ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปฟางยู่โหยวไม่ลังเลที่จะปลดปล่อยปราณต่อสู้ทั้งหมดออกมา กระแสพลังปราณกลายเป็นระลอกคลื่นและพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศขณะที่กวัดแกว่งกระบี่ของนาง ฟางยู่โหยวรีบพุ่งไปที่งูหกหัวในทันที การโจมตีแล้วละครั้งราวกับคลื่นสึนามิถูกปลดปล่อยออกมาจากกระบี่
อย่างไรก็ตาม งูหกหัวนั้นก็ยังเป็นงูที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ ตัวที่อ่อนแอที่สุดก็ยังมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกร 100 ตัว การสลายคลื่นพลังปราณของฟางยู่โหยวเป็นสิ่งที่ง่ายดายนัก
ในหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นางเปลี่ยนแผนอย่างรวดเร็วและพยายามปัดป้องเข็มพิษที่พุ่งเข้ามา
แต่ก่อนที่เข็มพิษจะทะลุผ่านการป้องกันและพุ่งตรงไปที่หน้าอกของยู่โหยว จู่ๆ ซวนหยวนก็กระโดดมาอยู่ข้างหน้าของนางและใช้มือเป็นโล่ปกป้องนางจากเข็มพิษ
” ม่ายยยยยยยย ” นางกรีดร้องออกมา
ในขณะที่เข็มพิษกำลังจะเจาะถึงตัวเขา เกราะทองคำสวรรค์ก็ถูกเปิดใช้งานขึ้นทันที แต่อย่างไรซวนหยวนก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ดี เกราะดูดพลังปราณของเขาไปถึง 1 ใน 3 เขาเพิ่งมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตจิตวิญญาณด้วยความแข็งแกร่งเท่ากับมังกร 64 ตัวและแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายที่เลยที่เขาจะรับการโจมตีนั้น
ทันใดนั้น ปราณที่ทรงพลังพุ่งผ่านมาอย่างรวดเร็วและตัด 1 ในหัวของงูยักษ์ออกในทันที ฟางอู๋เจี้ยนได้มาถึงแล้ว
” ทุกคนจงฟัง! ปกป้องคุณหนูและพาออกไปจากป่านี้ซ่ะ! “
” รับทราบ! ” เหล่าผู้คุ้มกันทั้ง 22 คน กล่าวพร้อมกัน
ฟางยู่โหยวรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อนางเห็นว่าซวนหยวนไม่ได้รับอันตราย นางคว้าแขนของเขาและลากไปข้างหน้าขณะที่ถาม ” ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม? “
” ตราบเท่าที่ท่านให้อภัย ข้าก็ยังคงสบายดี ” ซวนหยวนกล่าวอย่างไร้เดียงสา นางหรี่ตาลงและปล่อยแขนของเขา
” ใครบอกว่าท่านทำผิดต่อข้า? ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ” นางตอบ
ซวนหยวนไม่ได้พูดอะไรต่อ ฟางยู่โหยวขวดเม็ดยาเสริมพลังที่ได้รับจากซวนหยวนและกลืนมันลงไป 1 เม็ด พลังปราณของนางถูกฟื้นฟูเกือบทั้งหมดในทันที
” มันคือเปลวเพลิงจิตผันแปรอย่างแน่นอน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลของข้าถึงต้องการผู้ที่สามารถควบคุมไฟที่ทรงพลังเช่นนี้ มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ ” นางคิด
นางมองไปยังเหล่าผู้คุ้มกันและฟางอู๋เจี้ยนที่กำลังต่อสู้อยู่กับเหล่างูยักษ์
” รีบหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้! ” นางออกคำสั่ง พวกเขาทั้งหมดปลดปล่อยพลังปราณออกมาและรีบพุ่งผ่านป่า
” ข้าก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าผู้หญิงคิดเช่นไร ” ซวนหยวนคิดกับตัวเอง ฟาง ยู่โหยวปกป้องเขาจากเข็มพิษและดูเหมือนนางจะไม่ได้โกรธเขาอีกต่อไป
พวกเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีมากมายจากงูห้าสี แต่พวกมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับกำลังใจของทั้งกลุ่ม เนื่องจากพวกเขาเพิ่งเผชิญกับสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่ามาแล้ว
ซวนหยวนถือกริชไว้ในมือข้างหนึ่งและอีกข้างถือหน้าไม้เอาไว้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเขาจะไม่ใช้หน้าไม้อีก เพราะเขาเหลือเพียงแค่ 4 อันเท่านั้น เขาจำเป็นที่จะต้องระมัดระวัง
พวกเขาวิ่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ชั่วโมง รวมแล้วระยะทางราวๆ 2-3,000 ไมล์ ซวนหยวนมองกลับไปอย่างเป็นกังวล ” ฟางอู๋เจี้ยนจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม? “
ฟางยู่โหยวขมวดคิ้วและครุ่นคิด ” สัตว์อสูรขอบเขตกษัตริย์ไม่ใช่ถัยคุกคามสำหรับอู๋เจี้ยน เขายังมียุทธภัณฑ์ปฐพีขั้นสูงอยู่กับตัว ดังนั้นเขาคงจะไม่เป็นอะไร ไปกันเถอะ การไปถึงนิกายให้เร็วที่สุดคงจะเป็นสิ่งที่พวกเราทำได้ในขณะนี้ “
” การได้เข้าเป็นศิษย์ภายในของนิกายสำคัญกว่าคนที่คอยดูแลท่านหรือไม่? ” ซวนหยวนไม่เข้าใจถึงเหตุผลของนางดังนั้นเขาจึงถามออกไป
” จำเป็นต้องมีผู้เสียสละอยู่เสมอ เมื่อไปถึงนิกายข้าจะไม่พอใจกับการแค่เป็นศิษย์ภายในอย่างเดียว ข้าจะต้องเป็นศิษย์แท้จริงให้ได้และนำผลประโยชน์มากมายจะกลับมาสู่ตระกูลของข้า ข้าจะตอบแทนครอบครัวของผู้ที่ตกตายไปอย่างแน่นอน เส้นทางการต่อสู้เป็นเส้นทางที่โหดร้ายและไร้ความเมตตา พวกเขาเข้าใจความจริงข้อนี้เป็นอย่างดีเมื่อเริ่มที่จะฝึกตน ” ฟาง ยู่โหยวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
” ดี ข้าคิดว่าท่านพูดถูก ” ซวนหยวนถอนหายใจ
พวกเขายังฆ่างูห้าสีไปตลอดทาง แต่พวกเขาไม่มีเวลาที่จะเก็บผลึกอสูร มันทำให้ซวนหยวนรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก ฟางยู่โหยวประทับใจในความว่องไวและความแม่นยำของซวนหยวนเป็นอย่างมาก มันยากที่จะเชื่อว่าเขาเป็นเพียงนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณเท่านั้น
เมื่อพวกเขาราวกับว่าป่านั้นกว้างใหญ่ราวกับไร้ที่สิ้นสุด ทันใดนั้นเองได้มีแสงไฟปรากฏตรงหน้าของทั้งกลุ่ม
” นั่นไง พวกเราใกล้ถึงทางออกแล้ว ! ” ฟางยู่โหยวโล่งใจเป็นอย่างมาก
เหล่าผู้คุ้มกันทั้งหมดต่างผ่อนคลาย จู่ๆ ก็มีงูหกหัวกระโดดพุ่งมาทางพวกเขา
มันมีขนาดใหญ่กว่างูที่เจอก่อนหน้านี้มาก เกล็ดที่ราวกับเหล็กกล้าสามารถที่จะลบล้างการโจมตีของยุทธภัณฑ์ปฐพีระดับต่ำได้อย่างง่ายดาย มันมีความกล่าว 8 เมตรและยาวเกือบ 40 เมตร แต่ละหัวมีมงกุฎอยู่ มันคือผู้นำขแงงูหกหัว!
ปราศจากฟางอู๋เจี้ยน มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าปะทะกับงูยักษ์ที่ทรงพลังขนาดนี้
ซวนหยวนเป็นคนแรกที่ตอบสนอง ก่อนที่งูยักษ์จะมีเวลาโจมตี ซวนหยวนยิงลูกศรออกไป ด้วยความรุนแรงของระเบิดทำให้หัวงูทั้ง 4 และเกล็ดของมันถูกเป่ากระจายในทันที!
ฟาง ยู่โหยวก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน นางโคจรพลังปราณไปที่ผ่ามือและพุ่งโจมตีไปที่หัวที่ 4 ที่ได้รับบาดเจ็บ พวกมันทั้งหมดอ่อนแอเป็นอย่างมากและพร้อมที่จะถูกทำลายได้ทุกเมื่อ
หัวที่เหลืออีก 2 หัวเปิดปากออกและพ่นฝนเข็มพิษออกมาเต็มท้องฟ้า รัศมี 30 เมตรรอบตัวมัน ต้นไม้มากมายถูกย่อยสลายและเน่าเปื่อย แม้แต่พื้นดินก็ยังถูกละลายด้วยพิษ
เหล่าผู้คุ้มกันสร้างโล่พลังปราณขึ้นมาและเปิดใช้ยุทธภัณฑ์เพื่อปกป้องร่างกายตัวเอง แต่มันก็เป็นแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า งูยักษ์ดูราวกับว่าจะพ่นพิษออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ฟางยู่โหยวพยายามมองหาซวนหยวน แต่ก็พบว่าเขาได้หายไปแล้ว มีเพียงแค่หน้าไม้ที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หัวใจของนางหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มอย่างรวดเร็ว ” หมวกเหล็กไร้ตำหนิ! เขาบ้าไปแล้ว เขาต้องการที่จะแอบขึ้นไปบนตัวงู? “
ในวินาทีต่อมา ฟางยู่โหยวเห็นร่างของซวนหยวนโผล่ที่ส่วนท้องของงู เขาดูตัวเล็กเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับงูยักษ์ จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นและเอากริชแทงไปในท้องของงู กริชลึกลับมีความคมอย่างมากแม้กระทั่งเกล็ดที่ทนทานของงูก็ไม่สามารถที่จะต้านทานมันได้แม้แต่น้อย
จากนั้นแรงกดดันลึกลับก็เริ่มดูดซับพลังชีวิตของงูยักษ์ออกไปอย่างรวดเร็ว งูยักษ์หกหัวนับเป็นตัวตนอันใดเมื่อเทียบกับเฒ่าโลภมาก มันส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนาและร่างกายของมันเริ่มที่จะแห้งเหี่ยวลง มันเผยให้เห็นผลึกอสูรสีเขียวสดใสทั้ง 6 อัน
” ฮ่าๆๆ ผลึกอสูร 6 อัน! ” ซวนหยวนหัวเราะอย่างมีความสุข
” แน่นอน งูยักษ์มี 6 หัว 3 หัวเป็นเพศผู้และอีก 3 หัวเป็นเพศเมีย เมื่อพวกมันก้าวเข้าสู้ขอบเขตนักพรต มันจะกลายเป็นงูเก้าหัว ” ฟางยู่โหยวเดินเขามาหาซวนหยวนและมองไปที่ผลึกอสูร พวกมันทั้งหมดมีคุณภาพสูง แต่ละอันมีขนาดเท่ากับกำปั้น
ซวนหยวนพยักหน้าและยิ้มให้นาง ” ท่านต้องการผลึกอสูร 3 อันหรือไม่? “
นางส่ายหัว ” ไม่ ท่านเก็บมันไว้เถอะ ท่านเป็นคนสังหารงูนั่น ถ้าไม่ใช่เพราะท่านเหล่าผู้คุ้มกันทั้งหมดคงตายไปแล้ว
ปราศจากคำพูด ซวนหยวนเก็บผลึกอสูรลงไปในแหวนอย่างรวดเร็ว ” ไปกันเถอะ เราใกล้ถึงนิกายแล้ว ” เขากล่าว
ฟางยู่โหยว, ซวนหยวน และผู้คุ้มกันอีก 22 คน ในที่สุดก็ก้าวเดินออกจากป่า…