I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

True Martial World ตอนที่ ตอนที่ 8 : ลอบสังหาร

| True Martial World | 941 | 2336 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

แหล่งที่มาของแสง คือ หีบไม้ใบใหญ่ นั่นก็หมายถึง กระดูกสัตว์อสูร!

 

อี้หวินตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ กระดูกสัตว์อสูร ปลดปล่อยพลังแสงจางๆนี้มาให้เขา เหลียนเชิงอวี๋ไม่สังเกตเห็นถึงกระบวนการนนี้?

จุดแสงมีมากขึ้น…มากขึ้น…เด่นชัดเกินไป เขามั่นใจจะต้องถูกตรวจพบ! ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น และนั่นหมายถึงชีวิตของเขา!

 

“หวินเอ๋อร์ มีอะไรผิดปรกติ? ทำไมมีเหงื่อเต็มหน้าผาก?”

 

“พี่เซียวโยรวท่าน….”

 

อี้หวินเห็นจุดแสงจำนวนมากล่องลอยอยู่ แต่เจียงเซียวโยรวก็ไม่ได้สังเกตเห็น

 

“พี่เซียวโยรว ท่านไม่เห็นอะไรเลยหรือ?”

 

อี้หวินถามด้วยความรู้สึกผิดปกติ เขาตระหนักได้ว่า นอกจาก เจียงเซียวโยรวแล้ว คนอื่นๆก็ไม่ได้สังเกต เห็นจุดแสงพวกนี้

 

“เห็นอะไร? หวินเอ๋อร์ ไม่สบายหรือเปล่า?”

 

เจียงเซียวโยรว ถามด้วยความกังวล ร่างกายของอี้หวินอ่อนแอ และเขาเพิ่งคืนชีพมา เมื่อวันก่อน น่าเป็นห่วงหากเขาจะล้มเจ็บลงอีกครั้ง

 

“เอ๊ะ…” อี้หวินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

ดูเหมือนว่ามีเขาเพียงคนเดียวที่เห็นจุดแสง? อาจเป็นว่าเจ้าของผลึกม่วงจะเป็นคนเดียวที่สามารถเห็นเหตุการณ์ประหลาดของผลึกม่วง? เขาเหลือบดู เหลียนเชิงอวี๋ ที่ยังคงมีรอยยิ้มอย่างสงบบนใบหน้า

 

เหลียนเชิงอวี๋ มักมองไปที่หีบใส่กระดูกสัตว์อสูรด้วยสายตามุ่งหมาด!

 

“เจ้านั่นก็ไม่เห็นจุดแสง….”

 

นั่นทำให้อี้หวินผ่อนคลาย หากเหลียนเชิงอวี๋ ยังไม่สามารถมองเห็น ก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นนอกจากตัวเขาเอง

 

อี้หวินเชื่อแล้วว่าผลึกม่วงเป็นมหาสมบัติล้ำค่า!

 

ในขณะนั้นเหลียนเชิงอวี๋จ้องมองมาที่เขาพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความหมาย เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้า เจียงเซียวโยรว

 

“อาหารนี้เป็นรางวัลสำหรับเจ้า รับมันไว้ จะได้ไม่ลำบาก หากไม่พอก็ให้มาหาข้า”

 

เหลียนเชิงอวี๋ กล่าวคำเหล่านั้นเบาๆ เสียงของเขาเป็นที่น่าชื่นชม แต่สำนวนและน้ำเสียง บ่งบอกฐานะที่เหนือกว่า สำหรับเขาสิ่งที่ให้ต้องได้รับผลตอบแทน

 

เจียงเซียวโยรวสงบนิ่ง

 

เหลียนเชิงอวี๋บอกไม่ได้ว่าชื่นชมความดื้อรั้นของนางตอนรับของปันส่วน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบความดื้อเงียบของนาง ที่มีต่อเขาและมุ่งมั่นที่จะค่อยๆขจัดมันออกจนนางเชื่องเป็นลูกแมว

 

สิ่งที่เขาต้องการคือหญิงสาวที่เชื่อฟัง ไม่ใช่หญิงสาวที่ต้องเอาใจกับน้องชายที่ยืนเคียงข้าง มีบางอย่างที่นางยืนหยัดและยึดมั่น นี่ก็ไม่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ

 

นอกจากนี้ นางก็ถูกมารดาของอี้หวินรับเป็นบุตรบุญธรรม พวกนางไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เขาไม่ชอบความจริงที่ว่า พี่น้องต่างสายเลือดอาศัยอยู่ร่วมกัน

 

นอกเหนือจากนั้น อี้หวินยังเป็นผู้ยุยงฝูงชนจนแทบเกิดความวุ่นวาย เขาคิดในใจ เจ้าหนูอายุ 12 ปีคนนี้มีความเจ้าเล่ห์นัก จะเป็นภัยคุกคามเมื่อมันเติบโตขึ้น

เหลียนเชิงอวี๋ ต้องการเพียง คนที่เชื่อฟังยอมให้เหยียบย่ำ และไม่เจ้าเล่ห์ เหมือนอี้หวินที่ยากต่อการควบคุม และเมื่อกระดูกสัตว์อสูรกำลังจะถูกกลั่น มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเขา เขายินดีสละด้วยทุกสิ่งเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ เขาไม่ต้องการความไม่แน่นอนใดๆ เพราะว่าเขากำลังกักตนฝึกฝนตัวเอง นอกจากนี้กระดูกสัตว์อสูรก็มีปัญหา การกลั่นมันอาจหมายถึงชีวิต!

 

สำหรับการขาดแคลนอาหารและผู้คนที่กำลังจะตาย เป็นเรื่องง่ายที่จะปลุกระดมมวลชน เขากลัวการยึดอำนาจ ในขณะเขากักตนฝึกวิชา พวกมันอาจคว่ำหม้อน้ำที่กำลังกลั่นกระดูกสัตว์อสูรอยู่ หากแผนของเขาถูกทำลาย เขาจะฆ่าพวกมันทั้งหมด

 

 

จากมุมมองของเหลียนเชิงอวี๋ อี้หวินเกลียดเขา และไม่มีร่องรอย ของความหวาดกลัวหรือความเลื่อมใสอยู่เลย อี้หวินสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันวุ่นวายมาได้ หากอี้หวินเรียกร้องแทนผู้คน เนื่องมาจากความอดอยากและความตาย ในขณะที่เขากักตนอยู่ อี้หวินจะเปล่งประกายสะกดภัยพิบัติ

 

คิดดังนั้นแล้ว เหลียนเชิงอวี๋ ยิ้มและตบไหล่อี้หวินเบาๆอีกครั้งหัวใจ อี้หวินเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร มือของเหลียนเชิงอวี๋ ก็อยู่บนไหล่เขาเสียแล้ว

 

บัดซบ! อี้หวินอยากตัดมือของเหลียนเชิงอวี๋ทิ้งนัก เขารู้สึกว่าเหลียนเชิงอวี๋ น่ากลัวเหมือนอสรพิษ!

 

เหลียนเชิงอวี๋ กล่าวอย่างเฉยชาว่า

 

“หงุดหงิดอะไร หรือว่าเจ้ากลัวข้า? เจ้ากับพี่ไม่ใช่ได้มันมาง่ายๆ ดูแลพี่เจ้าให้ดี”

 

เมื่อกล่าวเช่นนั้นแล้ว เหลียนเชิงอวี๋ ก็หดมือกลับ และอี้หวินก็รู้สึกมึนงงอีกครั้ง เหลียนเชิงอวี๋ตบไหล่เขาสองครั้ง โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้

 

“ถ้ามีปัญหาอะไรให้มาพบข้า” เหลียนเชิงอวี๋ กล่าวกับเจียงเซียวโยรว เขายิ้มอยู่ตลอดเวลา

 

อี้หวินบึ้งตึง เขารู้สึกได้ว่า เหลียนเชิงอวี๋ สนใจพี่สาวของเขามันต้องเป็นอย่างนั้น มันก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาให้อาหารจำนวนมากหากไม่ใช่เขาอยากได้เจียงเซียวโยรว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาส่งอาหารอันมีค่าออกมาให้

 

นี่เป็นสิ่งใกล้ตัวเขามาก หากปัญหาทั้งหลายกระจ่างในความคิด หากเจียงเซียโยรว ต้องไปกับมัน สิ่งที่ยากจะพรรณาต้องเกิดขึ้นแน่ๆ

 

เหลียนเชิงอวี๋โบกมือให้ผู้ฝึกยุทธจากค่ายฝึกยุทธ ปิดผนึกหีบใส่กระดูกสัตว์อสูร

 

ในขณะที่มันถูกปิดผนึกนั้น อี้หวินรู้สึกถึงการขาดการเชื่อมต่อระหว่างผลึกม่วงกับกระดูกสัตว์อสูร จุดแสงที่ล่องลอยอยู่หายไปในเวลาไม่นาน

 

“นี่…” บางอย่างผุดขึ้นในใจของอี้หวิน เขาเห็นผู้ฝึกยุทธจากค่ายฝึกยุทธ กำลังแบกหีบใส่กระดูกสัตว์อสูรออกไป

 

“หวินเอ๋อร์ คิดอะไรอยู่?” บนทางกลับบ้าน เจียงเซียวโยรว รู้สึกว่าอี้หวินไม่ให้ความสนใจและทำหน้ามุ่ย

 

อี้หวินกำลังกังวลที่เจ้างูพิษเช่น เหลียนเชิงอวี๋ ตบไหล่เขาสองครั้ง.. มันทำเช่นนี้ทำไม?

 

อี้หวินไม่ได้บอกเจียงเซียวโยรว เขาไม่อาจทำให้นางเป็นกังวล นอกจากนี้นางยังเด็ก อาจไม่สามารถมองผ่านทะลุ หนังแกะที่หมาป่าเช่น เหลียนเชิงอวี๋คลุมอยู่

 

โดยไม่คาดคิด เจียงเซียวโยรว จู่ๆ ก็กล่าวขึ้นว่า

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้าต้องระวัง เหลียนเชิงอวี๋ไว้ให้ดี พยายามเลี่ยงหากเป็นไปได้”

 

คำกล่าวของเจียวเซียวโยรว ถึงกับทำให้ อี้หวินตกตะลึง เขา คาดไม่ถึง ถึงสัญชาติญาณของผู้หญิง

 

โดยความจริง การแสดงออกของ เหลียนเชิงอวี๋ ไม่มีความผิดอันใด แม้แต่น้อย เขาเป็นนายน้อย ที่ห่วงใยผู้คนของเขา มีอัธยาศัยดีและได้รับความยกย่องจาก ผู้ดูแลเผ่า

 

อี้หวินสามารถรู้ถึงแรงจูงใจของเหลียนเชิงอวี๋ เหมือนที่เขาได้เห็นจากนักการเมืองของโลกที่จากมา  คนแบบเหลียนเชิงอวี๋มักพบได้จากหน้าประวัติศาสตร์ และข่าวต่างประเทศ

 

อี้หวินรับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ เมื่อเขาได้ยินคำสัญญาของเหลียนเชิงอวี๋ โดยส่วนลึกแล้ว นี่ไม่ใช่ความทุกข์ทรมานของบางสิ่งที่สามารถหลุดพ้นได้

 

สำหรับอี้หวิน การตบลงมาบนไหล่ทั้งสองครั้งของเหลียนเชิงอวี๋ คือการแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อเขา แม้แต่เจียงเซียวโยรวก็ยังรับรู้ถึงมันเช่นกัน

 

“อย่างไรก็ตามหลีกเลี่ยงเขาไว้” ความหนักแน่นของคำที่ได้ยิน ทำให้อี้หวิน ตระหนักได้ว่า เขายังไม่รู้จักพี่สาวดีนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กระดูกสัตว์อสูร สัตว์อสูร และสัญชาตญาณของนาง ทั้งความงดงามที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับเหล่าสาวในเผ่าชนที่น่าสงสารเหล่านั้น…..

 

ตามที่อี้หวินคาด อาหารเย็นก็คือ ผักป่าและโจ๊ก

 

ในโลกนี้ ผู้คนจะกินอาหารเพียงสองมื้อ วันปกติ ตื่นตอนตี 5 กินอาหารเช้าตอน 9 โมงเช้า แน่นอนว่าอาหารเช้าเป็นแค่การเรียกของอี้หวินเท่านั้น สำหรับที่นี่มันมีชื่อเรียกที่ต่างไป สุดท้ายอาหารเย็นตอน 4 โมงเย็น

 

อี้หวินเข้าใจว่าในประเทศจีนสมัยโบราณ ผู้คนก็กินอาหาร เพียงสองมื้อ เช่นเดียวกับในโลกประหลาดนี่   ในสถานการณ์ที่ทรัพยากรขาดแคลน การได้รับอาหารสองมื้อในทางวิทยาศาสตร์แล้ว เหมาะสมที่สุดสำหรับการเอาชีวิตรอด

 

ขณะรับประทานอาหาร เจียงเซียวโยรว ค่อนข้างรู้สึกผิด ที่นางไม่สามารถหาเนื้อ มาให้น้องชายได้ อี้หวินไม่ได้ใส่ใจเขากำลังวุ่นอยู่กับความคิด การตบไหล่ทั้งสองครั้งที่เขาได้รับ กับการคาดคะเน และความสงสัยทั้งหมดของเขา ไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย

 

หลังจากการจัดการโจ๊กเสร็จสิ้น กินผักป่าเข้าไปสองสามคำ เขาวางตะเกียบลง เมื่อรู้สึกชาไปทั้งแขนขา

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้า….”

 

อี้หวิน กัดฟันพ่นลมออกมาทางจมูก มือซ้ายของเขาขยับไม่ได้อีกแล้วแขนทั้งสองเจ็บปวด ราวกับว่ามีใครหักมัน

“หวินเอ๋อร์!” ใบหน้าของเจียงเซียวโยรวซีดเผือด นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอี้หวิน นางนำเขาไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว

 

บัดซบ! แขนของอี้หวินเจ็บปวดมาก จนเขาต้องกัดฟัน ไม่ต้องสงสัยนี่เป็นผลงานของเหลียนเชิงอวี๋ เขาคาดไม่ผิด!

 

สิ่งที่ เหลียนเชิงอวี๋ ใช้เป็นวิธีการบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก แต่มีประสิทธิภาพสูง แม้นว่าเขารับรู้ถึงความเป็นปรปักษ์ของเหลียนเชิงอวี๋ แต่เขาก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงมัน

 

นี่เป็นกฎของป่า เข้มแข็งกลืนกินอ่อนแอ

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? นี่เป็นผลของการตกจากหน้าผา ตอนไปเก็บสมุนไพรใช่ไหม?”

 

“ข้า…” อี้หวินพยายามเปิดปากพูด เขารู้ได้ว่า ลิ้นของเขา กำลังจะแข็งเขากำลังจะเป็นอัมพาตทั้งร่าง

 

อี้หวินตระหนักได้ว่า ช่วงเวลาที่เขาสูญเสียความรู้สึกทั้งหมด คือ เวลาตาย!

 

เหลียนเชิงอวี๋ต้องการชีวิตของเขา?  อี้หวินทั้งตกใจและโกรธ  หากเขาคาด     ไม่ผิด เหลียนเชิงอวี๋ ใช้พลังบางอย่าง คล้ายๆ “ปราณ”  ทำลายเส้นลมปราณของเขา!

 

หากเป็นเด็กปกติอายุ 12 ปี ก็จะไม่สามารถคิดออก แม้อี้หวินเองก็อาจคิดว่านี่คงเป็นผลกระทบของการบาดเจ็บครั้งก่อนของเขา

 

หลังจากเขาตาย นอกจาก เจียงเซียวโยรว ก็ไม่มีใครเสียใจอีก ในความเป็นจริง ทุกคนคงคิดว่าเป็นเวรกรรมที่คนตายไปแล้วฟื้นขึ้นมา?

 

การลอบสังหารอี้หวินด้วยวิธีนี้ เหลียนเชิงอวี๋ไม่เพียงจะได้ล้างแค้น เรื่องการยั่วยุมวลชน เขายังได้รับการสรรเสริญอีกด้วย   เจียงเซียวโยรวจะอยู่ในสถานการณ์อันเจ็บปวดและทุกข์ทรมานกับความยากลำบากที่ตามมาในชีวิตนางจำต้องพึ่งพาเหลียนเชิงอวี๋

 

เหลียนเชิงอวี๋จะได้นางอย่างง่ายดายโดยใช้เพียงการเกลี้ยกล่อมเล็กน้อย! ฆ่าเขา ได้เจียงเซียวโยรวเป็นแผนที่ชั่วมาก!

 

อี้หวินเข้าใจลึกซึ้งสำหรับโลกนี้ นี่ไม่ใช่โลกที่ปกครองโดยกฎหมาย แต่เป็นสถานที่ ที่โหดร้าย และอำนาจเท่านั้นที่กำหนดทุกอย่าง

 

มันเป็นโลกเหมือนในนิยาย ที่การฆ่าคน ไม่มีความหมายอะไร….

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments