ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“เกิดอะไรขึ้น!?” ว่านโฉวตื่นตระหนก เขานึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้และกรีดร้องออกมา “นี่คือสัตว์อสูรที่เลือกนายของตัวเอง!”
“ฮ่าๆๆๆ ศิษย์พี่โฉว ท่านคงไม่ได้คาดคิดมาก่อน ใช่หรือไหม? แต่ท่านก็ไม่สามารถนำมันกลับไปได้แล้ว มีเพียงแค่สัตว์อสูรระดับเซียนหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะเลือกนายของมันเอง!” เฟิงเลี่ยทราบดีว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะต้องทรงพลังเป็นอย่างมากแน่
ในโลกใบนี้ เหล่าสัตว์อสูรก็มีการจัดอันดับเช่นกัน มี 36 สัตว์อสูรระดับพระเจ้าและ 72 สัตว์อสูรระดับเซียน ซึ่งทั้งหมดนั้นทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อผู้ฝึกตนเข้าสู่ขอบเขตราชันย์เขาสามารถที่จะแปลงเป็นสัตว์อสูรได้ เช่นฟางยวิ๋นที่แปลงร่างเป็นหินและพาฟางยู่โหยวจากไป
“เป็นไปได้อย่างไร? ท่านอาจารย์ของข้าพบไข่ใบนี้เมื่อหนึ่งพันปีก่อนในที่ห่างไกลทางตอนใต้ เขาไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ว่ามันคือสัตว์อสูรชนิดใด และนำมันว่าไว้ในห้องฟักไข่แห่งนี้ ในช่วงหนึ่งพันปีที่ผ่านมา ในทุกๆปี มีเพียงไข่ใบนี้ที่ดูดซับพลังจากคริสตัลช้ากว่าไข่ใบอื่นๆ ใครจะไปคิดละว่ามันคือสัตว์อสูรระดับเซียน…” ว่านโฉนตกใจและตระหนักได้ว่าเขาเพิ่งจะพูดมากเกินไป “ตั้งแต่ที่ไข่ได้พิจารณาเลือกศิษย์น้องซวนหยวนเป็นเจ้านาย แน่นอนว่ามันได้กลายเป็นของเจ้าแล้ว ฮ่าๆๆๆ….”
เสียงของว่านโฉวฟังราวกับหัวใจของเขากำลังแตกสลายในขณะที่นำไข่ออกมาให้ซวนหยวน ซวนหยวนยิ้มตอบ “ขอบคุณ ศิษย์พี่ว่านโฉว”
“เจ้าจะต้องมีชะตากรรมที่เกี่ยวพันกับจักรพรรดิกลืนกินเป็นแน่ ข้ารู้ว่ามันยังคงไม่ตายแม้จะผ่านเวลามายาวนาน ดูเหมือนว่ามันจะใช้ ‘การกลับมาเกิดใหม่’ นี่เป็นเพียงชีวิตแรกจากเก้าชีวิตของมัน ฮ่าๆๆๆ ดูเหมือนว่ามันจะละโมบกว่าข้ายิ่งนัก เจ้าจะต้องเฝ้าดูมัน ไอหนู” เฒ่าโลภมากรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้พบสหายเก่าหลังจากผ่านเวลามาอย่างยาวนาน
“ถึงมันจะโลภยังไงแต่ก็ยังเกรงกลัวความตาย หนทางที่มันจะอยู่รอดได้นั้นคือการใช้หนึ่งคริสตัลต่อหนึ่งปี มันจะไม่ถูกโยนทิ้งหากไม่มีค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง มันคงถูกเก็บรักษาไว้ในฐานะสมบัติลึกลับ เหอะ มันยังคงเจ้าเล่ห์เหมือมเดิม”
ซวนหยวนไม่เข้าใจว่าเฒ่าโลภมากกำลังกล่าวสิ่งใด แต่เขาจะได้ถึงสิ่งที่เฒ่าโลภมากเคยถามมาก่อนหน้านี้ “นี่คือพาหนะของจักรพรรดิกลืนกิน?”
“เจ้าก็ดูไม่ได้โง่สักเท่าไร ถูกต้อง มันติดตามองค์จักรพรรดิมานานกว่าตัวข้าเสียอีก มันอยู่ข้างกายเขาตั้งแต่เกิดและเติบโตมาด้วยกัน แต่มันถึงกับใช้’การกลับมาเกิดใหม่’ นั่นหมายความว่ามันอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส มันจำเป็นที่จะต้องใช้แก่นแท้ชีวิตและปราณต่อสู้ธรรมชาติในการฟื้นฟูพลัง”
“ปราณต่อสู้ธรรมชาติ?” ซวนหยวนไม่เข้าใจ
“ศิลาต่อสู้, หยก, คริสตัล และสมาธิทั้งหมดล้วนเกิดจากธรรมชาติและเป็นปราณที่บริสุทธิ์ที่สุด พวกมันทั้งหมดที่ลำดับชั้นที่ต่างกันออกไปตามความบริสุทธิ์ แต่ถึงอย่างไรพวกมันทั้งหมดก็มีความบริสุทธิ์มากกว่าปราณต่อสู้ของมนุษย์หลายเท่านั้น เจ้าเข้าใจหรือไม่?” เฒ่าโลภมากมีความสุขเป็นอย่างมาก แต่ก็กลับมาสงบอย่างรวดเร็ว “มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ไข่นั้นฟักออกมา นอกจากนี้มันยังต้องกินแก่นแท้ของชิวิต ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องหาแก่นแท้ชีวิตสำหรับพวกเราทั้งสองแล้วนะไอหนู”
ซวนหยวนรู้สึกหงุดหงิดในทันที “#$%^&* บัดซบ! นี่มันคือการปล้นชัดๆ”
“ไอหนู เจ้าจะต้องพยายามให้มาก บรรดานิกายทั่วโลกจะเข้าห้ำหั่นกันเพื่อมรดกจากเหล่าจักรพรรดิถ้าหากพวกเขารับรู้ถึงการคงอยู่ของเขา แต่เนื่องจากเจ้ามีร่างกายที่เกิดจากการสรรค์สร้าง เราสามารถเรียกคืนความแข็งแกร่งโดยใช้เจ้า แต่เราไม่ต้องการถูกควบคุม เรามีอิสระ!”
“ไม่ต้องพูดถึงทักษะต่างๆที่พวกเราจะให้กับเจ้าแม้แต่เงินทั้งโลกรวมกันก็ยังไม่สามารถที่จะซื้อมันได้ ถ้าเจ้าสามารถที่จะหาความทรงจำดั้งเดิมชิ้นอื่นๆได้ ข้าจะสามารถที่จะสอนเจ้าถึงวิถีแห่งการปรับแต่งอวัยวะทั้งห้าได้ แน่นอนมันจะดีกว่าในตอนนี้หากเจ้าจะหาทักษะให้มากขึ้นจากที่อื่นๆ”
ซวนหยวนกรอกตาไปมาด้วยความรำคราญ ‘เฒ่าโลภมากก็ไม่ได้ดีไปกว่าหัวขโมย’ เขาคิด
“ใครขโมย? มันคือหนทางที่เหมาะสมต่างหาก! บนเส้นทางแห่งการต่อสู้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมหนึ่งนิกายถึงครอบครองทักษะที่แตกต่างกันมากมาย? มีหลายนิกายกระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน แต่หลังจากสงครามและก็ต่อสู้ที่ยาวนานมีเพียงไม่กี่นิกายเท่านี่ที่จะคงยืนอยู่ได้ ทักษะที่พวกมันมีถูกนำมาใช้เพื่อสังหารสำนักและนิกายอื่นๆ เจ้าสังหารคนไปมากมายและปล้นเงินของพวกเขา เจ้ากล้าเรียกข้าหัวขโมยได้อย่างไร ในเมื่อพวกเรานั้นเหมือนกัน!”
ซวนหยวนต้องยอมรับว่าเฒ่าโลภมากนั้นถูกต้องในเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็นำไข่ใส่ลงไปในแหวน เมื่อเขาหันกลับไปและเห็นสีหน้าที่เศร้าหมองของว่านโฉว ซวนหยวนโค้งตัวและกล่าว “ขอบคุณมาก ศิษย์พี่ว่าน”
เสียงของซวนหยวนดึงดูดความสนใจของว่านโฉว ” ยินดีอย่างยิ่ง ดูแต่ข้ายังมีสิ่งอื่นที่ต้องไปทำดังนั้นข้าคงไม่ไปส่งเจ้า ลาล่ะ!”
เฟิงเลี่ยหัวเราะ ” ถ้าเช่นนั้นพวกเราขอตัวลา ศิษย์พี่ว่านโฉว ดูแลตัวเองด้วย แล้วข้าจะมาเยี่ยมท่านเป็นครั้งคราว ”
เฟิงเลี่ยและซวนหยวนรีบออกจากถูเขา ทิ้งว่านโฉวที่เต็มไปด้วยความเสียใจและน่าสงสารเอาไว้ ตั้งแต่นี้ไปว่านโฉวสาบานว่าจะตรวจสอบไข่ลึกลับทุกใบที่อยู่ในห้องฟักไข่ทั้งหมด”
“ฮ่าๆๆ ศิษย์น้องซวนหยวน เจ้าเก่งมากที่หาสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่จนเจอได้ ข้าสงสัยจริงๆว่ามีตัวตนอันใดซ่อนอยู่ในไข่ มันอาจจะเป็นสัตว์อสูรระดับเซียน!” เฟิงเลี่ยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาชื่นชมในตัวซวนหยวน และยินดีในความสำเร็จของเขา
“ข้าก็ไม่รู้ ข้าเพียงสัมผัสมันเบาๆและสั่นสะท้าน ราวกับว่ามันกำลังเรียกหาข้า แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจหากมันไม่ใช่สัตว์อสูรระดับเซียนก็ตาม ” ซวนหยวนตอบอย่างใจเย็น มันเป็นพาหนะของจักรพรรดิดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่มันจะอ่อนแอเมื่อมันฟักออกมา “ศิษย์พี่เฟิงเลี่ย มีจุดรับรางวัลแถวๆนี้หรือไม่? ข้าต้องการที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งที่ข้ารวบรวมมาเป็นรางวัล”
“แน่นอน แต่เจ้ายังคงต้องมีเหรียญตรานักสู้มังกรเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนกับคะแนน พวกเขาจะต้องมุ่งหน้าไปที่ภูเขานักสู้มังกรก่อน จากนั้นเราจะแยกทางกันและเจ้าก็จะต้องไปในเส้นทางของตัวเอง”
“ไม่มีปัญหา!” ซวนหยวนกล่าวตอบ จากนั้นเขาก็กล่าวกับเฒ่าโลภมาก “ถ้าไข่ดูดซับพลังจากหินเวทย์ของจักรพรรดิแห่งการครอบครองมันจะฟื้นฟูตัวเองได้หรือไม่? ข้าจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองอีกต่อไป”
“ถ้ามันสามารถที่จะดูดซับพลังจากหินเวทย์มันจะทำตั้งแต่เข้ามาในแหวนของเจ้า แต่ตอนนี้มันไม่อาจรับมือกับพลังงานที่มากเกินไปได้ มันอาจจะตายได้หากต้องการที่จะดูดซับแม้เพียงเศษเสี้ยวของพลังงานในหินเวทย์ แม้แต่ข้าก็ไม่กล้าที่จะดูดซับมัน เมื่อเจ้าทรงพลังขนาดที่สามารถกวาดผ่านทั่วทั้งโลกได้แล้ว มีเพียงเรื่องเดียวที่ข้าอยากจะขอร้องเจ้า ช่วยสังหารทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของจักรพรรดิกลืนกิน พวกมันทั้งหมดจะต้องตาย!” เฒ่าโลภมากกล่าวอย่างบ้าคลั่ง
” ข้าจะทำ เมื่อข้ามีพลังเพียงพอข้าจะแก้แค้นให้จักรพรรดิกลืนกิน ข้ากำลังฝึกฝนทักษะที่เขาสร้างขึ้น ดังนั้นเขาก็คือผู้มีพระคุณของข้าเช่นกัน” ซวนหยวนสาบานต่อหน้าเฒ่าโลภมาก
ม้าเกล็ดมังกรเหาะเหินผ่านอากาศมุ่งหน้าสู่ภูเขาขนาดยักษ์ มันคือที่ตั้งของนิกายนักสู้มังกร
นี่คือภูเขานักสู้มังกร เจ้าจะต้องบ่มเพาะพลังที่นี่ในอนาคต ด้วยศักยภาพของเจ้ามันคงเป็นเรื่องง่ายที่จะกลายเป็นศิษย์ชั้นยอดของศิษย์ภายใน เจ้าควรที่จะไปหาผู้อาวุโสที่เป็นผู้ตรวจสอบของห้องโถงภายใน หากเจ้าผ่านการทดสอบจะได้รับเหรียญตรานักสู้มังกร และสามารถไปที่จุดรับรางวัลได้” ในขณะที่จ้องมองไปที่ภูเขา ความทรงจำในอดีตมากมายไหลผ่านเข้ามาในหัวของเฟิงเลี่ย
“เจ้าจะอยู่ในโถงภายในหลังจากที่เจ้าผ่านป่า มันคือที่ต่ำสุดสำหรับศิษย์ทุกคน ข้างใต้นี้คือที่ๆศิษย์ภายนอกอาศัยอยู่ จำไว้ เจ้าควรจะปีนขึ้นไปอย่างช้าๆจนกว่าจะถึงจุดสูงสุดและได้รับการจัดลำดับศิษย์ แล้วเจ้าจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิกายนักสู้มังกรอย่างแท้จริง”
เฟิงเลี่ยทิ้งซวนหยวนไว้ที่กึ่งกลางของภูเขา ก่อนที่จะบินกลับไปบนอากาศ
“ข้าเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่เฟิงเลี่ย!” ซวนหยวนเฝ้ามองเฟิงเลี่ยและดูเขาจากไป เขาหันหลังกลับและเป็นป่าสีเขียวขจีอยู่ข้างหน้า เขาหายใจเข้าลึกๆและวิ่งเข้าไปในป่า
“ช่วยด้วย!” ทันในนั้นซวนหยวนได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงดังขึ้น เขาขมวดคิ้วและพุ่งตรงไปหาต้นตอของเสียงในทันที…