ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปงูไฟแล่นผ่านไปด้วยความเร็วสูงมากๆ และทุกที่ที่พวกมันผ่าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหินที่อยู่ใกล้เคียงก็เริ่มถูกเผาโดนทันที ไฟกองใหญ่ที่สูงราวกับตึกราวกับพุ่งไปยังสวรรค์ และแน่นอนนี้เป็นฉากหายนะ
เห็นบ้านของพวกเขาพังทลายจากระยะไกลๆ ผู้ที่อาศัยอยู่ในวูซาน ผู้ที่ได้หนีและหลบมาอยู่ในที่ห่างไกลนานแล้ว ตั้งหมดรู้สึกเจ็บและเสียใจข้างในหัวใจของเขา
ต่อหน้าเจ็ดงูยัก บ้านหินของพวกเขาไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากเป็นของเล่น ซึ่งถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย และไฟแห่งการทำลายล้างพุ่งสูงขึ้นไปยังฟ้า
“ไปเร็วววว”
นักธนูหญิงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอรีบสั่งให้กริฟฟินของเธอบินไปในระดับที่สูงมากขึ้น
มันมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางซึ่งเวทไฟของ’เมกัส’จะสามารถควบคุมงูทั้งเจ็ดได้ ถ้านักธนูและสัตว์ที่เธอขี่สามารถบินห่างไปจากจุดนั้นได้ เธอก็จะปลอดภัย
“วู้บบบ”
ไฟเผาพลาญทั้งสองห่อหุ้มสองนักเวทสาว และสิงโตกระหายเลือดเช่นกัน แทบจะโดยทันที เสียงเผาพลาญที่ประทุขึ้นสามารถได้ยิน และ’เลนลี’รู้สึกว่าเขาสามารถได้กลินเส้นผมไหม้
“พี่ชาย เคอร์รี่ ช่วยพวกเราด้วย”
เสียงร้องไห้อย่างหดหู่ของนักเวทสาวเปล่งออกมา เต็มไปด้วยความเจ็บพวก จากข้างในของงูไฟ
เสียงสิงโตหายใจออกอย่างหนัก ตาของสิงโตกระหายเลือดกลายเป็นสีแดงที่น่ากลัว กล้ามเนื้อทุกๆส่วนในร่างกายเริ่มสันไหวอย่างไม่หยุดหย่อน มันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวต่อเนื่อง ต้องการที่จะพุ่งเข้าใส่ใจกลางของงูไฟ แต่โชคร้าย พลังที่อยู่ในตัวงูไฟแต่ละตัวมันมากเกินไป
“ลออิซ่า!”
นักรบผมสีแดงเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความโกรธ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความปวดร้าว
ภายในไม่นานหลังจากนั้น สองนักเวทสาว และสิงโตกระหายเลือดก็ไม่เหลืออะไรนอกจากกองขี้เถาสีเทา แต่นักรบผมสีแดงก็ไม่มีโอกาสร้องไห้ออกมานานมากนัก
เขาและนักรบคนอื่นอีกสองคน แต่ละคนก็ต้องเผชิญหน้ากับ งูไฟขนาดใหญ่ด้วยเช่นเดียวกัน ต่อหน้า ร่างกายที่เป็นไฟขนาดใหญ่ของงูไฟ พวกเขาดูไม่มีอะไรนอกจากเด็กน้อยเท่านั้น ไม่มีความสามารถขัดขืนได้แม้แต่น้อย
พวกเขามีความสามารถที่จะแยกก้อนหินออกด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว แต่แล้วยังไงละ ขณะที่เจอแรงบีบรัดจากงูไฟ พวกเขาจะสามารถทำอะไรได้
“อ๊ากกกกกกกก”
ล้อมรอบโดยงูไฟ นักดาบทั้งสามอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างทรมาร
ขณะที่พวกเขาตะโกน ปราณคุ้มครองได้หายไป มันได้ถูกทำลายไปจนหมด เสียงฟู่ๆของไฟที่เผาพลาญสามารถได้ยินอีกครั้ง กล้ามเนื้อบนหน้าของนักรบทั้งสามบิดเบี้ยว และตาของพวกเขาถลนออกมา
เส้นผมบนร่างกายของพวกเขาถูกเผาจนสะอาดในชั่วพริบตา และตามด้วยเนื้อตัวของเขา เนื้อของเขา และกระดูกของเขา ไม่มีอะไรที่จะทนต่อความร้อนสูงที่สุดแสนน่ากลัวของงูไฟ
ในช่วงเวลาสั้นๆ สามนักรบที่เก่งกาจไม่เหลืออะไรเลยมากไปกว่าขี้ฝุ่นกองหนึ่ง
ด้วยความโกรธแค้น
ลมหายใจของนักธนูสาวไม่เป็นจังหวะ แต่เธอก็ได้หนีออกมาจากอาณาเขตของระบำงูไฟเรียบร้อยแล้ว
“ลุ๊ค ลออิซ่า พี่ชายเคอร์รี่ หนูจะต้องแก้แค้นให้พี่ๆทังหมดแน่นอน”
นักธนูสาวร้องไห้อย่าขมขื่น ขณะที่เธอยังคงนำทางกริฟฟินของเธอให้บินไปสูงขึ้นเรื่อยๆ
“กิ๊ดดดดดดดด”
สายฟ้าหนาทึบขนาดใหญ่ฟาดลงมาจากท้องฟ้าสดใส ปราศจากเมฆ ฟาดลงไปยังนักธนูที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร ร่างกายของเธอกลายเป็นฝุ่ยผงอย่างรวดเร็วจากการตีนี้
ขณะที่กริฟฟินของเธอถูกย่างเกรียมเป็นสีดำเช่นกัน ทั้งสองตกลงจากทองฟ้า กระทบลงในพื้นหินของเมืองอย่างหนัก พวกเขาชนและทะลุผ่านหลังคาไม้ในที่อยู่อาศัย
“อยากหนีนักใช่ไหม? หึ”
‘เมกัส’ปริศนาถอนหายใจออกมา
ห่างไกลจากนั้นหนึ่งร้อยเมตร ‘ฮิลแมน’อดทนอย่างหนัก หัวใจของเขาเต็มไปด้วยเส้นด้ายแห่งความกลัวที่หลบหนีไม่ได้
“ไม่เพียงแต่เขาเป็นเมกัสระดับแปด เขายังเป็นเมกัสที่ใช้เวทได้ทั้งสองธาตุ!”
…………..
“เวทที่ร่ายนี้คือระบำงูไฟ?”
‘ เลนลี’ยังคงยืนอยู่ที่นั้น ยังคงตกใจกลัวอย่างเต็มที่
ภาพงูไฟขนาดใหญ่เหล่านั้น และไฟนรกที่พวกได้ร่ายยังคงทำให้’เลนลี’ช็อคอย่างท่วมท้น เหมือนกับเขาไม่ได้ช็อคขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เกิดมา งูไฟแต่ละตัวน่ากลัวพอๆกับมังกรลมกรด ทั้งเจ็ดร่วมมือกัน? พวกมันคงจะเป็นตัวแทนของจุดจบของโลกใบนี้ แม้แต่บ้านหินก็ถูกทำลายได้ด้วยไฟของมัน
ในชั่วพริบตา สี่นักรบที่มีพละกำลังมหาศาล เหล่านักเวททั้งสอง และนักธนูคนนั้น เช่นเดียวกับสองสัตว์เวทที่ติดตามถูกทำลายล้างอย่างไม่เหลือชิ้นดี ถึงจะยังพอเหลือเค้าโครงเดิมหน่อยก็คือกริฟฟินตัวนั้น
งูไฟทั้งเจ็ดได้หายไปแล้วตอนนี้ แต่’เลนลี’ก็ยังคงรู้สึกกลัว แผ่นดินไหวที่แสดงออกมา และพลังที่แผ่ฟุ้งรอบบริเวณนี้ พื้นที่ต้องสู้ทั้งหมดถูกทำลายล้างเกลี้ยง
ไม่มีอะไรเหลือทิ้งไว้ ยกเว้นแต่ซากปรักหักพัง ซากปรักหักพังทั้งหมดเปล่งรัศมีความร้อนออกมา ซึ่งนั้นเป็นเหมือนการแสดงให้เห็นถึงพลังการต่อสู้ที่ของเหล่านั้นทนทาน
“สุด…สุดยอด”
ลมหายใจของ’เลนลี’ช้าลงแต่เริ่มมั่นคง จมอยู่ในความคิดจินตนาการถึงเหล่างูไฟทั้งเจ็ด และวิธีการที่มันได้ทำไว้ในสนามต่อสู้ที่เหมือนกับพลังของวันสิ้นโลก
เปรียบเทียบกับภาพที่เห็น ถึงแม้มังกรลมก่อนหน้าก็ไม่สามารถเทียบเท่าได้
ในทันที’เลนลี’หันไปจ้องนักเวทปริศนาบนหลังของมังกรลมกรด ถ้าจากที่เห็นตามหน้าตา เมกัสดูตัวเล็กกว่า และอ่อนแอกว่า
“ที่หลังจากนั้น หลังจากที่… เขาคือคนที่ร่ายเวทระบำงูไฟนะหรอ?”
‘เลนลี’พบว่ามันยากที่จะเชื่อได้ คนที่ดูเหมือนร่างกายเล็กกว่าลุง’ฮิลแมน’สามารถร่ายเวทราวกับเป็นวันสิ้นโลกได้
ในทันใดนั้น หัวใจของ’เลนลี’เต็มไปด้วยความกลัว ขณะไปเขาจ้องไปยังที่ห่างไกล ระยะห่างของภาพนั้น
“นี้….นี้คือเมกัสนะหรอ?”
สำหรับครั้งแรก หลักการของ’เมกัส’ประทับอย่างชัดเจนไปในจิตใจของ’เลนลี’
ในขณะเดียวกัน
‘เลนลี’ก็มีแรงกระตุนอยากจะเป็น’เมกัส’ที่มีพลังอันรุนแรงเช่นกัน
“ถ้าวันหนึ่ง ผมสามารถมีพลังโจมตีที่รุนแรงแบบนั้น “
จินตนาการในเรื่องนี้ ‘เลนลี’รู้สึกเลือดในหลอดเลือดของเขาเดือดจนถึงขีดสุด เขาอยู่ในความรู้สึกตื่นเต้นอย่างท่วมท้น
สิ่งที่ถูกต้องในช่วงเวลานี้?
‘เลนลี’รู้ว่าเส้นทางที่เขาจะสามารถไปได้ในอนาคต
ไปสู่จุดยอด จุดสูงสุดของพลัง
“พ่อครับ”
ในทันใดนั้น ‘เลนลี’เห็นพ่อของเขา ‘ฮ็อก’ มองสภาพเมืองวูซานที่บาดเจ็บจากหายนะที่ไม่สามารถบรรเทาลงได้ ขณะที่ยังอยู่ในสถานะภาพของ ลอร์ดเมืองวูซาน หัวใจของ’ฮ็อก’เต็มไปด้วยความรู้สึกช่วยไม่ได้
“อย่าส่งเสียง”
‘ฮ็อก’จ้องไปยัง’เลนลี’ ส่งข้อความผ่านทางตาของเขา
‘ฮ็อก’หันไปสู่เมกัส หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศรก
“จริงๆแล้ว เขาเป็นเมกัสระดับแปด และสามารถร่ายเวทได้สองธาตุ บางทีทั้งเมืองเฟนเลียก็คงมีคนที่มีพลังมากกว่าเขาแค่หยิบมือหนึ่งเท่านั้น ใครสักคนแบบเขา ที่มายังเมืองเล็กๆแบบเรา..”
ความต้องการอย่างเดียว ในขณะนี้ คือให้’เมกัส’ปริศนาคนนี้จากไปอย่างเร็วเท่าที่จะเร็วได้ และให้เมืองวูซานกลับคืนสู่ความสงบสุขอย่างที่เคยเป็น
‘เมกัส’ปริศนาจู่ๆก็กระโดดลงโดยตรงจากหลังของมังกรลมกรด ตัวที่สูงอย่างต่ำก็บ้านสองชั้น แต่เขาสามารถลงได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กระโดดครั้งเดียว
ก้าวผ่านขี้เถ้าของนักดาบผมสีแดง ‘เมกัส’ปริศนาปัดมือของเขา และขี้เถาสีเทาให้แยกออกจากนั้น สีม่วง ที่แทบจะเป็นเพชรที่ดูโปร่งใส ปรากฏขึ้น ด้วยการสะบัดข้อมือ เมกัสปริศนาดึงเพชรแห่งเงาเบอโรออกมา
“ฮ่าๆ เพชรแห่งเงาเบอโร ผมใช้เวลาหาสิ่งนี้เกือบสิบปี ใครจะคิดว่าแค่เพราะวันนี้ ผมตัดสินใจผ่านเมืองเมืองนี้ ผมจะเจอได้โดยบังเอิญ ฮ่าๆ เฮแมน ตอนนี้ผมมีเพชรแห่งเงาแล้ว ผมแค่ใส่มันลงไปในคถาของผม ผมอยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะทำอย่างไรเพื่อต่อต้านผมในครั้งต่อไป ฮ่าๆ”
‘เมกัส’ปริศนาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
‘ฮ็อก’และผู้คนที่เหลือในเมืองวูซาน มองอย่างเงียบๆจากระยะไกล ไม่มีใครกล้าทำเสียงแม้แต่น้อย เพราะกลัวความโกรธของ’เมกัส’ปริศนาคนนี้
“เมืองวูซาน อ่า ใครคือหัวหน้าของเมืองวูซาน?”
‘เมกัส’ปริศนาพูดขึ้นทันใด
“พ่อครับ..”
‘เลนลี’ตกใจมาก
ในขณะนี้ ‘ฮ็อก’ไม่มีทางเลือด เว้นแต่ยืดกระดูกสันหลังของเขาให้ตรง และก้าวไปข้างหน้า เขาพูดอย่างเคารพว่า
“ลอร์ดเมกัสที่ทรงพลัง ข้า หัวหน้าเมืองวูซาน”
“โอ้”
หน้าของนักเวทปริศนาก็ยังคงปกคลุมด้วยชุดคลุมสีม่วง ป้องกันคนอื่นจากการเห็นหน้าของเขา เขาพูดเบาๆว่า
“เมืองของคุณถูกทำลายอย่างหนักวันนี้ ผมได้ทำลายล้างปาตี้เล็กๆนี้ไป บนร่างกายของพวกเขาต้องมีเหรียญทองอยู่ เหรียญทอง ไม่ต้องส่งสัย มันคงถูกหลอมรวมและหลอมใหม่โดยระบำงูไฟของผม แต่พวกมันก็ยังคงมีค่าหลายตังอยู่ ให้คิดซะว่าของเหล่านั้นเป็นของคุณ เพราะมันคือของชดเชยสำหรับเมืองวูซานที่เกิดเหตุนี้ขึ้น”
ฟังคำพูดของ’เมกัส’ปริศนา ‘ฮ็อก’รู้สึกโล่งอก
‘เมกัส’ปริศนาคนนี้ไม่ได้ฆ่าอย่างบ้าคลัง
“ข้า ฮ็อก ตัวแทนของเมืองวูซานทั้งหมด ขอกล่าวขอบคุณสำหรับความใจดีของท่าน ลอร์ดเมกัส”
‘ฮ็อก’ก้มลงอย่างนอบโน้ม
‘เมกัส’ปริศนาพยักหน้าเบาๆ จากนั้นหันหน้าและเดินไปยังมังกรลมกรด มังกรลมกรดคุกเข้าอย่างรวดเร็ว ยืดขาหน้าของมันออก ‘เมกัส’ก้าวไปบนขาของมังกรลมกด เดินไปสองข้าว จากนั้นก็กระโดดอย่างง่ายดายไปบนหลังของมังกรลมกรด
“ฮืออ”
มังกรลมกรดถอนหายใจออกมาอย่างขี้เกียจ ขณะที่ควันสีขาวพุ่งออกมาจากจมูกทั้งสองข้างอีกครั้ง
และหลังจากนั้น มังกรลมกรดก็เริ่มที่จะเดิน ก้าวแต่ละก้าวที่หนักหน่วงสันพื้นดิน มองดูร่างสัตว์ขนาดใหญ่ และ’เมกัส’ปริศนาที่อยู่บนหลัง เดินจากไปไกล และหายไปจากระยะสายตา ประชากรทั้งหมดในเมืองวูซานในที่สุดก็รู้สึกหัวใจเริ่มสงบลง
ที่มา: