ซวนหยวนสอดมือของเขาเข้าไปที่เอวของฟางยู่โหยว ร่างกายของนางคือความสมบูรณ์แบบและนุ่มนิ่มเมื่อเขาสัมผัส แขนของนางโอบรัดไปที่คอของซวนหยวน พวกเขาดูคล้ายกับคู่รักที่ตกอยู่ในห้วงสเน่หา ซวนหยวนได้กลิ่นหอมจางๆจากร่างกายของฟางยู่โหยว มันยากที่จะทำให้เขาคงสมาธิไว้
 
 
 
ฟาง ยู่โหยวมองผ่านไหล่ของนาง เห็นลู่ หยู่เชียงและเซี่ย อู๋เฮิ่นกำลังตามพวกเขามา เมื่อเห็นเช่นนั้นนางยิ่งดึงตัวเองเข้าหาซวนหยวน มันทำให้ ลู่ หยู่เชียง และ เซี่ย อู๋เฮิ่น โกรธเป็นอย่างมาก
 
 
 
ด้วยความเร็วของของนกนภาวารีและหมาป่าขนทอง ในที่สุดพวกเขาก็ตามฟางยู่โหยวและซวนหยวนทัน
 
 
 
ลู่หยู่เซี่ยที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้ากล่าวอย่างเย็นชา ” หยุดเดี๋ยวนี้ มีบางสิ่งที่พวกเราต้องแก้ไขอยู่ที่นี่ “
 
 
 
ฟางยู่โหยวหรี่ตาลงและถาม ” ท่านต้องการอะไร นายน้อยลู่? “
 
 
 
” ดี ก็ไม่มีอะไรมาก ข้าเพียงต้องการให้เซี่ย อู๋เฮิ่น…. ” เขายืนอยู่บนนกนภาวารีขณะที่โบกพัดที่อยู่ในมือไปมา มันคือ ‘พัดร้อยอัคคี’ เป็นอาวุธระดับปฐพีขั้นสูง เปิดใช้งานโดยใส่ปราณเข้าไปมันจะปลดปล่อยเปลวไฟที่รุนแรงออกมาแผดเผาศัตรู
 
 
 
เซี่ย อู๋เฮิ่นลุกขึ้นมาขวางทาง ในมือของเขาถืออาวุธรูปทรงเหมือนกรงเล็บสีดำ มันถูกเรียกว่า กรงเล็บ ‘กรงเล็บปีศาจ’ และมันยังเป็นอาวุธระดับปฐพีขั้นสูง  มันรูปลักษณ์ที่ดูน่ากลัว มันเหมือนกับว่ามีกลิ่นอายของภูติผีรั่วไหลออกมา
 
 
 
” นายน้อยเซี่ย ท่านจะทำอะไร? ” ฟางยู่โหยววางศีรษะของนางฟาดกับไหล่ของซวนหยวน ทั้งคู่ราวกับคู่รักที่หวานแหววและต้องตัวติดกันตลอดเวลา
 
 
 
” ข้าเพียงจะถามว่า เด็กหนุ่มผู้นี้คือใคร? คุณหนูฟาง ” เซี่ย อู๋เฮิ่นชี้กรงเล็บไปที่ซวนหยวน
 
 
 
” เขา? อ๋อ เขาคือคู่หมั้นของข้า ท่านไม่รู้หรือ? ” ฟางยู่โหยวพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและเป็นธรรมชาติอย่างมาก ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เลยว่านางกำลังโกหกอยู่
 
 
 
สีหน้าของลู่หยู่เชียงและเซี่ยอู๋เฮิ่นบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ เซี่ยอู๋เฮิ่นก้าวออกไป ” คุณหนูฟาง ท่านปฏิเสธพวกเราทั้งคู่เพราะพวกเรายังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ แต่เขายังไม่แม้แต่จะเป็นนักสู้ขอบเขตพฤกษาด้วยซ้ำ ข้าไม่เชื่อ ท่านกำลังโกหกพวกเราอยู่!? “
 
 
 
ฟางยู่โหยวรู้สึกถึงจิตสังหารจากพวกเขา ” พวกเขาจะสังหารซวนหยวน? ไม่ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำลายซวนหยวน ข้าจะต้องบอกพวกเขาว่าซวนหยวนได้รับการยอมรับจากสมาชิกตระกูลฟาง นั่นจะทำให้พวกเขาไม่กล้าแตะต้องเขา”
 
 
 
ฟางยู่โหยวกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่นางกับนึกบางอย่างขึ้นได้ นางยืนขึ้นและจูบซวนหยวนไปที่ริมฝีปากของเขา ซวนหยวนได้กลิ่นหอมจากริมฝีปากของนาง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวเช่นนี้ เขาถึงกับเหม่อลอยในทันที
 
 
 
ก่อนที่ซวนหยวนจะทันได้ตอบสนอง ฟางยู่โหยวจูบเขาและดึงตัวเองออกไป ใบหน้าของนางแดงละเลื่อเหมือนลูกเชอร์รี่ จากนั้นนางก็ยิ้มให้กับลู่หยู่เชียงและเซี่ยอู๋เฮิ่น
 
 
 
” พวกเราหมั้นหมายกันแล้ว มันไม่ใช่กงการอะไรของพวกท่าน “
 
 
 
” ไม่! มันจะไม่มีทางเป็นอย่างนั้น เพราะมันจะต้องตายวันนี้! ” ใบหน้าของเซี่ยอู๋เฮิ่นกลายเป็นดำมืด แรงกดดันจากออร่าของนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ทำให้เหล่าผู้คุ้มกันตระกูลฟางถึงกับหายใจไม่ออก ในตอนนั้นเองพวกเขาได้ถูกเหล่าคนจากตระกูลลู่และตระกูลเซี่ยล้อมเอาไว้
 
 
 
” เซี่ยอู๋เฮิ่น! ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องซวนหยวน ตระกูลฟางของข้าจะทำสงครามกับตระกูลเซี่ยของเจ้า! ” ฟางยู่โหยวกระโดดลงจากอ้อมแขนของซวนหยวน นางเริ่มโคจรพลังปราณ นางดูเหมือนต้องการที่จะฆ่าฟันจริงๆ
 
 
 
” นี่มันเรื่องตลกอะไร ห้าตระกูลจะไม่ทำสงครามกันเพราะเจ้าเด็กนั่น เอาอย่างงั้นก็ได้ ข้าจะไม่ฆ่ามัน ถ้าเจ้ายืนกรานอย่างนั้น ข้าเพราะจะหักแขนและขาของมันเพื่อที่มันจะได้รู้จักสถานะของตัวเองว่าไม่ควรที่จะยืนเคียงข้างกับเจ้า ” ลู่หยู่เชียงโบกพัดร้อยอัคคีในมือ
 
 
 
” ข้าไม่อยู่แค่แปปเดียว พวกเจ้ากล้าที่จะข่มขู่ตระกูลฟางเชียวรึ!? ” แรงกดดันที่น่าสะพรึ่งกลัวพุ่งตรงไปที่เซี่ยอู๋เฮิ่นและลู่หยู่เชียงในทันที พวกเขาตื่นตกใจในตอนแรกแต่ไม่นานก็สงบลง บุคคลที่มาถึง แน่นอนคือ ฟางอู๋เจี้ยน เขามองไปที่นักสู้ผู้อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตกษัตริย์ทั้ง 2 ของตระกูลลู่และตระกูลเซี่ย และกล่าวอย่างเย็นชา
 
 
 
“เจ้าพยายามจะหยุดข้า? “
 
 
 
ผู้คุ้มกันตระกูลเซี่ยหัวเราะอย่างชั่วร้าย ” นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? “
 
 
 
” เจ้ามีเพียงแค่คนเดียว ไม่มีทางที่จะต่อกรกับเราทั้ง 2 ได้หรอก ฟางอู๋เจี้ยน! ” ผู้คุ้มกันตระกูลลู่กล่าวเสริม
 
 
 
” แน่นอน แต่ถ้าข้าสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลก ข้ามั่นใจว่าสามารถเอานายน้อยของพวกเจ้าตามลงไปในนรกกับข้าได้ ” จากนั้นเขาก็โคจรพลังปราณจากทั้ง 4 ทิศและเปิดใช้ดาบของเขา ผู้คุ้มกันตระกูลเซี่ยและตระกูลลู่บางส่วนกรีดร้อง
 
 
 
” เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ฟางอู๋เจี้ยน? เจ้ากำลังจะก่อสงครามกับตระกูลลู่และตระกูลเซี่ย? เจ้ารู้ถึงราคาที่ต้องจ่ายหรือเปล่า!? “
 
 
 
ฟางอู๋เจี้ยนลงแรงกดดันจากพลังปราณลง เขาไม่ต้องการที่จะทำอันตรายต่อตระกูลฟาง แต่เขาก็ยังจ้องมองเหล่าผู้คุ้มกันจากอีก 2 ตระกูลด้วยความเย็นชา
 
 
 
” ไสหัวไป! หรือจะให้ข้าสละชีวิตแล้วเอานายน้อยของพวกเจ้าไปด้วย! “
 
 
 
เซี่ยอู๋เฮิ่นและลู่หยู่เชียงดูน่ากลัวอย่างมาก
 
 
 
” เจ้าสามารถพยายามที่จะหยุดพวกเรา แต่เจ้าเด็กนั่นต้องตายวันนี้! ไม่มีใครสามารถที่จะปกป้องมันได้ อย่าคิดว่าเจ้าจะสามารถสังหารพวกเราได้ง่ายนัก ฟางอู๋เจี้ยน พวกเรายังสามารถป้องกันตัวเองได้ ” เซี่ยอู๋เฮิ่นกล่าว
 
 
 
” ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้า ฟางอู๋เจี้ยนนั้นจะทรงพลังสักแค่ไหน เจ้าถึงกลับกล้าที่จะพูดว่าสามารถสังหารพวกเราทั้งคู่ได้? ” ที่ลู่หยู่เชียงกล่าวเช่นนี้ เพราะเขามั่นใจว่าสามารถที่จะป้องกันตัวจากดาบของฟางอู๋เจี้ยนได้
 
 
 
” ไม่มีใครในพวกเจ้าที่ให้ความเคารพเรา คุณหนูแห่งตระกูลฟาง ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็จะก่อสงคราม ทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง! ” ฟาง ยู่โหยวออกคำสั่ง ” ยันต์อาคมสายฟ้า!! “
 
 
 
เหล่าผู้คุ้มกันตระกูลฟางหยิบยันต์ที่ทรงพลังออกมาจากกระเป๋าของพวกเขาและโยนพวกมันไปที่เหล่าผู้คุ้มกันของตระกูลเซี่ยและตระกูลลู่ และเปิดใช้งานมันด้วยพลังปราณ
 
 
 
ยันต์อาคมระเบิดออก
 
 
 
 ตูม!! ตูม!! ตูม!!
 
 
 
เหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเซี่ยและตระกูลลู่ไม่ทันไม่ตอบสนอง ในกลุ่มบางส่วนของผู้คุ้มกัน 40 คน ตกตายในทันทีถึง 38 คน มีแค่บางคนที่ความรู้สึกไวสามารถหลบระเบิดได้ รวมทั้งหญิงสาวที่อยู่กับนายน้อย
 
 
 
พวกเขาราวกับตัวแข็งทื่อ ยันต์อาคมสายฟ้านั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขาไม่มีความแข็งแกร่งที่เพียงพอ อาจจะกลายเป็นเนื้อบดในทันที
 
 
 
ซากเนื้อและเลือดของเหล่าผู้คุ้มกันกระจัดกระจายไปรอบรัศมี 80 เมตร
 
 
 
ฟางอู๋เจี้ยนใช้โอกาสนี้โจมตีผู้คุ้มกันขอบเขตกษัตริย์จากตระกูลเซี่ย เขาไม่แม้จะมีเวลาให้ตั้งตัว ร่างกายของเขาเกือบจะแยกออกเป็น 2 ส่วนด้วยพลังปราณของฟางอู๋เจี้ยน เห็นอย่างนั้นผู้คุ้มกันขอบเขตกษัตริย์อีกคนจากตระกูลลู่ก็พุ่งเข้ามา
 
 
 
ลู่หยู่เชียงไม่ได้คาดหวังที่จะทำสงครามกับตระกูลฟางทั้งหมดจริงๆ เขาโบกพัดร้อยอัคคีในมือเปลวเพลิงที่รุนแรงพุ่งตรงไปที่ผู้คุ้มกันตระกูลฟาง
 
 
 
” ฆ่าพวกมันให้หมด!! “
 
 
 
” ฆ่า!! ” เซี่ยอู๋เฮิ่นคำรามออกมา เขากวัดแกว่งกรงเล็บปีศาจในมือและพุ่งตรงไปที่ซวนหยวน..