ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปรุ่งอรุณที่สดใส…
พระอาทิตย์ค่อยๆขึ้นทางทิศตะวันออกแสนแดดอุ่นๆพาดผ่านกิ่งไม้และใบไม้บนพื้นดิน
หน้าผากของซวนหยวนบวมบูดเนื่องจากความพยายามของเขาที่จะ “ลอบโจมตี” หยุนเฉินลู่แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง หยุนเฉินลู่ทุบตีเขาในจุดเดียวกันบนหน้าผากของเขา หน้าผากของเขาก็ปรากฏก้อนเนื้อบวมสีแดงสด
มันทำให้หยินเฉินลู่มีความสุขเมื่อนางดูซวนหยวนกัดฟันเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด มือของนางไขว้อยู่ด้านหลัง ทำให้เห็นไหล่และกระดูกไห้ประร้าอันประณีตของนาง นางเดินไปรอบๆอย่างช้าๆขณะที่ชุดสีขาวของนางติดกับพื้น นางเป็นเหมือนนางฟ้าจากภาพวาดและทุกการเคลื่อนไหวของนางทำให้ซวนหยวนนั้นเหมือนถูกสะกดจิต
หมาป่าสีเงินนั่งอยู่ข้างนอกที่แสงแดดสาดส่องลงบนขนสีเงินของมันซึ่งสะท้อนให้เห็นเป็นสีรุ้ง กู่ฉิงอ้าปากหาวซึ่งเผยให้เห็นฟันที่ทรงพลังและดูดุร้ายของมัน มันมองไปที่ซวนหยวนเหมือนจะตำหนิที่ซวนหยวนทำให้มันไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน
“ก่อนที่จะเริ่ม ข้าอยากถามอะไรซักข้อ ความหมายของการต่อสู้ของเจ้าคืออะไร?” นางยิ้มและถาม นางมองไปยังสภาพที่น่าอนาถของเขา และรู้ว่าเขาหมกมุ่นอยู่กับการที่จะรอบโจมตีนาง
ซวนหยวนรวบรวมความคิดของเขาและตอบกลับอย่างรวดเร็ว “การต่อสู้ของข้านั้น สู้เพื่อต่อสู้กับคน สู้เพื่อต่อสู้กับโลก สู้เพื่อต่อสู้กับสรวงสวรรค์ สู้เพื่อทุกสิ่งที่ข้าเชื่อว่ามันถูกต้อง”
หยิน เฉินลู่ นางไม่ได้คาดวังว่าจะได้คำตอบที่ดีมันทำให้นางประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รับลูกศิษย์และเขามีศักยภาพมากที่จะเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งการต่อสู้ เด็กหนุ่มมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ เขาจะต้องได้รับประโยชน์จากการฝึกแน่นอน
“พูดได้ดี “การต่อสู้ของข้านั้น สู้เพื่อต่อสู้กับคน สู้เพื่อต่อสู้กับโลก สู้เพื่อต่อสู้กับสรวงสวรรค์ สู้เพื่อทุกสิ่งที่ข้าเชื่อว่ามันถูกต้อง”เจ้ามีชะตากรรมที่จะต้องเดินบนเส้นทางแห่งการต่อสู้ ความสามารถของเจ้ามันจะไร้ค่าเมื่อใช้ชีวิตอยู่แบบคนทั่วไปจะมีเพียงน้ำตาไม่กี่หยดเมื่อเจ้าตาย เจ้าจะไม่สามารถที่จะหลบหนีวงล้อแห่งความทุกข์ได้ มันน่าสงสารเมื่อมีชีวิตอยู่เช่นนั้น”
“ถ้าข้าใช้ชีวิตเช่นนั้น ข้าอาจจะตายคนเดียวและถูกสัตว์อสูรกินอยู่ในป่า โดยที่จะไม่มีใครหลั่งน้ำตาให้ข้าเมื่อข้าตาย”
“ดังนั้นเจ้าต้องพยายามให้มาก และอย่าให้ข้าต้องผิดหวัง” หยิน เฉินลู่ซ่อนอารมณ์ที่ซับซ้อนในดวงตาของนาง ผมสีดำของนางพลิ้วไหวในสายลมทำให้ความงดงามของนางมากขึ้น นางผลักมือออกไปและทันใดนั้นก็มีการระเบิดของลม ซวนหยวนกระโดดขึ้นไปในอากาศเมื่อได้ยินเสียงดังสนั่น
“ความแข็งแกร่งของคนธรรมดาอย่างมากที่สุดเท่ากับวัว1ตัว นั้นหายากในหมู่คนธรรมดา เมื่อผู้คนเริ่มที่จะเริ่มเดินบนเส้นทางแห่งผู้ฝึกตน พวกเขาก็จะเริ่มเข้าใจในขอบเขตนักสู้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเทียบได้กับวัว 9 ตัว
หยิน เฉินลู่ เริ่มที่จะอธิบายวิธีการบ่มเพาะพลังสำหรับนักสู้ ซวนหยวนหยุดทำหน้าโง่และตั้งอกตั้งใจฟังทันทีและเขาถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าวัว9ตัว
“ นั้นก็จะถูกจัดว่าเป็นนักสู้ แต่นั้นไม่ใช่ทั้งหมด คนธรรมดานั้นหายากมากที่จะเข้าสู่ขอบเขตนักสู้ ผู้ที่ไม่เคยฝึกวรยุทธ ชีพจรลมปราณของพวกเขาจะไม่เปิดออก และไม่สามารถดูดซับพลังปราณแห่งจักรวาลได้ เมื่อพวกเขาแก่ตัวลง ก็จะสูญเสียพลังและพลังชีวิตเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อเข้าสู่ขอบเขตนักสู้ก็สามารถชะลอการเสื่อมของร่างกายและมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น ในขั้นแรกต้องชำระจุดชีพจรลมปราณเสียก่อน และเริ่มดูดซับพลังปราณ ”
ซวนหยวนมีความสามารถในการทำความเข้าใจค่อนข้างสูงและเขาสามารถเข้าใจทฤษฏีได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหยิน เฉินลู่จึงกล่าวอย่างต่อเนื่อง
“เจ้าจะสามารถกลายเป็นนักสู้ได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าเปิดจุดชีพจรลมปราณทั้งหมดของเจ้า เมื่อเจ้าสามารถดูดซับพลังจากธรรมชาติได้แล้ว จงควบแน่นมันและเจ้าจะก้าวเข้าสู่ “ขอบเขตนักสู้” พลังปราณที่ถูกกักเก็บในตัวเจ้า เจ้าจำเป็นต้องมีเทคนิคที่พิเศษเพื่อจะฝึกปรือมัน ข้าจะให้บางสิ่งที่สามารถช่วยให้เจ้า.. นี่คือ “เกล็ดมังกรผลาญสวรรค์”แห่งตระกูลข้า จงอ่านและทำความเข้าใจกับมัน”
หยินเฉินลู่หยิบบางสิ่งขึ้นมามันดูคล้ายกับเกล็ดมังกรสีทอง เกล็ดมังกรนั้นมีวิชาที่ถูกจารึกไว้โดยตัวอักษะขนาดเล็ก
ซวนหยวนมองไปที่เกล็ดมังกร และเริ่มทำความเข้าใจกับมัน ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ราวกับว่ามีพลังบางอย่างจากผืนปฐพีกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ผิวหนังและและกระจายไปทั่วร่างกายของเขา มันเป็นความรู้สึกที่เสียวซ่าน
หยินเฉินลู่ไม่ได้คาดหวังว่าซวนหยวนจะสามารถก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งนักสู้ได้ โดยเพียงแค่การท่องจำวิชาที่นางหยิบยื่นให้ เขายังสามารถรวบรวมพลังปราณเพื่อไปกระตุ้นจุดชีพจรลมปราณได้…
ซวนหยวนรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับความรู้สึกที่แปลกๆนี้และกล่าวอย่างตื่นเต้น “ท่านอาจารย์คนสวย ข้ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิว มันมีความรู้สึกเสียวซ่านบนผิวของข้า นี่คือความรู้สึกอันใด?”
“ถูกต้อง แสดงว่าเจ้าเริ่มที่จะสัมผัสบางส่วนของพลังปราณได้แล้ว ตั้งแต่เจ้าเป็นลูกศิษย์คนแรกของข้า ข้าจักต้องเข้มงวด… นี่คือผงของเกล็ดมังกรมันหายากมาก เทมันลงบนร่างกายของเจ้าและมันจะช่วยทำความสะอาดจุดชีพจรลมปราณของเจ้า ถึงแม้มันจะทิ้งกลิ่นอายของมังกรไว้บนตัวของเจ้า”
หยิน เฉินลู่โยนขวดหยกให้ซวนหยวน
เขารับขวดและส่งเกล็ดสีทองกลับไปให้นาง นางส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าให้เจ้า เพราะมันไม่มีประโยชน์สำหรับข้าแล้ว เกล็ดมังกรนั้นมีค่าอย่างมาก เจ้าสามารถที่จะขายได้ถ้าเจ้าไม่ต้องการมัน แต่ต้องจำไว้ว่าต้องลบการจารึกทั้งหมดเสียก่อน!”
ตั้งแต่มันไร้ประโยชน์กับหยิน เฉินลู่ ซวนหยวนก็ไม่ลังเลที่จะเก็บมัน มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่อาจารย์จะให้ของขวัญแกลูกศิษย์
ถ้าหยิน เฉินลู่ รู้สิ่งที่ ซวนหยวนคิดนางจะต้องโกรธแน่นอน วิชานั้นไร้ประโยชน์ต่อนาง แต่เกล็ดมังกรมันนั้นเป็นโล่ที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ อาวุธธรรมดาไม่สามารถที่จะผ่านการป้องกันของมันมาได้มันมีประโยชน์อย่างมาก
ซวนหยวนติดมันไว้ที่อกอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็หยิบขวดที่มีผงเกล็ดมังกรออกมา และถามด้วยรอยยิ้มลามก “ท่านอาจารย์แสนสวย ท่านช่วยข้าทามันหน่อยได้มั้ย?
หยิน เฉินลู่ หรี่ตามอง นางไม่ต้องการที่จะตอบ แต่ก็ต้องกล่าว “ฝันไปเถอะ ทำเองสิ”
เขาไม่ได้สนใจและปรากฏรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนหน้าของเขา เขาถอดเสื้อผ้าของเขาทั้งหมดต่อหน้าหยินเฉินลู่ บังคับให้นางต้องหันหน้าหนี แก้มที่เริ่มปรากฎสีแดงของนางแสดงถึงความอาย นางเป็นเพียงแค่เด็กสาวอายุราว 16 ปีเท่านั้น
“ข้าสามารถที่จะทามันในทุกส่วนของร่างกายได้ไหม?”
“แน่นอน!” หยินเฉินลู่กล่าวด้วยความโกรธและบ่นกับตัวเองว่า “เขานั้นช่างไร้อย่างอายยิ่งนัก”
ซวนหยวนยืนเปลือยเปล่าขณะที่เขาเทผงเกล็ดมังกรลงบนมือของเขา มือของเขาเต็มไปด้วยความเย็นและความสดชื่นในขณะที่เขาจะทามันลงบนร่างกายของเขามันให้ความรู้สึกสดชื่นและเขาเริ่มที่จะคร่ำครวญจากความรู้สึกรื่นรมย์
“โอ้ววววว… ยอดเยี่ยม…..”
“แต่ตั้งใจจดจ่ออยู่กับมันก็พอ ไม่ต้องส่งเสียงดัง!” หยิน เฉินลู่ตะโกนด้วยความโกรธ
ซวนหยวนกำลังเพลิดเพลินกับตังเอง และเขาเริ่มที่จะส่งเสียงดังอีกครั้งหลังจากที่ หยิน เฉินลู่ ดุด่าเขา และเริ่มส่งเสียงคร่ำครวญเสียงดัง
“อ่าาาาาาา… มันยอดจริงๆ… “
ซวนหยวนทาผงเกล็ดมังกรทั่วทุกแห่ง ยกเว้นส่วนล่างของเขา มีที่ๆเขายังไม่ได้ทามันลงไป เขาพึมพำกับตัวเอง
“ข้าจำเป็นต้องเปิดจุดชีพจรลมปราณที่ตรงนี้หรือไม่? บางทีข้าอาจจะต้องทามันลงไป… “
เขาทามันลงในส่วนลับของเขา…. มันเป็นความรู้สึกที่ไม่น่าเชื่อ ความสดชื่นและความเสียวซ่านไหลผ่านไปทั่วร่างกายของเขา เขาไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้และครางออกมาด้วยความสุข…
“ซี๊ดดดด… อ่าาาาาาาาา… “
หยินเฉินลู่ยอมแพ้นางไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะที่ฟังเสียงอันไร้อยางอายของเขา
“ถ้าเจ้าทำเสียงอย่างนั้นอีกแค่ครั้งหนึ่ง ข้าจะฆ่าเจ้า” ร่างกายของนางสั่นสะท้านขณะที่ขมขู่เขา
ซวนหยวนรู้ว่าไม่ควรไปกระตุ้นโทษะของนาง เขากลับไปใส่เสื้อผ้า ขณะที่กลับไปนั่งตำแหน่งเดิม
“อาจารย์ข้าใช้ผงเสร็จแล้ว ข้าต้องการที่จะเริ่มฝึกฝน ได้โปรดอย่ารบกวนข้า”
นางหันหลังกลับมาด้วยท่าทางที่หงุดหงิด และจ้องมองเขาด้วยความโกรธ แต่เมื่อนางนึกบางสิ่งบางอย่างขึ้นได้ ทำให้ปรากฏรอยยิ้มบนหน้าของนาง นางกำลังรอให้ประสิทธิภาพของผงเกล็ดมังกรทำงาน
ซวนหยวนปิดตาลง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่เห็นรอยยิ้มดั่งปีศาจของนางได้ เขาเริ่มต้นที่จะท่องคำจารึกในเกล็ดมังกรผลาญสวรรค์ ทำให้จุดชีพจรลมปราณเปิดออกและเริ่มที่จะดูดซับพลังปราณ ซวนหยวนรู้สึกราวกับว่าความแข็งแกร่งได้ไหลผ่านเข้ามาในร่างกายของเขา ความรู้สึกเสียวซ่านเริ่มที่จะกลายเป็นความแข็งแกร่งและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ… จนกระทั่งทั่วทั้งร่างของเขาเกิดความเจ็บปวดขึ้นนอย่างฉับพลัน!
ซวนหยวนรู้สึกราวกับว่าจุดชีพจรลมปราณถูกฉีกกระชาก ราวกับโดนเข็มนับหมื่น นับพันทิ่มแทงไปทั่วร่างกาย
แม้ว่าผงเกล็ดมังกรจะสามารถเร่งกระบวนการกระตุ้นจุดชีพจรลมปราณ แต่ก็ต้องแลกมากับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส เมื่อตอนหยินเฉินลู่ยังเด็ก นางก็ต้องทนกับความเจ็บปวดเช่นนี้เหมือนกัน นางกัดลิ้นตัวเองเพื่อที่จะหลุดการส่งเสียงกรีดร้อง
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม..
ซวนหยวนท่องคำจารึกตั้งแต่ต้นจนจบ เขารู้สึกถึงพลังปราณในส่วนลับของเขา หน้าของเขาหมองคล้ำอย่างมาก มือของเขากุมไปยังกล่องดวงใจ ราวกับว่าทั่วทั้งร่างของเขาถูกฉีกกระชาก และเริ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“ อาจารย์!! กล่องดวงใจ…. กล่องดวงใจของข้ากำลังถูกเผา ”
หยิน เฉินลู่ ช็อคจนพูดไม่ออก….