I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 10 เยว่หรง

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ซวนหยวนนั่งอยู่บนตัวของกู่ฉิง มันมีขนที่หนานุ่ม มันเป็นความรู้สึกที่สะดวกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ

 

มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่เขาไว้ใจมากที่สุด คือ กู่ฉิง และ หยินเฉินลู่อาจารย์คนสวยของเขา

 

สามารถพูดได้ว่า หยินเฉินลู่เป็นผู้มอบชีวิตใหม่ให้เขา ให้โอกาสเขาได้แก้แค้นตระกูลเยว่ แน่นอนว่าการฝึกอย่างหนักของเขาก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะทำให้เขาทำได้สำเร็จ

 

ซวนหยวนรู้ดีว่าถึงแม้เขาจะประสบความสำเร็จในการมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวัว 18 ตัว แต่เขาก็ยังคงเป็นแค่มดปลวกถ้าเทียบกับหยินเฉินลู่ นางสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยนิ้วเดียว เขาไม่ได้หยิ่งผยองขนาดที่คิดว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพันเพียงเพราะอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนักส้ ก่อนอื่นเขาจะต้องเขาสู่ขอบเขตนักรบให้ได้เป็นอันดับแรก

 

ซวนหยวนที่นั่งอยู่บนหลังของกู่ฉิงวิ่งเข้าไปในป่า ทันในนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ในทิศทางด้านหน้าของพวกเขา ซวนหยวนกระตุกขนของกู่ฉิงเล็กน้อยเพื่อให้มันหยุด พวกเขาอยู่กลางถนนและกำลังมองไปที่หญิงสาวผู้หนึ่งที่อยู่บนม้าสีแดง

 

” หลีกไป!!! “

 

ซวนหยวนมองไปที่นาง นางนั้นค่อนข้างสวย แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะเทียบกับหยินเฉินลู่ได้

 

แต่นางดูเป็นคนที่รับมือได้ยาก

 

กู่ฉิงได้คำรามในโทนเสียงต่ำ ทำให้ม้าสีแดงนั้นตื่นกลัว มันร้องออกมาด้วยความตกใจและเกือบจะสะบัดผู้หญิงคนนั้นร่วงลงพื้น แต่โชคดี นางมีทักษะในการขี่ม้าที่ดีและสามารถควบคุมมันได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในการขี่ม้าของนาง

 

“เจ้ากล้าดียังไง ข้าสั่งให้เจ้าหลีกไป เจ้าไม่ได้ยินหรือยังไง? ” นางนั้นสวมเสื้อผ้าสีแดงที่ถูกถักทอด้วยความประณีต มันคือความแตกต่างระหว่างนางกับซวนหยวนซึ่งใส่เสื้อผ้าที่มอมแมม

 

“ไอคนชั้นต่ำ เจ้ากล้าที่จะทำให้ข้านั้นล่าช้า ข้ากำลังไปคัดเลือกที่จะเป็นศิษย์สำนักจันทร์พฤกษา เจ้าต้องชดใช้!!”

 

นางพาดแส้ม้าของนาง พร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่เทียบเท่ากับวัว 18 ตัวออกมา ซวนหยวนประหลาดใจมากที่นางก็เป็นนักสู้เหมือนกัน แม้ว่าการโจมตีของนางจะสามารถฆ่าคนที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวัว 9 ตัวได้อย่างง่ายดาย

 

เขาไม่คิดมาก่อนว่านางจะเป็นคนไร้ความปรานีได้ขนาดนี้ เขากล่าวขึ้น

 

” ภายนอกเจ้าก็ดูไม่เลวร้ายเท่าไร แต่หัวใจของเจ้านั้นอำมหิตยิ่งนัก”

 

เขากำแส้ในมือของเขาและกระแทกเข้าใส่นาง แส้ทั้งสองนั้นปะทะกัน ทำให้แส้ของนางผละออกไปในทันที

 

นางที่ถูกยอมรับในฐานะแส้อสรพิษ ดวงตาของนางเปิดกว้างด้วยความตกใจ และกล่าวขึ้นว่า “ หืมมมม เจ้าไปเอาแส้นั้นมาจากไหน? เจ้าทำงานให้ผู้ดูแลเชี่ยนไคว้? ทำไมข้าถึงไม่รู้ว่าตระกูลเยว่ของข้า มีบุรุษหนุ่มเช่นเจ้ามาก่อน ถึงกับมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวัว 18 ตัว ถึงแม้ว่าเจ้าจะยังไม่ก้าวสู่ขอบเขตนักรบ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีร่างกายที่พิเศษ เชี่ยนไคว้โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้า แต่ต่อจากนี้ไป เจ้าต้องฟังคำสั่งข้า เจ้าต้องตามข้าไปสำนักจันทร์พฤกษา เจ้าอาจจะได้รับผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย ”

 

ซวยหยวนคิ้วขมวดตั้งแต่ที่นางบอกว่ามาจากตระกูลเยว่ ตระกูลเยว่นั้นมีอำนาจมากที่สุดในเมืองจันทร์สลาย นางคงคิดไม่ถึงว่าเชี่ยนไคว้ ผู้ดูแลตระกูลเยว่ จะตกตายด้วยน้ำมือของเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าของนาง ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาถูกปล้นโดยเด็กหนุ่ม รวมทั้งแส้และลูกดอกอาบยาพิษ

 

” เจ้าเป็นใคร? แล้วเจ้ารู้จักแส้ของข้าได้ยังไง? ”

 

“ ข้าคือเยว่หรง เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับข้างั้นรึ?” นางกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจ และนางกล่าวออกอย่างเชื่องช้าว่า “ เจ้าอาจจะมาใหม่ นั่นคงเป็นเหตุผลที่เจ้าจะไม่รู้จักข้า ข้านั้นออกจากเมืองจันทร์สลายไปตั้งแต่ปีก่อน แม้แต่เชี่ยนไคว้ผู้ที่มอบแส้นั่นให้เจ้า ก็ทำงานให้ข้า ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วสินะว่าข้าเป็นใคร เอาละ เราไปกันได้แล้ว ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว?”

 

ในที่สุดซวนหยวนก็นึกเรื่องของนางออก จากความทรงจำของเขา “ ข้านึกออกแล้ว ท่านคือพี่สาวของนายน้อยเยว่จือ คุณหนูเยว่หรง! ข้าเพียงได้รับแค่แส้และยังไม่คุ้นเคยกับการรับใช้ตระกูลเยว่มากนัก ข้าต้องดิ้นรนเกี่ยวกับเรื่องเงินเมื่อเร็วๆนี้ มันทำให้ข้าอยากจะล่าพวกสัตว์อสูรในป่า เผื่อจะรับบางสิ่งบางอย่างกลับไป”

 

 

เยว่หรงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

“ ดี!! ดูเหมือนเจ้าจะถูกเชี่ยนไคว้สอนมาดี ดีที่ไม่คิดจะพึ่งพาแต่เงินของตระกูลข้า แต่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้า…  เอานี้ไป.. จงติดตามข้าแล้วเจ้าจะได้รางวัลอย่างงาม”

 

นางหยิบถุงใส่เหรียญขนาดใหญ่ออกมาและโยนมันให้ซวนหยวนราวกับว่าพวกมันไร้ค่าสำหรับนาง ซวนหยวนมองเข้าไปในถุง เขาพบว่าในนั้นมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันเหรียญนักรบ

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ของคุณมากคุณหนู” ซวนหยวนแขวนถุงที่มีกลิ่มหอมราวกับดอกไม้เอาไว้ข้างเอวของเขา และตวัดแส้ใส่เยว่หรง มีเลือดไหลซึมออกมาจากแขนของนาง นางทั้งตกใจและกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ

 

“ เจ้าจะทำอะไร? ข้ารับใช้เช่นเจ้ากล้าทำร้ายข้างั้นรึ?”

 

ซวนหยวนเดินกลับไปหากู่ฉิง เขาเดาะลิ้งและกล่าว“ ข้าไม่ใช่ข้ารับใช้ของตระกูลเจ้า! ข้าเอาแส้นี้มาจากเชี่ยนไคว้ มันนำคนมาจะฆ่าข้า แต่กลับตกตายในมือของข้าแทน เจ้ามีความใจกว้างจริงๆกับเงินของเจ้า ข้าจะถือซะว่ามันเป็นค่าตอบแทนที่น้องชายของเจ้า เคยทำร้ายข้า”

 

เยว่หรงคิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ที่กล้าท้าทายตระกูลเยว่ ในเขตที่ใกล้มกับเมืองขนาดนี้

 

นางโกรธเป็นอย่างมาก แต่ร่างกายของนางเป็นอัมพาตตั้งแต่นางถูกพิษ นางทำได้เพียงสาบแช่ง “บ้าเอ้ย มันมียาพิษที่ทำให้คนเป็นอัมพาตได้อยู่บนแส้นั่น ”

 

นางอยากจะวิ่งหนี แต่มันสายเกินไป แส้ของซวนหยวนพันรอบตัวของนาง และฉุดดึงนางลงมาจากหลังมา

 

ความแข็งแกร่งของนางหลังจากที่ถูกทำให้เป็นอัมพาตนั้น เหลือเพียงเทียบเท่ากับวัวเก้าตัวเท่านั้น นางไม่เป็นภัยคุกคามต่อซวนหยวนได้ นางกลัวเป็นอย่างมากและเริ่มกรีดร้อง

 

“ เจ้ามันต่ำช้า!! กำลังจะทำอะไร?”

 

ซวนหยวนเพียงแค่ยิ้ม,

 

“ ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณหนู ข้าจะไม่ฆ่าคนที่ไม่คิดร้ายต่อข้า แต่คุณหนูหรง ท่านกล่าวว่าข้านั้น “ต่ำช้า” นี่คือสิ่งที่เจ้าควรจะพูดหลังจากที่ถูกข้าจับไว้อย่างงั้นรึ? ”

 

สีหน้าที่เย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าของนาง นางกล่าวออกมาอย่างรุนแรง,“ เจ้ากล้าขู่ข้า? ”

 

ได้ยินอย่างนั้น ซวนหยวนเอามือของเขาลูบไล้ไปตามต้นขาของเยว่หรง และบีบเค้นมัน เขามีสีหน้าที่ปีติยินดีเป็นอย่างมาก

 

“ ยอดเยี่ยม.. ยอดเยี่ยม เป็นร่างกายที่งดงามยิ่งนัก ”

 

เยว่หรงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง นางไม่สงสัยอะไรอีก ถ้าซวนหยวนคิดจะข่มขืนนาง

 

“ อย่าแตะต้องตัวข้า ข้าขอร้อง  จะ… จะ…เจ้าอยากได้อะไรข้าจะให้ทุกอย่างเลย! ”

 

เขามองไปที่นางที่เหมือนกับคนโง่เขลา และพูด “ดี! งั้นตอนนี้ข้าสามารถทำในสิ่งที่ข้าต้องการได้หรือไม่? ”

 

ซวนหยวนยิ้มอย่างชั่วร้าย เขามองไปที่หน้าอกอันอวบอึ๋มและร่างกายที่เย้ายวนของนาง

 

เขาใช้มือสืบค้นไปตามร่างกายของนางและพบกับถุงใบใหญ่ ข้างในมีประมาณห้าร้อยเหรียญจอมยุทธ์ พวกมันมีมูลค่าเทียบเท่าห้าแสนเหรียญนักสู้

 

“ โว้ว คุณหนูหรงท่านช่างร่ำรวยยิ่งนัก ” มือที่ซุกซนของเขาเลื่อนขึ้นลงบนร่างกายของนางขณะที่พยายมจะค้นตัวนาง แก้มของนางกลายเป็นสีแดง ขณะที่กรีดร้องและพยายามทุบตี ซวนหยวน แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของซวนหยวนนั้นเป็นสองเท่าของนาง การกระทำของนางแทบจะไม่มีผลต่อเขา

 

เขาพบว่าภายใต้เสื้อผ้าของนางนั้นมีชุดเกราะป้องกันถูกสวมอยู่ เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้และคิดที่จะเปลื้องผ้านาง แต่เขาก็พบกระบี่เล่มหนึ่ง เมื่อตอนที่เขาสัมผัสมัน เยว่หรงก็กรีดร้องขึ้นมา

 

“ อย่ายุ่งกับ กระบี่ปลายฟ้าของข้า!! ”

 

เขาไม่สนใจและ ชักกระบี่ออกมาจากฝัก ความคมของมันเหมือนจะปลดปล่อยคลื่นกระแทกใส่ตัวเขา ซวนหยวนพยักหน้า “ยอดเยี่ยม เป็นกระบี่ที่ดูดีมากทีเดียว”

 

ตัวกระบี่มีสีเงินและดูเงางามเป็นอย่างมาก มันดูดีกว่ากริชสนิมของเขา เขาตั้งใจที่จะเก็บมันเอาไว้

 

ซวนหยวนจับเยว่หลงโยนใส่ไปบนหลังของม้า และตบไปที่ก้นของนางขณะหัวเราะ “ฝากบอกน้องชายเจ้าด้วย ให้มาหาข้าด้วยตัวเอง ถ้ามันมีความกล้ามากพอ แล้วก็หยุดส่งพวกสวะมาได้แล้ว ลำพังพวกมันทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ฮ่า ๆ ๆ ”

 

เขาตีไปที่แก้มก้นของนางอีกครั้ง เยว่หรงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก นางขบฟันและกล่าว ” ระวังตัวเอาไว้ให้ดี! ข้าจะกลับมา แล้วเจ้าจะต้องชดใช้! ”

 

เขาหัวเราะขึ้นอีกครั้งและตบไปที่ม้า ม้าสีแดงส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด และรีบวิ่งไปยังทิศทางของเมืองจันทร์สลาย

 

“ อย่าลืมข้าซะล่ะ!” ซวนหยวนกล่าวและกระโดดขึ้นไปบนหลังของกู่ฉิง พวกเขามุ่งหน้าเข้าสู่ป่า ซวนหยวนมีความสุขอย่างมากและเริ่มที่จะร้องเพลง..

 

“ฉันมีลาแต่ฉันไม่เคยขี่มัน♪~  แต่บางวันฉันก็อารมณ์ดี  ♫~”

 

(เพลงเห้ไรว้าาา)

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments