ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปอสูรหมียักษ์นั้นแข็งแกร่งกว่าอสูรพยัคฆ์มาก
ชีวิตก่อนหน้านี้นั้นไม่มีอสูรหมียักษ์ ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ซวนหยวนเห็นความดุร้ายของสัตว์อสูร ซวนหยวนสั่นเทาเมื่อเห็นมัน
หัวใจเขากรีดร้อง “ข้ากำลังจะตาย ทั้งๆที่ข้าเพิ่งกลับมามีชีวิตใหม่?ถ้าอสูรหมียักษ์สามารถฆ่าข้าได้ ข้าก็ไม่สมควรที่จะได้ใช้ชื่อของจักรพรรดิอรุณ ข้าจะสู้เพื่อมีชีวิตอยู่ ”
ความมุ่งมั่นทำให้ซวนหยวนเติบโตเมื่ออยู่บนปากเหวแห่งความตาย เขาดึงกริชสีดำที่มีสนิมจากเอวของเขา โดยไม่สนใจความเจ็บปวดจากร่างกายของเขา เขาอดทนต่อความเจ็บปวดและกระโดดไปข้างหน้า เขาแทงกริชเข้าไปในคอของสัตว์อสูร ลึกลงไปยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ความรู้สึกแปลกประหลาดที่คลุมเครือเกิดขึ้นภายในใจของเขาเมื่อเขาจับกริชสีดำ เขานั้นไม่มีเวลาที่จะมาคิดเกี่ยวกับความรู้สึกที่แปลกประหลาดคลุมเครือนี้
ดูเหมือนอสูรหมีจะรู้สึกถึงอะไรบ้างอย่างเมื่อมันเห็นกริชที่เป็นสนิม ประกายตาของมันดูเหยียดหยามเมื่อมันมองดูที่กริช
ฟันที่แหลมคมของอสูรหมียักษ์และเลือดซึมออกมาจากปากของมัน
กริชตัดเข้าไปในปากของหมี มันรู้สึกถึงเลือดและดูเหมือนมันจะมีชีวิต กริชปล่อยเส้นใยสีดำจำนวนมากพันไปรอบหัวมัน เส้นในนั้นแน่นมากทำให้มันไม่สามารถขยับได้ มือของซวนหยวนยังจับกริชไว้แน่น
ร่างกายของเขาเริ่มที่จะสั่นคลอนและเส้นใยสีดำทั้งหมดกลางเป็นแสงสีดำพุ่งตรงเข้าไปในตัวของเขา ซวนหยวนรู้สึกว่าบาดแผลของเขาได้รับการรักษาและความแข็งแกร่งเริ่มกลับคืนมา
บาดแผลของซวนหยวนหายไปรวมทั้งความหิวของเขา ร่างกายของเขารู้สึกว่ามีพลัง เขามองดูกริชและที่เศษสนิมเริ่มลดลงจากด้ามของกริช แสงสีดำที่อ่อนแอเริ่มที่จะส่องแสงก่อนที่จะกลับเป็นปกติ
เมื่อมีชีวิตของตนเองเป็นเดิมพัน ซวนหยวนกลายเป็นคนป่าเถื่อนและกล้าหาญ แต่เขาตระหนักว่าเหงื่อเย็นได้ปกคลุมร่างกายของเขา เขาพยายามที่จะหายใจให้มั่นคง แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาประสบมาทำให้ไม่สามารถทำได้ เขาไม่สามารถที่จะหาอะไรได้เลยที่คล้ายกันเมื่อเขาค้นหาผ่านความทรงจำในร่างกายนี้
เขากำลังทำความเข้าใจกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็จำได้ว่าเขาสามารถเอาหนังหมีเปลี่ยนเป็นเงินได้ เขาเอากริชออกมาและเริ่มที่จะชำแหละเอาหนังมันออกมา
ขอบคุณความทรงจำจากร่างกายนี้ ซวนหยวนได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านทักษะการล่าสัตว์และรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับราคา ตั้งแต่เนื้อหมีและเลือดถูกดูดซึมอย่างสมบูรณ์โดยพลังที่แปลกประหลาดจากกริช เขาสามารถที่จะชำแหละผิวหนังโดยไม่มีความเสียหายใดๆ เมื่อเสร็จสิ้นเขาบรรจงพับขนหมี ดวงตาของเขาเป็นประกายอีกครั้งเมื่อเขาเห็นโครงกระดูกของหมี
“กระดูกของอสูรหมียักษ์! ข้าจะได้รับเงินจำนวนมากจากมัน”
ครั้งที่2เมื่อเขาสัมผัสกระดูก โครงกระดูกกลายเป็นฝุ่นปลิวไปตามลม ซวนหยวนตะลึง
เขาถอนหายใจ มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถที่จะขายกระดูกได้ ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นวัตถุสีแดงเลือด มันเป็นผลึกอสูรที่อยู่บนพื้น
“ฮ่าๆ!ผลึกอสูร!”
ซวนหยวนรู้ถึงความล้ำค่ำของผลึกอสูร เขาดีใจอย่างมากที่ได้พบกับสัตว์ที่มีผลึกอสูร ถ้าเขาขายมัน เขาอาจจะสามารถที่จะซื้ออุปกรณ์ที่ดีบางอย่างไว้ปกป้องชีวิตของเขาได้
“นี้เป็นเช่นเดียวกับเรื่องที่ขอทานชราเคยบอกกับเขา นี่คือโลกที่แตกต่างเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ มันจะไม่ใช่แค่ความฝันที่ข้าจะกลายเป็นเซียน”
ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาอาจจะกลายเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เขามองขึ้นไปและสังเกตเห็นว่า
กู่ฉิงกลับมาพร้อมกับหมูตัวเล็กๆในปากของมัน หมาป่าเป็นนักล่าโดยกำเนิด
“กู่ เย่ อยู่ไหน?” สายตาของกู่ฉิงทำให้เขานึกถึงสหายหมาป่าตัวอื่นๆของมัน กู่เย่ หรือว่ากู่เย่จะตายแล้ว อย่างน้อยที่เขาจะทำคือการฝังศพของมันให้เหมาะสม
มันเหมือนกับว่าถ้ากู่ฉิงเข้าใจเขาและความโศกเศร้าในตาของเขา มันส่ายหัวและสะอื้น
ซวนหยวนรู้ว่ากู่เย่จากไปตลอดกาล แต่ความรู้สึกนี้ทำให้หัวใจเขาเจ็บปวด
“มานี่ เรากลับบ้านกันเถอะ!”
จากความทรงจำใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบ เขารู้บ้านของเขาอยู่ใต้ต้นไม้ที่สวยงาม
เด็กและหมาป่าพวกเขามุ่งหน้ากลับบ้านไปด้วยกัน ซวนหยวนยังคงมองเข้าไปในความทรงจำใหม่ของเขา เขาได้แกะสลักเป็นหลุมขนาดใหญ่บนต้นไม้ด้วยกริช บ้านของเขาดูเรียบง่าย เตียงที่เรียบง่ายที่ทำจากขนสัตว์ ผนังเต็มไปด้วยถ้วยรางวัลจากสัตว์ที่เขาล่าและขนหมาป่าอสูรปกคลุมพื้น ในใจของเขาบ้านหลังเล็กของเขาเป็นที่สะดวกสบายและสมบูรณ์แบบ ในช่วงกลางของบ้านต้นไม้มันมีพื้นที่ที่เป็นหลุมกว้าง1เมตรหรือมากกว่าเพื่อที่จะใช้พื้นที่นี้ในการปรุงอาหาร การปรุงอาหารในที่โล่งจะดึงดูดความสนใจที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจมีผลทำให้เขาตายได้ มีชีวิตอยู่คนเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายนี้คือความท้าทายที่ไม่มีสิ้นสุด
ผู้คนจะชอบเขาที่พยายามต่อสู้เพื่อความอยู่รอดโดยไม่มีทางเลือกมากนัก พวกเขาอาจจะกลายเป็นคนรับใช้หรืออันธพาลจากครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองจันทร์สลาย หรืออาจจะเป็นทหารรับจ้างหรือยามหรือพลิกชีวิตเป็นอาชญากรรม หากพวกเขาโชคดีและมีความสามารถพวกเขาสามารถที่จะเข้าสู่นิกาย
และพวกเขาจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความหิวโหยหรือความหนาวเย็น พวกเขาจำเป็นต้องมีสมาธิที่ดีเลิศ และต้องมีทักษะการต่อสู้และบางครั้งก็ต้องไปทำภารกิจ ถ้าพวกเขาโชคร้าย พวกเขาจะถูกปล้นและฆ่า ถ้าเป็นผู้หญิงจะถูกขมขื่นและฆ่า
ในที่สุดเขาก็รู้วิธีที่จะทำให้เขามีอำนาจที่แท้จริงที่เขาต้องการ เป็นเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับชะตากรรมอันโหดร้ายในโลกที่แปลกประหลาดนี้ เขาได้สาบานว่าจะแก้แค้นเยว่จือนายน้อยแห่งเมืองจันทร์ทลาย แต่มันจะเป็นไปได้หรือ?
“สิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือความตาย ! ”
เขายังรู้สึกท้อแท้อย่างไรก็ตามซวนหยวนรู้ว่าถ้าหากคนสูญเสียความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นและหลักการ ให้เขาตายซะยังจะดีกว่าดังนั้นเขาพร้อมที่จะทำจิตใจให้แน่วแน่
“ ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม นี่เป็นทางเดียวที่สามารถตอบแทนร่างกายของเจ้า ข้าสาบานว่าจะล้างแค้นให้เจ้าและกู่เย่ ”
ขณะที่เขากำลังให้กำลังใจตัวเอง ซวนหยวนนั้นได้เดินทางมาถึงบ้านแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ดีและถูกซ่อนไว้อย่างดี เขาเปิดประตู ทุกอย่างมันเหมือนกับที่เขาเห็นในความทรงจำ
ยกเว้น เมื่อเขาและกู่ฉิงเดินเข้าไปในบ้านเขาก็ต้องตะลึงขณะที่สายตาของเขามองไปบนเตียงของเขา
เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เขาเหมือนถูกแช่แข็งในสถานที่นี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งในชุดหิมะผ้าไหมสีขาวทำให้เห็นไหล่อันขาวของเธอในชุดของเธอ ผมของเธอนั้นนุ่มเหมือนผ้าไหมสีดำเรียบยาวไปถึงเอวของเธอ เธอนั้นมีกระดูกไหปลาร้าที่สวยงามและมีหุ่นที่ดีมากและเกือบจะได้เห็นหน้าอกที่ยื่นออกมาของเธอ ผิวของเธอนั้นงดงามเหมือนหยกขาวเนียบสมบูรณ์แบบ ซวนหยวนไม่สามารถที่จะหยุดจ้องมองสาวน้อยคนนี้
“ข้าไม่เคยเห็นสาวสวยขนาดนี้ในชีวิตของเขา ข้าควรจะมองในขณะที่ยังสามารถมองได้ นางเป็นคนที่สวยกว่าแม่ม่าย1000คนรวมกันซะอีก…”
ขอทานชราเป็นชายชราที่โอบอ้อมอารีย์ เขาเป็นคนดี ยกเว้นความจริงที่ว่าเขาเป็นปีศาจเฒ่า เขามักจะนำซวนหยวนมาดูพวกนางอาบน้ำบ่อยๆ
นางนั้นตัวเล็ก ใบหน้าที่น่ารักของนางดูเหมือนมีความโศกเศร้า หยดน้ำตาไหลไปบนขนตายาวๆ ของนาง
ซวนหยวนจ้องไปที่เด็กสาว เขามองหน้าและเริ่มเหลือบไปมองที่หน้าอกของนาง นางวางแขนไปที่เอวเล็กๆของนางย่างไม่ตั้งใจ จากหัวเข่าของนางปกคุลมไปด้วยชุดสีชาวไปที่เท้าอันเปราะบางของเธอ เขาได้รับประสบการณ์มากมายจากการแอบดูแม่ม่ายเฉา ตอนเธออาบน้ำ ทำให้เขาสามารถรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้มีสองขายาวที่สายงามซ่อนอยู่ในการแต่งกายของนาง
หัวใจของเขาเริ่มเต้นระรั่ว เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไร นี่คือบ้านของเขาและมันก็ไม่เหมาะสมสำหรับนางที่นอนหลบอยู่บนเตียงของเขา เขารวบรวมความกล้าของและเดินอย่างหงุดหงิดไปที่เตียง
หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
“บั้นท้ายของนาง ข้าเห็นบั้นท้ายของนาง ขอทานชรากล่าวไว้ว่าบั้นท้ายของผู้หญิงกลมคล้ายดวงจันทร์เต็มดวง นั้นงดงามที่สุด…..”
มันดูเหมือนว่าเขาลืมเกี่ยวกับทุกสัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่เขาสัญญาเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
เขาหายใจเข้าลึกๆและเดินเข้ามาใกล้ๆ นางนอนอยู่เผยให้เห็นชุดแต่งกาย ชุดผ้าไหมยังเผยให้เห็นร่างที่สมบูรณ์ของเธอ เขาเริ่มเข้าใกล้หญิงสาวและสามารถได้กลิ่นตัวของเธอ กลิ่นของเธอนั้นชั่งหอมสดชื่นและอ่อนโยน
“สมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบ ขอบคุณพระเข้า ท่านมีความยุติธรรมที่ส่งหญิงงามคนนี้มาให้ข้า”
ซวนหยวนตื่นเต้นมาก มือของเขาเอื้อมมือไปที่ไหล่ของเธอเมื่อเขาสัมผัสแขนที่เรียวขาวราวกับหยก เขาตื่นเต้นมากน้ำตาแห่งความสุขเริ่มไหลออกมาจากตาของเขา
“ข้าไม่เคยสัมผัสอะไรที่นุ่มกว่าผิวของนาง ยอดเยี่ยม นุ่มนิ่มมาก”
เขาหยุดการกระทำที่ไร้ยางอาย เขากระแอมและกระซิบอย่างเบาๆ
“คุณผู้หญิง ตื่นเถอะ เอิ่ม… สาวน้อย”
เสียงของเขาเบาแทบไม่ได้ยิน เขาไม่ได้คาดหวังว่าหญิงสาวจะตื่นแต่เธอก็ตื่นขึ้นมาทันที ดวงตาของเธอเปิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอราวกับภูติสาวในเทพนิยาย แต่สายตาของเธอนั้นเยือก…. ตู้ม!! เขารู้สึกว่าห้องเริ่มหมุนและหัวเริ่มที่จะเจ็บ เขากระเด็นออกห่างจากเธอไม่กี่เมตร เขารู้สึกเหมือนเขากำลังบิน
เขาตะโกน “ท่านกำลังที่จะฆ่าสามีของท่าน”
เธอมองดูผู้ชายที่โง่ข้างหน้าของเธอและยิ้มหวาน รอยยิ้มของเธอเปรียบได้กับทัศนียภาพที่สวยงามมากที่สุด
ความโกรธของซวนหยวนหายไปในทันที ซวนหยวนเป็นขอทานตลอดชีวิตของเขา เขาเคยมีประสบการณ์ได้รับความโหดร้ายและความเมตตาจากคนอื่น เขาสามารถที่จะแยกแยะคนดีคนเลวได้อย่างง่ายได้ ที่ผ่านมาที่เขามองความงามของเธอเหมือนนางฟ้าและรู้สึกได้เธอนั้นไม่ใช่คนไม่ดี เธอดูเหมือนคนที่ใจดี…