ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปศิษย์ภายในทั้งหมดจำเป็นต้องผ่านโถงภายในเพื่อที่จะเข้าไปสู่นิกาย การเข้าทดสอบเพื่อเลื่อนเป็นศิษย์ภายในจากศิษย์ภายนอก 8 ล้านคนถือว่าโหดร้ายเป็นอย่างมาก
ในโลกภายนอก นักสู้ขอบเขตจอมยุทธ์จะได้รับความเคารพอย่างสูง แต่ในนิกายพวกเขามีคุณสมบัติเป็นเพียงแค่คนรับใช้ของศิษย์ภายนอกเท่านั้น ขอบเขตจิตวิญญาณคือระดับต่ำสุดที่จะกลายเป็นศิษย์ภายนอก เว้นแต่ว่าบุคคลนั้นจะมีพรสวรรค์โดดเด่น
เมื่อกลายเป็นศิษย์ภายใน พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์มากมาย เช่น ยาคุณภาพดี, ผลึกอสูร, ยุทธภัณฑ์และทักษะระดับสูง และนิกายจะจัดเตรียมเช็ตยุทธภัณฑ์ระดับสูงสุดให้ เพื่อแสดงถึงความมั่งคั่งของนิกาย
ซวนหยวนก้าวเข้าสู่โถงภายในและตะลึงในความสวยงามของมัน จะเห็นได้ว่าพื้นทั้งหมดถูกปูด้วยไม้อย่างดี
ทันใดนั้นได้มีเสียงดังกึกก้องมาจากข้างใน ” เจ้าเป็นใคร? มีเพียงศิษย์ภายในเท่านั้นที่จะเข้ามาในโถงนี้ได้”
ซวนหยวนหันไปทางต้นเสียงและเห็นชายร่างอ้วนที่มีดวงตาเล็กๆ กำลังจ้องมองมาที่เขา เขาสวมเสื้อผ้าของศิษย์ภายใน ภาพของมังกรหกเศียรถูกปักไว้บนเสื้อพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่ากลัวออกมา มันคือกลิ่นอายของผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตพฤกษา ด้วยความแข็งแกร่งของมังกร 60 ตัว
“ข้ามาที่นี่เพื่อจะเข้ารับการทดสอบเป็นศิษย์ภายใน”
“โอ้? เจ้าบรรลุขอบเขตพฤกษาแล้ว ไม่เลวเลยสำหรับอายุของเจ้า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถผ่านการทดสอบได้ง่ายๆหรอกนะ ข้าเป็นหนึ่งในผู้คุมสอบที่นี่นามว่า จ้าวหมั่นเฟิง ตามข้ามา” จ้าวหมั่นเฟิงเหลือมองซวนหยวนและคิดกับตัวเอง “เจ้าเด็กนี่มียุทธภัณฑ์ที่ไม่ธรรมดา มันต้องมีพรสวรรค์ที่พิเศษแน่”
“ที่นี่คือสนามสอบที่ศิษย์ทุกคนจะต้องเข้ามา พวกเขาจะต้องเอาชนะสามคนเพื่อที่จะเข้าสู่ด่านต่อไป เจ้ามีพลังมากพอที่จะผ่านด่านนี้ได้ดังนั้นอย่าได้เสียเวลา เราจะไปยังสนามสอบที่สอง – ทดสอบศักยภาพ!” จ้าวหมั่นเฟิงอธิบาย
“ทดสอบศักยภาพ?” ซวนหยวนคิดเกี่ยวกับหินทดสอบที่เมืองจันทร์สลายและคิดว่ามันอาจจะคล้ายคลึงกัน
“จุดประสงค์ของการทดสอบนี่คือการประเมินศักยภาพของเจ้า ถ้าเจ้าเผชิญกับขีดจำกัด แม้ว่าเจ้าจะเป็นนักสู้ขอบเขตพฤกษา แต่จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศิษย์ภายใน”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
จ้าวหมั่นเฟิงนำซวนหยวนไปยังห้องขนาดใหญ่และกว้างอย่างน้อย 50 กิโลเมตร มันจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เนื่องจากบางครั้งจะมีผู้คนนับพันเข้ามาทดสอบศักยภาพของพวกเขาเพราะศิษย์ภายนอกมีถึง 8 ล้านคน
ไม่นานนักพวกเขาได้มาถึงหน้าเทือกเขา ซวนหยวนประหลาดใจ ” ข้าคิดว่าโถงภายในมีห้องขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง แต่นี่มันใหญ่มากราวกับมีภูเขาทั้งลูกอยู่ภายใน นิกายนักสู้มังกรช่างน่าประทับใจจริงๆ!”
มีแสงจำนวนมากกระจายอยู่รอบๆ ทำให้สถานที่นี่สว่างราวกับมีท้องฟ้าอยู่จริงๆ จ้าวหมั่นเฟิงชี้ไปที่หนึ่งในแสง ” นั่นคือแสงพฤกษา เหล่าศิษย์จะทุ่มเทพลังทั้งหมดลงไปที่พื้น และแสงได้ถูกปล่อยออกมาจากภูเขา นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะไปถึงได้แค่ขอบเขตพฤกษาตลอดช่วงชีวิตของเขา มันไม่เพียงพอที่จะกลายเป็นศิษย์ภายใน”
“นั่นคือแสงกษัตริย์ ศิษย์เหล่านั้นมีศักยภาพเพียงพอที่จะกลายเป็นนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ นี่คือบรรทัดฐานสำหรับศิษย์ภายในทั้งหมด”
“นั่นคือแสงนักพรต บรรดาผู้ที่สามารถสร้างแสงเหล่านี้ขึ้นมาได้จะถือว่าเป็นอัจฉริยะ พวกเขาจะสามารถกลายเป็นศิษย์แท้จริงหรือเป็นประมุขของสำนักในสังกัดได้”
“ส่วนทางนั้นคือแสงราชันย์และแสงจักรพรรดิ เฉพาะผู้ที่มีพรสวรรค์ที่หาตัวจับได้ยากเท่านั้นจึงจะสามารถทำให้แสงเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังมีแสงเซียน ศิษย์แท้จริงนามเฟิงเลี่ยสามารถทำให้แสงเซียนปรากฏได้เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผู้อาวุโสหลายคนต้องการที่จะรับเขาเป็นศิษย์ ในท้ายที่สุดเขาก็ได้กลายเป็นศิษย์ของเซียนวายุ เขานั้นพึ่งบรรลุขอบเขตราชันย์ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน”
ซวนหยวนพยักหน้า แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่หยาบคายตามมาข้างหลัง
“ฮ่าๆๆๆ เจ้าอ้านจ้าว กำลังอธิบายให้ศิษย์ภายนอกฟังเช่นนั้นรึ? ช่างเสียเวลาเปล่า!”
“ถูกต้อง เจ้าเด็กนี้คงไม่เก่งขึ้นแม้ว่าเจ้าจะอธิบายก็ตาม หยุดจินตนาการไร้สาระได้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเจ้า”
“ไออ้วน เจ้ามันตัวไร้ประโยชน์ เจ้าไม่สามรถรับสมัครศิษย์ที่มีพรสวรรค์ได้แม้แต่คนเดียวในรอบหลายปีที่ผ่านมา เจ้าจะถูกเตะออกจากโถงภายในเร็วๆนี้ ทำไมเจ้าไม่กลับไปหาสำนักด้านนอกของเจ้าเสียล่ะ?”
“เซียนเทียนและเชี่ยงเทียนฮ้าว ผู้ที่ข้าได้คัดเลือก ทั้งคู่ได้รับแสงจักรพรรดิ พวกเขาจะมีอนาคตที่สดใส แต่เจ้าล่ะได้เลือกใครมาบ้างในช่วงหลายปีนี้? เจ้าจะไม่มีวันได้เป็นผู้อาวุโส”
“ถูกต้อง แม้แต่ศิษย์ภายนอกส่วนใหญ่ยังหลีกเลี่ยงเจ้า พวกเขาไม่เต็มใจที่จะเกี่ยวข้องกับไออ้วนที่ไม่สามารถมองเห็นพรสวรรค์ได้ เจ้ามันก็แค่ความล้มเหลว ศิษย์ทั้งหมดที่เจ้าเลือกจะไม่มีทางผ่านการทดสอบ เจ้ามันเป็นเพียงแค่ความอัปยศของผู้คุมสอบ!”
ซวนหยวนขมวดคิ้วกับกิริยาของผู้คุมสอบตรงหน้า เหมือนจ้าวหมั่นเฟิง พวกเขาเป็นนักสู้ขอบเขตพฤกษาขั้นสูงสุด ข้อแตกต่างก็คือพวกเขาผอม ในขณะที่จ้าวหมั่นเฟิงอ้วนเหมือนหมู
จ้าวหมั่นเฟิงมองลงไปที่พื้นด้วยความอัปยศ เขารู้สึกอับอายเพราะทุกสิ่งที่พวกนั้นกล่าวมาล้วนเป็นความจริง
ซวนหยวนเข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที ในฐานะผู้คุมสอบ คะแนนของพวกเขาและประโยชน์ที่จะได้รับจะนับจากศักยภาพของศิษย์ที่พวกเขาเป็นคนแนะนำ เนื่องจากงานหลักของผู้คุมสอบคือมีสายตาที่เฉียบแหลมในการมองหาบุคคลที่มีพรสวรรค์ เมื่อพวกเขาได้รับคะแนนมากเพียงพอ พวกเขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อาวุโส
ความขัดแย้งและการแข่งขันมีอยู่ทุกที่ในนิกาย แม้แต่ใจบรรดาผู้คุมสอบก็เช่นกัน
ซวนหยวนค่อนข้างพอใจจ้าวหมั่นเฟิง ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ซวนหยวนจะไม่พอใจที่คนอื่นๆกลั่นแกล้งจ้าวหมั่นเฟิง
“ถ้าข้าสามารถปลดปล่อยแสงราชันย์ได้เป็นอย่างน้อย มันจะช่วยให้ท่านได้กลายเป็นผู้อาวุโส?” ซวนหยวนถาม
เหล่าผู้คุมสอบหัวเราะ
“ไร้สาระ! ถ้าเจ้าสามารถที่จะปลดปล่อยแสงราชันย์ออกมาได้ พวกเราจะช่วยเจ้าหมูอ้วนนี่ให้กลายเป็นผู้อาวุโส แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ไออ้วนนี่จะต้องออกจากโถงภายใน”
จ้าวหมั่นเฟิงประหลาดใจที่ซวนหยวนกำลังปกป้องเขา ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาถูกกลั่นแกล้งโดยผู้คุมสอบคนอื่นๆ เพราะน้ำหนักตัวของเขาและรู้สึกเบื่อหน่ายกับมันเป็นอย่างมาก เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ แต่เมื่อสัมผัสถึงการกระทำทั้งหมดของซวนหยวนเขาตัดสินใจที่จะเดินพันครั้งใหญ่ และตะโกนขึ้น “เรามาเดินพันกัน ข้ามีคะแนนทั้งหมด 5,000,000 ล้านคะแนน ที่นี่ทั้งหมดที่้ข้ารวบรวมมาใน 20 ปีนี้ ใครกล้าที่จะเดินพันกับข้าบ้าง? ถ้าเขาไม่สามารถที่จะปลดปล่อยแสงราชันย์ออกมาได้ ข้าจะมอบคะแนนทั้งหมดให้และออกไปจากที่นี่ แต่ถ้าเขาทำได้พวกเจ้าจะต้องส่งคะแนนมากกว่า 1,000,000 ล้านให้ข้า เอายังไง?”
ผู้คุมสอบทั้ง 5 หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ” เจ้าบ้า เพียงแค่ล้านเดียว ข้าจะพนันกับเจ้า!”
” ข้าล่ะอยากเห็นไออ้วนอย่างมันต้องสูญเสียจริงๆ พวกเราแต่ละคนมีคะแนนมากกว่า 10 ล้าน พวกเราสามารถพนันกับเจ้าได้ แต่เจ้าสามารถ?”
“ทำไมถึงไม่ทำให้การพนันมันดูใหญ่ขึ้นล่ะ? เดิมพันด้วยคะแนนทั้งหมดของเจ้า ถ้าพวกเราแพ้ ข้าจะชดใช้ส่วนที่เหลือ” ซวนหยวนกล่าว
“เจ้ามีคะแนนด้วย?” หนึ่งในนั้นหัวเราะเยาะ ซวนหยวนปกปิดพลังของยุทธภัณฑ์ของเขาไว้ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะคิดว่าซวนหยวนนั้นมาตัวเปล่า
ซวนหยวนนำคริสตัลที่มี 5 ล้านเหรียญกษัตริย์ออกมาราวกับมันไร้ค่า “ข้าจะใช้เงินจำนวนมากแทน”
5 ล้านเหรียญกษัตริย์ เป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาล พวกเขามีความสุขที่จะได้รับเงินจำนวนมากขนาดนี้ด้วยการพนันง่ายๆ พวกเขาเป็นผู้คุมสอบที่ผ่านประสบการณ์มามากมายและไม่ค่อยได้พบแสงราชันย์มากนัก คนที่สามารถปลดปล่อยแสงเหล่านั้นออกมาได้ส่วนใหญ่จะมีภูมิหลังที่น่าเกรงขามหรือตระกูลที่มีอิทธิพล คนธรรมดามักจะไม่ได้รับทรัพยากรที่เพียงพอ ทำให้ศักยภาพของเขาลดลง เหล่าผู้คุมสอบรู้สึกราวกับว่ากำลังตกลงไปในถังทอง