ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป* พรึบ *
ทันใดนั้น ร่างของเจี้ยนเฟิงอี้เกิดประกายแสงจากนั้นเขาก็หายไป
เมื่อเขาโผล่มา ก็มาอยู่ตรงหน้าของ’ชูเฟิง’ หมัดที่รุนแรงถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่สนใจ’ชูเฟิง’และพยายามโจมตี
แต่เขานั้นประมาท’ชูเฟิง’ เขาคิดว่าหมัดของเขาจะเอาชนะ ‘ชูเฟิง’ได้ไม่ยาก แต่เขาไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของฝ่ามือ’ชูเฟิง’ เขาเหมือนไม่เห็น’ชูเฟิง’อยู่ในสายตา
มุมปากของ’ชูเฟิง’โค้งขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับก้าวไปข้างหน้า จากนั้นเค้าก็เหวี่ยงแขนขวาต่อยออกไป
สองกำปั้นกำลังเข้าปะทะกันกลางอากาศ ความเร็วและความแรงทำให้อากาศเกิดการเผาไหม้กระจายออก
” หยุด!!! “
ขณะที่หมัดทั้งสองจะปะทะกัน ก็มีคนปรากฏต่อหน้าเขาทั้งคู่ ฝ่ามือที่แข็งแกร่งจับแขนของทั้งสอง เค้ากำข้อมือของ’ชูเฟิง’ และ ‘เจี้ยนเฟิงอี้’ ไว้แน่น เพื่อให้ทั้ง 2 คนหยุดการโจมตี
” อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ? “
พลังที่สัมผัสแขนของ ‘ชูเฟิง’ ทำให้เค้ารู้ เมื่อเค้าเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พบกับคนที่ยืนอยู่เวทีศิลา หอฝึกฝน
แต่ ณ ตอนนั้น อาวุโสมองหน้าของ ‘ชูเฟิง’ ภายในดวงตาของเขา เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
หลังจากที่เค้าหยุดหมัดทั้งสอง เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ‘ชูเฟิง’ มีพลังที่แข็งแกร่งกว่า ‘เจี่ยนเฟิงอวี้’. . .อีกทั้งยังมีกลิ่นอายพลังวิญญาณระดับ 7 ห้วงวิญญาณในขณะที่’เจี้ยนเฟิงอวี้’มีกลิ่นอายของระดับ 9 ห้วงวิญญาณ
” นี้มันเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า พลังวิญญาณมันกลับตาลปัตเช่นนี้ ? “
ในตอนนั้น ก็มีเสียงที่ฟังดูมีอายุดังมากจากหอคอยฝึกฝน ชายชราผมสีดำก้าวออกมาจากในนั้น ดูเหมือนว่าเค้าจะเป็นผู้อาวุโสจากหอคอยฝึกฝน ตำแหน่งของเขาดูเหมือนจะสูงกว่าอาวุโสวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
” พี่หวัง ศิษย์ทั้งสองกำลังจะต่อสู้กันอยู่ที่นี่ “
อาวุโสวัยกลางคนคารวะพร้อมกับรายงาน
” โห “
อาวุโส’หวัง’มอง’เจี้ยนเฟิงอวี้’แล้วกลับมามอง’ชูเฟิง’และต่อว่าอย่างเคร่งขรึม
” ทำไมถึงได้มาสู้กันที่นี่ พวกเจ้าไม่รู้หรอว่าที่นี่คือที่ไหน ? เจ้ายังเห็นกฏของโรงเรียนอยู่ในสายตาอยู่หรือเปล่า “
” ท่านอาวุโส ท่านไม่เห็นหรอว่าเขาเข้ามาทำร้ายข้าก่อน ข้าทำไปเพื่อปกป้องตัวเอง ข้าทำผิดงั้นหรอ ? “
‘ชูเฟิง’กล่าวอย่างผิดหวัง
ได้ยินคำพูดเหล่านั้น อาวุโส’หวัง’ก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกศิษย์จะกล้าคุยเช่นนี้กับเขา แต่ถึงอย่างั้น เขาก็ยังหันไปมอง’เจี้ยนเฟิงอวี้’และถามด้วยน้ำเสียงที่แสนจะอ่อนโยน
” เฟิงอวี้ ท่านโจมตีเค้าก่อนจริงหรอ “
” ข้า . . . “
ตอนนั้น ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ไม่รู้จะพูดยังไง เขาเป็นคนผิดอย่างแน่นอน ต่อหน้าสายตาที่นับไม่ถ้วนที่เห็นฉากเมื่อกี้ ยากที่เค้าจะปฏิเสธ
” งั้นหรอ อย่าให้มีคราวหน้าอีก ในฐานะที่ท่านเป็นตัวแทนของหอคอย ศิษย์หลักในอนาคต อย่าได้ลืมสถานะของท่าน เข้าใจไม๊ ? “
หมั่นไส้มันไม๊คับ คนอ่าน
” ข้าทราบแล้ว “
” งั้นดี เจ้าไม่เคยมาที่หอฝึกฝนหนิ วันนี้เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ? “
” อาวุโสหวัง ข้ามาที่นี้วันนี้เพื่อมาศึกษาความลึกลับของหอคอยฝึกฝน “
” ท่านกำลังจะกลายเป็นศิษย์หลักในอีกไม่กี่วัน แต่ท่านก็ยังมาหาความรู้ที่นี่ ไม่ต้องห่วงที่นี่ไม่มีใครทำอันตรายใดๆท่านได้ เชิญท่านเข้ามาเถอะ “
ไอแก่หวังยิ้มพร้อมกับโบกมือ
” ขอบคุณท่านอาวุโส “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ไม่รอช้า เค้านำหญ้าวิญญาณของเค้าออกมาจากถุงมอบให้กับอาวุโสวัยกลางคน จากนั้นเค้าก็เดินขึ้นไปบนเวทีศิลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินมาถึงข้างๆ’ชูเฟิง’ เขาพูดด้วยเสียงที่เหมือนต้องการให้’ชูเฟิง’ได้ยิน
” ไอหนุ่ม ไม่รู้หรอว่าข้านั้นมีคนคอยส่งเสริมในหอคอยแห่งนี้ “
” อย่าได้คิดว่าเจ้าจะปลอดภัยเพราะแค่เข้าร่วมกับพันธมิตรปีกฯ ในเมื่อเจ้ากล้าทำร้ายน้องชายของข้าต่อให้เป็นเทพก็ปกป้องเจ้าไม่ได้ “
หลังจากพูดจบ เจี้ยนเฟิงอวี้สบัดแขนพร้อมเดินไปด้านหน้าจากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนเวทีสูง
ตอนนั้น ใบหน้าของชูเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธ จากนั้นเขากล่าวด้วยความไม่พอใจ
” อาวุโสหวัง ข้ามาถึงที่นี้ก่อนเขา ทำไมท่านถึงได้ให้เขาเข้าไปก่อน “
” ทำไมงั้นหรอเคยได้ยินไม๊ ว่าความสามารถย่อมมาก่อน “
‘เจี้ยน เฟิงอวี้’เป็นหนึ่งในศิษย์ฝ่ายในที่โดดเด่น ปกติแล้ว เขาเป็นทรัพยากรของฝ่ายในที่มีความสำคัญ
ตาเฒ่านั้นกล่าวไปเรื่อยเปื่อยเถียงข้างๆคูๆพร้อมกับแสดงสีหน้าโมโหปรากฏในดวงตาของเขา เห็นได้ชัดว่าเค้าถูก’ชูเฟิง’ขัดมาตลอด ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่พอใจ
” แล้วท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่โดดเด่นมากกว่าเขา “
‘ชูเฟิง’ไม่ยอม
” ฮ่าๆๆ เจ้าน่ะหรอโดดเด่นมากกว่า ศิษย์แค่ระดับ 7 กล้าเรียกตัวเองว่า โดดเด่น ข้าว่า ยโห ซะมากกว่า ทำไมศิษย์แบบนี้ถึงได้มาอยู่โรงเรียนมังกรฟ้า ? “
อาวุโส’หวัง’ เสียงแข็งขึ้นเรื่อยๆ
” ไม่ว่าข้าจะโดดเด่นหรือไม่ ก็ไม่สามารถตัดสินได้จากท่าน สุดท้าย ท่านก็เป็นได้แค่อาวุโสฝ่ายใน ท่านไม่มีสิทธ์ที่จะตัดสินคุณสมบัติของใครๆ “
‘ชูเฟิง’เห็นไอแก่มีความเกี่ยวข้องกับ’เจี้ยนเฟิงอวี้’แล้ว จะหยาบคายกับเขาย่อมเป็นเรื่องปกติ
” ยโสโอหัง เจ้าหนุ่มกล้าดียังไงมาพูดกับข้าเยี่ยงนี้ “
อาวุโส’หวัง’กัดฟันและกล่าว
” การเป็นผู้ใหญ่ ต้องมีความยุติธรรม คนแบบท่านน่ะหรอ ที่จะมีคุณสมบัติทำให้ข้าให้ความเคารพ ? “
‘ชูเฟิง’เถียงพร้อมกับขดริมฝีปากของเขา
” บังอาจ!!! ถ้าหากข้าไม่สั่งสอนเจ้าในวันนี้ เจ้าจะคิดว่า ที่นี้ไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆ ไว้ใช้กับเจ้า “
ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนต่อคำพูดของ’ชูเฟิง’ อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ เขาเหวี่ยงแขนของเค้าออกไป ปราณที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามาหา ‘ชูเฟิง’
อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ระดับ 3 ?
” ตอนนั้น ชูเฟิง ไม่สามารถหยุดความตกใจ เขาคงไม่คิดว่าอาวุโสหวังจะอยู่ในระดับ 3 หากเป็น ระดับ 1 กำเนิดวิญญาณแล้วล่ะก็ ชูเฟิง ยังคงพอสู้ไหว หากเป็นระดับ 3 ชูเฟิงไม่รู้ว่าจะเอาชนะได้หรือเปล่า “
* ปั้งงงง *
” อ้าาา “
ขณะที่’ชูเฟิง’คิดว่าหายนะกำลังมาเยือน เสียงอาวุโสหวังก็ตะโกนดังขึ้น ด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็ถอยหลังออกไปสองถึงสามก้าว มันรู้สึกเหมือนว่าเป็นระเบิดขนาดใหญ่ปะทะกัน และเมื่อเขาสังเกตุดีๆ ใบหน้าของอาวุโสหวังก็เริ่มซีด
” อาวุโสหวัง ดูเหมือนท่านจะทำเกินไปนะที่ไปโจมตีเหล่าลูกศิษย์เช่นนี้ ท่านทำถูกแล้วหรอ ? “
ในตอนนั้น เค้าสังเกตุชายที่มีขนสีขาวปรากฏตัวถัดจาก’ชูเฟิง’ ‘ชูเฟิง’รู้จักกับคนๆนั้น เขาเป็นคนที่ลงทะเบียนเลือกทักษะให้กับ’ชูเฟิง’ อาวุโสของตำหนักทักษะการต่อสู้
” อาวุโส โอวหยาง “
แต่เขาไม่เคยนึกเลยว่าอาวุโส’โอวหยาง’จะแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่ต้องพูดว่าเค้ามาที่นี่ทำไม เขานั้นได้เลือกฝั่งแล้วเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าเค้าปกป้อง’ชูเฟิง’ ออร่าของชายชราดูแข็งแกร่ง เหนือกว่าอาวุโส’หวัง’ยิ่งนัก
” คารวะ ผู้จัดการ โอวหยาง “
เห็นอาวุโส ‘โอวหยาง’ ผู้เฒ่าหวังและอาวุโสวัยกลางคนมีท่าทีเปลี่ยนแปลง จากการแสดงออกเต็มไปด้วยความเคารพ
” ผู้จัดการ เขาเป็นผู้จัดการตำหนักทักษะการต่อสู้งั้นหรอ ? “
ในที่สุด’ชูเฟิง’ก็เข้าใจ สถานะของเค้า จากนั้นเค้าก็มองหน้าของอาวุโส’หวัง’ที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
” ทำไมเจ้าเด็กคนนี้ถึงรู้จักอาวุโส โอวหยาง ? “
ตอนนั้น ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ที่ยืนอยู่บนเวทีขมวดคิ้ว
เนื่องจากตะกูลเจี้ยนของเขารู้จักกับอาวุโส’หวัง’ นั้นแหละคือเหตุผลที่เขาสามารถขึ้นเวทีก่อนคนอื่นๆ แต่เขาไม่เคยนึกเลยว่า ‘ชูเฟิง’จะรู้จักกับผู้จัดการ ตำหนักทักษะการต่อสู้
และยังดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเค้าทั้งสองค่อนข้างดีทีเดียว ทำไมอาวุโส ‘โอวหยาง’ถึงส่งเสริม ‘ชูเฟิง’ ? ตอนนั้น ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี
” ข้าไม่ได้พึ่งมาดูกับสิ่งที่เกิดขึ้น ข้าสังเกตุอยู่นานแล้ว ยังไงก็ตาม ในตำหนักทักษะการต่อสู้ของข้า มันมีกฏว่าใครมาก่อนได้ก่อน “
” ชูเฟิง เจ้าขึ้นไป และไม่ต้องจ่ายหญ้าวิญญาณฯ “
อาวุโส ‘โอวหยาง’ ไม่พูดซ้ำแต่อย่างใด เขาโบกมือให้’ชูเฟิง’ขึ้นไป
” ขอบคุณท่านอาวุโส “
‘ชูเฟิง’ก้มคำนับด้วยความซาบซึ้งในความยุติธรรมของ’โอวหยาง’ ท่ามกลางสายตาของผู้คน จากนั้นเค้าก็เดินขึ้นไปบนเวทีศิลาสูง
ในตอนที่เขามาถึงข้างๆ’เจี้ยนเฟิงอวี้’ ‘ชูเฟิง’อดไม่ได้ที่จะหยุดยิ้มและกล่าว
” ดูเหมือนว่า ผู้ส่งเสริมของเจ้าจะไม่มีอำนาจเท่าไหร่ “
” อย่าว่าแต่ข้าไม่กล้าตีน้องชายของเจ้า แม้แต่เจ้าข้าก็กล้าตี อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีกครั้ง มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องเผชิญกับผลที่จะตามมา “
#ตอนแรกของวันนี้ ผู้แปลขอตัวนอน
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . . .
ที่มา: