I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Coiling Dragon (盘龙) ตอนที่ 30 เมืองเฟนเลีย

| Coiling Dragon (盘龙) | 719 | 2339 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ถัดจากเทือกเขาสัตว์เวทคือลัทธิแสงและกลุ่มรัตติกาล  ส่วนเมืองหลวงของลัทธิแสงคือเมืองหลวงเฟนเลีย!

เมืองเฟนเลีย  ในส่วนนี้ คือเมืองหลวงของอาณาจักรเฟนเลีย

เพิ่มเติมคือ  มันถูกใช้เป็นเมืองหลวงศักสิทธิของลัทธิแสง  เพราะว่าวิหารแสงสว่างตั้งประจำการอยู่ในส่วนตะวันตกของเมืองเฟนเลีย

ตัวเมืองเฟนเลียถูกแบ่งเป็นสองส่วน  ส่วนตะวันออก  และส่วนตะวันตก  ตะวันออกของเมืองเฟนเลียถูกปกครองโดยราชาเฟนเลีย  ขณะที่ส่วนตะวันออกอยู่ในการควบคุมของวิหารแสงสว่าง

เพราะว่า  เมืองเฟนเลียมีอาณาจักรสองอาณาจักร คือ อาณาจักรเมืองหลวง และ ของลัทธิแสง  ความมั่นคั่งของเมืองเฟนเลียแทบจะไม่มีเมืองไหนในทวีปยูแลนเทียบเท่าได้

เมืองเฟนเลียกินบริเวณมาก  และมีผู้อยู่อาศัยมากกว่าล้านคนในพื้นที่นี้    ทั้งทวีปยูแลน  นี้จัดได้เป็นติดหนึ่งในห้าในด้านเมืองขนาดใหญ่ที่สุด

ในช่วงเวลาพลบค่ำ ‘เลนลี’ และ’ฮิวแมน’ได้เข้ามายังเมืองเฟนเลีย

“ว้าวว”

ขณะที่เดินบนถนนศาลาหอม  ทางหลักของถนนทางด้านตะวันออกของเมืองเฟนเลีย  ‘เลนลี’รู้สึกราวกับตาของเขาพลามั่ว  ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อยหนูปิ๊  ได้หลบเข้าไปในเสื้อของ’เลนลี’  ตามคำแนะนำของ’เลนลี’  แต่มันก็ยังแอบดูสิ่งรอบๆ  จากนั้นเริ่มสงเสียงจี๊ดๆ ในการบอกความตื่นเต้นของมัน

โชคดีที่รอบๆถนนเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกมากมาย  และงานเลี้ยงฉลองต่างๆมากมาย  เลยไม่มีใครสังเกตเสียงๆนี้

“เงียบๆ”

‘เลนลี’ แตะตัวชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย  ที่ยอมเงียบอย่างเชื่อฟัง  แต่ในการเชื่อมต่อจิตใจกับ’เลนลี’  มันยังคงแสดงความตื่นเต้นของมันให้รับรู้

ถนนศาลาหอมทั้งหมดสร้างมาจากกระเบื้องหินปูนที่ดูเหมาะสม  กว้างพอที่จะให้ม้าหลายๆตัวเดินพร้อมๆกัน   ในด้านข้างๆของกระเบื้องจะเป็นโรงแรมต่างๆ  ร้านเสื้อผ้า  ร้านอาวุธ  บาร์  และร้านอื่นๆ แทบทุกแบบในที่ต่างๆ  แล้วทั้งสองข้างของถนนศาลาหอมยังมีต้นสนและต้นไซคลอสเรียงรายเป็นแถว

คุณหญิงและเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่รำรวย  ทั้งหมดสวมใส่เสื้อผ้าแฟชั่น  ขณะที่กำลังคุยกันและยิ้มแย้มขณะที่พวกหล่อนกำลังเดินไปตามถนน

เห็นท่าทางของ’เลนลี’  เด็กสาวขุนนางที่อยู่ใกล้ๆเริ่มหัวเราะคิกคักอย่างเงียบๆท่ามกลางเพื่อนๆของหล่อน ขณะที่ชี้มายัง’เลนลี’  เป็นที่ชัดเจนว่า  ท่าทางของ’เลนลี’  คนบ้านนอกที่กำลังเข้าเมืองมา  ผู้ดีของเมืองหลวงมีความคิดว่าตัวเองเหนือกว่าอยู่ลึกๆกับพวกเหล่าเด็กบ้านนอก

“หือ  ไร้การอบรมจริงๆพวกนี้”

‘เลนลี’หน้าบึ้ง  รู้สึกไม่พอใจมากๆจากการถูกชี้และหัวเราะโดยเหล่าเด็กสาวขุนนาง

จากการได้รับการเลี้ยงดูและสั่งสองจากพรรคตั้งแต่เกิด  ‘เลนลี’สามารถควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นได้อย่างรวดเร็ว  และพยายามทำหน้าของเขาให้ดูสงบมากขึ้น  อย่างน้อยที่สุดก็ควบคุมสีหน้าได้

“เลนลี  รู้สึกยังไงกับเมืองเฟนเลีย?  นี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิแสงของเรา”

‘ฮิลแมน’เดินข้างๆ’เลนลี’  เป็นบางครั้งบางคราวที่จะเห็นนักดาบ  และแม้แต่นักเวทหนึ่งหรือสองคนผ่านไปเรื่อยๆ  เขาอดที่จะถอนหายใจไม่ได้

“เลนลี  ในเมืองเฟนเลีย  นักดาบกับนักเวทที่ทรงพลังเป็นภาพที่เห็นได้ทั่วไปเรื่อยๆ”

‘เลนลี’หัวเราะ ขณะที่พยักหน้า

“ในหนังสือ  ได้กล่าวไว้ว่าเมืองเฟนเลียเป็นศุนย์กลางการปกครอง  เศรษฐกิจ  และวัตนธรรมของทั้งลัทธิแสง”

“นี้เป็นสวรรค์ของคนรวยและคนที่มีฐานะทางสังคม”

‘ฮิลแมน’พยักหน้าและถอนหายใจ

ถนนศาลาหอม  อึกทึกไปด้วยกิจกรรมต่างๆ  มีรถม้าของคนรวยผ่านบ่อยๆ  หลังจากเดินเล่นในถนนศาลาหอมช่วงเวลาหนึ่ง  ‘ฮิลแมน’ และ’เลนลี’ได้ตรงไปยังบ้านพักเล็กๆธรรมดาๆเพื่อพักอาศัย

มันมีภัตตาคารเล็กๆใกล้ๆบ้านพักเล็กๆนี้  ‘เลนลี’และ’ฮิลแมน’เลยตัดสินใจรับประทานอาหารเย็นที่นั้น

ค่ำคืนในบ้านพักเล็กๆ

‘เลนลี’ และ’ฮิลแมน’อยู่ในห้องเดียวกัน  มันมีสองเตียงในห้องนี้  ทันทีที่เข้ามา  ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย หนูปิ๊  กระโดดออกมาจากเสื้อของ’เลนลี’  และเริ่มวนรอบๆ’เลนลี’ขณะที่ส่งเสียงดังจี๊ดๆ

“รู้แล้วๆ  ว่าแกหิว  กินซะสิ”

‘เลนลี’โยนเป็ดย่างที่นำออกมาจากภัตตาคารลงบนพื้น  และหนูปิ๊รีบวิ่งอย่างตื่นเต้น และเริ่มกิน

“เลนลี  เข้านอนแต่หัวค่ำนะ  พรุ่งนี้เช้า  คุณหนูจะได้เข้าร่วมการประเมินพลังเมกัส  และเหตุการณ์การรับสมัคร”

‘ฮิลแมน’บอกกล่าว

“เข้าใจแล้วฮะ ลุงฮิลแมน”

ขณะที่เขาพูด  ‘เลนลี’เดินไปใกล้ๆหน้าต่าง  และเปิดมันออก

ที่พักเล็กๆ มีสามชั้น  ‘เลนลี’อยู่บนชั้นสาม  มันไม่มีสิ่งปลูกสร้างที่สูงกว่าสามชั้นในเมืองของวูซานเลย  แต่ในเมืองหลวงเฟนเลีย  มันเป็นภาพที่พบเห็นได้ง่ายๆทั่วไป  ในเมืองนี้มีแม้แต่ตึกที่สูงเจ็ดแปดชั้น

มองออกไปผ่านหน้าตา  ‘เลนลี’เห็นถนนที่ยังเต็มไปด้วยผู้คน

“วู้วว มันผ่านมาช่วงเวลาสักพักหนึ่งละ  ที่ผมได้มาอยู่ในเมืองใหญ่ๆเมืองนี้”

แสงพล่ามั่วส่องออกมาจากดราก้อนริง  เปลี่ยนเป็นชายหนวดสีขาว  ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’  และ’เลนลี’ยืนอยู่ข้างๆ ขณะที่พวกเขาจ้องไปยังถนนที่อยู่ข้างล่าง

“ปู่ด็อกริง”

‘เลนลี’รีบทักทายเขา

“เลนลี  รู้สึกยังไงบ้างกับเมืองใหญ่ๆเมืองนี้?”

‘ด็อกริงหัวเราะ’ ขณะที่เขาพูด

“ก็ไม่มีเรื่องอะไรมากมายหรอกครับ”

‘เลนลี’ทำปากบิดเบี้ยว

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“หนูไม่ได้อยู่ที่นี้นาน  หนูไม่รู้อะไรหรอกว่าเมืองใหญ่ๆแบบนี้มันเป็นไง  สถานที่นี้มีที่สำหรับใช้จ่ายเงินอย่างสุรุยสุหร่ายมากมาย  เช่นเดียวกับการประมูลขนาดใหญ่  ที่ซึ่งจะมีผู้มีอิทธิพลมากๆ จะใช้เงินเป็นร้อยเป็นพันเหรียญทอง  หรือบางทีอาจจะเป็นล้านเหรียญทองในการซื้อของชิ้นๆเดียว”

“ล้านเหรียญทอง?”

‘เลนลี’รู้สึกได้ว่าคอของเขาแห้งเผือก

เงินจำนวนนี้มากมายเพียงไร?  สมบัติต่างๆของครอบครัวเขา  ทั้งหมดรวมกัน  บางทีอาจไม่ถึงแม้แต่หนึ่งล้านเหรียญทอง

“มีตระกูลรวยๆจำนวนมากอยู่ที่นี้  เงิน  พลัง  ความสวยงาม  …. การต่อสู้เพื่อสิ่งเหล่านี้เป็นไปอย่างโหดร้าย  ทุกๆวัน  มีคนตายในที่แห่งนี้  หลุมขุดหยาบๆในเมืองเฟนเลียจะเจอศพอยู่บ่อยๆ  ซึ่งบางทีอาจเคยเป็นศพของอดีตตระกูลขุนนาง”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’หัวเราะเบาๆ อย่างสงบๆ

“แต่ในการที่จะยืนในโลกแห่งนี้ได้  หนูจำเป็นต้องมีพลังของตัวเอง”

“อย่าหวังที่จะพึ่งการช่วยเหลือจากคนอื่น  ทุกๆอย่างขึ้นอยู่เพียงแค่ตัวของหนูเอง  ตัวของหนูเองเท่านั้น”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’มองไปยัง’เลนลี’

ในความจริงแล้ว  เลือดมังกรที่ไหลอยู่ในเส้นเลือดของ’เลนลี’ก็ทำให้เขากระหายเลือดและการต่อสู้อีกด้วย

“ถ้าใครสักคนข่มขู่ผมหรือครอบครัวของผม  ผมจะฆ่าพวกนั้นซะ”

‘เลนลี’พูดอย่างกล้าหาญ  หลังจากได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์มากมายมายเกี่ยวกับการขึ้นและตกต่ำของตระกูลขุนนาง  ‘เลนลี’รู้อย่างชัดเจนว่าการแสดงความเมตตากับศัตรูเป็นเหมือนกับการไร้ความปราณีต่อตนเอง

ถ้าคุณปล่อยให้ศัตรูหนีจากคุณไป  บางทีเขาอาจจะกลับมาฆ่าครอบครัวของคุณสักวันหนึ่ง

“แต่อย่างไรก็ตาม  ในเวลานี้พลังของผมอ่อนแอมากนัก”

‘เลนลี’อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเขาเข้าเมืองเฟนเลีย และถูกเหล่าลูกสาวขุนนางได้ดูถูกเขาอย่างไร  ในสายตาของพวกบรรดาผู้คนที่มีระดับสูงๆ  เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าเด็กบ้านนอกยากจนตัวเล็กๆ

ด้วยรอยยิ้มที่ดูสุขสงบ  ‘เลนลี’นั่งลงบนเตียงและเข้าสู่ห้วงสมาธิ  เริ่มรวบรวมพลังงาน

ห้วงสมาธิคือวิธีที่ดีในการฝึกพลังสปิริต  ในวิธีนี้จะทำงานคือ  มันจะใช้ทุกวิธีในการใช้พลังสปิริตของคนๆนั้นให้หมดเกลี้ยงจนเหลือน้อยเท่าที่จะน้อยได้  และจากนั้นพักเพื่อให้มันฟื้นคืน

ภายในจุดตันเถียงในหน้าอก

ธาตุดินที่ดูพล่ามัวสลั่วๆขยายออกในจุดตันเถียง   สิ่งที่ดูพล่ามั่วสลั่วๆนี้คือพลังเวทที่ได้รับจากสสารธรรมชาติของธาตุดิน  ตามการสอนของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’  ตั้งแต่ระดับหนึ่งจนถึงระดับหก  พลังเวทจะเป็นเหมือนแสงสลั่วๆ  ขณะที่เมกัสยังฝึกต่อๆไป  ความเข้มข้นของพลังเวทจะเพิ่มขึ้นและเหมือนกันกับความเข้มข้นที่จะเพิ่มขึ้น

เมื่อถึงระดับเจ็ด  พลังเวทของเมกัสจะย่อลงไปจนกลายเป็นของเหลว

ดังนั้น  ในระดับหกกับระดับเจ็ด  มันมีช่วงห่างแบบก้าวกระโดด!

“เด็กน้อยคนนี้  เลนลี  เป็นคนที่มีความขยันมากๆ  ถึงแม้จะเป็นเวลากลางคืน  เขาก็กำลังฝึกฝนพลังจิตใจของเขา”

เห็น’เลนลี’นั่งขัดสมาส  สองตาปิด  ‘ด็อกริง’อดไม่ได้ที่จะชมเขาอย่างเงียบๆ  พลังจิตใจคือสิ่งที่สำคัญมากๆ ทั้งนักเวทและนักดาบ

…..

ตอนเช้าถัดไป บนถนนใบไม้เขียว  ทางตะวันออกของเมืองเฟนเลีย  เป็นถนนหลักถนนหนึ่งของเมืองเฟนเลีย  สิ่งก่อสร้างที่อยู่ที่อยู่ข้างถนนใบไม้เขียว ถูกสร้างและตกแต่งอย่างหรูหร่า  บางตึกอาณาจักรเป็นเจ้าของเอง  และตึกที่สูงที่สุดของตึกทั้งหมดละ? มันคือ โบสถ์ของวิหารแสงสว่าง

วิหารแสงสว่างควบคุมทั้งลัทธิแสง  ซึ่งประกอบด้วยหกอาณาจักรและสิบห้าอาณาเขตปกครองของท่านดยุค

จักรพรรดิแสงของวิหารแสงสว่างมีสถานะที่สูงส่งมากๆ  เขามีอำนาจในการปลดราชาคนไหนก็ได้ในอาณาจักรต่างๆ  นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมในเมืองเฟนเลีย  ตึกที่สูงที่สุดคือโบสถ์ของวิหารแสงสว่าง

ในยามเช้า  คนจำนวนมากรวมกันรอบๆทางเข้าโบสถ์ของวิหารแห่งสว่าง  ผู้คนส่วนมากส่วมใส่ชุดขุนนางที่ดูหรูหร่า  รถม้าจำนวนนับไม่ถ้วนมาเต็มพื้นที่ส่วนหน้าของวิหารแสงสว่าง  และขุนนางจำนวนมากพบปะพูดคุยกันและกัน

‘เลนลี’ และ’ฮิลแมน’ได้ถึงที่นี้แล้วเช่นกัน

“ลุงฮิลแมน  วันนี้  มีคนมากมายอยู่ที่นี้  ขุนนางหลายๆคน นำลูกๆของเขามาที่นี้”

‘เลนลี’หัวเราะขณะที่คุยกับ’ฮิลแมน’  ในเวลานี้  ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย  หนูปิ๊  ซ่อนอยู่ในเสื้อของ’เลนลี’   บางทีก็แอบดูสิ่งที่อยู๋รอบๆมัน

‘ฮิลแมน’หัวเราะอย่างสงบๆ

“ขุนนาง?  นักเรียนทุกคนของสถาบันเอิร์นสามารถเป็นท่านเอิร์ลในอาณาจักรใดๆก็ได้อย่างง่ายดาย”

“ท่านเอิร์ล ในอาณาใดๆก็ได้?”

‘เลนลี’เข้าใจในทันที

มันไม่ยากในการได้รับชื่อขุนนางในอาณาจักรทั่วๆไป  แต่ในการเป็นขุนนางที่มีอำนาจจะเป็นสิ่งที่ยากมาก  ยังไงก็ตาม  จักรพรรดิใดๆก็ได้ของหนึ่งในสี่สุดยอดจักรพรรดิเทียบเท่าลัทธิแสงทั้งหมด  เมืองหลวงเฟนเลีย ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับสิ่งเหล่านี้ได้

“โอ้ ลอร์ด โดเยิ้ล  ท่านก็มาที่นี้ด้วยเช่นกัน?”

“เอเบอร์  แน่นอนว่า  ผมมาที่นี้เพราะลูกๆของผม  เฮส  มาแสดงความเคารพลุงเอเบอร์”

ไม่ไกลมากนัก  กลุ่มขุนนางกำลังพบปะพูดคุยกัน  ค่าทดสอบอย่างเดียวสำหรับการทดสอบเมกัสและการรับสมัคร คือสิบเหรียญทอง  และถ้านักเรียนได้รับการยอมรับให้เข้าศึกษาในสถาบันเมกัส  ค่าใช้จ่ายโรงเรียนจะสูงมากกว่านี้นัก  สถาบันเมกัสส่วนใหญ่จะเก็บเงิน  ร้อยเหรียญทองต่อปี!

ตระกูลธรรมดาๆ ไม่สามารถจ่ายค่าพวกนี้ได้  แต่ถ้าเด็กๆเหล่านี้ถูกเลือก  เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะสามารถหาขุนนางอุปถัมภ์ในการจ่ายให้พวกเขา

แต่อย่างไรก็ตาม  ไม่ใช่สถาบันเมกัสทั้งหมดที่มีค่าเล่าเรียนที่ราคาแพง

อย่างเช่น  สถานบันอันดับหนึ่ง  สถาบันเอิร์น  เพราะยอมรับนักเรียนน้อยมากๆ  นักเรียนทุกคนที่มีภูมิลำเนามาจากลัทธิแสง  ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนใดๆเลย  โดยทั้งหมดทุกคนที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันเอิร์น คือคนระดับอัจฉริยะ  ในอนาคต  ความสำเร็จของพวกเขาไม่สิ้นสุด

“หืออ  เหล่าชาวบ้าน และพวกบ้านนอกก็มาที่นี้ด้วย  พวกเขาคงฝันอยู่สินะ?”

ขุนนางที่อยู่ไกลออกไป หัวเราะ

มีชาวบ้านอยู่บ้างท่ามกลางผู้คนแน่นขนัดร้อยๆคน  และขุนนางในเมืองที่ห่างไกล อย่างเช่น’เลนลี’  ตามปกติแล้ว  ตระกูลเหล่าขุนนางจากเมืองที่ห่างไกลก็ถูกดูถูกด้วยเช่นกัน  ขุนนางในเมืองหลวงมีความหยิงยโสมากผู้ซึ่งโดยปกติแล้วจะดูถูกคนอื่นๆ

“เลนลี  อย่าไปสนใจกับคนพวกนี้”

‘ฮิลแมน’พูดค่อยๆ

จ้องไปเหล่าพวกขุนนาง  ‘เลนลี’หัวเราะเบาๆเงียบๆ

“ลุงฮิลแมน  ผมไม่สนใจพวกเขาหรอก”

ภายใต้การสั่งสอนของพ่อของเขา  ‘ฮ็อก’  ‘เลนลี’ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักกับกลุ่มที่เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลาง  ขุนนางที่หยิ่งยโส

ทั้งลานกว้างสามารถบอกอย่างชัดเจนว่าถูกแยกที่อยู่เป็นสองกลุ่ม  ขุนนางจับกลุ่มเป็นวงกลมคุยกันและกันเป็นครั้งคราว  และอีกกลุ่มคือชาวบ้านธรรมดาหรือขุนนางจากเมืองห่างไกล

ในตอนนี้  สองนักรบชุดเกราะโลหะยืนอยู่ข้างหน้าโบสถ์แสงสว่าง  ค่อยกันทางเข้าทั้งหมด

หลังจากนั้น  เจ้าหน้าที่ชุดดำก้าวมาข้างหน้าจากประตูโบสถ์  หยุดอยู่หน้าประตู  เขายิ้มและพูดด้วยเสียงก้องกังวาล

“พิธีการประเมินเวทใกล้จะเริ่มต้นแล้ว  ผู้รับสมัครจากสถาบันเมกัสหลักๆจำนวนมากก็พร้อมแล้วเช่นกัน  ทุกๆคนผู้ซึ่งมาที่นี้เพื่อจะทดสอบ  โปรดตามผมเข้ามาในตึกหลัก”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments