I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 31 มุ่งมั่นที่จะขอโทษ

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

พวกเขาอยู่ในส่วนใต้ดินของรัง

 

เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในตอนแรก ทุกอย่างนั้นมืดสนิท แต่หลังจากนั้น พวกเขาตระหนักมันยังไม่ได้มืดมิดอย่างสมบูรณ์ อย่างเช่นที่ตรงนั้น

 

หญ้าที่สูงเกือบเท่าตัวเด็ก มีอยู่แออัดไปทุกที่และพวกมันก็ส่องแสงรำไร

 

เหยียนซือหยุนที่กำลังนั่งอยู่บนกู่ฉิง ชี้ไปบนผืนหญ้า นางยิ้ม “ นี่คือหญ้าเรืองแสง ด้วยการมองเห็นของพวกเรา เราสามารถมองผ่านไปข้างหน้าได้หลายสิบเมตรด้วยความช่วยเหลือของหญ้าเหล่านี้ ”

 

ซวนหยวนจับจ้องไปที่ภายในของรัง มันเหมือนกับเข้ามาสู่โลกใหม่ มีทั้งโขดหิน ดินสีเข้มอยู่บนดิน ลำธาร และเนินเขาขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังมีพืชพันธุ์อยู่มากมายนับไม่ถ้วน ซวนหยวนสงสัยว่ามีบางอย่างจ้องมองพวกเขาอย่างกระหายเลือด มันเป็นบรรยากาศที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก

 

“ สัตว์อสูรมายาอยู่ที่นี่ จงตื่นตัวตลอดเวลา พวกสัตว์อสูรมายามีความฉลาดน้อยกว่าสัตว์อสูรปกติ มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกมันรับรู้ได้คือ การฆ่า และ การทำลายเท่านั้น ถ้าเจ้าพบพวกมัน จงระวังตัวให้ดี พวกมันนับว่ามีสติปัญญา แต่ก็ไม่ถึงกับฉลาดมากนัก สถานที่นี้ เหมาะสำหรับการขัดเกลาฝีมือเจ้า ”

 

เหยียนซือหยุนนั้นมีความรู้มาก นางอธิบายให้ซวนหยวนฟังและเขาก็ดูจะสนใจเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องดีสำหรับเขาถ้าได้ลองในสถานการณ์จริง

 

ในขณะที่เหยียนซือหยุนกำลังอธิบายอยู่นั้น ได้เกิดเสียงบางอย่างที่ประหลาดขึ้น ตัวแล้วตัวเล่า ม้าจันทร์โลหิตทรุดตัวลง

 

ซวนหยวนรับรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เขารีบพูดขึ้น “ บัดซบ! นี่มันบรรยากาศชั่วร้าย สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่สามารถต้านทานมันได้ ”

 

ม้าจันทร์โลหิตเป็นสายพันธุ์ม้าที่ดีและมีความแข็งแกร่ง แต่มันไม่สามารถเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้

 

ซวนหยวนหยิบยาแก้พิษที่เขาซื้อไว้ออกมา หนึ่งเม็ดสำหรับเขา และให้อีกหนึ่งเม็ดกับ

 

เหยียนซือหยุนและ อีกหนึ่งเม็ดกสำหรับกู่ฉิง  หมาป่าเรียกคืนความแข็งแกร่งกลับมาอย่างรวดเร็ว ยาแก้พิษไม่เพียงแค่ต่อต้านพิษเท่านั้น มันยังป้องกันคนที่ใช้ไม่ให้ได้รับพิษอีกด้วย พืชพันธ์จำนวนมากที่ถูกนำมาทำยาแก้พิษเติบโตใต้ดิน

 

คนที่ติดตามพวกเขา ยังได้รับยาแก้พิษไปด้วย

 

ทันในนั้นสัตว์อสูรมายาจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏตัวขึ้น และล้อมพวกเขา

 

มีทั้งอสูรจำพวก หมาป่า เสือดาว เสือ สิงโต หมี งู ลิง และนกยักษ์ ต่างออกมา จะงอยปากของนกยักษ์เปรียบเหมือนเหล็กที่แหลมคม และมีปีกที่ทรงพลัง เพียงแค่มันกระพือปีกเพียงเล็กน้อย ก็จะสามารถพุ่งไปได้ไกลหลายร้อยเมตร จะงอยปากของมันพุ่งทะลุหัวใจของหนึ่งในศิษย์

 

“ สัตว์อสูรมายา! ระวัง!” ในตอนนั้นเอง เหล่าสาวกแท้จริงได้ปลดปล่อยพลังออกมา สายฟ้าหลายสายต่างรวมกันอยู่รอบๆ พวกเขา เหล่าสัตว์อสูรถูกตัดออกเหมือนกับพืชที่กำลังถูกเก็บเกี่ยว ทันใดนั้นเลือดของเหล่าสัตว์อสูรไหลรินไปทั่วพื้น

 

ซวนหยวนให้กงล้อดวงจันทร์ที่ได้มาจากศพ ติง หาน แก่ เหยียนซือหยุน

 

“ ศิษย์พี่ รับนี่ไป ”

 

จากนั้นเขาก็คว้ากริชของเขาและกระโดดลงจากกู่ฉิง ด้วยยุทธภัณฑ์อย่างรองเท้าเมฆาเหินหาวทีเขาสวมอยู่ ทำให้ร่างกายของเขาเบาเหมือนขนนก เขากระโดดได้สูงนับสิบเมตรด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว และลงบนพื้นโดยปราศจากเสียง เขาฆ่าอสูรมายาประเภทนกไปเล็กน้อยกลางอากาศ เขารู้สึกประทับใจกับพลังของยุทธภัณฑ์ของเขา “ นี่มันราวกับเวทมนต์ ”

 

กริชในมือเขาตัดผ่านทุกอย่างที่มันสัมผัสโดน และกลืนกินพลังจากสิ่งมีชีวิตที่มันสังหารไป

 

การต่อสู้ระหว่างมนุษย์และเผ่ามายาจะมาถึงในเร็วๆ นี้ นั้นเป็นเพราะเมื่อ ต่ง เซวียน , ลวี เฟิง , เย่ว เถิง และเย่ว ชาน มาถึงสนามรบ ด้วยพลังของขอบเขตกษัตริย์สามารถที่จะมองเห็นและทำลายสิ่งมีชีวิตที่เหลือในความมืด วิธีที่พวกเขาใช้ในการทำลายเหล่าอสูรมายานั้นช่างงดงามและน่าหลงใหลอย่างมาก

 

ผลึกอสูรของสัตว์อสูรที่บินได้ตกอยู่ในมืออของศิษย์ มันมีอย่างน้อยสามพันตัวที่ตกตายระหว่างการต่อสู้ ทั้งต่ง เซวียน และ ลวี เฟิง ได้รับผลึกอสูรไปคนละ 25 อัน ส่วนที่เหลือถูกนำไปโดยศิษย์แท้จริงคนอื่นๆ

 

แต่ละตัวมีความแข็งแกร่งเท่ากับขอบเขตนักสู้ ผลึกอสูรเหล่านั้นสามารถขายได้อย่างน้อยหนึ่งแสนเหรียญนักสู้

 

ต่ง เซวียน และ ลวี เฟิง เดินเข้ามาหาซวนหยวน และยิ้ม “ ศิษย์น้องซวนหยวน ก่อนหน้านี้พวกเราอาจจะมีเรื่องบาดหมางกัน ดังนั้นตอนนี้ โปรดอย่านำมันมาใส่ใจ และรับผลึกอสูรเหล่านี้ไปแทนคำขออภัย เมื่อเจ้ากลับไปถึงนิกาย อย่างลืมพูดสิ่งดีๆ เกี่ยวกับพวกเราบ้างนะ ”

 

“ ลวี เฟิง ซวนหยวนคือศิษย์อย่างเป็นทางการของนิกายนักสู้มังกร ข้าเกรงว่ามันจะไม่เหมาะที่จะเรียกเขาว่าศิษย์น้อง พวกเราควรจะเรียกเขาว่า นายน้อยซวนหยวน ถึงแม้จะเป็นเวลาช่วงสั้นๆที่นายน้อยได้กลายเป็นศิษย์ของสำนักจันทร์พฤกษา แต่ได้โปรดอย่างลืมเกี่ยวกับ ศิษย์พี่และศิษย์น้องจากสำนักเมื่อท่านไปถึงนิกาย ”

 

“ นายน้อยซวนหยวน พวกเราจะปกป้องท่านในภารกิจนี้ พวกเราจะไม่ให้ท่านถูกทำร้ายเป็นอันขาด ”

 

ซวนหยวนยิ้มอย่างมีความสุข “ ลืมความบาดหมางของเราไปซะ ข้าไม่ได้นำมันมาใส่ใจ เจ้าคิดว่าข้าดูเหมือนคนโลภมากงั้นหรือ?” แต่เขาก็ยัง หยิบผลึกอสูรเก็บใส่ในแหวนของเขาอย่างไม่ลังเลขณะที่เขากำลังพูด

 

“ ไอ้สองตัวไร้ประโยชน์ รีบมาขอขมานายน้อยซวนหยวนเร็วเข้า! ท่านเป็นคนใจกว้างและอาจจะให้อภัยพวกเจ้า พวกเจ้าต้องเอานายน้อยเป็นแบบอย่าง! ” ต่ง เซวียน ตะคอกใส่ เย่ว ชาน และ เย่ว เถิง พวกเขารีบเดินเข้ามาอย่างเชื่อฟัง ใบหน้าของ เย่ว ชาน ยังคงบวมอยู่เหมือนโดนผึ้งต่อย เมื่อเขายิ้ม หน้าของเขาก็ยิ่งผิดเพี้ยน เขายื่นถุงใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยเหรียญให้กับซวนหยวน

 

“ ศิษย์น้องซวนหยวน ในนี้มีอยู่ 3,000 เหรียญจิตวิญญาณ โปรดรับนี่ไปแทนคำขอโทษและลืมเกี่ยวกับความหยาบคายของข้าเมื่อวันก่อนด้วยเถิด ”

 

เย่ว เถิงยิ้มและให้ถุงเงินใบใหญ่แก่ซวนหยวน และพูด “ ข้ามีเพียง 2,000 เหรียญจิตวิญญาณ ได้โปรดให้อภัยข้า ที่หยาบคายกับเจ้าที่เมืองจันทร์สลายด้วย ”

 

ซวนหยวนยินดีเป็นอย่างมากกับตัวเอง “ ไม่ต้องกังวล พวกท่านทั้งหมดมาขอโทษข้าด้วยความจริงใจ ดังนั้นข้าต้องให้อภัยพวกท่านแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าเงินนี่ จะไม่เพียงพอให้ข้าใช้จ่ายนะ”

 

ใบหน้าของพี่น้องตระกูลเย่วกระตุกเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาอยากจะบีบคอซวนหยวนให้ตายคามือ แต่ก็ยังคงเก็บรอยยิ้มบนหน้าเอาไว้

 

“ แน่นอน แน่นอน พวกเรายังพอมีอีกอยู่บ้าง โปรดรับนี่ไป ศิษย์น้องซวยหยวน ”

 

พวกเขาให้เงินซวนหยวนไปอีก 5,000 เหรียญจิตวิญญาณ หัวใจของพวกเขาปวดร้าวจากการสูญเสียในครั้งนี้

 

ซวนหยวนเก็บเงินทั้งหมดโดยปราศจากความละอาย หนึ่งหมื่นเหรียญจิตวิญญาณสามารถแลกได้ หนึ่งแสนเหรียญจอมยุทธ์ ในที่สุด เขาจะได้รับยุทธภัณฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุด

 

เขาไม่จำเป็นที่จะต้องปล้น ต่ง เซวียน และ ลวี เฟิง เพราะทั้งสองไม่เคยมีความบาดหมางใดๆต่อเขา หรือ ไม่แม้กระทั้งเคยพูดคุยกันต่อหน้า

 

ภายใต้การพิจารณาของคนอื่น ศิษย์พี่ที่อาวุโสที่สุดทั้งสองของเหล่าศิษย์แท้จริง และศิษย์พี่ เย่ว ชาน การขอโทษซวนหยวนนั้น ถือเป็นความอัปยศต่อเหล่าศิษย์แท้จริงคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครสามารถกล่าวสิ่งใดออกมาได้ ทุกคนรู้ดีว่า ซวนหยวนได้รับการสนับสนุนจาก เฟิง เลี่ย และจะก้าวเข้าสู่นิกายนักสู้มังกร เขาจะได้พบเจอกับอนาคตที่สดใสเป็นแน่

 

พวกเขาทั้งหมดดีใจที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับซวนหยวน

 

“ พอเท่านั้นแหละ ให้ที่ผ่านมาเป็นอดีตไปเสีย ตอนนี้พวกเราต้องร่วมมือกันและกวาดล้างเผ่าปีศาจมายา นั่นคือสิ่งสำคัญที่เราต้องทำในตอนนี้ ” ซวนหยวนกล่าวอย่างเมินเฉยและกระโดดขึ้นไปบนหลังของกู่ฉิง ” เขาวางแขนไปพาดเอวของ เหยียน ซือหยุนและยิ้ม “ ลงไปยังส่วนต่อไปของรัง! ”

 

เหยียน ซือหยุนรู้สึกอึดอัดและเขินอาย นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กหนุ่มเช่นซวนหยวนจะทำกับนางแบบนี้

 

แต่ในความเป็นจริง ซวนหยวนไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เขาเพียงแค่เมามายไปกับความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจ

 

เหล่ากองทัพของศิษย์จากสำนักมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกลงไปของรัง..

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments