ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปขณะที่เผ่าเหลียนกำลังต้มกลั่นสมุนไพร อี้หวินก็ลักลอบไปด้านหลังของภูเขาสมุนไพรเผ่าเหลียน
อี้หวินยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่คล้ายต้นสน หันหน้าสู่แสงจันทร์ ตอนที่เจาเทจูรวบรวมสมุนไพร เขาใช้โอกาสนั้นให้ผลึกม่วงดูดซับแก่นพลังสมุนไพรจำนวนมาก ตอนนี้พลังเหล่านั้นไหลพล่านผ่านร่างกายราวกับพายุเพลิง!
การดูดซับแก่นพลังสมุนไพรเป็นวิธีที่ดีสุดที่จะบ่มเพาะตัวเอง ในระหว่างขั้นตอนการบ่มเพาะ เขาต้องผสานแก่นพลังสมุนไพรและการฝึกฝนให้เข้ากับร่างกาย
อี้หวินยืดเท้าซ้ายออกไป มือซ้ายจับที่ข้อเท้าซ้ายตามด้วยการงอเข่าข้างขวา ร่างกายของเขาโค้งงอเหมือนคันศร นี่คือ ’พยัคฆ์ดุลงเขา’
อี้หวินได้แอบเรียนรู้หกท่าแรกของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เขาแสดงท่าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ จุดสำคัญคือการเกร็งเส้นเอ็นในร่างกาย
อี้หวินดึงรั้งร่างกายจนเจ็บ ก่อนจะปล่อยหมัดออกไปพร้อมกับส่งเสียงคำราม!
“ย๊ากกกกก!”
หมัดของเขาทะลุผ่านต้นไม้เล็กทางด้านหน้า! ผลดังกล่าวไม่เป็นที่พอใจนักสำหรับอี้หวิน เขาไม่ได้ต้องการพลังจากกำปั้น แต่ต้องการให้สามารถที่จะผลักดันเส้นเอ็นไปสู่จุดสูงสุด
ใน 5 ระดับของโลหิตมนุษย์ 3 ระดับแรก แข็งแกร่ง,ประกาศศักดา และฟ้าคำราม เป็นเพียงตัวชี้วัดสภาพร่างกายของผู้ฝึกยุทธ เมื่อผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องของเนื้อ อวัยวะ และกระดูก
เปิดศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกาย ผลที่ได้คือขอบเขตของประกาศศักดา และ ฟ้าคำราม มันเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ และไม่ใช่ว่าใครจะไปได้ถึง
อี้หวินเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในการเรียนรู้ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ จะทำให้เขาไร้ซึ่งปัญหาที่จะเข้าถึงระดับ 5 ของโลหิตมนุษย์ เพราะสิ่งที่เหยาหยวนพูดไว้ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เป็นเคล็ดวิชาพื้นฐานเป็นผลดีกับผู้ใช้ แม้แต่คนที่อยู่ในขอบเขตโลหิตม่วง
“ย๊ากกกกก!”
เสียงกู่ก้องชัดเจน
อี้หวินทำลายสนต้นบางขนาดเท่ากับขาของคนที่เจริญเติบโตเต็มที่ หมัดของเขาช้ำไปหมด แต่นั่นมันไม่สำคัญ
แก่นพลังสมุนไพรที่ผลึกม่วงดูดซับไว้ รวบรวมในร่างกายของอี้หวิน แพร่กระจายอย่างช้าๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่ง
อี้หวินคลายหมัดก่อนที่จะกำอีกครั้ง! เขาฝึก ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ นับครั้งไม่ถ้วน กล้ามเนื้อของเขาเป็นเหมือนต้นกล้าที่ถูกรดน้ำ กำลังเจริญเติบโตและรุ่งเรือง
อี้หวินฝึกฝนตั้งแต่เที่ยงคืนจนรุ่งสาง!
แม้จะฝึกฝนอย่างเข้มข้น แต่ด้วยพลังที่ผลึกม่วงดูดซับจากแก่นพลังสมุนไพรจำนวนมาก ให้พลังแก่เขา ทำให้สดใสและตื่นตัว
อี้หวินใช้ทุกอย่างที่มีทั้งหมด กับท่า ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ เส้นเอ็นถูกดึงอย่างสุดขั้วทุกครั้งที่ใช้ท่านั้น!
การฝึกดังกล่าวยากลำบากยิ่งสำหรับอี้หวิน ร่างกายของเขาเจ็บปวด
นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ร่างกายยังได้ใช้พลังทั้งหมดของแก่นพลังสมุนไพรที่ดูดซับ มันได้ผสานเข้ากับเลือดเนื้อของเขา
เส้นเอ็นของอี้หวินถูกดึงซ้ำๆ อย่างช้าๆทำให้พวกมันมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
“ตูม! ตูม! ตูม!”
อี้หวินไม่ทราบว่าเขาปล่อยหมัดไปแล้วกี่ครั้ง เป็นเพราะร่างกายกำลังจะถึงขีดจำกัด สายตากลายเป็นพร่ามัว การรับรู้เริ่มย่ำแย่ แต่ความเจ็บปวดจากการชก และความรู้สึกจังหวะของเส้นเอ็นจากการดึงรั้งกลับชัดเจนมาก!
อี้หวินเข้าสู่ขอบเขตที่ดีเยี่ยม ไร้การรบกวน กึ่งไร้สติ เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งเดียวที่จำได้คือ เส็นเอ็นในร่างกาย โดยไม่รู้สึกตัวในความคิดเขาสร้างแผนที่ของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
มันเป็นความรู้สึกราวมนต์สกด
ด้วยการฝึกอย่างเอาเป็นเอาตายนี้ อี้หวินสามารถ “เห็น” เส้นลมปราณของเขา
เหงื่อหลั่งราวฝนตก หมัดชุ่มไปด้วยเลือด เหงื่อบดบังดวงตา เขาได้ยินเสียงของสายลม
อี้หวินรู้สึกกดดันตรงด้านหน้า ในวินาทีนั้น เขาจัดการปลุกความแข็งแกร่งจากแหล่งกำเนิดที่ไม่รู้จัก
เขาคำรามขณะที่เส้นเอ็นของเขาถูกดึงไปอย่างสุดขั้ว ก่อนที่จะปล่อยหมัดออกไป!
“ปัง!”
การกระทำของอี้หวิน ทำลายต้นสนกระจัดกระจายเป็นเศษไม้!
ท่ามกลางฝุ่นเศษไม้ที่ฟุ้งกระจาย ร่างกายของเขาสร้างเสียง “ปัง” เบาและชัดเจน
แม้ว่ามันจะไม่ดังนัก แต่ก็คมชัดมาก เช่นเดียวกับหางเสียงของสายธนู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันชัดเจนในท้องฟ้าที่เปิดกว้างยามค่ำคืน
เส้นเอ็นดั่งคันศร ดังนั้น นี่คือเส้นเอ็นดั่งคันศร……
อี้หวินทรุดลงไปนอนแผ่อยู่บนพื้นดิน จ้องมองท้องฟ้า ด้วยแขนที่เปิดกว้าง เขาใช้พลังทั้งหมดไปกับหมัดสุดท้ายนั่น!
อี้หวินสูดลมหายใจลึก หมัดขวาของเขาแตกยับ เป็นสีแดงด้วยเลือดแต่ความเจ็บปวดกลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น!
เขารู้ถึงความก้าวหน้าเล็กๆ ที่มีต่อ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’
คืนนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาฝึกวิชายุทธ เขาฝึกเคล็ดวิชาชั้นสูงของอาณาจักรไทอา ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’
‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ ท่วงท่าซึ่งทำได้โดยคนที่อยู่ในขอบเขตโลหิตมนุษย์ ระดับ 3 ฟ้าคำราม เท่านั้น จึงจะสามารถสร้างหางเสียงของสายธนูขึ้นจากการใช้เส้นเอ็น แต่อี้หวินทำมันได้ แม้ว่ามันจะอ่อนเบา
หลังจากทั้งหมดนั้นเขายังคงอยู่ในระดับของประกาศศักดา เขายังเป็นเพียงเด็กอายุสิบสอง กระดูกและกล้ามเนื้อเปรียบไม่ได้กับผู้ใหญ่ แต่ผลที่ได้รับสมาชิกของค่ายฝึกยุทธไม่อาจเทียบเคียงได้ ระดับของเขาเกินกว่าประกาศศักดา ที่เหลียนเชิงอวี๋เคยได้รับในอดีต
…
อี้หวินไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เช่นเดียวกับผู้อาวุโสผู้รับผิดชอบการต้มกลั่นสมุนไพรในห้องปรุงยาของชนเผ่าเหลียน
สมุนไพรในหม้อก็ได้รับการต้มตลอดคืน แม้แต่หินรองรับยังร้อนแดง
ในตอนเช้า ผู้ชายแข็งแรงจำนวนหนึ่งได้มาเทของเหลวสีดำจำนวนมากจากหม้อ นี่เป็นแก่นพลังสมุนไพรของสมุนไพรทั้งหมด
“อืม….สมุนไพรเหล่านี้ได้ที่แล้ว พวกเรายังสามารถต้มต่อไปได้อีกเพียงสามครั้งหรือกว่านั้นนิดหน่อย แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพน้อย ก็ยังคงมีค่ามาก พวกเจ้าสามารถใช้อาบได้ กากสมุนไพรทิ้งให้ชาวบ้าน แต่มันจะสำคัญมากก็ต่อเมื่อกระดูกเดียวดายถูกกลั่น!”
เคล็ดลับการต้มกลั่นของชนเผ่าเหลียนไม่สมบูรณ์ สามารถกลั่นแก่นพลังสมุนไพรออกมาได้เพียง 20 % เท่านั้น
นี่เป็นขีดจำกัดของพวกเขา และเหลียนเชิงอวี๋ จะสามารถดูดซับได้เพียงครึ่งหนึ่งของแก่นพลังที่ต้มกลั่นได้ ผ่านการแช่ตัว
ซึ่งนั่นก็คือเหลียนเชิงอวี๋ สามารถดูดซับได้เพียง 10 % เท่านั้น อัตราส่วนอาจจะต่ำแต่ก็เป็นสิ่งที่พอรับได้
จากการกินอาหาร คนปกติยังไม่สามารถดูดซับคุณค่าทางอาหารส่วนใหญ่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมุนไพร ใช้ร้อยครั้งยังยากที่จะดูดซับ ถังของเหลวสีดำของสมุนไพร ถูกส่งเข้าไปยังห้องส่วนตัวของเหลียนเชิงอวี๋
เหลียนเชิงอวี๋ได้ยินว่ามีสมุนไพรมีค่าเช่น ตังกวอ,โสมป่า,เห็ดดำและชะเอม อยู่ในหม้อนี้ การบ่มเพาะของเขาถึงจุดของการพัฒนา เขาต้องการเป็นที่สุดคือสมุนไพรสำหรับบำรุง
“ดี! ดี! มาได้เวลาพอดี!”
เหลียนเชิงอวี๋ มองของเหลวสีดำของสมุนไพรด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดลงไปในของเหลวที่ร้อนนั้นด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า
อุณหภูมิสูงกว่าเก้าสิบองศาเซลเซียส เพียงพอที่จะปรุงเนื้อใดๆให้สุกได้ แม้อยู่ในขอบเขตโลหิตมนุษย์ระดับห้า เช่น เหลียนเชิงอวี๋ ยังรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง
แต่อุณหภูมินี้เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการดูดซับแก่นพลังสมุนไพร น้ำร้อนดังกล่าวจะเปิดรูขุมขนและให้ของเหลวสีดำของสมุนไพรเข้าสู่ร่างกายของผู้ฝึกยุทธทางรูขุมขน