I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Coiling Dragon (盘龙) ตอนที่ 48 หกปี

| Coiling Dragon (盘龙) | 686 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

น้ำไหลหมุ่นวนไปเรื่อยๆขณะที่’เลนลี’นั่งขัดสมาสอยู่ข้างๆ  ในมือของเขาถือสิ่วตรงและหินขนาดเท่าฝ่ามือของเขา

“เริ่มจากขั้นแรก  ผมจะเริ่มจากการใช้หินก้อนเล็กๆ  ขณะที่ผมเริ่มฝึกฝน…”

‘เลนลี’นั่งที่นี้คนเดียวในภูเขาข้างหลังสถาบันเอิร์น  ภายใต้การสอนของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’  เขาเริ่มเรียนศิลปะการแกะสลัก  ขณะที่เขาเริ่มเข้าใจมากขึ้นเรื่อยเกี่ยวกับศาสตร์นี้  ‘เลนลี’เริ่มเข้าใจด้วยเช่นกันว่าทำไมขั้นสุดท้าย  ของโรงเรียนซิ่วตรงนั้นมีส่วนทำให้สปิริตของคนคนนั้นเพิ่มขึ้น

เมื่อคนอื่นแกะสลัก  พวกเขาจำเป็นต้องใช้กองเครื่องมือขนาดใหญ่   พวกเขาต้องใช้เวลาจำนวนมาก  แรงใจ  แค่เพื่อตัดสินว่าเครื่องมือไหนควรใช้ที่ไหน  ตามธรรมชาติแล้ว  นี้จะเป็นสิ่งที่เหนื่อยล้ามากๆ

ทุกๆงานอาร์ตแต่ละชิ้นแสดงถึง เลือดเนื้อและผลของการพยายาม   แต่โรงเรียนสิ่วตรงนั้น แตกต่าง   เครื่องมีแค่อันเดียวที่ใช้คือ  สิ่วตรง  ดังนั้น  ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดว่าเครื่องมืออะไรควรใช้เพื่ออะไร

โดยธรรมชาติแล้ว  ระดับความยากจะสูงขึ้นอย่างมาก ในการใช้เครื่องมือแค่อันเดียว  ยกตัวอย่างเช่น  ใช้สิ่วตรงในการแกะสลัก  ที่โดยธรรมดานั้นไว้สำหรับมีดตะขอ  มันจะใช้ หลักการความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากๆ

และการเข้าใจรูปร่างโดยพื้นฐานของก้อนหิน   ยิ่งไปกว่านั้น  พละกำลังที่มากมายก็เป็นสิ่งจำเป็น   ถ้าคนคนนั้นพยายามจะใช้แค่สิ่วตรงบนงานชิ้นใหญ่ๆ  โดยงานนั่นเป็นธรรมดาที่จำเป็นต้องใช้เลื่อยในการตัดมัน

คนคนนั้นจำเป็นจะต้องใช้พละกำลังที่เพียงพอ   คนคนนั้นสามารถใช้คุณสมบัติที่พิเศษของเมกัสธาตุดินเชื่อมต่อกับดินเพื่อเข้าใจในสสารของก้อนหิน  แต่แรงที่ลำตัวก็จำเป็นที่จะต้องฝึกฝน

สำหรับเมกัสระดับสอง  แรงที่ลำตัวของ’เลนลี’ไม่ได้แย่อะไร  แต่มันเพียงพอแค่แกะสลักงานชิ้นเล็กมากๆเท่านั้น  ถ้าเขาต้องการที่จะแกะสลักอะไรตามที่มีขนาดใหญ่  แรงที่ลำตัวนั้นจะไม่เพียงพอ   แต่ยังไงก็ตาม   ตอนนี้  ‘เลนลี’แค่ฝึกขั้นพื้นฐาน

………….

เมื่อฤดูการศึกษาจบลง  ‘เลนลี’กลับไปเมืองวูซาน   หลังจากปีใหม่  ‘วาร์ตอน’และพี่ชายของ’วาร์ตอน’ ‘เลนลี’  ได้มีเวลาแค่เพียงไม่กี่วันโดยการอยู่ร่วมกัน  และจากนั้น  ภายใต้ฤกษ์งามยามดีของพ่อบ้าน’ไฮริ’  ‘วาร์ตอน’ได้เดินทางตรงไปยังอาณาจักรโอไบรเอ็น

‘เลนลี’ไม่มีทางเลือกได้แต่จ้องมองตาละห้อยดู’วาร์ตอน’ตัวจ้อยจากไป  ‘วาร์อน’ตัวจ้อยหกขวบร้องไห้ไม่หยุดหย่อยต้องจากกับพี่ชาย’เลนลี’วัยสิบขวบและเดินทางตรงออกไป   เวลาผ่านไป-

‘เลนลี’ยังคงเป็นบุคคลโดดเดี่ยวในสถาบันเอิร์น  เวลาส่วนใหญ่ของเขาในแต่ละวันจะใช้ในการฝึกฝนขยันขันแข็งที่ภูเขาหลังโรงเรียน   เข้าสู่ช่วงการเติบโตเด็กวัยรุ่น  ความอยากอาหารของ’เลนลี’เพิ่มขึ้นอย่างมากมายหมายศษล

และเขาเริ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน  พละกำลังแรงกายของเขา และกล้ามเนื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ในศิลปะของการแกะสลักหิน  ด้วยการสอนของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’ และสองมือที่ตรากตรำทำงาน  ‘เลนลี’เริ่มพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

…………..

เมื่อฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไป  ฤดูใบไม้ก็ได้เข้ามา  ดอกไม้ต่างๆบานสะพรั่ง  ดอกไม้ต่างๆที่แห้งเหี่ยว  ภายในช่วงเวลาพริบตา  เวลาสามปีได้ผ่านไปแล้ว   ในน้ำตรงในภูเขาหลังสถาบันเอิร์น

“ซู – ซู่”

เหมือนกับเสียงของน้ำดังสนั่น  น้ำตกไหล่ป่าลงมา  ปะทะอย่างแรงลึกเข้าในบ่อน้ำ   ‘เลนลี’นั่งถัดากน้ำตก  ถือสิ่วตรง  สามสิบเซนติเมตร ไว้ในมือของเขา  ขณะที่เขาตัดเฉียนผ่านหินบล็อกขนาดเท่าคน

สิ่วตรงในมือของเขา  เหมือนเต้นรำในท่วงท่าที่แทบจะเหมือนมายา  ทุกๆที่ที่สิ่วตรงเลื่อนผ่าน  เห็นหินจำนวนเล็กๆน้อยๆหลุดออกและตกลงเบื้องล่าง    โครงร่างขั้นแรกของรูปปั่นที่ทำจากหินเริ่มเห็นเป็นสัดส่วน

เขาทำตั้งแต่ เช้ายันเย็น  และลักษณะรูปปั่นเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ   สายตา’เลนลี’จ้องมองไปที่ก้อนหินอย่างไม่ขยับ  ในชั่วขณะนี้  ทั่วทั้งร่างของเขาได้จับจ้องไปยังก้อนหิน  และ  ซึมซำมัน  ขณะที่หัวใจเขาได้หลอมหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับภายในก้อนหิน  ความรู้สึกที่มหัศจรรย์นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้’เลนลี’ไม่แม้แต่จะสังเกตุเวลาที่ล่วงเลยไป

การรับรู้นี้เริ่มกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติทั้งหมด เป็นสาเหตุให้พลังสปิริตของ’เลนลี’เริ่มฟื้นฟูและ ยังพัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติจากภายใน   แต่’เลนลี’ตัวเขาเองนั้นไม่ได้สังเกตในสิ่งๆนี้  ขณะที่เขาใช้สิ่วตรง และฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อนกับรูปปั่นนี้

ชิ้นส่วนเกินต่างๆของก้อนหินหลุดล่วงลงมาเรื่อยๆ  เป็นสาเหตุให้รายละเอียดส่วนต่างๆของรูปปั่นชัดเจนขึ้น  เมื่อถึงเวลาที่พระอาทิตย์ตก  สิ่วตรงในมือของ’เลนลี’ในที่สุดก็หยุดลง

“โว้ววว!”

‘เลนลี’ถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา และปัดชิ้นส่วนเกินเล็กๆของก้อนหินที่ยังคงอยู่  ออกมา  รูปปั่นทั้งตัวนั้นได้กลายเป็นรูปเป็นร่าง  หนูที่ยาวครึ่งเมตรดูเหมือนมีชีวิต ปรากฏอยู่ข้างหน้า’เลนลี’  ในการลำเลือกมองนั้น  คนคนนั้นอาจจะมองพลาดไปว่าเป็นหนูจริงๆ  นี้เป็นสาเหตุให้ชาร์โดว์เมาส์ตัวจ้อย หนูปิ๊ เริ่มส่งเสียงจี๊ดๆดังๆ   ตั้งแต่แรกจนเสร็จ  นี้สำเร็จด้วยการทำโดยครั้งเดียว

“ช่างเป็นความรู้สึกที่น่าประหลาดใจจริงๆ”

เพียงแต่ตอนนี้ที่’เลนลี’ตระหนักได้ถึงคุณภาพปิริตของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ในชุดเสื้อคลุมยาวสีขาวยิ้มให้กำลังใจเขา จากข้างๆ

“เลนลี  เริ่มต้นจากวันนี้  หนูเพิ่งจะสามารถเชี่ยวชาญในด้านพื้นฐาน  หนูรู้สึกอะไรพิเศษๆบ้างหรือยัง?  แต่งานของหนูสามารถมองได้ว่าเป็นแค่  งานศิลปะเทียมๆทั่วไป  มันแค่เหมาะสำหรับถูกวางไว้ในตึกระดับมาตราฐานที่สถาบันพร็อก  ถ้าหนูจะนำมันไปแสดงที่นั้น  ปู่คงต้องขายหน้าแน่ๆ  ทำลายมันไปซะ”

“ฮะ  ปู่ด็อกริง”

สิ่วตรงในมือของ’เลนลี’  เกิดแสงวูบวาบจำนวนมาก  และจู่ๆ  รูปปั่นก็แตกออกไปมากกว่าสิบชิ้น  ในปีนี้ ในที่สุด’เลนลี’ก็เชี่ยวชาญในระดับพื้นฐานของการแกะสลักหิน   และในปีนี้  ‘เลนลี’ก็อายุสิบสามขวบแล้ว

วันแล้ววันเล่า  ปีแล้วปีเล่า   หลังจากเชี่ยวชาญในด้านพื้นฐานของการแกะสลักหิน  คุณภาพสปิริตของ’เลนลี’ก็ได้เพิ่มขึ้นมาก  ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว  ยิ่งไปกว่านั้น  เมื่อ’เลนลี’เก้าขวบครึ่ง  เขาได้เป็นเมกัสระดับสอง  และเมื่อเขาสิบเอ็ดขวบ  เขาได้เป็นเมกัสระดับสาม  และเมื่อเขาอายุสิบสาม  เขาได้เป็นเมกัสระดับสี่!

นักเวทมันจะยากมากขึ้นเรื่อยๆในการพัฒนาระดับ  ขณะที่เขาเพิ่มพลังมากขึ้นเรื่อยๆ  เป็นการพูดอย่างที่ถูกต้อง  จากระดับสี่ไประดับห้า   ‘เลนลี’ควรจะใช้เวลาอย่างต่ำสามปี   แต่ความจริงแล้ว  …

ในปี  9996  ของปฏิทินทวีปยูแลน  เมื่อ’เลนลี’สิบสี่ขวบครึ่ง  เขาได้ก้าวถึงเมกัสระดับห้าแล้ว   จากระดับสี่ไประดับห้า  เขาใช้เพียงแค่หนึ่งปีครึ่ง  นี้มันรวดเร็วมากกว่า  เมื่อเขาพัฒนาจากระดับสามไประดับสี่   นี้คือผลมาจากการเข้าเรียนโรงเรียนสิ่วตรง!

……….

ปี 9997 ของปฏิทินยูแลนคือปีที่’เลนลี’ได้ใช้ชีวิตอยู่ในสถาบันเอิร์นเป็นเวลา  7 ปี    ใส่เสือคลุมยาวสีน้ำเงินฟ้า  ‘เลนลี’เดินอยู่บนถนนภายในสถาบันเอิร์น บนไหล่’เลนลี’ มีชาโดว์เมาส์ตัวจ้อย  หนูบิ๊  ที่กำลังยืนอยู่

ถึงแม้ว่า  หกเจ็ดปีผ่านไปแล้ว  ร่างกายของหนูปิ๊ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย   ตอนนี้ ‘เลนลี’ได้สูง  180 เซ็นติเมตร  และ  ได้แผ่บรรยายกาศที่มั่นคงหนักแน่นออกมา

คุณสมบัติธาตุดินและลมได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องในร่างกายของเขา  บวกกับการที่’เลนลี’ฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อน  และข้อได้เปรียบที่ได้จากเชื้อสายของนักรบเลือดมังกร  ‘เลนลี’ได้กลายเป็นนักรบระดับสี่เรียบร้อยแล้ว   เขาสามารถยกก้อนหินใหญ่ที่หนักหนึ่งร้อยปอนด์ไอย่างง่ายๆ  และทำให้มันแตกได้ด้วยหมัดของเขา

การศึกษาด้านการแกะสลักในโรงเรียนสิ่วตรงได้ทำให้  คุณภาพสปิริตของ’เลนลี’เพิ่มขึ้นตลอดเวลา  ตั้งแต่ตอนเขาเพิ่งจะสิบสามขวบ   ในต้นปี 9997 ของปฏิทินยูแลน  ‘เลนลี’ได้เข้าคลาสเรียนเกรดห้าในสถาบันเอิร์น  เป็นเกรดเดียวกับอัจฉริยะอันดับหนึ่ง ‘ดีซี่’

‘ดีซี’นั้นใช้เวลาสามปีในการไต่ระดับจาก ระดับสี่ไประดับห้า  แต่จนถึงตอนนี้  เขาก็ยังคงไม่สามารถเพิ่มระดับจากห้าเป็นหกได้   อายุสิบห้าขวบ  เมกัสระดับห้า!

‘เลนลี’และ’ดีซี่’ทั้งคู่จัดได้ว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดของธรรมชาติ อย่างแน่นอน  แต่ภายในความคิดของคนส่วนใหญ่  ‘เลนลี’นั้นแปลกประหลาดมากยิ่งกว่านั้น  เพราะว่า  ตั้งแต่วันที่เขาได้ประเมิณความสามารถของระดับสี่นั่น

เขาได้ใช้เวลาเพียงแค่ปีครึ่ง ก่อนที่จะเข้าถึงระดับห้า   อัตราความน่าประหลาดใจของ’เลนลี’เพิ่มขึ้นจนได้ทำให้ทุกๆคนช็อค   ตอนนี้’เลนลี’ได้มีอันดับแบบเดียวกับ’ดีซี่’ ขณะที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปว่าเป็น

“สองสุดยอดอัจฉริยะ  แห่งสถาบันเอิร์น”

“ดูนั่นสิ  นั่นคือเลนลี  สองปีที่ผ่านมา  เขาได้เป็นเมกัสระดับสี่  และแค่เพียงปีที่แล้ว  เขาได้เป็นเมกัสระดับห้า  แค่เพียงปีเดียว!!  เหลือเชื่อเกินไปแล้ว   ฉันคิดว่านะ เลนลีอาจจะเป็นเมกัสระดับหกก่อนดีซีก็ได้”

“เป็นไปได้มากเลยทีเดียว  จากการพัฒนาอันน่าตกใจของเลนลี  เป็นไปได้มากที่เขาจะเข้ามาแทนที่ดีซี่  และกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสถาบันเอิร์น”

…………

บนถนนมีคนมากมายที่ได้เห็น’เลนลี’  และเริ่มคุยกันเกี่ยวกับ’เลนลี’ ในหมู่พวกเขาเอง  ขณะที่คนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะในสถาบันเอิร์น  ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน  ผู้คนจะพูดคุยถึงเขา  แต่ถึงแม้ความแข็งแกร่งของ’เลนลี’จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธที่จะเข้าเริ่มการแข่งขันประจำปี

“อัจฉริยะ?”

‘เลนลี’ยิ้มเยาะให้ตัวเขาเอง   ‘เลนลี’ไม่เคยเลยที่จะคิดว่าตัวเขาเองเป็นอัจฉริยะ  ความแข็งแกร่งของเขามาจากการฝึกฝนอย่างหนักทุกๆวัน  ในเวลาเจ็ดปี  เขาได้ฝึกอย่างหนักมาโดยตลอดเหมือนดั่งวันแรก  และนั่นรวมกับการแนะนำสั่งสอนจาก’ด็อกริงโคเวิร์ท’ ที่ทำให้เขามีความสำเร็จดั่งทุกวันนี้

“แต่ตอนนี้  ความแข็งแกร่งของผมจริงๆแล้วก็ยังน้อยกว่าของหนูปิ๊”

‘เลนลี’จ้องไปที่หนูปิ๊บนไหล่ของเขา

“หนูปิ๊  พลังของแกถึงระดับไหนแล้วละ?”

“จี๊ดๆ”

หนูปิ๊จิ้มให้’เลนลี’  จากนั้นสื่อสารถึงเขาผ่านจิตใจ

“ปิ๊ก็ไม่รู้เหมือนกัน  ปิ๊ไม่เคยสู้กับสัตว์เวทตัวไหนมาก่อนเลย  แต่ ลูกพี่เทียบปิ๊ไม่ได้เลย  อิอิ”

หนูปิ๊มั่นใจในตัวเองอย่างมาก   ไม่สนใจแววตาเทินทูนตั้งหมดที่จับจ้องมาที่เขาจากผู้คนต่างๆมากมาย  ‘เลนลี’ออกจากประตูหลังของสถาบันเอิร์นอย่างสงบ  เป็นการเริ่มการฝึกอันสันโดษของเขาอีกครั้งหนึ่ง  หกปีที่ผ่านมาคือหกปีซึ่งผ่านไปเหมือนเดิมถึงวัน  เป็นสาเหตุของความสำเร็จ

‘เลนลี’เคลื่อนผ่านอย่างธรรมชาติและรวดเร็ซเข้าไปในป่า  ขณะที่ชาร์โดว์เมาส์ตัวจ้อยหนูปิ๊เริ่มคุยกับเขาอย่างไม่หยุดหย่อนผ่านการเชื่อมต่อภายในจิตใจของพวกเขา

“ลูกพี่ เมื่อไรพวกเราจะไปเทอกเขาสัตว์เวทเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเราละ ลูกพี่เป็นเมกัสระดับห้าแล้วนะ  ลูกพี่สามารถเริ่มทดสอบตัวเองได้แล้ว  และ ปิ๊ก็จะสามารถโชว์ทักษะเท่ห์ๆ ได้ในที่สู๊ดด”

“อย่ารีบ”

คำตอบของ’เลนลี’สั้นมากๆ

“ลูกพี่ทำร้ายหัวใจปิ๊ โอ้  ปิ๊เป็นสัตว์เวท  แต่ปิ๊ไม่เคยได้ไปเทือกเขาสัตว์เวทแม้แต่ครั้งเดียว  ช่างแสนเศร้า!”

หลังจากหกปี  ความสามารถขอหนูปิ๊ในการสื่อสาร ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เงียบเลย  ถ้าแกยังก่อกวนอีก  ตั้งแต่วันนี้ไป  ข้าจะไม่ช่วยแกทำอาหารอีก”

ทันทีที่’เลนลี’พูดคำคำนี้  หนูปิ๊หุบปากของมันและไม่ทำเสียงใดๆเลย   หลังจากเข้าสู่หุบเขา  ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ ปรากฏขึ้นข้างๆ  กำลังมอง’เลนลี’ ภายในใจของ’ด็อกริงโคเวิร์ท’  ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’รู้สึก  พอใจอย่างมากๆ

“เลนลี”

จู่ๆ ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ก็พูดขึ้น   ‘เลนลี’หันหัวและยิ้มให้’ด็อกริงโคเวิร์ท’ ขณะที่เขาสื่อสารในจิตใจถึงปู่’ด็อกริง’

“ปู่ด็อกริง  มีอะไรหรอฮะ”

‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ยิ้ม

“ตามงานศิลป์ของหนู  ปู่สามารถยืนยันอย่างเป็นทางการว่าการแกะสลักหินของหนูได้ผ่านถึงขั้นเริ่มต้นแล้ว”

ตาของ’เลนลี’ช่องประกายออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ   ปู่’ด็อกริง’ของเขามีอารมณ์ที่แปลกประหลาด  งานศิลปะทุกๆงานที่ไม่ถึงมาตราฐานที่แท้จริงของเขา  จะต้องถูกทำลายโดยทันที  จากคำคำพูดของเขา

“ถ้างานศิลป์เหล่านี้ปรากฏขึ้นบนโลก  พวกนี้จะทำให้โรงเรียนสิ่วตรงของปู่ ขายขี้หน้า  และ  สำหรับปู่เอง  แกรนเมกัสระดับเซียน ก็ขายหน้าเขาด้วยเช่นกัน”

ดังนั้น  ‘เลนลี’ได้ถูกบังคับให้ทำลายทุกๆงานแกะสลักที่เขาทำขึ้น  ถึงแม้ว่าเหล่านั้นจะสามารถเอาไปขายทำเงินได้บ้างก็ตาม

“ถึงขั้นเริ่มต้น?  ปู่ด็อกริง ปู่หมายควาว่า…”

‘เลนลี’จ้องไปที่ปู่’ด็อกริง’อย่างประหลาดใจ   ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’พยักหน้าอย่างดีใจ  ใช่แล้วเริ่มจากวันนี้  หลังจากหนูแกะสลักรูปปั่นหินเสร็จ  หนูไม่จำเป็นต้องทำลายมัน  สิ่งเหล่านั้นควรค่าแค่การอยู่ในโลกใบนี้

โดยธรรมดาแล้ว  ถ้าหนูต้องการ  หนูสามารถส่งงานแกะสลักของหนูไปที่พร็อกแกลอรี่  เพื่อขายมัน  และจากนั้นเริ่มสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนสิ่วตรงของเรา  ในเวลาเดียวกัน  หนูสามารถทำเงินเล็กๆน้อยๆ ให้กับตัวเองได้ด้วย

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments