I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Coiling Dragon (盘龙) ตอนที่ 5 การเติบโต (ตอนปลาย)

| Coiling Dragon (盘龙) | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เหมือนผ่านไปแค่ชั่วพริบตา  นาฬิกาของปู่ที่อยู่ในตึกก็ได้ส่งเสียงสิบเอ็ดครั้ง  เป็นสัญญาว่าขณะนี้เวลาสิบเอ็ดโมงเช้า

“ฮ็อกอยู่บ้านไหม?”

เสียงที่ชัดเจนเอ่ยออกมา  คฤหาดบารุ๊คไม่มีการ์ดมานานแล้ว  ถึงรู้ได้อย่างชัดเจนว่าบุคคลนี้ได้เดินเข้ามาจนถึงพื้นที่ส่วนในคฤหาดแล้ว

‘ฮ็อก’ขมวดคิ้ว  วางหนังสือเล่มใหญ่ไว้ข้างหน้าเขา

“เลนลี  วันนี้พ่อจะหยุดการสอนไว้ตรงนี้ก่อน”

เปิดเผยรอยยิ้มเล็กน้อย  ‘ฮ็อก’หันหน้าไปและเดินไปยังห้องรับรองแก

“อ่า  ฮ็อก  เพื่อนที่รักของผม  มะรืน ผมได้ยินเสียงนกที่ราวตากผ้าร้องไห้ และผมก็รู้ได้เลยว่า ต้องมีบางสิ่งดีๆกำลังเกิดขึ้น   และก็จริงๆ ในช่วงบ่าย  ผมได้รับจดหมายของคุณ  และเมื่อผมได้อ่านมัน  ผมมีความสุขมากเลยจริงๆ”

“คุณฟิลิป  ผมเองก็ดีใจมากที่พบคุณวันนี้เช่นกัน  ฮิลแมน  รีบไปและหยิบรูปปั่น “สิงโตคลั่ง” มาให้ผมหน่อย  ฟิลิฟ ไปรอที่ตึกหลักและรอ  รูปแกะสลักจะไปหาถึงที่ในเวลาไม่ช้านี้”

ฟังจากคำเหล่านี้  ‘เลนลี’รู้สึกปวดใจของเขา

“พวกเรากำลังจะขายสมบัติที่เป็นของตระกูลออกไปอีกแล้วหรอ?”

‘เลนลี’รู้ว่า รูปแกะสลัก“สิงโตคลั่ง” คืออย่างหนึ่งที่พ่อของเขาชื่นชอบอย่างลึกซึ้ง  แต่พรรคบารุ๊ค  ที่เก็บเงินภาษีจากประชากรในเมืองวูซานน้อยมาก จึงทำให้การเงินตกอยู่ในช่วงทุกข์ยากลำบากมาก

โชคร้ายที่  แม้แต่ของขนาดใหญ่ที่สุด ในบรรดาของสะสม ก็ไม่สามารถทนต่อการนำไปประมูลที่กินเวลาหลายปี เพื่อที่จะขาย  โดยในช่วงเวลานี้สมบัติที่มีค่าจำนวนมากที่อยู่ในพรรคมีเพียงน้อยนิด  ‘เลนลี’จ้องไปยังนาฬิกาของคุณปู่อย่างช่วยไม่ได้

“ผมสงสัยว่านาฬิกาอันนี้จะอยู่ได้นานเท่าไรก่อนที่จะถูกขายออกไป”

ชายอายุกลางคน  ที่ตัวสูง  ผมสีทอง และมีออร่าของขุนนางก้าวไปข้างในตึกพร้อมๆกับ’ฮ็อก’ เลนลีสามารถเดาได้ทันทีเลยว่าชายอายุกลางคนนี้ต้องเป็น ‘ฟิลิป’

“โอ้  เด็กน่ารักคนนี้คงจะเป็นลูกของคุณ  ใช่ไหมฮ็อก?”

‘ฟิลิป’ยิ้มอย่างอบอุ่นไปที่’เลนลี’

“เลนลี บารุ๊ค ใช่ไหม?  ผมขอเรียกคุณว่า เลนลีได้ไหม?”

“เป็นเกียรติของกระผมมากครับ  ท่านฟิลิป”

‘เลนลี’วางมือขวาที่อกและก้มตัวลงอย่างนอบโน้ม

“ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ”

‘ฟิลิป’ดูเหมือนสุขใจมากๆ

ข้างๆตัวเขา’ฮ็อก’หัวเราะ

“ฟิลิป อย่าเสียเวลาตรงนี้กับเด็กเลย  มาดูนี้ “สิงโตคลั่ง” ที่คุณต้องการมาโดยตลอดเวลานี้ได้มาถึงแล้ว”

ขณะที่เขาพูด ‘ฮิลแมน’ได้ถือรูปปั่นขนาดใหญ่เข้ามาในตึกอย่างง่ายดาย และจากนั้นก็วางลงอย่างง่ายดาย

มันเป็นรูปปั้นที่หนักเกือบจะถึงพันปอนด์  มันดูเหมือนไม่มีอะไรเลย เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่ง  ซึ่งสามารถแสดงถึงพละกำลังของ’ฮิลแมน’ได้

“คุณฮิลแมน  พละกำลังของคุณทำให้ผมประหลาดใจ  คฤหาดของผมไม่มีการ์ดคนไหนสักคนที่มีกำลังเท่าคุณ  ถึงแม้ว่าผมจะคุมเมืองถึงสิบสองเมือง”

‘ฟิลิป’ยิ้มขณะที่เขาพูด  แต่ความหมายที่อยู๋ในประโยคสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า  เขาต้องการชักชวนให้’ฮิลแมน’ไปทำงานให้เขา

‘ฮิลแมน’พูดอย่างเยือกเย็น

“เมืองวูซานคือบ้านเกิดของผมครับ  ท่านฟิลิป”

“โอ้ ยกโทษให้ผมด้วย”

‘ฟิลิป’ขอโทษอย่างรวดเร็ว

‘ฟิลิป’หันไปมองที่’ฮ็อก’

“ฮ็อก  ผมคงต้องพูดแล้วละ  ถึงแม้ว่า ผมจะชอบรูปปั้นแกะสลักอันนี้มาก  สถานะภาพของรูปปั่นแกะสลัก “สิงโตคลั่ง”  ไม่สามารถจัดได้เป็นชั้นสูงได้  มันต่ำกว่าผลงานระดับสุดยอดของเหล่านักแกะสลักระดับแกลนมาสเตอร์มากนัก”

“ฟิลิป ถ้าคุณไม่อยากซื้อ ก็ลืมๆมันไปซะเถอะ”

‘ฮ็อก’ค่อนข้างกระชับได้ใจความ

ตาของ’ฟิลิป’หลี่ลงอยู่ช่วยไม่ได้  แต่จากนั้นก็หัวเราะ

“ฮ่าๆ  ฮ็อก อย่าโกรธไป  ผมไม่ได้กำลังพูดว่าผมไม่ต้องการซื้อมัน  ผมแค่กำลังบอกเรื่องจริง  อย่างนี้เป็นยังไงละ  ผมจะซื้อรูปแกะสลักนี้ในราคาห้าร้อยเหรียญทอง  คุณคิดว่ายังไง?”

“ห้าร้อย?”

‘ฮ็อก’ขมวดคิ้ว

ราคาที่ต่ำกว่าที่’ฮ็อก’หวังไว้มาก  เขาหวังไว้มาโดยตลอดว่าอย่างน้อยคงได้สักแปดร้อย

ในทวีปยูแลน  เหรียญทองหนึ่งเหรียญเท่ากับสิบเหรียญเงิน สิบเหรียญเงินเท่ากับหนึ่งพันเหรียญทองแดง  คนปกติทั่วไปสามารถหาเงินได้ประมาณยี่สิบถึงสามสิบเหรียญทองในแต่ละปี  แม้แต่ทหารปกติในกองกำลังทหารก็ได้เงินประมาณร้อยเหรียญทองเท่านั้น

“ราคามันต่ำไปมาก”

‘ฮ็อก’ส่ายหน้า

“ฮ็อก  คุณต้องรู้ว่าในตลอดหมื่นปีที่ผ่านมาทวีปยูแลนมีรูปปั่นแกะสลักจำนวนนับไม่ถ้วนถูกสร้างขึ้น  คุณค่าที่แท้จริงของรูปปั่นแกะสลักในเรื่องของงานแกะสลัก  คุณค่าของงานแกะสลักชิ้นนี้…..ดี…เอ่อ  เพียงพอที่จะบอกว่าผมชอบมันจริงๆ  ห้าร้อยเหรียญทองเป็นข้อเสนอที่สูงสุดของผม  ถ้าคุณไม่ต้องการ  ก็ลืมๆมันไปซะเถอะ”

‘ฟิลิป’หัวเราะขณะที่เขาหันไปมองที่นาฬิกาคุณปู่ในตึก  ตาของเขาเปล่งประกาย  เขาพูดว่า

“ฮ็อก  ถ้าคุณอยากจะขายนาฬิกาอันนี้  ยังไงก็ตาม ผมจะให้ราคามันถึงหนึ่งพันเหรียญทอง”

หน้าของ’ฮ็อก’เยือกเย็น

“อะแฮ่ม  สองพันเหรียญทองก็ยอมรับได้เช่นกัน  นี้เป็นข้อเสนอสูงสุดของผม”

‘ฟิลิป’รีบพูด

‘ฮ็อก’ส่ายหัวอย่างหนักแน่นและเข็มงวด

“นาฬิกาคุณปู่ไม่ได้มีสำหรับขาย  และสำหรับรูปแกะสลักนี้  หกร้อยเหรียญทอง  จะเอาไป หรือว่าจะออกไป”

‘ฟิลิบ’สำรวจ’ฮ็อก’อย่างพิถีพิถันชั่วขณะหนึ่ง  จากนั้นหัวเราะเบาๆ

“ก็ได้ ฮ็อก  ผมเห็นแก่หน้าขอคุณ  หกร้อยก็หกร้อย  คนใช้ช่วยหยิบเงินของผมมาหกร้อยเหรียญทอง”

ผู้ดูแลของคฤหาดของเขา ผู้ซึ่งรออยู่ข้างนอกมาโดยตลอด  รีบเข้ามาพร้อมกับเหรียญทอง

เหรียญทองหกถุง

“หกร้อยเหรียญทอง ฮ็อก  คุณสามารถที่จะนับมันได้ถ้าคุณต้องการ”

‘ฟิลิบ’ยิ้ม

‘ฮ็อก’ยกถุงขึ้น   โดยถ้าตัดสินตามน้ำหนักอย่างเดียว  ‘ฮ็อก’มั่นใจว่ามันมีหกร้อยเหรียญทองในนี้  ถุงละหนึ่งร้อยเหรียญ ‘ฮ็อก’ยิ้ม และพยักหน้า

“ฟิลิบ  สนใจอยู่รับประทานอาหารกับพวกเราไหม?”

“ไม่ดีกว่า  ผมมีธุรที่ต้องสะสางที่บ้านอีก”

‘ฟิลิบ’หัวเราะ

คนใช้ของ’ฟิลิบ’สั่งนักดาบที่มีรูปร่างที่ทรงพลังให้ยก และเคลื่อนย้ายรูปปั่นไป  ซึ่งพวกเขาทำมันอย่างยากลำบาก

หลังจาก’ฟิลิป’และผู้ติดตามของเขาได้จากได้  ‘ฮ็อก’จ้องไปที่ถุงเหรียญทองหกถุง  แววตาหมดหวังในตาของเขา  ในเวลานี้  เขาขายรูปปั่นแกะสลัก ในเวลาต่อไปละ?  ถึงแม้ว่าคฤหาดยังมีของมีค่าเหลืออยู่มากมาย  แต่ไม่ช้าก็เร็ว  คงจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

“พ่อครับ  ผมอยากเรียนวิธีการเป็นช่างแกะสลัก”

‘เลนลี’พูดขึ้นทันใด

‘เลนลี’รู้ดีว่าในทวีปยูแลน  เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านแกะสลักที่มีชื่อเสียงสามารถสร้างงานที่มีราคาถึง หมื่นเหรียญทองต่อชิ้น  นักแกะสลักที่มีชื่อเสียงบางคนสามารถได้มากถึงหนึ่งแสนเหรียญทองต่อชิ้น  และนอกเหนือจากความรำรวย ระดับทางสังคมของนักแกะสลักก็ดีมากๆอีกด้วย

“ถ้าผมสามารถกลายเป็นนักแกะสลักที่เชี่ยวชาญ  หลังจากนั้น  พ่อก็จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขายสมบัติในครอบครัวอีก”

นี้คือสิ่งที่’เลนลี’กำลังคิด

“แกะสลัก?”

‘ฮ็อก’จ้องไปยัง’เลนลี’  ตาของเขาเยือกเย็น

“เลนลี  คุณรู้ไหมว่าในประชากรหนึ่งร้อยล้านคนในลัทธิแสง  อย่างน้อยก็มีหลายล้านคนที่ได้ร่ำเรียนเกี่ยวกับการแกะสลัก  แต่ภายในลัทธิแสงทั้งหมด  จำนวนคนที่เชี่ยวชาญที่แท้จริงสามารถนับได้ด้วยมือเพียงมือเดียว  นอกจากนี้  ถ้าลูกไม่มีครูที่มีความสามารถ  ลูกก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จในทางนี้ได้เลย”

“ท่ามกลางหมู่นักแกะสลัก ไม่ใช่ที่ที่ผู้คนธรรมดาจะสามารถเข้ามาได้  ลูกแค่เห็นเพียงแค่ราคาที่สูงสุงกู่ของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ  แต่ลูกรู้หรือไม่ว่านักแกะสลักส่วนใหญ่นั้นทำได้แค่เพียง ไม่กี่เหรียญทองต่อปีเท่านั้น”

เสียงของ’ฮ็อก’ดำร้าย

‘เลนลี’กลัวสุดๆ  เขารีบคุกเขาลง  ในเวลานี้  เขาแค่พูดเพราะว่าเขาคิดว่าการแกะสลักสามารถยกระดับสถานะภาพของครอบครัวของเขา  เขาไม่ได้หวังให้พ่อ พูดและบรรยายให้เขาอย่างเข็มงวดขนาดนี้

“พอได้แล้ว  ตึกโบราณต้องทำความสะอาแล้ว  หลังจากอาหารกลางวัน  ไปที่นั้นแล้วทำความสะอาดซะ”

‘ฮ็อก’พูดอย่างเยือกเย็น

“ได้ครับพ่อ”

‘เลนลี’พูดอย่างเคารพ

ขณะที่มองไปยัง’เลนลี’ ‘อ็อก’ถอนหายใจภายในหัวใจของเขา

“แกะสลัก? โอ้  เด็กน้อย  ลูกรู้ไหมว่าในอดีต  พ่อก็เคยฝึกแกะสลักเหมือนกัน  พ่อใช้เวลาตลอดสิบปีของชีวิตของพ่อพยายามที่จะศึกษามัน  แต่โชคร้ายที่ผลงานการแกะสลักของพ่อ  ไม่มีค่าแม้แต่เหรียญสักเหรียญ”

‘ฮ็อก’ครั้งหนึ่งก็เคยมีความคิดโง่ๆเกี่ยวกับการอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านแกะสลักและเพื่อที่จะยกระดับครอบครัวด้วยเหมือนกัน

แต่ในหัวใจของเขา  เขารู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์สุดๆ  สำหรับสิบปีที่ใช้ในการฝึก  งานแกะสลักของเขายังคงเป็นสิ่งไร้ค่า  สำหรับการแกะสลักสามารถที่จะอธิบายได้เหมือนกับพีรามิต

เหล่านักแกะสลักที่เชี่ยวชาญคืออยู่บนยอดพีรามิต  พวกเขามีความสุขกับฐานะที่สูงส่ง  และแต่ละงานที่เขาสร้างขึ้นมา  มีค่ามากถึงหนึ่งแสนเหรียญ

แต่คุณค่าของงานสำหรับนักแกะสลักระดับต่ำที่อยู่ข้างใต้พีรามิต  มีราคาที่ต่ำจนน่าใจหาย  งานของพวกเขาส่วนใหญ่จะถูกซื้อโดยคนธรรมดาเพียงแค่ไม่กี่เหรียญเงินเพื่อใช้สำหรับตกแต่งบ้านของพวกเขาเท่านั้น

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments