I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Coiling Dragon (盘龙) ตอนที่ 38 หอพัก 1987 (ตอนปลาย)

| Coiling Dragon (盘龙) | 693 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

นักเรียนส่วนใหญ่ของสถาบันเอิร์นจะอยู่ในสถาบันเป็นยี่สิบสามสิบปี  ดงันั้นเป็นปกติที่เมื่อถึงเวลาจบ เพื่อนร่วมห้องจะกลายเป็นเพื่อนที่สนิทมากๆ  ถึงแม้ ‘ยันต์’ ‘เรโนลด์’ ‘เลนลี’ และ’จอร์จ’ทั้งหมดจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กอายุเดียวกัน  แต่ในใจของพวกเขา ก็ยังคงเป็นเด็กอยู่

หลังจากที่พูดคุยเป็นช่วงเวลาสั้นๆ  พวกเขาทั้งสี่เริ่มที่จะสนิทกันมากอย่างรวดเร็ว

“ทุกๆคน  มาใช้เวลาวันนี้ในการทำความรู้จักเกี่ยวกับวิทยาลัยของพวกเราให้มากขึ้นดีกว่า  คืนนี้  ผมจะเลี้ยงอาหารเย็นพวกนายทั้งหมด ฮ่าๆ”

‘ยันต์’ตบที่หน้าอกของเขาและพูดอย่างกระตือรือร้น

“เจ้านี้มันมีแม้แต่เมจิกคริสตัลการ์ด  ถ้าพวกเราไม่หาผลประโยชน์จากเจ้านี้  จะมีใครให้พวกเราหาผลประโยชน์ได้อีกละ?”

‘เรโนลด์’หัวเราะ

‘จอร์จ’และ’เลนลี’ทั้งคู่ยังเป็นเด็กอยู่  และพวกเขาก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายโดยทันที

“จี๊ด จี๊ด!”

ในตอนนี้  ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย หนูปิ๊ จู่ๆก็ยื่นหัวออกมาจากเสื้อของ’เลนลี’  เพิ่งตื่นขึ้นได้ไม่นาน  ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อยรู้สึกเหงา  มันเลยยื่นหัวของมันออกมา

“โว้ววว  มันคือตัวอะไรนะ?”

‘เรโนลด์’ตกใจมากจนกระโดดถอย

“หนูปิ๊  แกตื่นแล้ว?”

‘เลนลี’หัวเราะขณะที่เขาลูบหัวน้อยๆของหนูปิ๊  หนูปิ๊หลับตาของมันอย่างพอใจ  จากนั้นลืมตาของมันและมองไปที่’เรโนลด์’   ‘ยันต์’และ’จอร์จ’  จมูกของมันพ่นลมออกมาจากจมูกสามครั้ง ราวกับว่ามันกำลังดูถูกพวกเขาอยู่

“สัตว์เวท  นี้คือสัตว์เวท!  ผมเคยเห็นสิ่งเหล่านี้ในหนังสือ”

‘ยันต์’จู่ๆก็ตะโกนขึ้น

“เลนลี  นายมีผู้ติดตามสัตว์เวทด้วย?”

‘เรโนลด์’และ’จอร์จ’ทั้งคู่ตกใจมากเช่นกัน

พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็ก  พวกเขาจะสามารถทำให้สัตว์เวทยอมรับพวกเขาได้อย่างไร?

“หนูปิ๊เป็นแค่สัตว์เวททารก  ผมแค่ให้อาหารมันนิดหน่อยก็ทำให้มันชอบผม  ดังนั้นผมเลยได้ทำสัญญาวญญาณกับมัน”

‘เลนลี’หัวเราะ

“สวรรค์  มันเป็นสัตว์เวท! เลนลี  นายเก่งจริงๆ  ผมฝันมาตลอดว่าจะมีสักตัวตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ”

‘ยันต์’จ้องไปที่หนูปิ๊  ตาของเขาส่องประกาย

“ถึงแม้ผมจะได้รับความยินยอมให้ใช้ม้วนเวทสัญญาเท่าเทียม แต่ผมก็ไม่มีความสามารถในการบังคัญให้สัตว์เวทยอมรับผมเลย”

‘ยันต์’พูดด้วยเสียงเศร้าๆ

“นายไม่สามารถกำราบสัตว์เวทได้  แม้แต่สัตว์เวททารก?”

‘เลนลี’หัวเราะ

‘ยันต์’ส่ายหัวของเขา

“ผมยังไม่ได้เป็นแม้แต่เมกัสระดับหนึ่งเลย  จากกำลังของผม  บางที  ผมสามารถฝึกสัตว์เวทระดับหนึ่งหรือระดับสอง  แต่ผมจะเอาสัตว์อ่อนแอแบบนั้นไปทำอะไรละ?  และสตัว์เวททารกระดับเจ็ดหรือแปดมันยากมากๆในการจะเจอสักที  ยิ่งไปกว่านั้น  สัตว์เวทเหล่านั้นมีพลังมากกว่าผม  ถึงแม้มันจะเป็นแค่ทารก”

‘เลนลี’เห็นด้วยกับ’ยันต์’อย่างเงียบๆ

ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย หนูปิ๊  ตอนนี้ แข็งแกรงพอๆกับสัตว์เวทระดับห้า  มันแข็งแกรงมากกว่า’เลนลี’อย่างมหาศาล  แต่จากการอยู่ด้วยกันกับหนปิ๊ตลอดครึ่งปี  เขาสามารถบอกได้ว่าหนูปิ๊ไม่ได้ตัวใหญ่ขึ้นเลย  นี้ทำให้’เลนลี’และ’ด็อกริงโคเวิร์ท’สับสน

“เลนลี  ชาโดว์เมาส์ตัวจ้อยนี้ชื่อ หนูปิ๊?  นายสามารถทำให้หนูปิ๊ยอมให้ผมอุ้มมันได้ไหม?”

‘เรโนลด์’จ้องชาโดว์เมาส์ตัวจ้อยอย่างไม่วางตา

“หนูปิ๊?”

‘เลนลี’ถามหนูปิ๊ผ่านการเชื่อมต่อทางวิญญาณระหว่างพวกเขาโดยทันที

“ไม่ ไม่มีทาง”

หนูปิ๊สามารถสื่อสารความต้องการง่ายๆให้’เลนลี’ผ่านการเชื่อมต่อทางวิญญาณของพวกเขาได้อีกด้วย  ในเวลาเดียวกัน  หนูปิ๊โชว์เขี้ยวของมันให้’เรโนลด์’

“จี๊ด จี๊ด!”

มันส่งจี๊ดเสียงดังสนั่น  เป็นที่ชัดเจนว่าโกรธมากๆ

‘เรโนลด์’อดไม่ได้ที่จะย่นปากอย่างไม่พอใจ

“เรโนลด์  ผมจะบอกความรับให้  หนูปิ๊ชอบกินอาหารย่างมาก  ถ้าในอนาคต  นายสามารถหาเป็ดย่างสหรือไก่ย่างสักตัวสองตัวให้มันได้  ผมเชื่อว่ามันจะไม่ต่อต้านนายมากนัก”

‘เลนลี’หัวเราะขณะเห็นตาของ’เรโนลด์’ส่องประกาย

“เสร็จโจ๋”

จู่ๆ’เรโนลด์’ก็ขมวดคิ้วและหัวหัวไป’ยังยันต์’

 “ยันต์  ถ้าในอนาคต  ผมตังหมด  นายให้ผมยืมเงินบ้างนะ  เมื่อปู่โลมู่มา  ข้าจะจ่ายคืนให้เอง”

“ไม่มีปัญหา”

‘ยันต์’พูดอย่างใจกว้าง

“ผมมั่นใจว่าทุกๆคนยังไม่มีโอกาสที่จะเที่ยวชมมหาวิทยาลัยอย่างละเอียดใช่ไหม?  ไปกันเถอะ ไปเดินเล่น เพื่อกระชับมิตรภาพกันดีไหม? “

‘จอร์จ’ยิ้มขณะที่เขาพูดขึ้น

สี่พี่น้อง  ‘จอร์จ’เป็นเด็กที่ดูเป็นมิตรและหนักแน่นมากที่สุด ‘เรโนลด์’ดูเป็นเด็กมากที่สุดของพวกเขา  ‘ยันต์’…ดูเป็นเพลย์บอย  และสำหรับ’เลนลี’  ในสายตาของเด็กทั้งสาม เขาเป็นคนที่ดูลึกลับมากที่สุด

เมกัสสองธาตุ  การเชื่อมต่อระดับยอดเยี่ยม  และมีสัตว์เวทสัตว์เวท

เขาช่างดูลึกลับน่าพิศวงจริงๆ

สถาบันเอิร์นที่เก่าแก่เต็มไปด้วยตึกอาคารนับไม่ถ้วนซึ่งมีอายุกว่าพันปี  ตรงหน้าพวกเขาป้ายประกาศแนะนำ

เอายุที่ต่ำสุดของพวกเขาคือแปดขวบ  อายุที่สูงสุดของพวกเขาคือสิบขวบ  เด็กๆจ้องอย่างเชิดทูนต่อชื่อที่มีชื่อเสียง  โดยเฉพาะประวัติของนักสู้ระดับเซียน  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นระรั่ว  พวกเขาทั้งหมดฝันว่าสักวันจะเป็นนักสู้ระดับเซียนเช่นกัน

แต่เสียงตรงเข้ามาข้างๆหูที่ยังคงหัวเราะอยู่เรื่อยๆ

“ไม่มีอะไรมากไปกว่าคลื่นลูกใหม่ที่เพิ่งเกิดลูกเล็กๆเท่านั้น  จริงๆแล้คนเหล่านี้อวดกับการฆ่า หมีดำลายม่วง?  นักสู้นักดับเซียนผู้ซึ่งสามารถฆ่าได้แค่สัตว์เวทระดับเก้า  และไม่ใช่สัตว์เวทระดับเซียนสามารถมองได้แค่นักสู้ระดับเซียนระดับฝึกหัดเท่านั้น”

คนที่จบจากสถาบันเอิร์นที่มีชื่อเสียงจำนวนมากถูกวิจารณาอย่างยับเยินโดย’ด็อกริงโคเวิร์ท’ว่าไม่มีคุณค่าต่อการกล่าวถึง

…….

สี่พี่น้องแห่งหอพัก 1987  ตามด้วยชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย หนูแป๊ะ  เดินเล่นไปทั่วมหาลัย  ทำให้เพิ่มระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นระดับเบื้องต้น  ในยามค่ำคืน  สี่หนุ่มไปที่โรงแรมที่ตกแต่งอย่างหรูหราข้างๆพื้นที่หอพัก  และเฉลิมฉลองให้พวกเขาเอง  แต่แน่นอน  ที่พวกเขาดื่มทั้งหมดเป็นน้ำผลไม้

วันถัดมา  9 กุมภาพันธ์  เวลาเปิดเทอม

มันไม่มีตารางเรียนสำหรับวันนี้  ทั้งหมดจะเริ่มในวันที่สิบกุมภาพันธ์  วันที่เก้ากุมภาพันธ์   เป็นวันที่มีจุดประสงค์ให้ไปฟังคำแนะนำของกระบวนการต่างๆภายในโรงเรียนเพื่อที่จะเรียนอย่างหนักได้  กลุ่มเด็กๆอายุหกถึงสิบสองขวบเต็มที่ประชุม  พวกเขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคนที่พูดกับพวกเขาคือใคร  มีนักเรียนจำนวนมากเริ่มฝันลมๆแล้งๆ  เมื่อพิธีปฐมนิเทศจบ  ทุกคนต่างแยกแยกอย่างสุขใจ

หลังจากรับประทานอาหารเย็น  สี่พี่น้องแห่งหอพัก 1987  ทั้งหมดนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างในหอพัก และพูดคุยเกี่ยวกับตารางเรียนของพวกเขา

“ที่นี้ดูง่ายมากๆ  แค่หนึ่งวิชาต่อวัน  โอ้เลนลี  สองธาตุ ดังนั้นเขาต้องเรียนสองวิชา”

‘ยันต์’ถอนหายใจ

“แต่สถาบันเอิร์นดูสบายๆจริงๆ  ถ้านายต้องการเข้าเรียน  นายก็สามารถทำได้  ถ้านายไม่ต้องการเข้า  นายก็สามารถโดดได้”

‘จอร์จ’ ยิ้มอย่างใจเย็น

“ยันต์  อย่าเพิ่งรีบพอใจ  ถึงแม้มันไม่มีการต้องการอะไรจากนักเรียนอย่างเป็นทางการ  ทุกๆปี  มันจะมีการทดสอบความสามารถ  ถ้าเพียงแต่ว่าพวกนายระดับพลังเพิ่มขึ้นก็สามารถทำให้เกรดพวกนายเพิ่มขึ้น  ถ้าพวกนายจะไม่พยายามอย่างหนัก  พวกนายคงจะอยากอยู่ที่ไปอีกเป็นร้อยๆปีใช่ไหม?  สิ่งไปกว่านั้น สถาบันเอิร์นมีกฏระเบียบอยู่ว่าถ้าใครไม่สามารถกลายเป็นเมกัสระดับหกภายในหกสิบปี  คนนั้นจะถูกไล่ออก อย่างไม่มีข้อยกเว้น”

ขณะที่อ่านข้อบังคับอันมากมายของสถาบันที่ถูกเขียนในเอกสารแนะนำต่างๆ  ‘เลนลี’พยักหน้าเล็กน้อย

ถึงแม้โรงเรียนจะมีการดูแลที่ไม่เข้มงวด  อนุญาตให้คนก็ได้จะไม่เข้าเรียนเลยตลอดหกสิบปี  เมื่อครั้งที่คนนั้นถึงเวลาหกสิบปีแล้ว  ถ้าคนนั้นยังคงไม่กลายเป็นเมกัสระดับหก  คนนั้นคงถูกไล่ออกทันที

“ไล่ออก?”

‘ยันต์’ถลึงตา

“ถ้าผมถูกไล่ออกจริงๆ  ผู้เฒ่าคงอาจจะฆ่าผมเลยก็ได้”

การถูกขับไล่โดยสถาบันเอิร์นผลตอบแทนจะเป็นการดูถูกชื่อเสียงอย่างสุดเกินที่จะรับไหว  ไม่มีใครปราถนาที่จะแบกรับมันไว้  ทั้งนี้ทั้งนั้น  ได้รับการอนุญาตให้เข้าเรียน  หมายถึงว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นคนมีพรสวรรค์

“การสอนเริ่มต้นพรุ่งนี้  ข้าสงสัยว่าบรรดาครูที่นี้จะเป็นอย่างไร  ถ้าพวกเขาไม่เก่งเท่าปู่โลมู่ของผม  ที่ข้ามาที่นี้คงไม่เกิดประโยชน์อะไร”

‘เรโนลด์’พึมพำ

“เรโนลด์ ปู่โลมู่ของนายเป็นเมกัสหรอ?”

‘เลนลี’ถามอย่างสงสัยเล็กน้อย

“แน่นอน  ในเส้นทางที่ยาวไกลจากจักรวรรดิไบรเอ็นมาสถาบันเอิร์น  ปู่โลมู่ได้เริ่มสอนเวทให้ผมแล้ว”

‘เรโนลด์’พูดอย่างภูมิใจ

เมื่อ’เลนลี’และคนอื่นๆทั้งสามกำลังพูดคุยกันไป  พวกเขาทั้งหมดรู้สึกตื่นเต้นมาก

“การสอนเวทดินไม่น่าสำคัญอะไรนัก  ในเรื่องการเข้าใจเวทดิน  บรรดาครูต่างๆของสถาบันเอิร์นจะเทียบเท่ากับปู่ด็อกริงได้อย่างไร?  สิ่งสำคัญที่สุดของการสอนคือวิชาเวทลม  ผมสงสัยว่าเวทลมจะเป็นอย่างไร?”

ฟ้าในวันนี้เริ่มกลายเป็นสีดำ  แต่เสียงหัวเราะ และเสียงพูดคุยของเด็กหนุ่มทั้งสี่ยังคงดังออกมาเรื่อยๆ  จากหอพัก 1987

ปล.เดินเรื่องไปอย่างช้าๆ เนิบๆ   แปลไปง่วงนอนไป

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments