I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 32 ความชั่วร้ายคืบคลาน

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

มันไม่มีอุปสรรค์ใหญ่ใดๆ ที่มาขวางในชั้นแรกของรัง ต่ง เซวียน และลวี เฟิงปกป้องพวกเขา สัตว์อสูรมายาหลายตัวถูกฆ่าตายในทันทีโดยสองนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ แม้ว่าสัตว์อสูรส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับจอมยุทธ์ แต่ความแข็งแกร่งของมันนั้นแตกต่างกับพวกเขามาก สัตว์อสูรที่พวกเขาเผชิญหน้าก่อนหน้านี้ล้วนอ่อนแอ

 

ในชั้นแรกของรังนั้นสัตว์อสูรมายาราวๆ 1 หมื่นตัวถูกฆ่าตาย ซวนหยวนได้ผลึกอสูร 72  ผลึก จากการเก็บเกี่ยวครั้งนี้

 

ต่ง เซวียน และลวี เฟิงพวกมันไม่ต้องการผลึกอสูรอีกแล้ว ดังนั้นพวกมันจึงให้ผลึกอสูรทั้งหมดของมันให้กับซวนหยวน ด้วยความหวังว่าซวนหยวนจะแนะนำพวกเขาให้กับนิกายเมื่อซวนหยวนมีอำนาจมากขึ้น แน่นอนซวนหยวนไม่มีความละอายเมื่อเงินมันมาหาเขาเอง เขามีความสุขและยอมรับสินบนของพวกมัน

 

แผนของต่ง เซวียน คือ ขอให้ซวนหยวนยกโทษให้พวกเขาต่อหน้าทุกคนที่กำลังจับตามองดูอยู่ ดังนั้นเขาก็จะลดความระมัดระวังลงเมื่อพวกมันกำลังปฏิบัติตามแผนการของพวกมัน จากนั้นต่ง เซวียน และหง ยื่อจะแยกทางและไปดักซุ่มโจมตีซวนหยวน เพื่อบังคับให้เขาลงไปในระดับชั้นลึกๆของรัง

 

ในชั้นแรกของรัง ศัตรูนั้นอ่อนแอมาก แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นที่สอง มันจะมีสัตว์อสูรมายาจำนวนมาก เช่น ปีศาจปอบขาวมันมีความแข็งแกร่งมาก ความแข็งแกร่งของมันเท่ากับนักสู้ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูง

 

เมื่อพวกเขามาถึงชั้นที่สอง

 

มันไม่ได้มีลักษณะแตกต่างกับชั้นก่อนหน้านี้มากนัก หญ้าก็ยังคงเรืองแสงรำไร พืชมายามันกำลังเติบโตทุกที่ และมีสัตว์อสูรมายาจำนวนมากซุ่มโจมตีอยู่รอบๆในเงามืด

 

สิ่งที่แตกต่างคือสิ่งมีชีวิตในชั้นนี้มีความหน้ากลัวมากขึ้นและทรงพลังมากขึ้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความชั่วร้าย บรรยากาศชั่วร้ายนั้นเหมือนเป็นแหล่งพลังงานของเผ่าปีศาจมายา แต่มันเป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์อสูรทั่วๆไป สัตว์อสูรมายาทุกตัวครั้งหนึ่งมันเคยเป็นสัตว์อสูรทั่วๆไปที่มันกลายเป็นสัตว์อสูรมายานั้นเพราะมันปนเปื้อนไปด้วยบรรยากาศที่ชั่วร้ายนี้

 

ภารกิจที่ได้รับคือการฆ่าสัตว์อสูรร้ายเหล่านี้ภายในรัง

 

การต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้งโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ

 

ต่ง เซวียน และลวี เฟิงอยู่ด้านหน้าของกลุ่ม ดาบของพวกมันแผ่ไอเย็นออกมาและก็มีแสงจันทร์ตัดผ่านสิ่งมีชีวิตในทางด้านหน้าของพวกเขา

 

ซวนหยวนเลือกใช้อาวุธกริชสนิมของเขา เขาได้ยินเสียงของเฒ่าโลภดังกังวานในจิตใจของเขา “ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!  ฆ่ามันให้มากที่สุด พลังของข้าจะได้ฟื้นฟูคืนได้เร็วยิ่งขึ้น นี่มันยังไม่เพียงพอ ตอนนี้เจ้าต้องไปหาศิลานักสู้ให้ข้าเยอะๆ หยกและคริสตัล ไปชั้นที่สามและดูว่ามันมีอะไรบ้างในชั้นที่สาม…”

 

ซวนหยวนรีดดวงตาของเขา รองเท้าเมฆาเหินหาวทำให้ซวนหยวนนั้นเดินโลดเเล่นผ่านอากาศเหมือนมังกรบิน รวดเร็วและเบา ด้วยกริชที่คมอย่างเหลือเชื่อของเขา มันสามารถเชือดสัตว์อสูรมายาในด้านหน้าของเขาไปทีละตัว ทีละตัว

 

เขาฆ่าสัตว์อสูรมายาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

การต่อสู้ในรังชั้นที่สองนั้นเหน็ดเหนื่อยและยากกว่าชั้นก่อนหน้านี้มาก สัตว์อสูรโจมตีใส่พวกเขาจากทุกทิศทาง แม้ศิษย์แท้จริงจะปกป้องพวกเขา แต่ก็มีศิษย์ภายในหลายสิบคนก็ถูกพวกมันฆ่า

 

เมื่อซวนหยวนฆ่าพวกมัน 37 ตัวเสร็จ ก็มีพลังบางอย่างที่น่ากลัวพุ่งเข้าใกล้ด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว

 

เขารู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาจะชา เขาหันไปรอบๆและทะลวงมันด้วยกริชของเขา ทันใดนั้นตาสีแดงจ้องมองมาที่เขา ใบหน้าของมันเน่าเปื่อยและมือที่มีความแหลมคม กรงเล็บยาว มันเป็นปีศาจมายา “ปีศาจปอบขาว” ความแข็งแกร่งของมันเท่ากับมังกร ด้วยร่างสีของมัน ผมสกปรก และเนื้อหนังที่เน่าเปื่อย มันเป็นภาพที่น่าสะอิดสะเอียน

 

ในขณะที่ซวนหยวนแทงกริชไปที่ปีศาจปอบขาว ในขณะที่เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกขาดจากกรงเล็บที่แหลมคมของมัน แต่เขาไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย เพราะเขามีเกราะสำหรับป้องกัน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า , ซวนหยวน เจ้าเก็บผลึกทั้งหมดมาจากสัตว์อสูรมายาที่ถูกเจ้าฆ่า ข้าจะเอาแก่นแท้ของสัตว์อสูรมายา ข้าจะกลืนกินพลังของพวกมัน!”

 

สนามรบที่เต็มไปด้วยซากศพ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบจำนวนสัตว์อสูรมายาที่ถูกฆ่าตายและผลึกอสูรอยู่ข้างในศพ ดังนั้นซวนหยวนไม่ได้ถกเถียงกับเฒ่าโลภมาก

 

ปอบสีขาวถูกแช่แข็งเมื่อกริชแทงเข้าไปที่หัวใจของมัน แก่นแท้ของความแข็งแกร่งทั้งหมดถูกดูดกลืนโดยกริช มันไม่มีอะไรเหลือเลย นอกจากร่างที่ว่างเปล่า

 

ปีศาจปอบขาวตัวอื่นพุ่งเข้าไปหาซวนหยวน แต่ซวนหยวนนั้นไม่ได้หนี และเขาใช้ทักษะ “กำปั้นมังกรสวรรค์”  รวมกับพลังกลั่นผิว กล้ามเนื้อ และกระดูกของเขา แล้วเจาะรูผ่านร่างกายของปีศาจปอบขาว สัตว์อสูรมายา และทำให้มันตกตายลง

 

ในทางกลับกัน พลังของเหยียน ซือหยุนเพิ่มขึ้นเพราะอุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุด กงล้อดวงจันทร์ นางแกว่งกงล้อดวงจันทร์และตัดผ่านสัตว์อสูรมายาในด้านหน้าของนาง ทำให้พวกมันแยกเป็น 2 ส่วน

 

รังชั้นที่ 2 เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของเลือด

 

การต่อสู้จบลงเมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้กับประตูทางลงไปชั้นที่ 3 พวกเขาต่อสู้เป็นเวลา 12 ชั่วโมง

 

ร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นกำลังดูดซับบรรยากาศชั่วร้าย และเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับร่างกาย ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นพลังของซวนหยวนคงจะหมดไปนานแล้ว

 

สัตว์อสูรมายาเกือบ 4 หมื่นตัวที่ถูกฆ่าตาย ในจำนวนนั้นมีปีศาจปอบขาวจำนวนมาก และมีศิษย์ภายในหลายร้อยคนถูกพวกมันฆ่า

 

แต่ก็มีศิษย์ที่อยู่บนจุดสูงสุดจำนวนมากสามารถก้าวผ่านไปยังขอบเขตจิตวิญญาณระหว่างสู้รบ สือ คงหยู และ หลิว เพียวซู่เป็นหนึ่งในกลุ่มพวกเขา

 

ซวนหยวนถอนหายใจและมองไปที่ซากศพ

 

“โชคดีที่เหล่าปีศาจปอบขาวมันมีร่างกายอย่างเดียวที่แข็งแกร่งเท่านั้น และมันไม่รู้ทักษะใดๆเลย มิเช่นนั้นคนจำนวนมากคงจะถูกพวกมันฆ่าตาย ”

 

ความแข็งแกร่งของซวนหยวนเพิ่มขึ้น จาก 172 วัว เป็น 178 วัว หลังจากการต่อสู้ 12 ชั่วโมง การเชื่อมต่อระหว่างผิว เนื้อ และกระดูกของเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่เขารู้ว่านั้นมันยังไม่ใช่ขีดจำกัดความแข็งแกร่งของเขาในขอบเขตนี้

 

กู่ฉิงพลังเพิ่มขึ้นเป็น 99 วัว มันปลดปล่อยและดูดซึมพลังของผลึกอสูรภูติหมาป่าในระหว่างการต่อสู้ กู่ฉิงนั้นได้รับบาดเจ็บและเลือดของมันปนเปื้อนกับขนสีเงินของมัน ซวนหยวนหยิบยาที่เขาซื้อและรีบมอบให้กับกู่ฉิงอย่างรวดเร็ว เลือดของมันหยุดไหลอย่างรวดเร็วและเริ่มที่จะฟื้นฟู

 

“พวกเราควรจะพักผ่อนก่อนที่จะลงไปชั้นถัดไป ศิษย์หลายคนไม่สามารถที่จะมุ่งหน้าไปต่อได้แล้ว” ซวนหยวนกล่าวบอกกับต่ง เซวียน และลวี เฟิง

 

“นายน้อยพูดถูก” พวกมันกล่าว และหยิบผลึกสูรระดับจอมยุทธ์จำนวน 180 อัน และผลึกอสูรระดับจิตวิญญาณ 10 อันที่ได้มาจากปีศาจปอบขาวและส่งมอบมันให้กับซวนหยวน ซวนหยวนไม่อายที่จะยอมรับของขวัญ เขายอมรับของติดสินบนและกล่าวว่าเขาจะจดจำพวกมันเมื่อข้าเข้าสู่นิกาย

 

ต่ง เซวียน และลวี เฟิงยิ้ม แต่เย่วเถิง และเย่วชานไม่พอใจที่เห็นว่า พวกเขามอบผลึกอสูรทั้งหมดให้กับซวนหยวน

 

“ศิษย์พี่ ผลึกเหล่านั้นมันเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกท่านฆ่าสัตว์อสูรมายา หรือว่าท่านเริ่มที่จะพึงพอใจที่จะมอบให้กับมัน?”

 

ต่ง เซวียน ที่รำคาญเย่วเถิงนั้น เขากล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เมื่อมันตาย พวกข้าก็จะได้ของกลับคืนมา เจ้าไม่คิดหรือว่าข้าจะให้ของมันโดยไม่มีความหมายอะไร?”

 

เมื่อรู้แผนการของต่ง เซวียน เย่วเถิงก็ยิ้ม “ถูกต้อง พวกเราจะได้รับทุกอย่างเมื่อมันตาย ให้มันดีใจไปก่อนตอนนี้ “

 

พวกเขาพักผ่อนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เมื่อพักผ่อนเสร็จศิษย์ที่เหลือจำนวน 800 คนมุ่งหน้าไปยังชั้นที่ 3 ของรัง

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments