ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘ซู่รู่’ ปรากฏในชุดขาว น่านางเรียวดั่งจิ้งจอก เห็นได้ชัดว่านางแตกต่างจากคนทั่วๆไป
เมื่อ’ซู่รู่’มาปรากฏ การแสดงของเหล่าอาวุโสต่างทำหน้าเครียด
คุกเหล็กที่ไว้ขัง นักโทษ ฉกรรจ์ ไม่มีผู้ใดกล้าบุกรุกเข้ามา แต่’ซุูรู่’กับกระทำเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ
” แม่นาง ซูรู่ ช่างเป็นแขกที่พบได้ยากจริงๆ ข้าสงสัยว่าท่านมีธุรอันใดที่แผนก ลงทัณฑ์ ของข้า “
ถึงแม้ว่าเค้าจะรู้ว่า ‘ซู่รู่’ไม่ได้มาดี แต่เนื่องจากเบื้องหลังของนางแม้แต่’หลิว เฉิงเจิน’ก็ต้องยิ้มต้อนรับเธอ
” แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ท่านสามารถช่วยข้าได้หรือไม่ “
‘ซู่รู่’ส่งรอยยิ้มที่แสนจะมีเสน่ห์แฝงไปด้วยเลศนัย อาวุโสจำนวนมากต่างยากที่จะรับมือนาง
” ถ้ามีเรื่องอันใดโปรดบอกมาเถิด ข้าจะทำให้สุดความสามารถ “
‘หลิว เฉิงเจิน’ยิ้มและกล่าว
” ข้าต้องการให้ท่านปล่อยชูเฟิงไป “
‘ซูรู่’ ยิ้มเบาๆและกล่าวว่า
กับคำพูดนั้น ไม่เพียงแต่คนอื่นๆ แม้แต่’หลิว เฉิงเจิน’ ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม กลับเปลี่ยนแปลงในทันที
” ซู่รู่ ท่านพูดเรื่องบ้าอะไร ? ท่านรู้ไม๊ว่า ชูเฟิงก่อเรื่อง ? “
‘หลิว เฉิงเจิน’ซีเรียสเป็นอย่างมาก
” ไม่ว่าเขาจะทำอะไรไว้ ยังไงวันนี้ข้าก็จะพาเค้าออกไป “
‘ซู่รู่’ทำหน้าจริงจัง
” ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้เป็นครั้งที่สอง ต่อให้พระเจ้ามาเอง ข้าก็ไม่คิดจะปล่อย ชูเฟิง ไป “
‘หลิว เฉิงเจิน’โบกมือของเค้าให้คนจัดการกับ ‘ชูเฟิง’ โดยไม่สนใจ ‘ซู่รู่’
” ท่านซู่รู่โปรดหลีกทาง “
อาวุโสหลายคนยิ้มให้’ซู่รู่’พร้อมบอกให้นาง ถอยไป
” อ้า ! “
แต่ก่อนที่พวกเค้าจะเข้ามาถึง ‘ซู่รู่’ ก็ปล่อยแรงดันวิญญาณออกจากร่างของนาง
เหมือนกับพายุที่หมุนรอบๆตัว เข้าปะทะกับคุกเหล็ก
เมื่อแรงดันวิญญาณถูกปล่อยออกมา อาวุโสจำนวนมาก กลิ้งลงกับพื้นพร้อมกับกระอักเลือด
แม้แต่’หลิว เฉิงเจิน’ยังยืนลำบาก
ในตอนนั้น ‘ซู่รู่’ ก็พุ่งเข้าไป ผมยาวสีดำของนางสะบัดขึ้น ลง ชุดคลุมยาวสีขาวปลิวไสวราวกับว่านางเป็นเทพธิดาบินลงมา
เมื่อนางถึงพื้นนางใช้สายตาจ้องอย่างเย็นชา
” ข้าจะไม่พูดซ้ำ เจ้าจงปล่อย ซูเฟิง ซะไม่ว่าเจ้าจะยินดีหรือไม่ “
” ซู่รู่ วันนี้ข้าจะไม่ยอมเจ้า!!! “
‘หลิว เฉิงเจิน’โกรธอย่างมาก เค้าปล่อยแรงดันวิญญาณระเบิดออกมาปกคลุม คุกเหล็ก
* ปั้งงงง * เสียงดังก้อง
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ได้ยินเสียงในหูของเค้า ดังมาจากทุกทิศทุกทาง
เค้าพบว่า คุกเหล็กที่แข็งแกร่งกับสั่นอย่างรุนแรง มันไม่สามารถต้านทานแรงดันวิญญาณจากพวกเค้าทั้งสองได้
ภายใต้แรงดันวิญญานนี้ แม้แต่ระดับ กำเนิดวิญญาณ ก็ยังทนแทบไม่ไหว พวกเค้าจับหัวตะโกนด้วยความเจ็บปวด
แต่ ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เนื่องจากกลิ่นอายที่อบอุ่นปกคลุมรอบตัวเค้า เห็นได้ชัดว่า ‘ซู่รู่’กำลังปกป้องเขา
” หลิว เฉิงเจิน ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกท่านนะ แต่ตอนนี้ท่านยังไม่สามารถสู้กับข้าได้ “
จู่ๆ ‘ซู่รู่’ก็ก้าวไปข้างหน้า เมื่อเท้าของนางสัมผัสกับพื้น พื้นที่นางเหยียบก็เกิดรอยแตกร้าวค่อยๆขยายออก
นางพุ่งไปด้วยความรวดเร๋ว ภายในพริบตานางก็มาถึงตัว ‘หลิว เฉิงเจิน’
* บู้ม *
” อ้า ! “
‘หลิว เฉิงเจิน’ กระเด็นไปติดกับกับผนังเหล็ก ปากของเค้ากระอักเลือดออกมา
” เจ้า . . . .เจ้าทำไมถึงทำเช่นนี้ เจ้ายังเป็นอาวุโสฝ่ายในอยู่หรือไม่ ? “
‘หลิว เฉิงเจิน’จ้อง’ซู่รู่’อย่างนิ่งเฉยภายในดวงตาเค้าบอกได้เลยว่าเค้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เนื่องจากความแข็งแกร่งของนางเกินกว่าที่เค้าคิดไว้
” มีหลายเรื่องที่เจ้าไม่ควรถาม “
‘ซู่รู่’เหยียดหยัน ‘หลิว เฉิงเจิน’อย่างรวดเร็ว และ รีบสะบัดมือไปทิศนางของ’ชูเฟิง’
เป็นไงบ้าง ‘ชูเฟิง’!!! โซ่ เหล็กในมือ’ชูเฟิง’ถูกตัด เมื่อเค้าถูกปล่อยตัวทันทีเค้าก็ล่วงลงที่พื้น
แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะไม่รู้เหตุผลว่า ‘ซู่รู่’ทำไมถึงมาช่วยเค้า
แต่เห็นได้ชัดว่านางอยู่ข้างเค้าในตอนนี้ และนางเป็นคนเดียวที่รับรองความปลอดภัยของเค้าได้ในเวลานี้
‘ชูเฟิง’ มองรอยแตกที่พื้น และสูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรง
คุกเหล็กทั้งหมดที่แน่นหนา ‘ซู่รู่’ยังสามารถทำลายได้ ‘ซู่รู่’นางแข็งแกร่งขนาดไหนกัน!!!
‘ชูเฟิง’ ไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายเท่าไหร่เค้ามองไปที่น่าของ’ซู่รู่’ที่ยืนยิ้มให้กับเค้า
ทันใดนั้นนางก็คว้ามือของ ‘ชูเฟิง’และดึงเค้าออกไป
เมื่อ’ชูเฟิง’อยู่ใกล้ๆนาง เค้าก็พบว่า ‘ซู่รู่’เป็นคนที่สวยอย่างมาก
แม้ว่าน่านางจะไม่อ่อนหวานเหมือน’ซู่เหม่ย’แต่ก็ไม่ได้แย่นัก แต่’ซูเหม่ย’ยังเด็กนัก
ดังนั้นนางนี้และที่เหมาะที่จะทำ . . . . . .
ทั้งร่างกายของนางดูเป็นผู้ใหญ่ ทั้งทรวดทรงองค์เอวที่แสนจะมีเสน่ห์ในแบบผู้ใหญ่ ยิ่งกลิ่นกายของนางที่แสนจะยั่วยวน
* อ้าาา ฟินนน *
ทันทีที่ ‘ชูเฟิง’ ตกลงไปภายใต้กลิ่นหอมของนาง
‘ซู่รู้’ก็หยุด และมองกลับมาที่ ‘หลิว เฉิงเจิน’ และกล่าวกับเขาว่า
” อย่าได้แม้แต่จะคิด ที่จะโจมตีตะกูล ชู ไม่ว่าใครก็ตาม “
” ถ้าเกิดเจ้ายังกล้าลงมือ ไม่ใช่แค่เจ้า กับหลานเจ้าที่จะเดือดร้อน ข้าจะลบตะกูลหลิวของเจ้าออกจาก เมืองมังกรฟ้า !!!”
” ซู่รู่ เจ้าอย่าได้บีบขั้นข้า ถ้าเจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าก็จะไม่มีใครจะได้ประโยชน์ “
‘หลิว เฉิงเจิน’จ้องพร้อมตะโกนด้วยความโกรธ
” โอ้ ถ้างั้นเจ้าก็ลองดูสิที่ข้าพูดไปข้าจะทำจริงไม๊ ข้าสามารถมาพบเจ้าได้ทุกเมื่อ “
‘ซูรู่’พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะเย็นชา เมื่อนางพูดจบนางก็พา ‘ชูเฟิง’ออกจาก คุกเหล็ก ของ ‘หลิว เฉิงเจิน’
หลังจากที่’ซู่รู่’ออกไป ‘หลิว เฉิงเจิน’ ก็ทำหน้าเหมือนกับลูกบอลที่ไม่ได้เป่าลม เหี่ยว และมองที่พื้นด้วยความว่างเปล่า
หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็ยิ้มพร้อมกับน้ำตา เมื่อเค้านึกไปถึงตะกูลหลิวเมื่อก่อน
แต่ตอนนี้กับต้องยอมก้มหัวให้กับ ตะกูล ซู่ ตอนนี้เค้าก็เหมือนกับมดตัวน้อยๆตัวหนึ่ง ไม่มีศักดิ์ศรีใดๆหลงเหลือ
วันนี้เค้าต้องยอมกล้ำกลืนน้ำลายของตัวเอง เขาเหมือนถูกตอกตะปู จากคำพูดของ ‘ซูรู่’
เค้าไม่สามารถลงมือทำการใดๆได้ เพราะ . . . . . . .เค้าไม่ต้องการให้ตะกูลของเค้าถูกทำลายจนหมดสิ้น
ตำหนัก ของอาวุโส ‘ซู่รู่’ กำลังชงชา . . . .
‘ชูเฟิง’นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับเอาขาไคว่ห้างและกระดิกๆ
เขาจ้อง ‘ซู่รู่ ‘แต่สายตาเค้ามองไปที่ลูกกลมๆที่แสนจะเรียบเนียนด้านล่าง และขาของนางที่เรียวยาว ขาว เนียน
ความรู้สึกที่ชั่วร้ายถูกซ่อนไว้ใต้กางเกงของเค้า
” เห้อ ถ้านางเป็นผู้หญิงของข้านะ ชูเฟิงได้แต่ถอนหายใจ คนที่สามารถจับต้องร่างกายที่งดงามเช่นนี้ช่างโชคดีจริงๆ!!!”
กับความคิดดังกล่าว….
ถ้าหากนางต้องเปลื้องผ้าคงจะเผยให้เห็นผิวขาวของนางและทรวดทรงของนางที่แสนจะเพอร์เฟค
‘ชูเฟิง’คิดว่าคนที่ได้นางไปครอบครองนับว่าโชคดียิ่ง แต่เค้าก็รู้ว่าทำได้แค่คิด
เพราะว่า’ซู่รู่’ไม่ใช่หญิงธรรมดาๆทั่วไป นางเปรียบเสมือน เทพธิดาของสาวกจำนวนมาก
แม้แต่ศิษย์หลักก็ยังหลงไหลในความงามของนางและไล่ตามขายขนมจีบให้กับนาง
แต่จนมาถึงบัดนี้ ยังไม่มีใครที่สามารถชนะใจนางได้
ดังนั้น นางจึงไม่สนใจคนธรรมดาๆทั่วไป นางยังไม่เห็นว่าใครที่เหมาะสมกับนาง
หลังจากที่’ชูเฟิง’คิดไปคิดมา คงแต่มีต้อง ทุบ แล้วลากเท่านั้น เค้าไม่รอช้า ระหว่างที่ ซูรู่กำลังชงชา
เค้าเข้าไปด้านหลังพร้อมกับ ไม้ในมือจากนั้นเค้าก็ ….
อันนี้คนแปล จินตนาการเอาเองครับ !!!โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .
ที่มา: