I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Coiling Dragon (盘龙) ตอนที่ 47 โรงเรียนสิ่วตรง

| Coiling Dragon (盘龙) | 710 | 2334 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ณ สถานบันเอิร์น เวลาได้ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว   ในเช้านี้  ‘เลนลี’ได้รับประทานอาหารเช้าแล้ว และเริ่มตรงไปยังภูเขาหลังโรงเรียนเพื่อเริ่มเตรียมการฝึก   ขณะที่เดินบนถนนเพื่อออกจากสถาบันเอิร์น

ชาร์โดว์เมาส์ตัวจ้อยที่อยู่บนไหล่ของ’เลนลี’  มองทุกๆรายละเอียดตลอดเส้นทาง  มีผู้คนจำนวนไม่น้อยในสถาบันเอิร์นที่มีผู้ติดตามเป็นสัตว์เวท  เลยไม่มีใครสนใจเลยสักนิดว่า’เลนลี’จะมีชาร์โดว์เมาส์ตัวจ้อยเป็นผู้ติดตาม  แต่ในตอนนี้

“ผู้ชายคนนั้น เป็น เลนลีนี้น่า  เมกัสอันดับหนึ่งของพวกเราเกรดหนึ่งนี้น่า”

เสียงดังฟังชัดเอ่ยขึ้นจากที่ที่ไม่ไกลเท่าไรนัก   ‘เลนลี’อดไม่ได้ที่จะมองไปยังทิศทางที่เสียงนั้นเอ่ยมา  และเห็นสองสาวน่ารักกำลังคุยกันขณะที่จ้องมองมายังเขา  เมื่อ’เลนลี’จ้งอมองกลับไป  สองสาวเริ่มหัวเราะคิกคักอย่างเงียบๆ

“ผมได้กลายเป็นคนดังแล้วสินะ”

‘เลนลี’ยิ้มเยาะให้ตัวเอง   ผ่านไปช่วงไม่กี่วันก่อน เขาได้กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนพูดคุยถึงบ่อยๆ ตั้งแต่ที่เขาเอาชนะ’แรนด์’  ผู้ชนะการแข่งขันอันดับหนึ่ง ทุกคนได้ยอมรับว่าเขาเป็นผ็เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งท่ามกลายเหล่าเกรดหนึ่งไปโดยปริยาย

“โอ้ ข้างหน้า ผม  นี้คือ.. “

จู่ๆเลนลีก็เห็นร่างผอมบาง รูปร่างเล็กปรากฏอยู่ข้างหน้า   ผมสั้นสีทอง  ร่างกายที่ผอมบางเหมือนกับ’เรโนลด์’  บรรยายกาศเยือกเย็นแผ่ฟุ้งออกมาจากเขา ขณะที่เขาเดินผ่านถนนไปอย่างเงียบๆ

“ดีซี่?”

ตาของ’เลนลี’กระตุก   ‘ดีซี่’มีอายุเก้าปีแล้วเหมือนกัน  และจริงๆแล้วคือ  อ่อนกว่า’เลนลี’หนึ่งเดือน  แต่เด็กเก้าขวบคนนี้ได้เป็นเมกัสระดับสามเรียบร้อยแล้ว  ถึงแม้มันจะยากขึ้นเรื่อยๆเมื่อฝึกฝนเพื่อพัฒนาไปในระดับสูงขึ้น  เมกัสเก้าปี ระดับสามก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมาก

“นั่นเป็นดีซี่แน่ๆ เมื่อวานได้ยินมาว่า  การทดสอบเมกัสประจำปี  ดีซี่ปรากฏตัวที่นั้นเขาได้มีคุณสมบัติพื้นฐานเข้าถึงระดับสี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

สาวๆ หลายคนอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดพูดกันอยู่ข้างๆ   นักเรียนจำนวนมากที่อยู่ระดับสามจะมีอายุมากกว่าสิบหกปี  แต่เพียงอัจฉริยะอย่าง’ดีซี่’นั้นคือข้อยกเว้นที่ปรากฏขึ้นมาอย่างไร้ข้อกังขาร!

“เมกัสระดับสี่ !!”

‘เลนลี’รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาเส้นตุบๆอย่างหนักด้วยความหวาดกลัว  เขากับ’ดีซี่’ทั้งคู่มีอายุเก้าปี  และ’ดีซี่’ก็ยังอ่อนกว่าเขาหนึ่งเดือน  แต่เขาได้กลายเป็นเมกัสระดับสี่แล้ว

ขณะที่’เลนลี’ยังเป็นแค่ระดับสองเท่านั้น   ท่วงท่าที่เยือกเย้นดุจดังน้ำแข็ง ‘ดีซี่’เดินผ่าน’เลนลี’ไป อัจฉริยยะ  อัจฉริยะอย่างแน่นอน  ‘ดีซี่’  ไม่มีใครที่อายุเท่าเขาสามารถสู้เขาได้เลยแม้แต่น้อย

ขณะที่ลำแสงเปล่งออกมาจากแหวนดราก้อนริง  ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ’เลนลี’  ยิ้มให้

“เลนลี  จริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากเลย ระดับหนูกับดีซี่คนนั้น  เมื่อดีซี่มาเรียนที่นี้  คุณภาพสปิริตของเขาได้สูงกว่าคนอื่นถึง 68 เท่า  นี้เลยหมายความว่า  ก่อนเขาจะเริ่มฝึก  คุณภาพสปิริตของเขาก็ถึงระดับสามอยู่แล้ว  นั้นเป็นเหตุว่าทำไมในปีแรก  สิ่งที่เขาต้องทำ คือ สะสมพลังเวทให้เพียงพอเพื่อกลายเป็นเมกัสระดับสาม  และตอนนี้ เขาได้อยู่ที่สถาบันเอิร์นเกือบจะเลยสองปีแล้ว  นั่นเลยเป็นเรื่องที่ปกติมากๆที่เขาจะกลายเป็นเมกัสระดับสี่”

‘เลนลี’เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้วลึกๆในหัวใจของเขา   คนคนนี้มีพรสวรรค์มาก…มากเกินไป  เขาได้เกิดมาพร้อมกับคุณภาพสปิริตที่มากมายมหาศาล  และเขาได้มีการเชื่อมต่อกับธาตุอย่างยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน  เป็นที่ชัดเจนว่าเขาจะต้องสะสวมพลังเวทได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

“ถึงแม้ว่าตอนนี้การฝึกนของเขาจะจัดว่าเร็ว  แต่ปู่คาดว่าเขาจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสามสี่ปีเมื่อก้าวข้ามจากระดับสี่ไประดับห้า  และจากระดับห้าไประดับหก  เขาจะจำเป็นต้องใช้อีกสี่ห้าปี”

“ตอนนี้  หนูเป็นเมกัสระดับสอง  ขณะที่เขาอยู๋ระดับสี่  แต่ปู่มั่นใจว่าภายในสิบปี  หนูจะตามเขาทัน”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ พูดอย่างมั่นใจ   แต่เลนลีกลับไม่เชื่ออย่างนั้น

“ปู่ด็อกริง  ยิ่งพรสวรรค์คนคนนั้นมีมากเท่าไร  ก็ทำให้การฝึกของคนคนนั้นจะเร็วขึ้นเท่านั้น  เขามีพรสวรรค์มากกว่าผม  และยังสูงกว่าผมสองระดับ  แล้วผมจะสามารถตามเขาทันในเวลาสั้นๆแค่สิบปีได้ยังไง?”

‘เลนลี’ไม่ใช่คนโง่  เขาเรียนในสถาบันเอิร์นได้ทำให้เขาตระหนักได้ถึงความยากลำบากสำหรับเมกัสในการเลื่อนขั้น   ในอดีต ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ได้เคยบอก’เลนลี’ว่าเขาจะกลายเป็นเมกัสระดับหกภายในสิบปี

แต่’เลนลี’ได้ยับยั้งชั่งใจในเรื่องนี้มาอยู่เสมอ  เพราะยังไงก็ตาม  ในเวลานี้  อัตราการพัฒนาของเขาเป็นที่ชัดเจนว่ายังไม่เพียงพอ   ขณะที่เขาพูดถ้อยคำเหล่านี้

‘เลนลี’ได้ออกจากประตูของสถาบันเอิร์นเรียบร้อยแล้ว และเข้าสู่หุบเขาหลังสถาบัน  ขณะที่เขาเดินผ่านป่าไม้ในเทืกเขา  จู่ๆ’ด็อกริงโคเวิร์ท’ก็ได้เอ่ยขึ้น

“เลนลีไปสถานที่ที่ใกล้ๆกับหน้าผา”

“ใกล้ๆกับหน้าผา?”

‘เลนลี’สงสัย

“อย่าถามอะไรมากนัก  เมื่อหนูไปถึงที่นั้น  ปู่จะบอกเอง”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’หัวเราะ

ผ็เขาที่อยู๋ข้างหลังส่วนมากนั่นจะปกคลุมไปด้วยหญ้าป่า และต้นไม้ขนาดใหญ่หลากหลายชนิด แต่หลักจากนั้นพักหนึ่ง  ‘เลนลี’ได้เจอสถานที่ที่น่าพึงพอใจตรามที่’ด็อกริงโคเวิร์ท’ต้องการ  สถานที่นี้คือจุดยอดเขา และสูงสง่าอยู่บนฟากฟ้ากว่าหนึ่งร้อยเมตร ‘เลนลี’ยืนอยู่ที่นั่น

“ปู่ด็อกริง  ปู่ต้องการให้ผมทำอะไรที่นี้หรอฮะ?”

‘เลนลี’พูดอย่างสงสัย   ปู่’ด็อกริง’หัวเราะพร้อมเอ่ยว่า

“เลนลี  หนูไม่เชื่อที่ปู่บอกว่าปู่สามารถทำให้ระดับของหนูพัฒนาจนเท่าเขาได้ในเวลาสั้นๆเพียงสิบปีหรอ?  ฮ่าๆ  เลนลี  แกรนเมกัสระดับเซียนที่ทรงพลัง  จริงๆแล้ว ปู่มีวิธีที่จะพัฒนาคุณภาพสปิริต”

“วิธีที่จะพัฒนาคุณภาพสปิริต?  ไม่ใช่แค่ว่าการเข้าสู่ห่วงสมาธิเพียงพอแล้วหรอ?”

‘เลนลี’จ้องที่’ด็อกริงโคเวิร์ท’อย่างสงสัย   ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ยิ้มอย่างสงบๆ

“เลนลี  ปู่เห็นด้วยว่าการเข้าสู่ห่วงสมาธินั้นจะได้ผลลัพท์ที่ดี  แต่หลังจากการนั่งสมาธิ  คนคนนั้นจะรู้สึกเหนื่อยอย่างมาก”

“ใช่แล้ว  ผมเองก็รู้สึกเหนื่อย  การเข้าสู่ห่วงสมาธินั้น เกี่ยวกับการที่ผมจะใช้พลังสปิริตอย่างไม่หลุดหย่อน  หลังจากใช้พลังสปิริตจนหมด  หลังจากนั้นผมจะให้มันฟื้นฟู  มันเลยเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดถ้าเกิดจะไม่หมดแรงเลย”

‘เลนลี’ขมวดคิ้ว   ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’พูดอย่างภูมิใจว่า

“แต่วิธีของปู่นั้นแตกต่าง  มันจะไม่ใช้พลังสปิริตเลยแม้แต่น้อย  จริงๆแล้วมันคือเป็นสิ่งที่เพลิดเพลิน”

“เพลิดเพลิน?”

‘เลนลี’มึนงง

“ใช่แล้ว  สิ่งที่เพลิดเพลินนี้คือ  การแกะสลักหิน! “

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจปรากฏขึ้นบนหน้าของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’

  “การแกะสลักหิน?”

‘เลนลี’พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ

“เหมือนกับจากแกะสลักในพล็อกแกลอรี่หรอฮะ?”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ยิ้มและพูดว่า

“ใช่แล้ว  นักแกะสลักคนอื่นจะสามารถใช้พลังอย่างมา และทำให้พวกเขาเหนื่อยล้า  แต่วิธีการแกะสลักหินของปู่นั้นแตกต่างออกไป  ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยตอนช่วงแรกเมื่อหนูเริ่มฝึก  ท้ายที่สุดแล้ว  มันจะได้ได้ผลดีมากๆ”

“ปู่ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมฮะ?”

‘เลนลี’ไม่สามารถเชื่อรเองนี้ได้เลยจริงๆ   ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’จ้องมองไปยังที่’เลนลี’

“เลนลี  หนูไม่เชื่อปู่หรอ?  แกรนเมกัสที่น่าเคารพยกย่องระดับเซียนของอาณาจักรพูเอ็น   ช่วงเวลาในอดีต  มีรูปปั่นจำนวนมากที่ปู่ทำที่ ขุนนางเสนอเงินเป็นล้านเหรียญทองเพื่อที่จะซื้อมัน  แต่ปู่ แกรนเมกัสระดับเซียนนั้นจะปราถนาที่จะยกรูปปั่นที่ปู่ภูมิใจที่สุดให้พวกนั้นได้อย่างไร?”

“ปู่เก่งขนาดนั้นเลยหรอฮะ?  แล้วทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินชื่อของปู่ท่ามกลางหมู่นักแกะสลักเลยละฮะ  ปู่ด็อกริง?”

‘เลนลี’พูดอย่างเคลือบแคลงใจ   ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’พูดไม่สบายใจนัก

“จริงๆแล้ว  ปู่ซ้อนงานแกะสลักทั้งหมดอุโมงใต้ดินซึ่งไม่มีใครรู้เรื่องนี้   หลังจากนั้นผ่านมาห้าพันปี  ปู่ก็ไม่มั่นใจแล้วว่าที่นั้นมันอยู๋ที่ไหน”

ห้าพันปีนั้นเพียงพอที่จะทำให้ทะเลเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่แห่งการทำการเกษตร  ทั่วทั้งอาณาจักรพูเอ็นได้ถูกทำลายล้าง  ใครจะล่วงรู้ได้ว่าอุโมงนั้นอยู๋ที่ไหน

“โอ้ โอ้  ดังนั้นเลยไม่มีใครเคยรู้เรื่องปู่เลยหรอ?”

‘เลนลี’เริ่มหัวเราะอย่างร่าเริง

“หนูไม่เชื่อปู่?”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’จ้องไปที่เขา

“เมื่อตอนนั้น  เมื่อพล็อกยังเป็นแค่เด็กตัวน้อยๆ  เขาได้มาหาปู่อย่างกระตือรือล้น  ขอให้ปู่อนุญาตให้เขาดูงานแกะสลักของปู่  หลังจากจ้องมองวิเคราะห์ในเหล่ารูปปั่นแกะสลักของปู่  หนูน้อยคนนั้น  พล็อกจิตใจของหนูคนนั้นก็ได้พัฒนาขึ้นอีกขั้น  และท้ายที่สุดก็ทำให้เขากลายเป็นนักแกะสลักระดับแกรนมาสเตอร์   ด้วยเรื่องๆนี้  พล็อกก็จัดได้ว่าเป็นนักเรียนคนหนึ่งของปู่”

‘เลนลี’ตกอยู่ในพวังค์

“พร็อก?”

ตอนนี้  ‘เลนลี’สั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย   ‘พร็อก’  ผู้ชายที่ได้รับการยอมรับผ่านช่วงเวลาหลายยุคหาลายสมัครว่าเป็นนักแกะสลักที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์  นั่นเป็นนักเรียนของ’ด็อกรินโคเวิร์ท’

“แน่นอน  ใครก็ตามสามารถบอกผลงานของพร็อกเป็นการพยายามเพื่อให้ออกมาสมบูรณ์แบบ  งานของปู่ก็คือการพยายามให้ออกมาในสิ่งที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง  ปู่ตั้งชื่อวิธีแกะสลักของปู่ว่า  – โรงเรียนสิ่วตรง –  โรงเรียนสิ่วตรงนั้น  แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากวิธีแกะสลักทั้งหมด  มันจะเป็นการเดินไปในทางที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจนหาที่เปรียบมิได้  วิธีการนี้  ในตอนแรก  จะเหนื่อยมากๆ  แต่เมื่อคนคนนั้นเชี่ยวชาญแล้ว  ก็จะตระหนักได้ถึงผลลัพท์ที่แท้จริงของมัน”

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจปรากฏอยู่บนหน้าของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’   จ้องไปที่เลนลี’  รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’

 “แต่แน่นอน  ในอดีต  ปู่เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของโรงเรียนสิ่วตรง  จากวันนี้ไป  หนูจะเป็นสมาชิกคนที่สอง”

ในใจของ’เลนลี’  ‘เลนลี’ได้มีความเชื่อมั่นในตัวปู่’ด็อกริง ‘ และแน่นอนว่าเขาได้ตัดสินใจที่จะเรียนการแกะสลักกับปู่’ด็อกริง’ไปเรียบร้อยแล้ว   และยิ่งไปกว่านั้น…

ถ้าคำพูดของปู่’ด็อกริง’เป็นความจริง  เขาสามารถที่จะแข็งแกร่งขึ้น  ขณะที่ยังกลายเป็นนักแกะสลักระดับมาสเตอร์ได้  แค่พึ่งทักษะการแกะสลักเพียงอย่างเดียว  เขาก็สามารถที่จะช่วยเหลือค่าเล่าเรียนของน้องชายของเขาได้

“การเขียนตัวอักษรนั้น จากบันทึกประวัติศาสตร์  ก็มีมาไม่กี่หมื่นปีเท่านั้น  แต่สิ่งที่มีช่วงเวลายาวนานมากกว่านั่น  ก่อนที่ระบบการเขียนจะได้ถูกคิดค้นขึ้น  การแกะสลักหินได้มีมานานแล้ว”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’พูดพร้อมทั้งถอนหายใจ

“หนึ่งแสนปี หรือแม้แต่หนึ่งล้านปีที่ผ่านมา  เหล่าบรรพบุรุษของเราจะบันทึกความทรงจำต่างๆและจินตนาการของพวกเขาลงในรูปปั่นต่างๆ  นี้คือวิธีการบันทึกวรรณธรรม และประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุด “

‘เลนลี’พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน   มันไม่มีวัฒธรรมอะไรเลยที่เก่าแก่กว่าการแกะสลักหิน

“ผ่านช่วงเวลามาหลายยุคหลายสมัย  การแกะสลักเป็นเรื่องยากมากๆ ในการที่จะสร้างขึ้นมาเสมอ  และสร้างรูปปั่นให้มีบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครนั้นยากสิ่งกว่า   สิ่งสิ่งต่างๆที่ทำนั้นยากเท่าไร  สิ่งนั้นก็สิ่งมีคุณค่ามากเท่านั้น “

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’พูดออกมาอย่างเต็มด้วยห้วงอารมณ์   ‘เลนลี’เห็นด้วยอยู่ลึกๆในหัวใจด้วยเช่นกัน   ถ้าเขาอยากจะวาดเส้นๆหนึ่ง เขาสามารถทำได้อย่างง่ายดาย  แต่ถ้าเขาต้องการที่จะแกะสลักเส้นเส้นนั้นออกมา  มันจะยากมากๆ เพราะหินนั้นแข็งเกินไป

“รูปร่างของหิน  คุณภาพ  ลายเนื้อ  และผลของการใช้สี  ไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาของมัน  แต่คือประสิทธิภาพทั้งหมดและรูปร่างที่แท้จริงของมัน  เราใช้สิ่วเพื่อลบส่วนเกินและเพื่อให้ความสวยงามตามธรรมชาติเปิดเผยออกมา  นี้คือการแกะสลักหิน”

“วิธีการแกะสลักหินจริงๆแล้วคือหนทางการควบควมพื้นที่ว่าง  และรูปร่าง   เมื่อพูดถึงการแกะสลัก  คนคนนั้นจะต้องแกะสลักจากข้างนอกไปสู่ข้างใน  ค่อยๆเริ่มไปทีละก้าว  วาดรูปร่างจากข้างในอย่างช้าๆ  และจากนั้น  คนคนนั้นจะค่อยๆลบส่วนเกินออกไป  เพื่อให้รูปร่างนั้นเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ  นี้ก็จะเพื่อให้นักแกะสลักรู้สึกถึงงานศิลปะของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ นี้คือ วัฎจักรแห่งความสวยงาม”

……..

เมื่อ’ด็อกริงโคเวิร์ท’ได้เริ่มพูดขึ้น  เขาไม่สามารถหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องแกะสลักได้    แต่’เลนลี’สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า’ด็อกริงโคเวิร์ท’นั้นเคารพในงานศิลปะนี้มากขนาดไหน

“วิธีการแกะสลักส่วนใหญ่จะใช้เครื่องเมื่อมากมาย  สิ่วผีเสือ  สิ่วตรง  สิ่วโค้ง  สิ่วสามเหลี่ยม  มีดตะขอหยก  ค้อน เลื่อย และอื่นๆอีกมากมาย  เหตุผลที่มีเครื่องมือหลากหลายเครื่องมือเพราะว่าหินนั้นมันหนาแน่นและแข็งแกร่ง  ดังนั้น  พวกเขาจะใช้สิ่วผีเสื้อในการวาดรูปร่าง  และสิ่วตรงในการเริ่มตัด  สิ่วสามเหลี่ยมนั้นจะ….”

ฟังจากที่’ด็อกริงโคเวิร์ท’พูด  ‘เลนลี’เริ่มเข้าใจการแกะสลักหินเบื้องต้นมากขึ้น   จู่ๆ’ด็อกริงโคเวิร์ท’ก็หัวเราะขึ้น

“แต่วิธีการแกะสลักหินของปู่นั้นแต่งตากจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง  นี้เพราะว่าการวิธีแกะสลักหินของปู่นั้นใช้เครื่องมือเพียงแค่เครื่องมือเดียว  สิ่วตรง!  นี้คือสามารถที่ปู่ได้ตั้งชื่อวิธีการแกะสลักของปู่ว่า  โรงเรียนสิ่วตรง”

“มันจะเป็นไปได้ได้อย่างไร?  ปู่แกะสลักใช้แค่สิ่วตรง? “

‘เลนลี’เถียงขึ้น

“ปู่เพิ่งพูดกับตัวปู่เองว่า มีเครื่องมือจำนวนมากที่จำเป็นต้องใช้ เช่น  ขนาดของปลา  ปู่จะใช้สิ่วตรงในการแกะสลักสิ่งนั้นได้ยอ่างไร  มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรอกหรอฮะ?”

“ผิดแล้ว  ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่สามารถทำได้  แต่พวกเรา เมกัจธาตุดิน  ทำได้”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’พูดอย่างภูมิ

“นักเวทธาตุดินสามารถสัมพันทุกสุดสวนของรูปร่างหินได้ทั้งหมด  ด้วยแรงเอวที่เพียงพอ  พวกเราสามารถแกะสลักรูปปั่นหิน  ใช้แค่สิ่วตรง  แต่แน่นอน  โรงเรียนสิ่วตรง ไม่ใช่ใครก็จะเข้าได้ง่ายๆ  วันนี้  ภารกิจของหนูคือไปซื้อสิ่วตรงที่มีความคมเพียงพอ  จากวันนี้เป้นต้นไป  ทุกๆวัน  ปู่จะใช้เวลาสามชั่วโมงสอนหนูในการเรียนวิธีการแกะสลัก”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments