ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปซวนหยวนกระโดดลงไปในลำธารที่ไม่ไกลจากบ้านต้นไม้นัก
กู่ ฉิง เฝ้าข้าวของของเขา เสื้อผ้าที่สะอาด ขวดยา และกริชสีดำสนิม
เขาถอนเสื้อผ้าที่มอมแมมของเขาและกระโดดลงไปในลำธารเพื่อชำระล้างสิ่งสกปก
เมื่อตัวของเขาสะอาดเขาว่ายน้ำไปยังอีกฝั่งขณะเปลือยกายและเปิดขวดหยก กลิ่นหอมยาเข้าไปในจมูกของเขา มันให้ความสดชื่นอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาผ่อนคลายเพียงแค่ได้กลิ่นของยา
เซียยงหยวนมองไปที่ขวดยาและเทยาไม่กี่หยดลงบนแผลที่น่าเกลียดบนอกของเขา ยังมีเลือดซึมออกมาจากบาดแผลแต่หลังจากที่ใช้ยาเห็นได้ชัดว่าบาดแผลเริ่มที่สมานตัว
นั่นทำให้ซวนหยวนต้องประหลาดใจมาก!
“สวรรค์! นี่มันคืออะไร? มันช่างมีประสิทธิภาพยิ่งนัก!”
เขาเข้าใจว่าเขาไม่ควรเสียหยดยาแม้แต่หยดเดียว ทุกๆหยดนั้นมีค่ามากมันสามารถที่จะช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉินได้
ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจบาดแผลขนาดเล็กและใช้เพียงไม่กี่หยดเพื่อที่จะรักษาบาดแผลขนาดใหญ่ จากนั้นเขาก็ใส่เสื้อผ้าตัวใหม่ของเขาและระมัดระวังที่จะซ่อนขวดไว้ภายในกระเป๋าลับของเขา เมื่อเขาทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็วิ่งกลับบ้านต้นไม้ของเขา
“ท่านอาจารย์คนสวย ข้ากลับมาแล้ว”
ซวนหยวนเป็นขอทานตั้งแต่เขายังเด็กเขาได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในการดูคน บางครั้งเขาจะพูดคุยกับหมอดูและเรียนรู้วิธีการดูคนจากเขา มันเป็นวิธีการอ่านคนผ่านใบหน้าของพวกเขา เขาสามารถใช้สัญชาตญาณรับรู้ได้ว่าคนไหนเป็นคนดีหรือคนชั่ว
ซวนหยวนเชื่อในสัญชาตญาณของเขาและเขาเชื่อถือสตรีที่แข็งแกร่งแบบ หยิน เฉินลู่ ถ้านางต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ เขาคงตายไปนานแล้ว ตอนนี้นางได้ตกลงที่จะสอนเขา เขาติดหนี้นาง เขามิกล้าสงสัยในเจตนาของนางแม้แต่น้อย
ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่ส่องอยู่ในบ้านต้นไม้ก่อนที่จะจางหายไปในความมืด
มีตะแกรงเหล็กอยู่กลางห้องมันสามารถที่จะย่างหมู หมูที่ซวนหยวนนำมามีความพิเศษอย่างมาก เขาปรุงรสมันด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ ทำให้มีกลิ่นหอมโชยออกมา
กู่ ฉิง ยืนใกล้ๆกับตะแกรงย่างและน้ำลายของมันเริ่มที่จะหยดลงพื้น หยินเฉินลู่นั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นดิน นางนั้นกำลังสนุกกับความตั้งอกตั้งใจของซวนหยวนและพูดว่า “ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะพอมีฝีมือด้านการทำอาหารอยู่บ้าง”
เขาชำเลืองมองนางและยิ้มอย่างภูมิใจ
“แน่นอน ข้ามั่นใจว่าถ้าเป็นเรื่องอาหาร ข้าเก่งกว่าท่าน ฮ่าๆๆ”
นางรู้สึกหงุดหงิดกับคำตอบของเขา สถานะของนางนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำอาหาร และทำความสะอาดด้วยตัวเอง นางแสดงสีหน้าไม่พอใจและไม่กล่าวอะไรอีก
ซวนหยวนยิ้มเล็กน้อย เขาไม่สนใจท่าทีของนาง เมื่ออาหารเสร็จเขาตัดเนื้อส่วนที่นุ่มที่สุดและวางมันลงบนจานไม้ กริชหั่นเนื้ออย่างง่ายดายเหมือนกับว่ามันกำลังหั่นโคลนที่อ่อน เขาส่งจานไปให้ หยินเฉินลู่ ด้วยรอยยิ้มประจบ
“ท่านอาจารย์คนสวย เนื้อส่วนนี้ข้าเตรียมไว้ให้คนพิเศษอย่างท่าน”
หยินเฉินลู่มองไปที่เด็กหนุ่ม แม้ว่าซวนหยวนนั้นจะไม่ได้ดูหล่อเหลา แต่ใบหน้าของเขาดูมีเสน่ย์มากเมื่อเขายิ้ม
” นี่มันมากเกินไป ” หยินลู่เฉินนั้นเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์และก้าวเดินอยู่บนบนเส้นทางแห่งการต่อสู้ แต่นางก็ยังคงต้องกินและดื่มเป็นบางครั้งคราวเพื่อรักษาร่างกายของนาง
ซวนหยวนจ้องมองไปที่กระดูกไห้ปลาร้าของ หยินเฉินลู่ เมื่อเขาส่งจานให้นาง หัวใจของเขานั้นเริ่มที่จะเต้นระรั่ว เขาหายใจเข้าลึกๆและเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ตาเพื่อให้สายตาของเขาไม่มองนาง
หยินเฉินลู่มองไปที่อาหาร นางไม่ได้สังเกตเห็นการแสดงออกของซวนหยวนนางไม่ทราบว่าซวนหยวนคิดสิ่งใดอยู่ในใจ
นางหยินมีดสีเงินขนาดเล็กและตัดเนื้อหมูแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ นางเคี้ยวมันอย่างช้าๆและมีความสุขกับรสชาติอาหารที่อร่อย
อย่างไรก็ตาม นางนั้นเห็นซวนหยวนและกู่ฉิงกำลังกินเนื้อที่แห้งเก่าๆ นางสับสนและถามเขาว่า”ทำไมเจ้าถึงกินเนื้อที่แห้งๆเก่าๆนั้นแทนที่จะกินเนื้อที่สดที่เจ้าเตรียมไว้เมื่อกี้ล่ะ?”
ซวนหยวนยิ้มหลังจากที่ได้ยินคำถามของนาง
“วันนี้ข้าได้เป็นศิษย์ของท่าน ดังนั้นข้าจึงเตรียมอาหารที่อร่อยไว้ให้ท่าน นั้นเป็นเนื้อในส่วนของข้ากับกู่ฉิงสำหรับสองวัน นานแล้วถ้าพวกเราแบ่งกัน บ่อยครั้งสัตว์ที่แข็งแกร่งจะตระเวนรอบๆป่า มันไม่ได้มีทุกวันหรอกที่พวกเราจะเพลิดเพลินไปกับการอิ่มท้อง พวกเราไม่ได้สนใจ ตราบเท่าที่ยังมีเนื้อแห้งๆนี้ เราก็จะกินมัน”
ซวนหยวนแบ่งครึ่งเนื้อที่แห้งและแข็งให้กับกู่ฉิง พวกเขาทั้งคู่เริ่มที่จะกินครึ่งหนึ่งของเนื้อแห้ง ที่ไม่มีรสชาติ… ในใจของหยินเฉินลู่นั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น
นางเติบโตมาในตระกูลที่มีชื่อเสียงและไม่เคยต้องการอะไร พวกเขาทั้งสองอาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างกันมาก
“ซวนหยวนพ่อแม่ของเจ้าอยู่ไหน?”
เขาหยุดเคี้ยวเมื่อได้ยินคำถามของนาง ดวงตาของเขาเผยให้เห็นร่อยรอยแห่งความเหงา ชีวิตของเขาทั้งสองคนและชีวิตนี้ เขานั้นเป็นเด็กกำพร้าเขาไม่เคยมีพ่อแม่ที่จะให้มอบความรักและดูแลเขา หลังจากนั้นเขาก็ตอบว่า…
“ข้าเป็นเด็กกำพร้า ข้าไม่มีพ่อแม่คอยดูแลหรอก กู่ฉิงและกู่เย่เท่านั้นที่คอยดูแลข้า แต่กู่เย่นั้นตายไปแล้วเป็นเพราะนายน้อยเยว่จือ ”
หยินเฉินลู่เห็นสายตาอันโดดเดี่ยวที่เผยออกมาจากตาของเขา มันทิ่มแทงหัวใจของนางและนางก็ถอนหายใจ นางนั้นไม่ถามคำถามเขาต่อ
ซวนหยวนสังเกต หยินเฉินลู่ขณะที่นางกำลังกินเนื้อหมูของนาง เธอค่อยๆเคี้ยวอย่างช้าๆและทุกการเคลื่อนไหวของนางนั้นช่างสง่างาม
เวลาผ่านไป ความมืดทำให้ท้องฟ้ามืด แสงจันทร์ที่เย็นส่องผ่านมาที่หน้าต่างส่องแสงลงบนตัว หยินเฉินลู่ ภายใต้แสงจันทร์นางนั้นดูเหมือนนางฟ้าของดวงจันทร์ เยือกเย็นและไม่สามารถจับจ้องได้ เขานั้นเหมือนดูสะกดจิตและไม่สามารถที่จะเบี่ยงเบนสายตาหนีได้
หยินเฉินลู่ ลืมตาของนางและมองเริ่มมองที่ซวนหยวนขณะที่นางกำลังกิน นางยื่นเนื้อของนางให้เขาและพูดว่า “เนื้อแห้ง,ในต่อไปนี้ข้าจะกินอาหารเหมือนที่เจ้ากิน ไม่จำเป็นต้องเตรียมอาหารเนื้อพิเศษเช่นนี้ให้นาง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”
ซวนหยวนพยักหน้าขณะที่น้ำลายไหล
นางลุกขึ้นและค่อยๆ ก้าวเดินไปที่เตียง นางหันมากล่าวกับซวนหยวน “ ข้าต้องการพักผ่อน ข้าจะนอนบนเตียง ส่วนเจ้า.. เจ้าจะต้องนอนบนพื้น”
ซวนหยวนเช็คน้ำไหลที่ไหลออกมาจากปากของเขาและพยักหน้าอย่างจริงจัง
“แน่นอน ข้ารู้สึกขอบคุณที่ไม่ให้ข้านอนข้างนอก”
“เนื่องจากเจ้าเป็นศิษย์ของข้า มันมีกฎหนึ่งข้อที่เจ้าต้องปฏิบัติตาม” นางกล่าวออกมา ดวงตาของเธอเหมือนจะอ่อนโยนมากขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงจันทร์ ความงดงามของนางทำให้ซวนหยวนรู้สึกผ่อนคลายพร้อมด้วยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“เริ่มตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ถ้าเจ้าสามารถลอบโจมตีข้าได้สำเร็จ ข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ”
รอยยิ้มที่งดงามของ หยินเฉินลู่เหมือนดอกไม้บาน ทำให้ซวนหยวนรู้สึกสับสน
เมื่อนางพูดจบ ดวงตาของซวนหยวนเป่งประหาย ร่ายกายของเขาสั่นสะท้านและเริ่มเลียริมฝีปากของเขา เขาจู่โจมหยินเฉินลู่ทันทีเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหย
“นั้นไม่ใช่การลอบโจมตี แต่มันเป็นการฆ่าตัวตาย”
นางถอนหายใจและสะบัดนิ้วของนางเบาๆ ไปที่หน้าผากของเขา ลมที่แข็งแกร่งพุ่งไปที่หน้าผากของซวนหยวน และทำให้เขากระเด็นไปข้างหลัง เขากลิ้นบนพื้นทำให้อยู่ในสภาพที่น่าอนาท
กู่ฉิงไม่ได้สนใจ แท้จริงแล้วมันกำลังดูเพื่อความเพลิดเพลินของมัน
ซวนหยวนปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขาล้มเหลวในการลอบโจมตีผู้หญิง เขาพยายามลอบโจมตีนางอีก 17 ครั้งแต่ก็ล้มเหลว ไม่สามารถแม้แต่จะสัมผัสผมของนาง มันเป็นความล้มเหลวที่น่าสังเวช…..