I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 8 สำนักจันทร์พฤกษา

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ซวนหยวนหยิบถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญเก็บเข้าไปในกระเป๋าของเขาและหันไปรอบๆ เขาเห็นหยิน เฉินลู่ มองเขาจากระยะไกล เขาเกาหัวขณะที่หัวเราะ เขาเคลื่อนที่ไปใกล้ๆกับหยิน เฉินลู่ ด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาจารย์คนสวยมันไม่เหมาะที่เท่าจะเดินเข้ามาในป่า ข้าจะเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อของที่เหมาะสมกับท่าน ข้าพอจะมีเงินเล็กน้อย”

 

หยิน เฉินลู่ส่ายหัวแล้วยิ้ม “ไม่จำเป็น เก็บเงินไว้เพื่อตัวเจ้าเอง พวกเราจะเน้นไปที่การฝึกฝน” ข้าสามารถที่จะสอนเจ้าได้แค่ 1 เดือน แล้วตอนนี้ก็ผ่านไป 6 วันแล้ว”

 

หลังจากที่นางพูดจบนางก็จากไป ตั้งแต่เขาเริ่มฝึกฝน ซวนหยวนเริ่มเข้าใจมากขึ้นและมากขึ้นเกี่ยวกับพลังที่แท้จริงของนาง การลอบทำร้ายนางแน่นอนผลมันย่อมล้มเหลวเพราะเขานั้นไม่สามารถที่จะประเมินพลังของนางได้

 

สิ่งที่นางพูดได้ทำลายอารมณ์ที่ดีของเขา หลังจากที่นางสัญญาว่าจะอยู่ที่นี่แค่ 1 เดือน

 

“…”

 

ซวนหยวนจ้องมองที่แผ่นหลังของนาง ซวนหยวนไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ แต่ตอนนี้เขาตั้งใจแน่วแน่จะใช้เวลาเพื่อฝึกฝน

 

ซวนหยวนนั่งอยู่บนหินภายใต้ดวงอาทิตย์ที่สว่างสไวและเริ่มที่จะท่องวิชาอีกครั้ง เขาเปิดจุดชีพจรของเขาและปล่อยให้พลังปราณชำระล้างร่างกายของเขา

 

หยิน เฉินลู่มองซวนหยวนที่ฝึกฝนอย่างหนักและนางทำได้เพียงถอนหายใจ “ถ้าตระกูลหยินรู้ว่าข้าได้รับศิษย์ที่อัจฉริยะเช่นนี้ พวกเขาจะฝึกฝนโดยไม่หลับไม่นอน แต่ตอนนี้ข้า…ไม่สามารถกลับบ้านได้ มิฉะนั้นเจ้าจะถูกลากไปในความยุ่งเหยิงและไม่สามารถที่จะมีชีวิตที่สงบสุข ข้าสามารถที่จะสอนเจ้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วง 1 เดือน”

 

นางมองเขาอย่างเงียบๆ  เขาใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการท่องวิชาเกล็ดมังกรผลาญสวรรค์ หลังจากที่มีเสียงดังกระหึ่มดังอยู่ข้างในร่างกายของเขา

 

ซวนหยวนได้หักผ่านขีดจำกัดของเขาและบรรลุความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 10 ตัว มันทำให้หยิน เฉินลู่มองด้วยความประหลาดใจ “เขาถึงขั้นนักรบแล้ว? ไม่มันยังไม่ถึงขั้นนักรบ มันต้องมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยเท่ากับวัว 12 ตัวก่อนถึงจะขั้นนับรบ วิธีใดที่ทำให้เขามีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 10 ตัว?”

 

ทันใดนั้นนางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้และพึมพัมกับตัวเอง”มันอาจเป็นไปได้ว่าเขามีร่างกายที่พิเศษ? เขามีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 10 ตัวแล้ว แต่ร่างกายของเขายังไม่บริสุทธิ์อย่างเต็มที่ ใครจะรู้ว่าพลังของเขาจะมากเพียงใด เมื่อเขาอยู่บนจุดสูงสุดของขอบเขตนักสู้”

 

ซวยหยวนรู้สึกสดชื่นมากขึ้นเพราะจุดชีพจรของเขาจะบริสุทธิ์มากขึ้นทุกครั้งเมื่อเขาฝึกวิชา แต่เขาก็ตระหนักว่ากระบวนการที่ทำให้ร่างกายบริสุทธิ์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ถึงแม้เขาจะมีความสุขกับการก้าวหน้าแต่เขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เขาก็หยิบผงเกล็ดมังกรและใช้มันกับร่างกายของเขาอีกครั้ง เขาอดทนต่อความเจ็บปวดมันเหมือนมีเข็มทิ่มแทงทั่วร่างกายของเขา และเริ่มท่องวิชาเกล็ดมังกรผลาญสวรรค์อีกครั้ง

 

ผ่านไปอีกวันหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

เชี่ยน ไคว้อยู่ใกล้ๆลำธารและตั้งใจฟังข้ารับใช้ที่ได้รับบาดเจ็บของเขา พวกมันยืนยันว่าซวน หยวนมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 8 ตัว พวกมันไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะโจมตีกลับและโดนทุบตีฝ่ายเดียว เชี่ยน ไคว้โกรธเกรี้ยวเมื่อได้ยิน

 

คนที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 6 ตัวสูญเสียฟันไป 18 ซีก จากการปะทะกับซวนหยวน เขาคำรามอย่างโกรธแค้นและพ่นลมออกมาจากช่องว่างระหว่างฟันของเขาขณะที่พูด

 

ผู้ดูแลเชี่ยน ท่านต้องแก้แค้นให้พวกเรา มันหยิบเงินออกมาทั้งหมดของมันเพื่อมอบเงินทั้งหมดให้กับเชี่ยน ไคว้

 

ซวนหยวนใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆกับลำธารที่อยู่ข้างบน นั้นเป็นเหตุผลที่พวกมันไม่สามารถที่จะหามันพบบริเวณใกล้ๆสุสาน

 

“มันเป็นความจริงและมันมีหมาป่าที่ดุร้าย…” คนรับใช้ของเขามีรอยกรงเล็บจำนวนมากทั่วร่างกายของเขา มีแผลอยู่ที่ก้นของมัน มันถูกกู่ฉิงกัดไปที่แก้มก้น

 

“นั้นหมายความว่าเด็กนั่นอย่างน้อยมันต้องความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 8 ตัว ถึงแม้มันจะมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 9 ตัว มันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้ากลัวได้ ถ้ามันไม่มีอาวุธมันทำอะไรได้ แม้แต่ขอบเขตนักรบยังไม่มีความกล้าพอที่จะปะทะกับแส้ของข้า? มันไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยวการลงทัณฑ์ของข้าได้”

 

การแสดงออกของเชี่ยน ไคว้เต็มไปด้วยความคิดชั่วร้าย เขาอยากฆ่าซวนหยวนเพราะมันทำให้ลูกน้องของเขาพ่ายแพ้ ข้ารับใช้ทั้ง 2 คนได้รับการฝึกฝนเป็นการส่วนตัวจากเชี่ยน ไคว้และทำให้เขาได้รับเงินเป็นจำนวนมากในแต่ละเดือน แต่ตอนนี้มันกลับถูกเด็กเหลือขอโจมตี มันเหมือนกับเขาถูกไอเด็กเหลือขอท้าทายอำนาจของเชี่ยน ไคว้

 

“ไป ไปส่วนบนของลำธาร ข้าจะเฆี่ยนไอเด็กเหลือขอ” แส้ในมือของเชี่ยน ไคว้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำที่ใช้พิษ ทุกคนที่ได้รับการโจมตีจากแส้จะอ่อนแอลงและสูญเสียส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งของตัวเองไป หากแส้ตีใส่นักรบและเฉีอนผิวหนังของมัน พวกมันจะสูญเสียความแข็งแกร่งครึ่งหนึ่งจากพิษอัมพาต นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมอาวุธศักดิ์สิทธิ์อันนี้ถึงได้น่ากลัว

 

เชี่ยน ไคว้หลี่ตาลงและมองลูกดอกอาบยาพิษที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขา มันก็เป็นอาวุธศักดิ์ระดับต่ำที่ใช้ลอบสังหาร มันมีพิษร้ายกาจมากกว่าแส้ ปริมาณของพิษสามารถที่จะฆ่าอสูรหมียักษ์ที่โตเต็มวัยที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 30 ตัว อสูรหมียักษ์ที่มีผลึกอสูรเจริญเติบโตอยู่ภายในมันจะไม่ตายทันทีหลังจากถูกลูกดอกอาบยาพิษยิง แต่ถ้ามันผสานการโจมตีกับแส้ มันจะค่อยๆทำลายความแข็งแกร่งของหมีออก

 

เชี่ยน ไคว้นำข้ารับใช้ 7 คนมาพร้อมกับเขา เขามีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 9 ตัว ข้ารับใช้ 3 คนมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 7 ตัว ส่วนคนที่เหลือมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 6 ตัว พวกเขาเริ่มที่จะวิ่งไปข้างบนลำธารและเชี่ยน ไคว้พูดกับข้ารับใช้ทั้งสองที่ได้รับบาดเจ็บ…

 

กลับไปผักผ่อนซะ คนจากสำนักจันทร์พฤกษา จะมาถึงในอีกไม่กี่วันเพื่อคัดเลือกลูกศิษย์รุ่นเยาว์เพื่อรับศิษย์ ตั้งแต่ หยงไรและ หยงฟู ไม่สามารถที่จะเข้าร่วมได้ ข้าสามารถที่จะแนะนำพวกเจ้าทั้ง 2 แก่นายน้อยเย่วจือได้ เมื่อเขาได้รับเลือกให้เข้าไปเรียนที่สำนักจันทร์พฤกษามันขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เจ้าเสนอจะมอบให้แก่ข้า”

 

ทั้ง 2 คนตื่นเต้นมากพวกมันพยักหน้า ถ้าพวกมันรับโอกาสที่หายากนี้ พวกมันจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง สำนักจันทร์พฤกษา คือสำนักเฉพาะผู้ฝึกฝนและเป็นสำนักที่มีชื่อเสียง เมืองจันทร์สลายไม่มีอะไรเมื่อเปรียบเทียบกับสำนักจันทร์พฤกษา

 

ในขณะที่เชี่ยน ไคว้และคนของเขารีบวิ่งขึ้นมาที่ต้นน้ำ ซวนหยวนใช้ผงเกล็ดมังกรกับร่างกายของเขาในปริมาณมาก มันเร่งความเร็วในการชำระล้างร่างกายของเขา เขาสามารถรู้สึกได้ว่ากระบวนการชำระร่างได้รวดเร็วมากขึ้นหลังจากใช้ผง

 

ความแข็งแกร่งของซวนหยวนก็ขึ้นไปอีกระดับ และมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 11 ตัว โดยที่เขาไม่รู้ตัว

 

ขณะที่เขากำลังฝึกฝน ซวนหยวนได้ยินเสียงคนในทิศทางข้างหน้าของเขา กู่ฉิงกระโดดขึ้นและคำราม พวกเขาสามารถเห็นผู้ชาย 8 คนโดยมีชายวัยกลางคนที่กำลังถือแส้และยิ้มอย่างชั่วร้าย ข้างหลังของมันมีข้ารับใช้ติดตามมาด้วยและพวกมันก็จ้องมองซวนหยวนอย่างชั่วร้าย

 

ซวนหยวน เขาเหลือบมองเชี่ยน ไคว้ด้วยตาของเขาและจำได้ว่ามันเป็นคนที่เฆี่ยนเขาและเกือบจะฆ่าเขา ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้สภาพของซวนหยวนและกู่ฉิงเหมือนหมาจรจัดบนถนนเขาถูกมันเฆี่ยนตี เหมือนแมวเล่นกับหนู แต่ถึงเป็นอย่างนั้นคำชายชราเคยกล่าวว่า “ตาต่อตา” ซวนหยวนไม่คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายผิดเขาเดินตรงไปยังประตูบ้านของเขา

 

“ไอสารเลวในที่สุดพวกข้าก็เจอเจ้า วันนี้เจ้าจะหนีไม่พ้นความตาย” เชี่ยน ไคว้ถือแส้ขึ้นและเสียงที่คมแหวกว่ายผ่านอากาศ มันเล็งไปที่ซวนหยวนและเฆี่ยนใส่

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments