ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปทิวทัศย์ที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวสวยงามมีสัตว์วิ่งอย่างอิสระและนกบินอย่างอิสระเสรีบนท้องฟ้า มันเป็นทัศนียภาพที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อเห็นมันทำให้ความเหนื่อยล้าลดลงได้
ที่ทะเลสาบขนาดใหญ่ ปศุสัตว์ที่แข็งแกร่งนับหมื่นตัวมันกำลังพักผ่อนและค่อยๆกินน้ำอย่างช้าๆ จากแม่น้ำที่สะอาด
ทุกอย่างดูเหมือนเงียบสงบ แต่มันเต็มไปด้วยความอันตราย มันมีสัตว์อสูรมากมาย เช่น อสูรสิงโต อสูรเสือ อสูรหมาป่า และอสูรหมี อสูรหมีมันเริ่มจ้องมองฝูงปศุสัตว์อย่างหิวกระหาย พวกมันมองจ้องมองตัวที่อ่อนแอที่สุดอยู่
ทันใดนั้น เงาสีดำปรากฏขึ้นตรงกลางของทะเลสาบที่สะอาดด้วยเสียงคำรามอันดังของมัน ปากอันใหญ่ยักษ์ของมันกลืนกินปศุสัตว์ไปหลายตัว ปศุสัตว์ถูกบดขยี้ทันทีภายใต้ฟันอันใหญ่ยักษ์ของมันแม้แต่กระดูกของพวกมันก็ถูกบดขยี้
ปศุสัตว์ทุกตัวเริ่มร้องออกมาเมื่อมันเห็นฉากที่น่าสยดสยอง
พวกมันตกใจจากการถูกโจมตีอย่างฉับพลัน และพวกมันรีบวิ่งหนีอย่างตาลีตาเหลือก
ฝูงปศุสัตว์นับหมื่นตัวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นักล่าทั้งหมดที่รอบล้อมทะเลสาบอยู่ ไม่สามารถที่จะโต้ตอบและหนีทันเวลาจากฝูงปศุสัตว์นับหมื่นที่วิ่งหนีอย่างตาลีตาเหลือกทำให้พวกมันถูกฝ่าเท้าของฝูงปศุสัตว์นับหมื่นเหยียบ
เมื่อฝูงปศุสัตว์กำลังวิ่งหนี มังกรบินมันบินออกจากภูเขาและกางปีกอันใหญ่ยักษ์ของมัน มันบินพุ่งเข้าไปในฝูงปศุสัตว์และหั่นพวกมันเป็นชิ้นๆ เขี้ยวของมันแทงเข้าไปในกระดูกของพวกฝูงปศุสัตว์และกินพวกมันทีละตัว ทีละตัว ฝูงปศุสัตวย์ตกใจแต่พวกมันไม่มีที่จะหนี พวกมันเป็นเหมือนฝูงแกะที่รอถูกฆ่า มันวิ่งหนีไปรอบๆอย่างไม่มีจุดหมาย
มังกรกินพวกมันอย่างจุใจและบินจากไปหลังจากที่มันกลืนกินฝูงปศุสัตว์เกือบร้อยตัว หลังจากที่มันบินจากไปเหลือเพียง ฝูงปศุสัตว์ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และพื้นดินที่ปนเปื้อนไปด้วยเลือด
ไม่ไกลจากที่นั่นมากนักภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน มีผู้หญิงชุดยาวสีขาวและผมสีดำ ใบหน้าของนางเงียบสงบภายหลังจากเห็นฉากนองเลือด นางเห็นบางอย่างและถอนหายใจ
“นายหญิงเฉินลู่ ได้โปรดฟังคำขอของข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยผู้นี้และกลับบ้านเถิด พี่ชายของท่านจะนำทัพออกไปข้างนอก และพี่ชายของท่านกังวัลว่านายหญิงจะได้รับอัตราย ดังนั้นพี่ชายของท่านจึงส่งพวกข้ามาปกป้องนายหญิง ได้โปรดเห็นแก่ความเป็นห่วงของพี่ชายของท่าน”
“ความปลอดภัยของข้าเขานั้นไม่ได้เป็นห่วง เขากลัวว่าถ้าเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นกับข้า พวกเขาจะไม่สามารถที่จะเข้าร่วมกับตระกูลไห่ได้จากการแต่งงาน ใช่หรือไม่?”หยิน เฉินลู่กล่าวอย่างเย็นชา แต่ตาของนางเต็มไปด้วยจิตสังหาร และนางหันไปหาชายชรา
“ดี ดีมาก พวกเจ้าสองคนเป็นมือขวาของพี่ชายของข้า พวกเจ้าช่วยให้พี่ชายข้าชนะสงครามมามากมาย แต่เจ้ากล้าที่จะแตะต้องคนของข้า
อู๋ ตงได้จากไปแล้วเพื่อจะไปฆ่าซวนหยวน มันไม่ถูกต้องหรือ?
เจ้าต้องคิดกับข้าน้อยมาก ถ้าข้าสอนคัมภีร์ลับของตระกูลหยินให้แก่เขา เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่ทิ้งของบางอย่างเพื่อปกป้องเขา? เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่สอนอย่างอื่นนอกจากทักษะตระกูลหยิน? เหตุใดเจ้าถึงกล้าดูถูกข้าเช่นนี้”
อู๋ หมิงซึ่งสนิทกับอู๋ ตงเขาคุกเข่าลงทันทีและขอร้อง
“นายหญิงเฉินลู่ ได้โปรดยกโทษให้พวกข้า ข้ามั่นใจว่าท่านคงรู้อยู่แล้ว เจ้าเด็กนั้นไม่สามารถที่จะพัฒนาไปยังขอบเขตที่สูงได้ มันจะอยู่ขอบเขตนักรบตลอดไป มีขอบเขตพลังจำนวนมาก ขอบเขตจอมยุทธ์ ขอบเขตจิตวิญญาณ ขอบเขตพฤกษา ขอบเขตกษัตริย์ ขอบเขตนักพรต ขอบเขตราชันย์ และขอบเขตจักรพรรดิ… มันไม่สามารถที่จะเข้าถึงระดับพลังพวกนั้น ท่านนายหญิงได้โปรดเมตตา อู๋ ตง ผู้นี้ด้วย เขารับใช้ตระกูลหยินด้วยความจงรักภักดีอย่างสูงสุด ได้โปรดอย่าฆ่าเขา”
หยิน เฉินลู่ยังคงไม่ไหวติง หลังจากนางหยุดนิ่ง นางถอนหายใจยาว
“เหตุใดข้าจะลงโทษเจ้า? เจ้ามีความภักดีต่อตระกูลและคิดถึงผลประโยชน์ต่อตระกูลเป็นอันดับแรก แม้ถ้าเจ้าต้องได้รับความตาย แต่ข้าจะไม่กระทำกับเจ้าเช่นนั้น อู๋ ตง อาจจะยังเริ่มไม่โจมตี หากซวนหยวนตกอยู่ในอันตราย การป้องกันของข้าจะถูกเปิดใช้งานและข้าสามารถรู้สึกถึงเขาได้ “
เมื่อหยิน เฉินลู่พูดเสร็จสิ้น อู๋ หมิง เริ่มตัวสั่น เขากรีดร้องเพราะความประหลาดใจ
“อู๋ ตง… ถูกฆ่าตายแล้ว เป็นไปไม่ได้ เหตุใดเจ้าเด็กนั้นสามารถฆ่าเขาได้? นายหญิงท่านรู้ถึงอันตรายใดๆหรือไม่?”
หยิน เฉินลู่ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก และนางส่ายหัวของนางและกล่าวว่า
“มันไม่ถูกเปิดใช้งาน มันไม่ไม่สำคัญว่าเขาตายอย่างไร เขาต้องการฆ่าซวนหยวน เขาไม่สามารถที่จะตำหนิคนอื่นได้นอกจากตัวเขาเองที่ถูกฆ่าตาย อู๋ หมิงเลิกติดตามซวนหยวนซะ หรือเจ้าอยากมีชะตาเหมือนอู๋ ตง เจ้าก็รู้ดีแม้กระทั่งพี่ขายของข้ายังได้รับบาดเจ็บสาหัสถ้าข้าใช้ “แสงของมังกรสวรรค์” ใส่เขา
นางได้เห็นความตายมามากพอแล้วในปีที่ผ่านมาของนางในครอบครัวหยิน พวกมันไม่สามารถที่จะทำให้นางกลัวได้ นางรู้สึกผิดหวังเกี่ยวกับการที่นางต้องหมั้นกับตระกูลไห่ และนางเลือกที่จะยกเลิก
อู๋ หมิงไม่กล้าที่จะพูดอะไรแม้แต่น้อย มันพูดได้แค่
“เข้าใจแล้วขอรับ”
***********************************************************************
อู๋ ตงไม่คิดว่าซวนหยวนสามารถที่จะทำให้เขาบาดเจ็บได้ ดังนั้นเขาจึงเอามือไว้ด้านหลังของเขา และรอให้ซวนหยวนจู่โจมมา เขาคิดว่าใช้มือข้างเดียวก็สามารถที่จะฆ่าเด็กนั้นได้แล้ว
เขาไม่คาดคิดว่ากริชที่มีสนิมมันจะแทงทะลุร่างกายของเขาเข้าไปในหัวใจของเขาเหมือนมันกำลังแทงเข้าไปในดินน้ำมัน อู๋ ตงเป็นผู้ฝึกฝนที่มีพลังอันแข็งแกร่งและหัวใจอันเข็มแข็ง แม้ว่าหัวใจของเขาจะถูกแทงแต่เขาก็จะไม่ตายทันที
ขอบเขตนักสู้จะกลั่นผิวหนัง ขอบเขตนักสู้จะกลั่นกล้ามเนื้อ ขอบเขตจอมยุทธ์จะกลั่นกระดูก ขอบเขตจิตวิญญาณจะกลั่นโลหิต ขอบเขตพฤกษาจะกลั่นไขกระดูก ขอบเขตกษัตริย์จะปรับแต่งอวัยวะทั้ง 5 อู๋ ตง ไม่ได้ฝึกฝน”วิถีมังกรสวรรค์” เพื่อที่จะปรับแต่งอวัยวะทั้ง 5 ของเขา แต่พลังของเขาก็ยังคงอยู่ในขอบเขตที่สูงขึ้น แม้อวัยวะทั้ง 5 ของเขาจะทะลักออกมาจากร่างกายโดยอาวุธที่มีระดับสูงกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาจะยังไม่ตายในทันที
แต่เมื่อกริชของซวนหยวนแทงเข้ามาที่หัวใจของเขา แสงสีดำส่องแสงแผ่ไปทั่วบ้านต้นไม้ เส้นใยสีดำหลายพันเส้นออกมาจากกริชลึกลับอันนี้และเจาะทะลุเข้าไปในทั่วร่างกาย อู๋ ตง มันเหมือนกับว่าซวนหยวนได้กลายเป็นกริชและเขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อในร่างกายของเขากำลังบริสุทธิ์ขึ้น
พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 33 ตัว…
“38!”
“43!”
“49!”
การเพิ่มพลังของซวนหยวนก็หยุดลงเมื่อมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 49 ตัว เขาสามารถที่จะรู้สึกถึงพลังปราณที่อัดแน่นอยู่ในกล้ามเนื้อของเขา มันเหมือนกับเขามีความแข็งแกร่งไม่สิ้นสุด เขารู้สึกแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ
ร่างกายของ อู๋ ตง เหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พลังส่วนใหญ่ของมันถูกกริชดูดซับเข้าไป
สนิมบางส่วนของกริชเริ่มที่จะร่วงหล่นและส่องแสงสีดำแวววาว ถ้ามองไปที่กริชจะรู้สึกว่าเหมือนกำลังถูกมันดูดกลืน
ซวนหยวนตกตะลึงจนไม่สามารถที่ตอบสนองได้
“กริชนี้มีพลังอะไรกันแน่”
ทันใดนั้นซวนหยวนสั่นสะท้านเพราะร่างกายของ อู๋ ตง สลายกลายเป็นธุลี ไม่เหลือแม้แต่ซากศพนอกจากดาบและแหวนที่อยู่บนพื้นเท่านั้น……..