ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“น้องซวนหยวนระมัดระวังด้วย” เหยียน ซือหยุนเตือนก่อนที่นางจะกลับมานั่งในที่นั่งของนาง
ซวนหยวนพยักหน้าและหยิบแส้ของเขา ซึ่งทำให้แม้แต่สือ คงหยู และ หลิว เพียวซู่ตกตะลึงจนพูดไม่ออกมันเป็นอาวุธระดับต่ำ ถ้าพวกเขาสามารถที่จะให้ซวนหยวนยืมอาวุธได้พวกเขาก็จะทำเช่นนั้น แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้
“เห้ย เจ้าเด็กนั้นมันมีแต่อาวุธระดับต่ำ ทำไมมันถึงกล้าที่จะต่อสู้กับหง ฉื่อ แน่นอนมันต้องถูกฆ่าตาย และไม่มีใครที่จะสามารถช่วยมันได้”
“ถูกต้อง นายน้อยหง ฉื่อ มีอาวุธระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ ชื่อของมันคือ ดาบมังกรน้ำพุ มันทำมาจากน้ำของมังกรน้ำพุและยังมีกลิ่นของมังกรบนดาบ มันเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เจ้าเด็กนั่นไม่ใช่คู่มือของนายน้อย”
ผู้คนที่อยู่รอบๆเวทีทุกคน ดูถูก และหัวเราะอยู่ในใจ พวกมันหัวเราะซวนหยวนที่ท้าสู้โดยไม่ดูตัวเอง มันคิดว่ามันสามารถที่จะต่อสู้กับนายน้อยแห่งเมืองพระอาทิตย์ได้
สือ คงหยู และ หลิว เพียวซู่ โกรธอย่างมากแต่ไม่สามารถแสดงอารมณ์ให้เห็นได้
กู่ฉิง เป็นสัตว์ที่ฉลาด มันรู้สึกโกรธ มันคำรามเสียงเบาๆ
หง ฉื่อเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีขาวที่มีพระจันทร์เต็มดวงปักบนเสื้อคลุมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มันคือชุดของศิษย์สำนักจันทร์พฤกษา สือ คงหยู และ หลิว เพียวซู่ก็ใส่เสื้อคลุมแบบเดียวกัน
” น้องซวนหยวน ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้า” หง ฉื่อยิ้มอย่างชั่วร้าย และถือดาบมังกร และโจมตีใส่ซวนหยวน
ซวนหยวนฟาดแส้ของเขาใส่ หง ฉื่อแต่มันไม่ได้หลบเลี่ยงแส้ของซวนหยวน แต่มันกลับตัดแส้ของซวนหยวนขาดไปครึ่งหนึ่งแทนด้วยดาบของมัน
เหยียน ซือหยุนกังวลมากขึ้น เพราะซวนหยวนไม่ได้แข็งแกร่งเท่า หง ฉื่อ แถมหง ฉื่อยังได้เปรียบในเรื่องของอาวุธทำให้ซวนหยวนไม่มีโอกาสมากที่จะชนะ
“แต่เขามีศักยภาพที่ดี ข้าไม่สามารถที่จะปล่อยให้หง ฉื่อ ทำร้ายเขา เมื่อพาเขากลับสำนักบางทีเขาอาจจะเติบโตและเป็นคู่แข่งสำหรับหง ฉื่อ ด้วยการฝึกฝนที่เหมาะสมกับเขา แต่เขากลับสู้กับหง ฉื่อ เสียแล้ว”
ดาบของหง ฉื่อพุ่งแทงเข้าไปที่หน้าอกของซวนหยวน ซวนหยวนก้าวออกไปด้วยทักษะ “มังกรสวรรค์ก้าวเดิน” จาก “ทักษะกงเล็บห้ามังกร” เขาดูเหมือนมังกรสายฟ้าที่กำลังเดินเล่นอยู่บนเวทีในขณะที่เขาหลบดาบ
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหยียน ซือหยุนและเย่ว เถิง ทั้งสองคนประหลาดใจอย่างมาก แน่นอนซวนหยวนต้องมีประสบการณ์ในการต่อสู้ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ ทักษะที่เขาใช้มันไม่ใช่ทักษะที่ธรรมดา อย่างน้อยมันต้องแข็งแกร่งเท่ากับทักษะระดับสูงของตระกูลเย่ว “เงาจันทรา”
แม้ว่าซวนหยวนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หง ฉื่อมีทักษะการใช้ดาบที่ดี ทันทีที่ซวนหยวนหันหลังกลับและปลายดาบของมันเกือบจะเจาะตรงผ่านซวนหยวนแต่มันก็ไม่มีปัญหาสำหรับซวนหยวนที่จะหลบ หง ฉื่อรีบพุ่งไปข้างหน้า มันซ่อนพิษในแขนเสื้อของมัน
เหยียน ซือหยุน กระวนกระวายและนางจะพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ของซวนหยวน แต่เย่ว เถิงเห็นจึงหยุดนางและหัวเราะ
“ศิษย์น้องเหยียน ซือหยุน อย่าเสียการควบคุมอารมณ์ เขาเป็นเพียงแค่ศิษย์ภายในมันไม่สำคัญถ้าเขาจะตาย”
เหยียน ซือหยุน ระเบิดความโกรธของนาง ความแข็งแกร่งของนางโผล่ออกจากฝ่ามือของนาง
“อย่ามาขวางทางข้า!”
เย่ว เถิง ไม่ปล่อยให้ไป เขารับการโจมตีของนางด้วยฝ่ามือของเขาและลบล้างพลัง ความแข็งแกร่งเท่ากับมังกร 3 ตัวเผยให้เห็นผลของการปะทะ มันทำให้ประหลาดใจ
เมื่อฝ่ามือทั้งสองของพวกเขาสัมผัสกัน คลื่นรวมตัวกันรอบพวกเขาและผลักทุกอย่างรอบๆตัวพวกเขาออกไปด้านนอก เหยียน ซือหยุนหดหู่ เสียใจ…
“ให้ตายสิ ซวนหยวนกำลังจะถูกฆ่า เขานั้นมีศักยภาพมาก”
แต่ทุกคนก็อ้าปากค้างอย่างกระทันหัน “มันเป็นไปได้ยังไงกัน!”
เหยียน ซือหยุน และเย่ว เถิง มองไปรอบๆทันที ปลายดาบของหง ฉื่อ อยู่บนหน้าอกของซวนหยวนแต่มันไม่สามารถที่จะเจาะทะลุหน้าอกของซวนหยวนได้ มันทำได้แค่ทำให้ซวนหยวนมีเลือดซึมออกมาเล็กๆน้อยๆ ซวนหยวนยิ้มอย่างขั่วร้ายและยิงพิษที่อยู่ภายในแขนเสื้อ ไปที่คอของหง ฉื่อ ที่ไม่มีอะไรป้องกัน
เย่ว เถิงเห็นจึงรีบเคลื่อนไหวและกราดเกรี้ยวอย่างมาก มันรีบพุ่งไปหาซวนหยวน และเหวี่ยงกำปั้นของมันเล็งไปที่ซวนหยวนเพื่อที่จะฆ่าซวนหยวน
“เจ้ากล้าดียังไง ถึงใช้อาวุธที่น่ารังเกียจต่ำช้าเช่นนี้!”
“ศิษย์พี่ มันเป็นเพียงแค่ศิษย์มันไม่สำคัญหรอกถ้ามันตายไป”
สถานการณ์ทั้งหมดกลับตาลปัด เหยียน ซือหยุนมีรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง และผลักฝ่ามือของนางไปที่ท้องของเย่ว เถิง เย่ว เถิงผวาและรู้ว่าถ้าเขารับการโจมตีของนาง เขาจะสูญเสียพลังของเขาหรือแม้กระทั่งอาจจะตาย ดังนั้นมันจึงถอยหลังกลับและหลบการโจมตีของนาง แต่มันก็สั่นเทาที่มาจากความโกรธ
ลูกดอกอาบยาพิษปักไปที่คอของ หง ฉื่อ เลือดสีดำไหลออกมาจากปาก และไหลออกมาจากทุกๆส่วนที่มันสามารถไหลออกมาจากร่างกายของมันได้ คอของมันเริ่มเน่าอย่างรวดเร็ว มันจะต้องตายอย่างแน่นอน
ซวนหยวนจ้องไปที่เย่ว เถิง และกล่าวอย่างเบาๆ
“แม้จะเป็นอาวุธระดับต่ำ แต่มันก็ฆ่าคนได้”
ไม่มีใครสามารถที่จะปริปากพูด กับคำพูดของซวนหยวน กู่ฉิงภูมิใจมากและทำหน้าตาบูดเบี้ยวให้กับบรรดาผู้คนที่เยาะเย้ยซวนหยวนก่อนหน้านี้
สือ คงหยู และ หลิว เพียวซู่ เป็นห่วงและกังกลซวนหยวนอย่างมาก ดังนั้นเมื่อซวนหยวนฆ่า หง ฉื่อ ในที่สุดพวกเขาก็สามารถที่จะหายใจได้อย่างอิสระ พวกเขากรีดร้องด้วยความตื่นเต้น “พูดได้ดี น้องซวนหยวน!”
ศิษย์คนอื่นๆ ต่างตกตะลึง
ใบหน้าของเย่ว เถิงดำมือ เขาตะโกนว่า “เจ้ากล้าดียังไงที่ฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก ข้าจะฆ่าเจ้า”
เหยียน ซือหยุนยิ้ม รอยยิ้มของนางงดงามเหมือนดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ นางยืนอยู่ด้านหน้าของเย่ว เถิง “ทำไมซวนหยวนจะไม่สามารถที่จะฆ่ามันได้? ทุกๆการโจมตีของหง ฉื่อมันมีจุดประสงค์เพื่อที่จะฆ่าซวนหยวน ท่านกำลังพูดจาไม่มีเหตุผล”
เย่ว เถิงก็ยิ่งตกใจมากขึ้นและพูดว่า “หง ฉื่อเป็นนายน้อยแห่งเมืองพระอาทิตย์ ไอเด็กต่ำต้อยคนนี้มันไม่สามารถที่จะเทียบเคียงได้กับเขา แต่ตอนนี้หง ฉื่อตายแล้ว แล้วเจ้ากล้าที่จะไปสงบสติความโกรธของพ่อเขาหรือ?”
เหยียน ซือหยุนยิ้มอย่างดูถูก “เมืองพระอาทิตย์เป็น 1 ใน 10 เมืองที่อยู่ภายใต้สำนักจันทร์พฤกษา แน่นอนมันต้องแกร่งกว่าตระกูลของท่าน ตระกูลเย่วกลัวแต่ทำไมข้าต้องกลัวพวกเขา ถ้าประมุขมันมาตามหาข้าด้วยตัวเอง ข้าต้องการเห็นว่าเขากล้าที่จะจับกุมข้าหรือไม่เป็นผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ เพียงแค่บอกเขาว่าเป็นข้าเองที่ฆ่าลูกชายของท่านและดูว่าถ้าเขากล้าที่จะกระทำอย่างนั้นมันจะเป็นเช่นไร…”
เย่ว เถิงไม่สามารถทำอะไรได้ มันเผยให้เห็นไม่พอใจและความโกรธของมันและจากไป “เรื่องนี้มันยังไม่จบ ข้าจะดูว่าเจ้าจะกล่าวกับท่านเจ้าสำนักเช่นไร”
นางยิ้มแสดงให้เห็นฟันขาวของนางปรากฏอยู่บนใบหน้าของนาง นางหัวเราะและกล่าวว่า “ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้น ท่านควรจะกังวลเรื่องของตัวเองดีกว่า”
เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น มือทั้งสองของเขากำแน่น เมื่อตอนที่เขากลับถึงสำนัก เขาจะต้องถูกลดตำแหน่งเป็นแน่ เย่ว เถิงต้องการที่จะฆ่าซวนหยวนมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเหตุการณ์บนเวทีมาถึงจุดสิ้นสุด
เหยียน ซือหยุนรู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งจำนวนมากในตระกูลเย่ว เพื่อออกจากปัญหาที่จะตามมา นางได้นำศิษย์หลายร้อยคนที่หามาได้ไปกับนางและออกจากเมืองจันทร์สลาย..