I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Age of adept – บทที่ 6

| Age of Adepts | 889 | 2369 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ในการร่ายเวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิง กริมต้องใช้ค่าพลังนักเวทย์ทั้งหมด 20 หน่วย นั่นหมายความว่ากริมสามารถร่ายได้ทั้งหมด 4 ครั้ง แต่แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงทฤษฎี มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้เป็นเรื่องจริง

เมื่อแหล่งพลังเวทย์ที่อยู่ในตัวนักเวทย์เต็มเปี่ยม พวกเขาจะสามารถใช้เวทย์อะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ แต่ถ้าแหล่งพลังเวทย์ในตัวพวกเขาเหลือ 1/3 พวกเขาจะเริ่มมีอาการเหนื่อยล้า วิงเวียนศีรษะ อาจจะทำให้สลบลงได้

ถ้าพวกเขาลองร่ายเวทย์เมื่อมีอาการข้างต้น แม้พวกเขาใช้เวลาร่ายเวทย์เพียง 5 วินาที แต่พวกเขาต้องหยุดพักเป็นเวลา 10 วินาที

นั่นเป็นเพราะเหล่านักเวทย์ที่ใช้เวทย์บ่อยๆ พวกเขาจะเก็บพลังไว้บางส่วนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นตามมา

จากอาการของกริมเห็นได้ชัดว่าแหล่งพลังเวทย์ของเขาเหลือไม่ถึง 5% เขาจึงทรมานจากความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้น ทางแก้ทางเดียวคือการนอนหลับ การนอนจะช่วยลดภาระที่เกิดขึ้นกับสมอง

ชิพนั้นวิเศษมาก แต่ต้องใช้พลังเวทย์จำนวนมากในการทำงาน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขานั้นมีการอารเหนื่อยล้าจากการใช้เวทย์ กริมโยนตัวเองลงบนเตียงก่อนที่จะหลับในทันที

ช่วงเวลาที่เหลือนั้นผ่านไปขณะที่เขานอนหลับ ความมืดเข้ามาแทนที่ ตอนนี้พระจันทร์กำลังส่องแสงอยู่กลางท้องฟ้าที่มืดสนิท ในหอคอยมีคนจำนวนมากกำลังนอนหลับอยู่

ในช่วงเวลานั้น มีเงาสูงสีดำทมิฬปรากฏตัวข้างเตียงของกริม เงานั้นก้มตัวลงมาและจ้องมาที่เขา

ด้วยความเหนื่อยล้าอย่างมาก กริมจึงนอนหลับไม่เต็มอิ่ม คิ้วของเขาขมวดเป็นปมและใบหน้าของเขาดูหวาดกลัว

เงาที่ดูเหมือนมนุษย์เมื่อดูผ่านแสงจันทร์ ร่างกายของมันเต็มไปด้วยความมืดมิด ไม่มีใครเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน แต่ไม่มีใครสามารถละสายตาจากดวงตาสีแดงเลือดบนใบหน้าอันลึกลับนั้นได้ ดวงตคู่นี้ทำให้ทุกคนที่มองรู้สึกหวาดกลัว

“เลือด…เลือด…ฉันต้องการเลือด….”

เงาสีดำยื่นแขนทั้งสองข้างออกมาราวกับต้องการจะคว้าคอของกริม แต่ไม่รู้ทำไม แขนนั่นพยายามหดกลับไปอย่างไม่เต็มใจ ดูจากท่าทางของมันเหมือนมันกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ นอกจากคำพูดพึมพำหเหล่านั้นแล้ว แสดงให้เห็นถึงท่าทางที่แปลกประหลาด

หลังจากนั้น ดูเหมือนว่ามันจะควบคุมตัวเองได้แล้ว เริ่มมองมาที่กริม หลังจากนั้นก็พุ่งตัวกระโดดออกไปทางหน้าต่าง

หน้าต่างที่อยู่ด้านนอกหอคอย นั่นหมายความว่ามันผ่านกลไกเวทมนตร์เข้ามาได้ซึ่งกลไกเวทย์นี้ทำหน้าที่ไม่ให้คนนอกเข้า-ออกสถานที่แห่งนี้ แต่เงานั่นกลับสามารถผ่านกลไกนั่นจากภายนอกเจ้ามาภายในห้องของกริมได้ นั่นเป็นเพราะกลไกเวทย์ไม่ทำงาน

เท่าที่กริมรู้มีเพียงนักเวทย์ขั้นต้นที่มีเครื่องรางเวทย์จึงจะผ่านกลไกเวทย์เหล่านี้ได้

เงาสีดำนั้นกำลังปีนขึ้นไปบนด้านนอกของกำแพงด้วยความรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของมันดูคล่องแคล่วและยังทรงพลัง เงานั้นปีนขึ้นไปด้านบนของหอคอย มันทรงพลังมากในด้านความแข็งแกร่งและความเร็ว ทุกคนที่เห็นมันจะตกตะลึง น่าแปลกมากที่มันพยายามปีนผ่านเงาและจุดอับแสงบริเวณหน้าต่างที่แสงจันทร์ส่องไปไม่ถึง

การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของมันไม่เพียงแต่งดงามและยังไม่ส่งเสียงใดๆออกมาเลย ดูเหมือนมันกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง มันหลีกเลี่ยงห้องที่มีแสงเทียนอยู่ หลังจากที่ค้นหาอยานานในที่สุดเหมือนมันจะเจอสิ่งที่ตามหา

มันห้อยตัวอยู่ที่หน้าต่างและแนบหัวไปกับหน้าต่างเพื่อฟังเสียงลมหายใจที่อยู่ภายในห้องและปีนเข้าไปอย่างระมัดระวัง

ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินอะไรทั้งนั้น หลังจากนั้นไม่นานมันก็ออกจากห้องมาที่บริเวณหน้าต่างโดยมีกลิ่นเลือดติดตัวมันอยู่จางๆ

ดูเหมือนว่าเงาดำนั้นจะภูมิใจกับตัวเอง ก่อนที่มันจะเงยหน้าออกมาและมองไปบนท้องฟ้า ในขณะที่มองแสงจากดวงจันทร์ส่องมาที่ใบหน้าของเงานั้น

สิ่งที่เห็นมันคือใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเด็กสาว ใบหน้าของเธอสวยและงดงาม แต่เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นฟันที่แหลมคม 2 ข้าง ถ้ามองใกล้เข้าไปอีกจะเห็นเลือดที่ย้อมฟันทั้ง 2 ข้างอยู่

เด็กสาวสวยใช้ลิ้นเล็กๆของเธอเลียฟันของเธอจนสะอาด เมื่อเธอดึงลิ้นมาเลียริมฝีปาก มันเหมือนกับเธอกำลังอร่อยกับไวน์รสเลิศ หลังจากที่นั่งอยู่เป็นเวลานาน เด็กสาวกระโดดออกทางหน้าต่างและหายตัวไปในเงามืดที่แสงจันทร์ส่องไม่ถึง

 

………………..

วันต่อมา กริมถูกปลุกอย่างกะทันหันจากเสียงเคาะที่ประตู

กริมส่ายหัวไปมาซึ่งยังรู้สึกมึนหัวอยู่หลังจากนั้นก็ลุกไปเปิดประตู สิ่งที่เขาตกใจคือ เขาพบชาย 3 คนยืนอยู่หน้าประตู

หัวหน้านักเวทย์ขั้นต้น  แอคโซรัส นักเวทย์ขั้นต้นอีก 2 คน เอเลนและเฟนริล

 

ตำแหน่งหัวหน้านักเวทย์ขั้นต้นที่เขาได้รับแต่งตั้งโดยจอมเวทย์เอนเดอร์สัน ดังนั้นสถานะของเขาจึงอยู่สูงกว่านักเวทย์ขั้นต้นทุกคน ส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนแบ่งงานในหอคอยให้กับเหล่านักเวทย์ขั้นต้นทั้งหมด อีกทั้งความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับเดียวกับนักเวทย์ขั้นกลางอีกด้วย ดังนั้นนักเวทย์ที่ต่ำกว่าเขาทั้งหมดต้องรับคำสั่งจากเขา ถ้าใครต่อต้านเขา เขาจะจัดการให้คนๆนั้นให้ไปอยู่ในภารกิจที่เสี่ยงตาย

ชายอีก 2 คนคือเอเลนกับเฟนริล พวกเขาทั้งสองเป็นนักเวทย์ขั้นต้นเหมือนกันกริม แต่ทั้งคู่เลือกที่จะติดตามแอคโซรัสตลอดทั้งวันเพื่อรับใช้ ดังนั้นจะเรียกพวกเขาว่าผู้ติดตามก็ไม่ผิดที่ใด

สถานที่แอคโซรัสปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองคนจะตามไปประจบอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนต้นไม้นักล่าและเถาวัลย์ดูดเลือด พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากแอคโซรัส ในการได้รับงานที่ปลอดภัยในแต่ละวัน นั่นหมายความว่าแอคโซรัสจำเป็นต้องเลือกงานให้กับทั้งสองเพื่อรักษาลูกน้องของเขาไว้

กริมที่ปกติแทบจะไม่ติดต่อกับคนอื่น ดังนั้นความสัมพันธ์ของคนกลุ่มนี้กับเขาจึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปซ่ะทีเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาตกใจเมื่อเห็นทั้งสามคนอยู่หน้าห้องของเขา

หัวหน้านักเวทย์ขั้นต้น แอคโซรัสเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 20-25 ปี เขามีจมูกงุ้มเหมือนเหยี่ยว มีคิ้วที่หน้าและดวงตาคมเข้ม แม้ใบหนเของเขาจะดูไม่ดุร้าย แต่ก็ทำให้พวกเขากลั้นหายใจได้เมื่อมองมาที่เขา ทันทีที่ประตูไม้ถูกเปิดออก แอคโซรัสมองไปที่หน้าของกริม ทำให้หน้าของเขารู้สึกเหมือนถูกไฟเผา

กริมรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เขารู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์ที่เอ่อล้นออกมา และนั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า มีคนระดับสูงอยู่ที่นี่

ในบรรดานักเวทย์ขั้นต้นทั้งหมดในหอคอยมีการวัดพลังที่เข้มงวดโดยวัดจากพลังเวทย์

มีเพียง 1-2 คนที่มีแต้มวิญญาณ 10 แต้ม ส่วนคนที่น้อยกว่านั้นจะเป็นนักเวทย์อันดับท้ายในหมู่นักเวทย์ขั้นต้นทั้งหมดและคนที่มีเวทย์ 2-3 บทจะมีแต้มพลังวิญญาณตั้งแต่ 11-15 แต้มซึ่งจะถือเป็นนักเวทย์ระดับกลาง พวกเขาถือว่าแข็งแกร่งเลยทีเดียว ท้ายที่สุดคนที่มีเวทย์ 5 บทหรือมากกว่านั้นและต้องมีแต้มวิญญาณมากว่า 16 แต้มขึ้นไป นั่นคือนักเวทย์ระดับสูง

เมื่อแต้มวิญญาณของนักเวทย์ไปถึง 20 แต้ม พวกเขาจะกลายเป็นนักเวทย์ที่แท้จริงและเข้าสู่พิธีกรรมที่จะทำให้เขากลายเป็นจอมเวทย์อย่างแท้จริง

ตามที่รู้กันมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีนักเวทย์ที่แท้จริงเลย!

สำหรับแอคโซรัส แม้จะไม่รู้ว่าเขามีเวทย์กี่บท แต่ด้วยความช่วยเหลือจากอุปกรณ์เวทย์ ทำให้เขามีพลังไม่น้อยไปกว่านักเวทย์ขั้นสูง ในหอคอยนี้มีเพียง 3 คนที่ไปถึงระดับนักเวทย์ขั้นสูง นั่นก็คือ ฮ็อคอาย แมลงพิษร้าย และนารีคลั่ง

แน่นอนทั้งหมดนี้ไม่ใช่ชื่อจริง แต่เป็นฉายา

ฮ็อคอาย คือ คลูท เป็นชายที่น่ากลัวจากฝั่งตะวันตก ความแข็งแกร่งของเขาคือ การเปลี่ยนดวงตาของเขาให้กลายเป็นตาเหยี่ยว นี่เป็นความสามารถที่แปลกประหลาด

แมลงพิษร้าย คือ แอ็คเทน เขาเป็นอีกคนที่แปลกประหลาดเหมือนกับฮ็อคอาย เมื่อแมลงเขาออกมา เขาจะไม่หยุดจนกว่าแมลงของเขาจะได้ดื่มเลือด เมื่อต่อสู้กับเขา พลาดเพียงครั้งเดียวทำให้จบชีวิตได้โดยการถูกกินจากแมลงนับพัน

คนสุดท้าย นารีคลั่ง เธอเป็นคนที่กระหายในการต่อสู้อย่างรุนแรง ด้วยการใช้ดาบเหล็กใหญ่ที่มีขนาดสูงกว่าผู้ชายคนหนึ่ง เธอไม่เคยแพ้ให้กับนักเวทย์คนใด เธอจะบ้าคลั่งและน่าสะพรึงกลัวเมื่อเธอต่อสู้ นั่นจึงเป็นเหตุผลไม่มีใครกล้าท้าทายเธอ

ทั้ง 3 คนใช้เวทมนตร์ได้นับไม่ถ้วนรวมถึงความสามารถที่แปลกประหลาดอีกหลายอย่าง ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาได้ละทิ้งสถานะของนักเวทย์ไปหมดแล้วและพวกเขาทั้งหมดได้รับสถานะของนักเวทย์ที่แท้จริง

ดังนั้นการเผชิญหน้ากับสายตาที่รุนแรงจากนักเวทย์ขั้นสูง พลังของกริมไม่พอที่จะควบคุมจิตใจและจิตใจของเขาถูกกดดันโดยบุคคลตรงหน้า

“กริม มีบางอย่างเกิดขึ้นที่หอคอยแห่งนี้! นายรู้อะไรรึเปล่า?” หัวหน้านักเวทแอคโซรัสยังคงจ้องมาที่กริมโดยไม่ได้พูดอะไรต่อไป นั่นเป็นเพราะเอเลนกำลังอธิบายเรื่องราวให้ฟัง

“อะไรนะ? เกิดอะไรขึ้น? มีใครถูกฆ่าในการทดลองรึ?” กริมที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพูดออกมา

“ไม่เกี่ยวกับการทดลองหรอก มีคนถูกฆาตกรรมในห้องของตัวเอง!” ดวงตาของกริมตื่นตระหนกโดยไม่ได้โกหก แอคโซรัสพูดอย่างช้าๆ แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของกริม เพื่อให้แน่ใจว่าใบหน้าของกริมไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“ฆาตกรรมหรือ?” กริมสะดุ้งออกมา แต่เขารีบทำท่าปะหลาดใจออกมาทันทีและพูดออกมา “ใครตายล่ะ?”

แม้ว่าจะมีบางครั้งที่นักเวทขั้นต้นจะตายจากอุบัติเหตุในหอคอย ส่วนใหญ่จะตายจากภารกิจที่อันตรายบ้าง จากอุบัติเหตุจากการทดลองบ้าง แต่มีครั้งหนึ่งที่นักเวทย์ขั้นต้นถูกสังหาร หลังจากนั้น จอมเวทย์เอนเดอร์สันได้สั่งห้ามทุกคนสังหารกันเอง

ถ้าเขาพบผู้ฝ่าฝืนกฎ คนๆนั้นจะต้องถูกลงโทษอย่างร้ายแรงแน่นอน

“มูเรท”

กริมขมวดคิ้ว

เขารู้จักมูเรท เป็นนักเวทย์ธรรมดาที่ฝึกได้เวทย์เดียว…สิ่งเดียวที่เขารู้คือ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยฝ้าและกระและยังอายุน้อยกว่าเขา

“ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ล่ะ…..?”

“พวกเราจำเป็นต้องตรวจห้องของนาย นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก พวกเราจะตรวจห้องของนักเวทย์ทุกคน” แอคโซรัสพูดด้วยเสียงเย็นชา

“ใช่แล้ว พวกเราต้องตรวจห้องของทุกคน ถอยไปหรือจะให้เราบอกกับท่านจอมเวทย์ว่าแกเป็นฆาตกร…นายคิดว่าจะเป็นอย่างไรถ้าฉันบอกแบบนั้น?” เป็นเฟนริลที่กล้าข่มขู่กริม

กริมรู้สึกโกรธในใจ เขาได้แต่กัดฟันและถอยไปช้าๆ

พวกเขาจะตรวจสอบห้องของทุกคนเหรอ?

นายจะตรวจสอบห้องของฮ็อคอายยังไง? ไหนจะห้องของแมลงพิษอีก? หรือห้องของนารีคลั่งอีก พวกแกกล้าไปยืนอยู่ต่อหน้านารีคลั่งเหรอ?

แม้ว่าหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ กริมขมวดคิ้ว เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะถอยหลังให้พวกเขาเข้าไป

 

 

**********************

มาแล้วนะครับบบบ

ไปกดติดตามในเพจเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments