ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหยินเฉินลู่ตรวจสอบร่างกายของซวนหยวนอย่างพิถีพิถัน เขามีความแข็งแกร่งมากกว่าคนปกติ แต่นอกจากนั้น ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติเลย พวกเข้านั้นไม่รู้ว่าอะไรคือปัญหา
หยินลู่เฉินไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
ในสิบสองวันต่อมา ซวนหยวนฝึกฝนอย่างหนักวันละอย่างน้อย 20 ชั่วโมง เขานั้นหักโหมอย่างหนัก ผลที่ได้คือความแข็งแกร่งของเขาก้าวหน้าขึ้น เทียบเท่ากับวัว 33 ตัว ถึงแม้ว่ากล้ามเนื้อของเขายังคงไม่ถูกทำให้บริสุทธิ์นักและถูกกลั่นโดยพลังปราณ แต่ในส่วนของพลังปราณ เขาใช้เวลาอย่างมากในการปรับแต่งมัน ก่อนที่มันจะกระจายออกไป
หยินเฉินลู่กังวลเกี่ยวกับลูกศิษย์ของนาง ซวนหยวนพยายามอย่างหนักในทุกๆวัน แต่นางไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ ส่วนซวนหยวนดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมรับว่า เขาไม่สามารถจะเติบโตต่อไปได้ หยินเฉินลู่ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเขาจากความดื้อรั้นนั้นได้
แต่สิ่งที่ดีที่สุกที่เกิดขึ้นในไม่กี่วันมานี้ คือการที่ซวนหยวนปล่อยให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อทำงานร่วมกัน โดยการทำความเข้าใจกับเทคนิคการต่อสู้ เพื่อให้ร่างกายของเขาทำงานกันได้กลมกลืนกันมากขึ้น นักสู้ขอบเขตนักรบธรรมดา ถึงแท้ว่าจะอยู่บนจุดสูงสุด ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากกรงเล็บห้ามังกรของเขาได้
ที่หน้าแปลกใจที่สุดคือการที่ กู่ฉิงมีความแข่งแกร่งเพิ่มขึ้นจากวัว 10 ตัว เป็น 18 ตัว มันเป็นหมาป่าที่ฉลาดมากมันสามารถเข้าใจส่วนที่สำคัญของกรงเล็บห้ามังกรจากการสังเกตได้ เมื่อตอนที่มันออกไปล่าสัตว์ การเคลื่อนไหวของมันจะคล้ายกับมังกรสวรรค์
“ ซวนหยวน เส้นตายของเดือนนี้มาถึงแล้ว และข้าจะจากไป จงอย่าสร้างความลำบากให้กับตัวเอง” หยินเฉินลู่มองไปที่ซวนหยวนที่มีความสูงเท่าไหล่นางและขมวดคิ้ว นางลังเลที่จะจากไป หลังจากนั้น นางหยิบเอามุกออกมาจากกระเป๋าที่คาดบนเอวของนางออกมาและกล่าวเบาๆ “ ซวนหยวน นี่คือ “ไข่มุกสวรรค์” มันจะช่วยในการฝึกฝนของเจ้าด้วยการเร่งการเปลี่ยนแปลงของพลังปราณได้ร้อยเท่า เมื่อใดก็ตามที่เจ้าพกมันขณะที่ฝึกวิชามันจะช่วยเพิ่มให้การฝึกฝนนั้นเทียบเท่ากับการฝึกร้อยวันเลยทีเดียว มันไม่มีผลกับข้า นี่คือของขวัญครั้งสุดท้ายจากข้า ดูแลตัวเองด้วย”
นางไม่ปล่อยให้เขาปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ นางห้อยไข่มุกที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือกับสร้อยคอที่ทำจากเงินและแขวนลงบนคอของเขา
นางหันหลังและจะจากไป ซวนหยวนต้องการที่จะกล่าวอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็เลือกที่จะเงียบไว้ หยินเฉินลู่หันขวับกลับมา นางกดปลายนิ้วลงระหว่างคิ้วของเขา มีประกายแสงสีทองปรากฎบนนิ้วของนาง
“เจ้ามีเพียงตัวเจ้าที่จะเป็นที่พึ่งพิงนับจากนี้ ข้าจะไม่สามารถอยู่ดูเจ้าได้อีก จงรักษาตัวให้ดี ”
และนางก็ทิ้งให้ซวนหยวน มองแผ่นหลังจรดเงาของนางจางเดินหายไป เขารู้ว่าไม่สามารถโน้มน้าวให้นางอยู่ต่อได้
กู่ฉิงดูเหมือนจะสามารถรับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าของซวนหยวนได้
“มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นคือการไปสำนักจันทร์พฤกษา” เขาพึมพำกับตัวเองขณะหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านต้นไม้อย่างโดดเดี่ยว เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ทันใดนั้นเอง ได้มีชายชราปรากฎตัวขึ้น
“ ท่านเป็นใคร? ” เขาตั้งท่าเตรียมพร้อมจะให้เคล็ดวิชากรงเล็บห้ามังกรในทันที
“ ไม่เลว เป็นการตอบสนองที่ดี ชายชราผู้นี้ไม่เห็นใครในขอบเขตนักรบที่แข็งแกร่งไปกว่าเจ้า แต่น่าเสียดายนักที่มีร่างกายที่ผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถก้าวขึ้นไปในขอบเขตที่สูงขึ้นได้ ”
มันเหมือนกับชายชราคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นซวนหยวนและพูดกับตัวเอง
“ เขาคงมีจะมีความสุข ที่ได้เรียนทักษะศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหยินจากนายหญิงเฉินลู่ มันจะดีมากถ้าเขามีความสามารถ แต่โชคร้ายที่เขาเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ ”
เมื่อเขากล่าวถึงทักษะศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหยิน ชายชราผู้นี้ดูเหมือนจะอิจฉาเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้เลวร้าย เขาแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อตระกูลหยิน
“ แม้ข้าจะไม่ได้ฝึกฝนทักษะศักดิ์สิทธิ์ เพราะมันเป็นความลับของตระกูลหยิน แต่เด็กน้อยอย่างเขากลับได้ฝึกมัน ทั้งจารึกและเคล็ดวิชานั้นพวกมันต่างเป็นพื้นฐาน ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขานำความลับเหล่านั้นติดตัวเข้าไปยังสำนักจันทร์พฤกษาได้ ”
ซวนหยวนตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย ชายชราคนนี้รู้เกี่ยวกับเคล็ดวิชาและการฝึกฝน ชายชราคนนี้ดูเหมือนจะตามดูซวนหยวนตลอดทั้งเดือน แต่เขากลับไม่ตระหนักถึงตัวตนของชายชราเลย
“ ท่านต้องการอะไร? ” ซวนหยวนดึงกระบี่ปลายฟ้าออกมา และชี้ไปยังชายชราเพื่อปกปิดความกลัวของเขา
“ ข้าไม่ต้องการอะไรมาก เพียงแค่ชีวิตของเจ้า เจ้านั้นต่ำต้อยเกิดกว่าที่จะมีชีวิตอยู่ และไม่แม้แต่จะเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลหยิน เจ้าเป็นคนที่โชคร้ายจริงๆ ” ชายชราไม่ได้เกรงกลัวต่อซวนหยวน เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขา กระบี่นั้นถูกทำลายในหว่างนิ้วของชายชรา
“นายหญิงเฉินลู่ทำดีกับตัวเจ้า นางยังให้ไข่มุกสวรรค์กับเจ้า ไข่มันนั้นยังมีค่าอย่างมากต่อนักสู้ชั้นสูงอย่างนายหญิงเฉินลู่ มันเป็นสมบัติของตระกูล ข้าต้องนำมันกลับไป
“ ท่านไม่กลัวว่าท่านอาจารย์ของข้า จะฆ่าท่านงั้นรึ! ถ้าท่านรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้? ” ความแข็งแกร่งของชายชราเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ แต่ซวนหยวนก็ปฏิเสธที่จะถูกคุกคาม
“ฉลาดดีนี่ แต่มันไม่เพียงพอที่จะข่มขู่ข้าหรอก ข้านั้นรับใช้ตระกูลหยินด้วยชีวิตและแม้แต่ความตาย ชีวิตของข้าเป็นของตระกูลหยิน ดังนั้น ถ้านายหญิงเฉินลู่จะฆ่าข้า มันก็คงแล้วแต่ท่าน” ชายชรากล่าวออกมาด้วยความสงบ
ซวนหยวนทำอะไรไม่ถูก โอกาสรอดของเขาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก แต่สิ่งที่โชคดีคือ การที่กู่ฉิงไม่ได้อยู่ที่นี่ และมันไม่รู้ว่ามีอะไรกำลังเกิดอยู่ ณ ที่นี้ เขาหวังว่ากู่ฉิง จะสามารถมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้
“ ก่อนที่ข้าจะตาย ข้าขอเรียกร้องอะไรสักหน่อยได้ไหม? ” เขารู้สึกสงบมากถึงแม้ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
“แน่นอน เจ้าคือลูกศิษย์คนแรกของนายหญิงเฉินลู่ ข้าจะรับฟังคำเรียกร้องทั้งหมดของเจ้า” รอยยิ้มของเขาดูใจดีเกินไป สำหรับคนที่กำลังจะลงมือสังหารผู้อื่น
“ หมาป่าสีเงิน กู่ฉิง มันเติบโตมาพร้อมกับข้า เมื่อข้าตายไป โปรดนำผลึกอสูรหมียักษ์ไปให้มันเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง มันจะดีกว่าถ้ามันจะสามารถปกป้องตัวเองได้ ข้าขอร้อง โปรดให้มันได้มีชีวิตต่อไปด้วย ”
“ ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายหญิงเฉินลู่จะชื่นชอบเจ้า เจ้านั้นดีต่อสหาย แม้จะเป็นเพียงสัตว์ก็ไม่มีข้อยกเว้น ดีมาก, ข้ารับข้อเสนอของเจ้า ” ชายชรามองอย่างเหยียดหยันต่อผลึกอสูร เขานั้นไม่ได้สนใจ เพราะเขาแน่ใจว่าซวนหยวนไม่มีทางหนีไปได้
“ ประการที่สอง โปรดรับหนึ่งการโจมตีจากกริชของข้า ถ้าท่านยังไม่ชีวิตอยู่ ข้าจะฆ่าตัวตาย และอาจารย์จะไม่สามารถตำหนิท่านจากการตายของข้าได้ ท่านสามารถบอกนางว่าข้าไม่สามารถทนต่อความไร้ประโยชน์ของตัวข้าเอง และตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลง ถ้านางมาและตรวจสอบร่างกายข้านางจะได้เห็นว่า ข้าตกตายด้วยมือของข้าเอง” ซวนหยวนกล่าวออกมาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
ดวงตาของชายชราเผยให้เห็นถึงการดูหมิ่นและก็ชมเชยในตัวของซวนหยวนเช่นเดียวกัน “ ก็ดี ข้าจะไม่หลบเลี่ยงหรือป้องกันใดๆ จากการโจมตีโดยกริชของเจ้า”
“ถ้าร่างกายของเด็กคนนี้นั้นไม่ผิดปกติ เขาคงจะได้รับการฝึกฝนที่ดี แต่ทั้งหมดนั้นมันก็สูญเปล่า ไม่ว่าเขาจะฝึกหนักยังไง เขาก็ไม่สามารถที่จะแข็งแกร่งขึ้นได้ แม้ว่าพวกเราจะนำตัวเจ้ากลับไปตระกูลหยิน ด้วยการดำรงอยู่ของเขาคงเป็นเพียงให้เกิดความขัดแย้ง นับตั้งแต่ที่เขาไม่ได้เป็นคนของตระกูล แต่เขาจะได้รับความเคารพในฐานะลูกศิษย์ของนายหญิงเฉินลู่ ถ้าเขารู้เพียงการฝึกฝนขั้นพื้นฐานและเทคนิคการต่อสู้ธรรมดา ข้าก็จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป อย่างไรเสีย ตอนนี้ นายหญิงได้สอนทักษะศักดิ์สิทธิ์แก่เขา ข้าก็ไม่สามารถปล่อยให้ความลับของตระกูลรั่วไหลออกไปได้ หากสิ่งนั้นไปอยู่ในมือคนผิด ผลที่เกิดตามมาจะร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึง นายหญิง… ได้โปรด ให้อภัยชายแก่คนนี้ด้วย ”
หยินเฉินลู่จะรู้ได้อย่างไร เพราะด้วยความใจดีของนาง กลับทำให้ซวนหยวนจะต้องฆ่าตัวตาย
ซวนหยวนหยิบกริชที่มีสนิมของเขาออกมา
ชายชรารู้สึกเหยียดหยามมากขึ้นมันเขามองไปที่กริชนั่น เขาคิดกับตัวเอง กริชที่ดูสกปกและมีสนิมเช่นนั้นจะทำอะไรกับเขาได้
ซวนหยวนไม่ได้เชื่อมั่นมากนักในพลังของกริชของเขา แต่นี่อาจจะเป็นเพียงโอกาสเดียว ที่จะทำให้เขามีชีวิตรอด
“ชีวิตของข้า ขึ้นอยู่กับพลังของเจ้า เจ้ากริชลึกลับ!!!” หัวใจของซวนหยวนกรีดร้องออกมา เขามุ่งเป้าไปที่หัวใจของชายชรา “ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดต่อไปในวันนี้ ไม่เป็นท่านก็ต้องเป็นข้า!!”