ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” เอ้า ดื่มชาสักหน่อยจะได้รู้สึกดีขึ้น “
‘ซู่รู่’ยื่นชาให้’ชูเฟิง’
” ขอบคุณศิษย์พี่ซูรู่ ข้ากำลังหิวน้ำพอดี “
‘ชูเฟิง’ รับถ้วยน้ำชาและเทเข้าปากของเขา แต่ความกระหายของเค้ายังไม่พอ
” ข้าขออีกถ้วยได้ไม๊ “
” ได้สิ “
‘ซูรู่’ เทชาใส่่ชามของ’ชูเฟิง’ เค้าก็เทเข้าปากอย่างรวดเร็ว
หลังจากดื่มชาเสร็จเค้าก็เช็ดปากแล้วกับเรอ ออกมาอย่างน่าเกียจ
เห็น’ชูเฟิง’ทำตัวตามสบาย ‘ซูรู่’ ประหลาดใจอย่างมาก
” ทำไมชายคนนี้ถึงได้กล้า ? หรือว่าเค้าแค่กระหายน้ำ “
นางเห็นชายหนุ่ม ตรงหน้านางแสดงกริยาคุกคาม ขณะที่อายุเท่านี้
ความเข้าใจสถาณการณ์และความเฉียบแหลมของเค้าช่างแตกต่างกับคนอื่น
มากกว่าที่เธอคิด นางรู้สึกว่า’ชูเฟิง’รู้สึกว่าเป็นหนี้นาง
” ศิษย์พี่ซู่รู่ ขอบคุณท่านมากสำหรับการช่วยเหลือในวันนี้ หากไม่ได้ท่านชีวิตข้าคงจบสิ้น “
‘ชูเฟิง’ ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวขอบคุณจากใจจริง
แต่เค้าก็รู้ว่าที่’ซูรู่’ช่วยเขาออกมา เพราะต้องการผูกมัดเค้า
แต่ไม่ว่านางช่วยด้วยเหตุผลอะไร เขาก็ต้องตอบแทน’ซูรู่’ มิเช่นนั้นจะเป็นการเนรคุณ
” ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ หลิว มั่งทำผิดแล้วถูกปกป้อง ดังนั้นเป็นเป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะได้รับความยุติธรรม อีกอย่างเจ้ายังเป็นคนที่มีความสามารถที่หาได้ยาก “
‘ซูรู่’ยิ้มพร้อมเอามือไปแตะที่ไหล่ชูเฟิง
” เจ้าเข้าใจ วิชาสายฟ้า สามผสานแล้วใช่หรือป่าว ทักษะนี้ไม่สามารถนำไปเปิดเผยสู่ภายนอกได้ ดังนั้นข้าจะนำมันไปเก็บไว้ “
” เอ๋ ศิษย์พี่ซูรู่ข้าซื่อสัตย์อยู่แล้ว สายฟ้า สามผสาน ข้าสามารถใช้ได้แค่ รูปแบบที่ 2 แต่ รูปแบบที่ 3 ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ “
‘ชูเฟิง’หยิบเอาคัมภีร์ สายฟ้า สามผสานออกมาพร้อมกับลังเลนิดหน่อยเพราะตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของเค้าไปแล้ว
‘ซูรู่’หยิบคัมภีร์จาก’ชูเฟิง’ และพูดพร้อมกับยิ้ม
” ข้าจะไม่ปิดบังเจ้า นอกจากผู้ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ ก็ไม่มีใครสามารถเข้าใจ รูปแบบที่ 3 ได้ หากเจ้าสามารถเข้าใจถึงสองรูปแบบก็นับว่า ดีมากแล้ว”
” โอ้ว “
เมื่อได้ยินคำพูดของ ‘ซูรู่’ ‘ชูเฟิง’ยิ้มอย่างมีความสุข เพราะมีส่วนสำคัญบางจุดในรูปแบบที่ สาม ที่เค้าไม่เข้าใจ
แต่ ‘ชูเฟิง’ รู้สึกว่า สักวันเค้าต้องเข้าใจมันแน่ๆ หากถึงตอนนั้น ผู้ก่อตั้งเมืองมังกรฟ้าจะไม่ใช่คนเดียวที่สามารถใช้ รูปแบบที่ 3 ได้ ?
หลังจาก ‘ซูรู่’ พูดกับ ‘ชูเฟิง’ เสร็จ นางเพียงแสดงความห่วงใยในฐานะอาวุโสที่มีต่อศิษย์ นางไม่ได้กล่าวถึงข้อผูกมัดใดๆในการช่วยเหลือ ‘ชูเฟิง’
หลังจากออกจากตำหนักมา ‘ชูเฟิง’ ก็คิดอะไรต่างๆในใจ ถึงแม้ว่า’ซูรู่’นางจะดูอ่อนโยนมากกว่า ‘ซูเหม่ย’ แต่’ซูเหม่ย’ดูมีอะไรลึกล้ำมากกว่า
” เฮ้ย เจ้าออกมาได้แล้วหรอ”
เมื่อ’ชูเฟิง’ออกมาจากตำหนักอาวุโส เค้าก็ได้ยินเสียงของหญิงสาว เค้ามองเห็น ชุดรูปผีเสื้อ กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ นางคือน้องของ’ซูรู่’
” ซูเหม่ย “
” ขอบใจเจ้ามาก “
ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ พูดพร้อมกับยื้ม เค้ารู้ว่า’ซูรู่’ทำไมถึงรู้เรื่องและมาช่วยเค้า
คงเป็นเพราะ ‘ซูเหม่ย’ เป็นคนไปบอกนางให้นางทราบเรื่องราวต่างๆ
” โห ข้ามิได้ทำอะไรมาก แต่ดูเหมือนเจ้ายังจะไม่ได้โง่ ที่รู้จักขอบคุณคนที่ช่วยชีวิต แต่เจ้าอย่าใช้เพียงลมปากในการตอบแทน เจ้าต้องแสดงออกด้วยการกระทำ? “
” เจ้าอยากให้ข้าจูบงั้นหรอ ? “
” ไอ้บ้า ! “
” หรือว่าเจ้าอยากให้ข้ากอด ? “
” ไปตายซะ ! “
” ก็ได้ๆ ข้าจะยอมขาดทุนแต่งงานกับเจ้าก็ได้ “
” ไปตาย เด๋วนี้เลยไป ! “
ใบหน้าของ’ซูเหม่ย’กลายเป็นสีแดงเนื่องจากความโกรธแม้ว่าเธอจะรู้ว่า ‘ชูเฟิง’ เป็นคนหน้าด้าน นางนึกไม่ถึงว่า’ชูเฟิง’จะไม่มียางอาย นางไม่สนใจเค้าอีกต่อไป นางหันหลังกลับทันที
เมื่อเห็น’ซูเหม่ย’งอลและเดินหนี ‘ชูเฟิง’ หัวเราะ ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่กล้าแหย่ ‘ซูรู่’ แต่กลับนางคนนี้เค้าไม่เคยปราณี
แต่หลังจากสิ้นเสียงหัวเราะ จู่ๆ’ชูเฟิง’ก็พูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม
” ข้าจะเข้าร่วมพันธมิตร ปีกมังกร ? “
” จริงหรอ ? “
ได้ยินคำพูดเหล่านั้น ‘ซูเหม่ย’หยุดเดินทันที นางหันกลับมาจ้อง ‘ชูเฟิง’ ขณะกระพริบตาถี่ๆ
” แน่นอน ข้าเป็นหนี้พี่สาวเจ้าหนิ ข้าจะคืนให้ไม่ช้าก็เร็ว แต่นี่ไม่นับเป็นการตอบแทน แต่เพื่อสนองความต้องการของเจ้าเท่านั้น “
‘ชูเฟิง’พูดมาจากใจจริงของเค้า ถึงแม้ว่า’ซูเหม่ย’จะเห็นศักยภาพของเค้าเป็นสำคัญ แต่เค้าก็ไม่ได้สนใจ
ถ้าไม่ใช่ พวกนางช่วยเค้าไว้ เค้าก็คงไม่มีชิวิตรอดมาถึงตอนนี้ นี้คือหนึ่งในวิธีที่’ชูเฟิง’สามารถทำได้ ‘ชูเฟิง’เค้าก็เป็นคนเช่นนี้
ในตอนแรก ที่เค้าปฏิเสธ’สองพี่น้อง หลง – หู่’ เค้าเป็นห่วงว่าจะเปิดเผยพลังในร่างกายของเค้า แต่ตอนนี้มีคนรู้แล้วถึงจะไม่ทั้งหมดก็ตาม
ในวันที่ ปฏิเสธ ‘ซูเหม่ย’ในตอนนั้นก็เนื่องจากเค้าไม่ชอบที่นาง ข่มขู่ แต่ตอนนี้ด้วยพลังของเค้าคนเดียว ไม่สามารถปกป้อง ‘ชูเยว่’และคนในตะกูลได้
ดังนั้น เค้ารู้สึกว่าเข้าร่วมกับพันธมิตรปีกมังกรก็ไม่ได้เสียหายอะไร ทั้งได้รับผลประโยชน์อีกมากมาย ทั้งยังสามารถช่วยเรื่องภายในตะกูลของเค้าได้อีก
ยังๆๆ….
‘ชูเฟิง’ รู้สึกว่า ‘ซูเหม่ย’และ’ซูรู่’ มีความเป็นมาที่ไม่ปกติ คนที่มาจาก ตะกูล ซู คงจะไม่ธรรมดาแน่ๆ
ตะกูลที่มีวิชาลับอยู่ คงไม่มีทางที่มีอำนาจอย่างตะกูลทั่วไป อย่างน้อยคงจะเทียบเท่ากับโรงเรียนมังกรฟ้าได้
ดังนั้น เค้าจึงรู้สึกว่าการมาของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ในโรงเรียนมังกรฟ้า ก็เพื่อหาเอาคนที่มีความสามารถและผูกมัดไว้ใช้ประโยชน์ให้กับตะกูลของพวกเค้า
เหมือนกับที่ ‘หลิว เฉิงเจิน’ ถาม’ซู่รู่’ ทำไมเธอถึงอยู่ที่ฝ่ายใน ทั้งๆที่นางมีความสามารถถึงขนาดนั้น ?
ทำไมนางไม่ยอมเป็น อาวุโสหลัก ?
นั้นเป็นเพราะว่าการเป็นสาวกหลักนั้นเหมือนกับการมัดมือชก
แต่ในการเป็นอาวุโสฝ่ายใน จะใกล้ชิดกับสาวกใหม่มากกว่า ง่ายที่จะคอยเฝ้าสังเกตุและดึงพวกเค้าไว้ใกล้ตัว สุดท้าย พวกเค้าก็ต้องการกำลังเพื่อทำให้ตะกูลพัฒนา ‘ชูเฟิง’ จึงตัดสินที่จะเข้าร่วมในตะกูลของพวกเขา
” ดีนะที่เจ้ายังมีสามัญสำนึก “
ได้ยิน’ชูเฟิง’กล่าว นางพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับ ‘ชูเฟิง’
” พรุ่งนี้ พันธมิตรเราจะมีการทำภารกิจ เจ้าก็ต้องเข้าร่วมด้วย “
” ภารกิจ ? แล้วภารกิจต้องใช้คนเท่าไหร่ ? “
‘ชูเฟิง’รู้สึกสับสน ดูจากความสามารถของพันธมิตรแล้ว
สมาชิกทุกคนล้วนมีความสามารถในการทำภารกิจยากๆได้ด้วยตัวคนเดียว
ทำไมพวกเขาถึงต้องให้เค้าเข้าร่วมอีก
” คุณคิดว่ามันเป็นภารกิจขยะ ที่พวกเจ้าไปเลือกงั้นหรอ ข้าจะบอกเจ้าให้ฟัง ว่าพันธมิตรปีกมังกรของเราจะทำแต่ภารกิจ ที่คนอื่นไม่สามารถทำได้อีกทั้งพวกเราจะเป็นคนหาภารกิจเองดังนั้นเจ้าควรที่จะเตรียมตัวไว้ “
” นอกจากนี้ ยังมีรางวัลสำหรับภารกิจอีกมากมาย เพราะไม่มีใครให้ภารกิจแก่เรา เราจึงต้องหาผลประโยชน์จากภารกิจที่เราเลือกไปทำ “
‘ซูเหม่ย’พูดอย่างจริงจัง
” บ้าจริง เราคงไม่ได้ไปปล้นหรอกนะ ? “
‘ชูเฟิง’ยิ้มและกล่าว
” ไอ้บ้า ปล้นบ้านเจ้านะสิ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงมาเจอข้าที่นี่ ไม่ต้องสวมชุดโรงเรียนมังกรฟ้ามานะ “
‘ซูเหม่ย’ให้แผ่นกระดาษ และ ป้าย แก่ ‘ชูเฟิง’ ในนั้นมีสถานที่นัดเจอ
และป้ายก็คือสัญลักษณ์ของพันธมิตรปีกมังกร
โปรดติดตามตอนต่อไป. . . . . . .
ที่มา: