ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหยินเฉินลู่ไม่คิดว่าซวนหยวนจะโง่ขนาดใช้ผงมังกรกับตัวเองส่วนลับของตัวเอง
โดยไม่คำนึงถึงส่วนลับที่สำคัญที่สุดของมนุษย์และเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุดของร่างกาย และมันจะลำบากมากที่สุดในการที่จะเปิดจุดชีพจรลมปราณ
แม้จะมีความช่วยเหลือจากผงเกล็ดมังกร มันก็ยังน่าอัศจรรย์ที่ซวนหยวนสามารถบรรลุส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างการได้ในเวลาอันสั้น มันพิสูจน์ว่า เขาทีพรสวรรค์ที่พิเศษ
นางสามารถรับรู้ได้ถึงความหนาแน่นของพลังปราณที่พาดผ่านทุกจุดชีพจรในร่างกายของซวนหยวนถึงแม้บางจุดจะยังไม่เปิดดี แต่โดยรวมแล้ว ซวนหยวนนับเป็นอัจฉริยะที่หาตัวได้ยากยิ่ง
“ อย่าหยุด เจ้าต้องอดทนต่อไป ” นางอยากที่จะหัวเราะ นางกล่าวออกมาอย่างช้าๆว่า “ร่างกายของมนุษย์เปรียบเสมือนเหล็กกล้า จำเป็นที่จะต้องใช้เปลวไฟที่ร้อนแรงชำระล้างจนกว่าเนื้อในจะเปิดออก ร่างกายของเจ้ามีสิ่งสกปกมากเกินไป นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็จงอดทนต่อไป”
เสียงที่ไพรเราะของนางเป็นดั่งสายน้ำที่ช่วยชำระล้างความคิดของเขา
เป็นอีกครั้ง ที่ซวนหยวนนั่งสมาธิและเริ่มท่องเทคนิคจากคำจารึก ถ้ามีสายตาที่ดีพอ ก็จะสามารถมองเห็นจุดชีพจรลมปราณที่ผลักดันพลังปราณเข้าสู่ร่างกายของเขาได้อย่างชัดเจน
ทั่วทั้งร่างกายของเขาเจ็บปวดไปด้วยการถูกแผดเผา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุดในร่างกาย แต่ในขณะเดียวกัน หลังความเจ็บปวด ก็เกิดความรู้สึกที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสองอย่างที่ขัดแย้งกัน กำลังผลัดกันครอบงำร่างกายของเขา
หยินเฉินลู่มองไปที่ซวนหยวน นางเห็นของเหลวสีดำไหลซึมผ่านออกมาจากผิวหนังของเขา มันคือสิ่งสกปกในร่างกายที่ถูกขับออก ของเหลวเหล่านี้สกปกเป็นอย่างมากมันเป็นเหตุผลที่คนธรรมดาไม่สามารดูดซับพลังปราณแห่งจักรวาลได้ ตอนนี้สิ่งสกปกต่างๆกำลังถูกขับออกมาด้วยความช่วยเหลือจากเทคนิคจากเกล็ดมังกรผลาญสวรรค์ ร่างกายของซวนหยวนเหมือนถูกแผดเผา และถูกทำให้บริสุทธ์ด้วยพลังปราณ
หนึ่งวันผ่านไปเต็มๆ ตอนนี้ทั่วทั้งร่างของเขาปกคลุมไปด้วยของเหลวสีดำ มันมีกลิ่นที่น่ารังเกียจราวกับเขาไม่ได้อาบน้ำมานานนับปี หยินเฉินลู่มองไปที่มันและกล่าวว่า..
“ ทำได้ดี เอาละ เราจะหยุดกันแค่นี้ ก่อนอื่นไปชำระสิ่งเหล่านี้ออกจากร่างของเจ้าเสีย ตอนนี้ผงเกล็ดมังกรถูกร่างกายของเจ้าดูดซึมไว้หมดแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถจดจำเทคนิคเหล่านั้นได้ภายในวันเดียว และดูแล้วเจ้ายังมีความแข็งแกร่งเหลือเฟือ เจ้าทำได้ดีจริงๆ ”
หลังจากที่เขาท่องจำเทคนิคได้ เขายังคงรู้สึกได้ถึงพลัง ร่างกายของเขาปราศจากความเหน็ดเหนื่อย ค่อนข้างตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เขาแน่ใจว่าตัวเขาในตอนนี้สามารถหยุดวัวที่อาละวาดได้โดยไม่มีปัญหา
“ฮ่า ฮ่า ยอดเยี่ยม!!” ซวนหยวนกระโดดขึ้นลงด้วยความยินดี เขาวิ่งไปที่แม่น้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ของเหลวสีดำและสิ่งสกปกต่างๆ ถูกชำระล้างไปด้วยน้ำ เขาว่ายอยู่ในน้ำและรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งในประสิทธิภาพร่างกายของเขา
หยินเฉินลู่มองไปที่เขา นางพึงพอใจอย่างมากกับลูกศิษย์คนแรกของนาง
“ในช่วงเดือนนี้ข้าหวังว่าจะมีเวลาในการสอนเขาให้มากขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากผงเกล็ดมังกร เขาสามารถจดจำเทคนิคจากคำจารึกได้ในวันเดียวและพลังเทียบเท่ากับวัวสองตัว นี่มัน…. เป็นอัจฉริยะที่ผิดปกติยิ่งนัก”
ในวันแรกเขาท่องเทคนิดได้เพียงหนึ่งครั้ง
วันที่สอง เขาท่องเทคนิคเพิ่มเป็นสองครั้ง
ในวันที่สาม เขาท่องเทคนิคได้สามครั้ง และความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มจากวัวสองตัวเป็นห้าตัว ในเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้น!! ทั้งหมดนี้พิสูจน์ว่าการที่หยินเฉินลู่รับซวนหยวนเป็นศิษย์นับคุ้มค่าอย่างยิ่ง
ซวนหยวนเหวี่ยงหมัดที่เต็มไปด้วยพลังของเขา จุดชีพจรลมปราณกำลังเปิดและปิดไปตามการเคลื่อนไหว พลังปราณกำลังไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา จุดชีพจรที่ไม่บริสุทธิ์ในวันแรกถูกชำระล้าง ในระหว่างการฝึกสิ่งสกปกที่ถูกสกัดออกมาจากร่างกายของเขาลดน้อยลง แต่เขายังห่างไกลจากมันอีกมาก เขารู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น กระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่ออเมื่อเขาสามารถเปิดจุดทั้ง18 ได้ในวันเดียว ผิวหนังของเขาจะถูกชำระล้างโดยสมบูรณ์ และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ “ขอบเขตนักรบ”
“อาจารย์คนสวย นี่คืออาหารที่ปรุงสุกแล้ว และข้ากำลังจะออกไปล่ามาเพิ่มอีกเล็กน้อย” หลังจากผ่านไป 3 วัน ร่างกายของซวนหยวนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เขากระหายที่จะออกไปทดสอบพลังของเขา หยินเฉินลู่นางไม่ได้ต้องการอาหารมากมาย ไม่เหมือนกับซวนหยวนที่พึ่งเริ่มฝึกฝน เขารีบนำอาหารทั้งหมดไปเก็บไว้ในบ้าน
หยินเฉินลู่ พยักหน้าและยิ้ม
“ ไปเถอะ ”
ซวนหยวนและกู่ฉิงวิ่งออกไปทางประตู แต่ละก้าวของเขานั้นยาวถึง 3 เมตร ทำให้เขาสามารถวิ่งผ่านป่าได้อย่างรวดเร็ว
พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังทิศของสุสานที่มีหลุมฝังศพมากมาย
มีชายสองคนกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางของสุสาน พวกเราแต่งกายในชุดที่ดูดี ใบหน้าของพวกเข้าปรากฎรอยยิ้มที่ชั่วร้าย พวกเขากำลังลากศพไปยังหลุม มือแต่ละข้างของพวกเขาช่วยกันลากดึงขาของศพไว้
พวกเขาเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเยว่ ใครจะรู้ว่าคนบริสุทธิ์จำนวนมากเท่าใดที่ถูกพวกเขาฆ่าตายในชีวิตของพวกเขา
“ไอเด็กบัดซบนี้ มันคิดที่จะไปทวงน้องสาวจากนายน้อยเยว่จือ มันกล้าที่จะเข้าไปในคฤหาสน์ของพวกเราและทวงน้องสาวของมันคืน มันคงจะเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วกระมัง” หนึ่งในชายที่ชื่อ เชี่ยนหยงไร เย้ยหยันอย่างชั่วช้า เขาเตะไปที่ศพขณะที่พูด
“ ฮ่าๆๆๆ นายน้อยเยว่จือเป็นคนใจดี เขาบอกเพียงว่าให้ทำลายแขนขาของมัน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของข้าที่พึ่งจะเทียบเท่ากับวัวสี่ตัว ทำให้ข้าไม่สามารถความคุมความแข็งแกร่งและเผลอฆ่ามัน อย่างไรก็ตามนายน้อยเยว่จือก็ให้รางวัลข้าสิบเหรียญนักรบที่ “บังเอิญ” ไปฆ่ามัน สิบเหรียญนักรบเทียบเท่ากับร้อยเหรียญนักสู้ มันจะช่วยให้ข้าได้เพลิดเพลินกับหอนางโลมได้ ” ชายอีกคนที่ชื่อเชี่ยนหยงฟูหัวเราะ พวกเราเดิมมาถึงปากหลุม และโยนร่างที่ไร้วิญญาณลงไป และหันหลังกลับ
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของซวนหยวนถูกลับให้แหลมคมขึ้นหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ “ขอบเขตนักสู้” เขาสามารถเห็นและได้ยินอย่างชัดเจนรอบรัศมี 15 เมตรจากตัวเขา เขาได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของพวกมัน เชี่ยนหยงไรและเชี่ยนหยงฟู เป็นข้ารับใช้ของเยว่จือ ที่เคยทำร้ายเขาและปล่อยให้เขาตาย
ซวนหยวนประหลาดใจมากที่ได้ยินพวกมันบอกว่าฆ่าเด็กที่บริสุทธิ์ได้อย่างหน้าตาเฉย เขาโกรธแค้นเป็นอย่างมาก แต่ก็สงบใจลงอย่างรวดเร็ว เขาจะต้องระมัดระวังที่จะเผชิญหน้ากับคนที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับวัวสี่ตัวมิฉะนั้นจะเป็นเขาเองที่ได้รับความสูญเสีย เขาไม่ได้มีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับการต่อสู้ ถึงแม้ร่างกายนี้จะมีความทรงจำเกี่ยวกับการล่าสัตว์ แต่การที่จะต้องต่อสู้กับมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งนั้นแต่ต่างกับการซุ่มโจมตีสัตว์ป่าเป็นอย่างมาก
แต่เขาก็คิดบางอย่างออกได้อย่างรวดเร็ว เขาและกู่ฉิง เดินเข้าไปใกล้พวกมันอีกเล็กน้อย เขาหยุดอยู่กับที่ และซบตากับพวกมัน
ข้ารับใช้ทั้งสองตกใจอย่างมากที่เห็นซวนหยวนแต่ก็แสดงออกด้วยการดูหมิ่นอย่างรวดเร็ว
เชี่ยนหยงไรหัวเราะด้วยเสียงที่สูงแหลมราวกับปีศาจ,
“ โอ้วว… นี่มันเด็กที่เราเกือบจะฆ่าไปเมื่อวันก่อนนี่! เป็นเรื่องยากนะเนี่ยที่เจ้ายังรอดชีวิตอยู่ได้ หืมมม นั่นเป็นหมาป่าสีเงินที่ดูดีทีเดียวนี่… สงสัยคืนนี้เราจะได้เนื้อหมาป่าเป็นอาหารค่ำ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ”
“รีบฆ่ามันเถอะ!! นายน้อยตรงตบรางวัลให้เราอย่างงามถ้าเราบอกเรื่องนี้กับเขา ขนของหมาป่าสีเงินจะเงางามมากขึ้นถ้าเราถลกหนังมันทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเรานำไปมอบให้นายน้อย เขาจะต้องยินดีเป็นแน่! ”
เหมือนกระต่ายที่กำลังมองไปยังหมาป่า ซวนหยวนดูราวกับคนขี้ขลาด เขาค่อยๆเขยิบมาใกล้ๆและขอร้องว่า
“ พวกท่านทั้งสอง…. พวกท่านเกือบจะฆ่าข้าไปแล้วก่อนหน้านี้ ข้าขอร้องปล่อยข้าไปได้ไหม? ”
“ ฮ่าๆ ๆ ๆ.. ดูท่าเจ้าจะกลัวพวกข้านะ เจ้าคงลำบากมากเลยสินะในช่วงไม่กี่วันมากนี้ เอางี้เป็นไงข้าจะปล่อยเจ้า ถ้าเจ้ายอม…. ยกหมาป่าตัวนั้นให้พวกข้า ข้าอาจจะยินดีที่จะปล่อยเจ้าไปก็ได้ ” เชี่ยนหยงไรหัวเราะ เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ปล่อยแกไปงั้นหรือ? ไอ้เศษสวะ! แกบังอาจขัดขืนนายน้อยแถมยังกล้าดูถูกเขา แม้ว่าแกจะตายล้านรอบก็ไม่สามารถจะชดเชยมันได้ ทั้งหมาป่านั่น และครอบครัวของแกสมควรที่จะได้รับความตาย!!” เซี่ยนหยงฟูเป็นคนที่ก้าวร้าวกว่าเชี่ยนหยงไร และยังเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“กู่ฉิง วิ่ง!!” ซวนหยวนเริ่มที่จะหลั่งน้ำตาขณะที่เขากระตุ้นกู่ฉิงให้วิ่ง คนรับใช้เห็นดังนั้นก็หัวเราะด้วยความดูถูกและเริ่มออกล่าเขา
“เฮ้ ไอหนู ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตายเร็วนักหรอก ข้าจะทำลายแขนขาของเจ้าและโยนลงไปในหลุมนั้นอีกครั้ง และข้าจะเฝ้าดูเจ้าที่ถูกสัตว์อสูรกัดกินให้ตายอย่างช้าๆ ” เชี่ยนหยงฟูมีความเร็วมากกว่าสหายของเขา เขาเข้าถึงตัวซวนหยวนเป็นคนแรก ขณะที่ยกกำปั้นและกำลังจะชกไปยังเด็กหนุ่ม ซวนหยวนเสียวซ่านไปถึงกระดูกสันหลัง ทันทีเขารับรู้ว่านี้คือนี้ความสามารถในการรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของพลังปราณที่เขาได้รับหลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตนักสู้ ด้วยความรู้สึกนี้ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงทิศทางที่ศัตรูโจมตีเขา
เมื่อหมัดของเชี่ยนหยงฟูกำลังจะถึงตัวซวนหยวนเขาได้หมอบลงและหมุนตัวไปข้างหลัง กำปั้นของเขาชกไปที่ท้องของเชี่ยนหยงฟูอย่างรุนแรง
การโจมตีอย่างกะทันหันด้วยพลังที่น่าตกใจของเขาที่เทียบเท่ากับวัวห้าตัว ทำให้หมัดของเขาระเบิดพลังออกมา ทำให้มีเสียงดัง ปั้งง เมื่อหมัดของเขากระแทกกับตัวของเชี่ยนหยงฟู
ม่านตาของเชี่ยนหยงฟูขยายขึ้น เขาอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงเนื่องจากกระเพาะอาหารได้รับความเสียหายอย่างหนัก เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มที่ไม่มีแม้ความแข็งแกร่งในตอนแรก จะมีพลังเทียบเท่ากับวัวห้าตัวในตอนนี้หลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่วัน สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธแค้นเป็นอย่างมากที่ซวนหยวนแกล้งเป็นอ่อนแอและหลอกพวกเขา
เพียงแค่หมัดเดียวถึงกับทำให้เชี่ยนหยงฟูมีสถาพที่อเนจอนาถเช่นนี้ เขานอนชักกระตุกอยู่บนพื้นเหมือนกับคางคกโดนไฟดูด น้ำลายไหลออกมาจากปากของเขาทำให้ดูน่าอนาถ
เชี่ยนหยงไรตัวสั่นด้วยความกลัว เขายังไม่สามารถตอบสนองได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“กะ กะ แกกก… แกต้องการอะไร? ”
สถานการณ์พลิกอย่างกะทันหัน เชี่ยนหยงไรเปรียบเสมือนกระต่ายที่ตื่นกลัวและซวนหยวนเป็นหมาป่าที่ชั่วร้าย
กู่ฉิงเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ปรากฏคล้ายรอยยิ้มที่ดูถูกอยู่บนใบหน้าของมัน
“ ก็ ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่จะทำลายแขนขาพวกเจ้า และโยนลงไปในหลุมให้พวกสุตว์อสูรค่อยๆกินพวกเจ้า ที่นี้พวกเจ้าจะได้รู้ว่าความรู้สึกมันเป็นเช่นไร!!!”
ความแข็งแกร่งของเชี่ยนหยงไรอ่อนด้อยกว่าซวนหยวนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ซวนหยวนค่อยๆเดินเข้าไป และจับคว้าไปบนไหล่ของหยงไร ค่อยๆกดลง แน่นขึ้น….และแน่นขึ้น… หยงไรไม่สามารถขยับไปไหนได้ เขารู้สึกว่ากระดูกหัวไหล่ของเขาถูกบดขยี้ลงอย่างช้าๆ เมื่ออยู่ภายใต้อำนาจการจับของซวนหยวน แต่ละส่วนในร่างกายของเขารู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ได้เช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพชเท่านั้น
โดยปกติเชี่ยนหยงไรเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีใครอยากจะตอแยด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่มีใครกล้าทุบตีเขา เพราะไม่ต้องการไปกระตุ้นโทสะของตระกูลเยว่ ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองจันทร์สลาย
แต่ซวนหยวนกล้าที่จะทุบตีพวกเขา
แคร่ก…. แคร่ก….
เสียงกระดูกถูกบดขยี้สอดคล้องกับเสียงกรีดร้องของเชี่ยนหยงไร กระดูกแต่ละชิ้นของเขา ถูกหักชิ้นต่อชิ้น..
เพราะความหวาดกลัวจากก้นบ้นของหัวใจและความเจ็บปวดที่ยากจะทนทาน เชี่ยนหยงไรสูญเสียการควบคุมตัวเอง ของเหลวคล้ายโคลนสีเหลือไหลออกมาจากกางเกงของเขา มันเริ่มส่งกลิ่นเห็นน่าขยะแขยง ทำให้ซวนหยวนเอามือมาปิดจมูกในทันที ซวนหยวนค้นตามร่างกายของเชี่ยนหยงไร เขาพบถุงขนาดใหญ่ ข้างในมีเหรียญนักสู้อย่างน้อยหนึ่งพันเหรียญ ซวนหยวนตกใจมากกับจำนวนเงินที่พวกมันมี มันมากกว่าที่ตัวเขาเก็บมาทั้งชีวิตเสียอีก เขาเก็บถุงเงินนั้นใส่กระเป๋าของตัวเองอย่างไม่รีรอ
เขาเดินเข้าไปหาเชี่ยนหยงฟูและยิ้มอย่างเย็นชา เขากระทืบลงไปบนแขนขาของเชี่ยนหยงฟู และหักมันชิ้นต่อชิ้น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพช
ซวนหยวนตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาทำ เขาไม่เคยฆ่าใครและทิ้งความคิดที่จะฆ่าพวกเขา เขาคิดว่าการลงโทษเช่นนี้คงจะเพียงพอสำหรับพวกมัน
ซวนหยวนพบสองร้อยห้าสิบเหรียญนักรบในตัวของเชี่ยนหยงฟู หนึ่งเหรียญนักรบมีค่าเท่ากับสิบเหรียญนักสู้ นี่ดูเหมือนจะเป็นรางวัลจากตระกูลเย่ ที่เขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวัวสี่ตัว ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะโอ้อวดและวางแผนจะไปหอนางโลม
ข้ารับใช้ทั้งสองหัวเสียอย่างมากที่ซวนหยวนขโมยเงินของพวกมันไป นั่นคือเงินที่พวกมันได้จากการตามจัดการปัญหาของ เยว่จือ แต่ตอนนี้มันถูกยึดไปโดยซวนหยวนทำให้พวกมันโกรธแค้นอย่างมาก
“ พะ พะ พ่อหนุ่ม… ปล่อยพวกเราไปเถอะ… พวกเราสำนึกผิดแล้ว ให้อภัยพวกข้าเถอะนะ อย่าฆ่าพวกเราเลย ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ.. น้ะ ”
“นั่นก็ใช่…. ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า.. ”
พวกเขายังคงสั่นเทาและร้องไห้ด้วยความกลัว
“พวกเจ้าได้รับเงินเหล่านี้มาด้วยวิธีอันชั่วช้า ดังนั้นข้าจะใช้มันเอง ในฐานะที่ชีวิตเป็นของพวกเจ้า มันก็ขึ้นอยู่กับชะตาของพวกเจ้าแล้วว่าจะรอดหรือไม่… ”
ซวนหยวนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาลากพวกมันไปบนพื้น ใบหน้าและร่างกายของพวกมันบิดเบี้ยวไปด้วยความกลัว โดยรวมแล้วพวกมันดูน่าสงสารอย่างไม่น่าเชื่อ ซวนหยวนโดยพวกมันลงไปในหลุมเหมือนสัตว์ที่ตายแล้ว และเดินกลับเข้าไปในป่าเพื่อที่จะล่าสัตว์ต่อ…