไปด้วยชั้นวางหนังสือจำนวนมากที่ทำจากไม้สีเหลืองติดอยู่บนกำแพง ชั้นบนสุดของแต่ละชั้นจะมีหนังสือเวทมนตร์หลายชนิดทำจากวัตถุดิบที่แตกต่างกันมีหลากหลายขนาด ชายที่เป็นคนจัดการหนังสือเป็นชายวัยกลางคนและเป็นนักเวทย์ขั้นกลาง

นักเวทย์ขั้นกลางเหล่านี้เป็นคนที่เพิ่งจะมาถึงขั้นนี้ได้โดยใช้อายุเข้าช่วย หอคอยเวทมนตร์จะไม่บังคับให้เขาฝึกฝนพลัง ดังนั้นนักเวทกลุ่มนี้เป็นคนที่ละทิ้งความฝันของพวกเขา พวกเขาจะไม่รับงานที่เสี่ยงเกินไป ในขณะเดียวกันพวกเขาไม่ต้องการที่จะเป็นคนธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งในหมู่นักเวทย์

แม้ว่าบรรณาลักษณ์จะได้รับแต้มความรู้ 1 แต้มทุกๆ 7 วัน มันเป็นงานที่ง่ายมากและไม่มีอันตรายใดๆเลย นั่นเป็นเหตุผลที่งานเหล่านี้ถูกยึดโดยนักเวทย์ขั้นกลางที่เป็นรุ่นพี่ สำหรับคนอย่างกริม เขาไม่มีใครให้พึ่งพาและต้องอยู่ตัวคนเดียว สิ่งที่เขาทำได้คืองานที่อันตรายเหล่านั้น

กริมไม่รีบเดินไปที่ชั้นวางหนังสือที่ลึกที่สุดอย่างที่เขาเคยทำ แต่เขากลับค้นหาหนังสือในแต่ละชั้น บางครั้งเขาก็หยิบหนังสือขึ้นมาและเปิดอ่านไปหลายหน้า หนังสือทั้งหมดในห้องสมุดเป็นหนังสือเวทมนตร์ ถ้าพวกเขาไม่ได้ยืม จะอ่านได้เพียงแค่คำนำเท่านั้น ในขณะที่เนื้อหาอื่นจะถูกปกคลุมไว้ด้วยหมอกสี ไม่มีใครอ่านมันได้

กริมไม่กล้าที่จะดูถูกหมอกสีดำเหล่านี้ เพราะว่ามันมีกลไกเวทย์ที่ร่ายโดยเจ้าของหอคอยแห่งนี้ จอมเวทย์เอนเดอร์สันที่ร่ายผ่านอักขระพิเศษ จึงไม่มีนักเวทคนใดสามารถอ่านข้อความในหนังสือได้…ไม่มีแม้แต้คนเดียว ถ้ามีใครพยายามทำลายกลไกเวทย์นั่น พวกเขาจะถูกเวทย์ที่ซ่อนอยู่ภายในหนังสือเล่นงานและต้องรับบทลงโทษจากจอมเวทย์

แม้ว่าผลที่ตามมาจะน่ากลัว แต่กริมยังอยากลองใช้ชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพในการตรวจสอบ ตอนนี้แต้มความรู้ของกริมมีถึง 7 แต้ม แต้มความรู้เพียงอย่างเดียวไม่พอที่จะทำให้เขาพัฒนาแต้มวิญญาณ(Spirit)

เขาหยิบหนังสือ ‘ประวัติศาสตร์เวทมนตร์’ ขึ้นมาและอ่านบทนำอย่างจริงจัง แต่ลึกๆในใจของเขากำลังออกคำสั่งให้ชิพชีวภาพ

“สแกนหนังสือเล่มนี้ ลองอ่านเนื้อหาด้านในโดยไม่ต้องกระตุ้นกลไกเวทย์!”

*ปี๊ป* “ได้รับคำสั่ง กำลังประมวลผล….เริ่มต้นการสแกน…”

กริมก้มศีรษะลง

เมื่อชิพชีวภาพนี้กำลังสแกนขิงจากภายนอก ดวงตาของเขาเป็นสีแดง นั่นทำให้เขาต้องปกปิดดวงตาของเขาไม่ให้ใครเห็น

“ตรวจพบสนามพลังที่ไม่รู้จัก….กำลังวิเคราะห์….”   *ปี๊ป*

“คำเตือน…สนามพลังนั้นตรวจพบสิ่งผิดปกติ…เสร็จสิ้นการสแกน….”

กริมรีบหลับตาและปิดหนังสือ

มันไม่ได้ผล การแทรกแซงเพียงเล็กน้อยไปกระตุ้นกลไกเวทมนตร์ของหนังสือ ดูเหมือนว่าภารกิจขโมยข้อมูลจะล้มเหลว ดังนั้นถ้าเขาต้องการความรู้ใหม่ เขาต้องซื่อสัตย์และนำแต้มความรู้ไปแลกมา

แต่เขาไม่เสียใจในเรื่องนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากชิพชีวภาพนี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคัดลอกแบบเดิม เขายืมหนังสือเพียงครั้งเดียว เขาจะสามารถคัดลอกและเก็บไว้ในชิพ และเขาสามารถอ่านมันเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจหนังสือเล่มนี้ในเวลาอันสั้น แต่เขาก็เก็บพวกมันและให้ชิพช่วยจัดหมวดหมู่ หลังจากนั้นเขาค่อยศึกษาเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ชิพนี้มีประโยชน์กับเขามหาศาล!

เขาไม่มีทางเลือกจึงวางหนังสือ ‘ประวัติศาสตร์เวทมนตร์’ หลังจากนั้นกริมก็เดินไปยืนอยู่ด้านหน้าชั้นหนังสืออีกชั้นหนึ่ง หนังสือทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการใช้เวทย์ธาตุไฟ มันเหมาะกับเขามาก นั่นเป็นเหตุผลที่เขามาที่ชั้นหนังสือนี้บ่อยที่สุด

‘ลักษณะพฤติกรรมของธาตุไฟ’

‘เทคนิคการควบคุมธาตุไฟ’

‘วิธีการร่ายบอลไฟยักษ์’

………

………

หนังสือบางส่วนอธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีเวทมนตร์บริสุทธิ์ บางส่วนอธิบายเทคนิคการร่ายเวทย์แบบดั้งเดิม….ในหนังสือเหล่านี้มีหนังสือเกี่ยวกับการร่ายเวทย์ที่สามารถช่วยในการควบคุมเวทย์และเติมเต็มความสามารถในการต่อสู้ แต่เขาไม่มีแต้มความรู้พอสำหรับหนังสือเหล่านั้น จึงเลือกได้เฉพาะหนังสือที่เพิ่มแต้มวิญญาณ(Spirit)ของเขาเท่านั้น นี่เป็นวิธีการใช้แต้มความรู้ที่เหมาะสมมากที่สุด เขาจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนเวทย์ที่สามารถใช้ได้ก่อนซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้และอัตราการรอดชีวิตกลับมา และในเวลาเดียวกัน เขาจำเป็นต้องอ่านหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์ที่จะช่วยผลักดันเขาให้กลายเป็นจอมเวทย์ มันเป็นปัญหาที่ทำให้เขาปวดหัวมานานแล้ว

กริมเริ่มปวดหัวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ในขณะที่ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ

ทุกระบบการทำงานของเวทมนตร์จะมีพื้นฐานทางทฤษฎีเป็นของตัวเอง

ความแข็งแกร่งของจอมเวทย์ทั้งหลายมาจากรากฐานที่แข็งแกร่งของพวกเขา

ดังนั้น เวทย์แบบไหนที่เหมาะกับกริม?

ไม่มีเหตุผลเลย กริมให้ชิพทำตามคำสั่งที่เขาวางแผนเอาไว้

“ชิพ รวบรวมข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์และค้นหาแหล่งที่มาด้วย ค้นหาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับฉันมากที่สุด!”

*ปี๊ป* “ได้รับคำสั่ง กำลังปฏิบัติภารกิจ…. รายงานการตรวจสอบในระยะยาว: แหล่งที่มาของเวทมนตร์….ไม่มีข้อมูล การสร้างฐานข้อมูลล้มเหลว…  รายงานการตรวจสอบระยะสั้น: แนวทางของร่างต้นในการเป็นจอมเวทย์….ไม่มีข้อมูล การสร้างฐานข้อมูลล้มเหลว….”

เสียงร้องเตือนทำให้กริมรู้สึกปวดหัวอีกครั้ง เขาทำอะไรได้บ้าง? ชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพเพิ่งจะตื่นขึ้นมา ฐานข้อมูลว่างเปล่า เขาต้องวิธีการรวบรวมหนังสือพื้นฐานที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ ไม่อย่างนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ

โชคดีที่เขาคัดลอกหนังสือไว้หลายเล่มในช่วย 6 ปีที่ผ่านมา เขาเพียงแค่ป้อนข้อมูลใส่ชิพเมื่อเขากลับห้อง อย่างน้อยชิพก็ยังมีฐานข้อมูลบ้าง ไม่เหมือนตอนนี้ที่ไม่มีอะไรเลย

กริมหันหลังกลับและเดินออกจาห้องสมุด ตรงไปยังโรงอาหารพร้อมกับความหิว หลังจากที่เขากินจนอิ่มแล้วจึงเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง

ด้านขวาบนพื้นใกล้ๆประตูมีละอองพลังธาตุไฟอ่อนๆแผ่ออกมา

ละอองพลังธาตุไฟนั้นเขานำไปวางไว้ใกล้กับประตู พวกมันไม่ได้มีหน้าที่สำคัญอะไร เพียงแค่เมื่อมีคนเดินเข้ามาในห้องของเขา อนุภาคของละอองพลังงานจะเปลี่ยนไป ทำให้กริมรู้ว่ามีใครเข้ามาในห้องเขาหรือไม่ในช่วงที่เขาไม่อยู่

คนที่เป็นนักเวทย์จะไม่เปิดเผยตัวตนให้คนอื่นรู้ นั่นเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู

กริมปิดประตูเบาๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เขามัวแต่คัดลอกหนังสือเวทมนตร์ เมื่อลองคำนวณดู กริมคิดว่าตัวเขาควรมีหนังสือประมาณ 5 เล่ม

เล่มแรกเป็นหนังสือ ‘คำศัพท์รอบตัว’ เป็นหนังสือเบื้องต้นสำหรับนักเวทย์ขั้นต้นทุกคน

กริมนั่งลงที่หน้าโต๊ะไม้ เขาตั้งใจอ่านหนังสือ ‘คำศัพท์รอบตัว’ อีกครั้ง แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เขาจะจำได้หมดแล้ว แต่ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เขาจำไม่ได้

ก่อนหน้าที่เขาต้องพยายามท่องหนังสือเหล่านี้อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ตอนนี้เขามีชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพที่จะคัดลอกเนื้อหาผ่านดวงตาของเขาเข้าไปในฐานข้อมูลและจัดเรียงข้อมูลเป็นหมวดหมู่ตามที่เขาต้องการ

เมื่อเวลาผ่านไปกริมหยุดพักจากการอ่านและคิด เขาเปลี่ยนตัวเองให้ไปเป็นเครื่องก๊อปปี้ ดวงตาของเขากระพริบอย่างต่อเนื่องเพื่อสแกนทุกตัวอักษรรวมถึงรูปภาพและอักขระเวทย์….พวกมันถูกคัดลอกด้วยความเร็วสูง

ในเวลาไม่ถึง 15 นาที หนังสือ ‘คำศัพท์รอบตัว’ ถูกบันทึกเข้าไปในชิพอย่างสมบูรณ์!

แม้แต่กริมยังตกใจยังความเร็วที่เกิดขึ้น

หนังสือ ‘คำศัพท์รอบตัว’ เป็นหนังสือเรียนเบื้องต้นที่จอมเวทย์ทุกคนต้องจำได้ ซึ่งเนื้อหาในนั้นจะมีสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตกว่าหมื่นสายพันธุ์และสิ่งมีชีวิตหายาก ที่ถูกค้นพบในดินแดนเวทมนตร์ ซึ่งในบันทึกนั้นจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพืช สัตว์ แร่และวัตถุดิบเวทมนตร์ ซึ่งรวมๆแล้วมีมากกว่า 30,000 รายการ

ในช่วง 2-3 ปีแรก กริมได้ใช้เวลาถึง 17 เดือน ในการคัดลอกเนื้อหาทั้งหมดในหนังสือนั้นลงในกระดาษ  แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีในการเก็บข้อมูลทั้งหมด

ในขณะที่กำลังตกใจกับความเร็วของชิพ กริมปิดหนังสือและเริ่มเรียกข้อมูลที่คัดลอกไว้ออกมาในหัว ข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ต่างๆ ทั้งสัตว์และพืช ปรากฏขึ้นมาทันทีที่คิดถึงพวกมัน และชิพยังแสดงรูปภาพของข้อมูลที่เกี่ยวข้องขึ้นมาอีกด้วย นี่เป็นสิ่งที่ช่วยกริมลดระยะเวลาในการทำความเข้าใจได้มาก

นี่แหละที่มีประโยชน์จริงๆ! เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำความเข้าใจเนื้อหาที่ยากมากๆ

เขาจมอยู่กับความตื่นเต้นจนลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับสมอง กริมไม่รอช้าหยิบหนังสือเล่มที่ 2 ออกมาและเริ่มใช้วิธีเดียวกัน

‘การควบคุมพลังเบื้องต้น’ นี่เป็นหนังสือเก่าแก่ที่มีทฤษฎีเวทมนตร์ มันอธิบายถึงจุดกำเนิดพลังเวทย์และการใช้งานเวทมนตร์ของเหล่านักเวทย์ทั้งหลาย มันยังมีวิธีฝึกพลังเวทย์แบบง่ายๆให้อีกด้วย

หลังจากที่เขาคัดลอกข้อมูลของหนังสือเล่มที่ 2 เสร็จสิ้น กริมแตะศีรษะเบาๆ เขารู้สึกคลื่นไส้และเหนื่อยในเวลาเดียวกัน

นั่นเป็น…อาการของคนที่ใช้พลังเวทย์จนหมด!

ในช่วงที่เขาเป็นนักเวทย์ขั้นต้น เขาเจอกับอาการแบบนี้บ่อยมาก ในระหว่างที่เขาเรียนรู้เวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิง จนในที่สุดเขาก็ยกระดับการควบคุมเวทยมนตร์ระดับสูงได้โดยไม่มีใครสอน เมื่อเขาสามารถควบคุมเวทมนตร์ได้ พลังเวทย์เหล่านั้นเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเขา เมื่อพลังเวทย์มากขึ้นดังนั้นจิตวิญญาณของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่สามารถร่ายเวทย์ได้มากขึ้น

ยกตัวอย่าง กริม! เขามีแต้มวิญญาณ(Spirit) 8 แต้ม และพลังเวทย์นี้มีค่าเป็น 10 เท่าของแต้มวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงมีอยู่ 80 แต้ม ที่นักเวทย์ส่วนใหญ่เรียกพลังเวทย์นี้ว่า ‘ค่าพลังนักเวทย์’

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันค่าพลังนักเวทย์ของกริมอยู่ที่ 80 หน่วย

 

 

**********************************

 

เป๋็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments