” เจ้าเป็นผู้หญิง ? “
 
‘ชูเฟิง’อ้าปากของด้วยความตกใจ เขาตั้งสมาธิไปที่มือขวาของเขาและบีบอีก 2 ครั้ง เพื่อยืนยันว่านางเป็นผู้หญิงจริงๆหรือไม่สุดท้ายเขาก็ได้ข้อ สรุป ว่านางคือผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย ความรู้สึกนุ่มนวลและยืดยุ่น นอกจากขนาดเล็กกว่า สัมผัสทุกอย่างก็ไม่ได้แย่ไปกว่า ‘ซูรู่’
 

 
” ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!!! “
 
ขณะที่เขาถูก’ชูเฟิง’จับหน้าอก คนที่สวมชุดเทาโกรธอย่างมากแม้ว่าเขาจะไม่เห็นใบหน้าของนาง แต่ก็รู้สึกถึงความโกรธของนางได้ นางเริ่มโคจรพลังแก่นแท้ของนาง จากนั้นออร่ามหาศาลก็เพิ่มขึ้นภายในร่างกาย
 
นางวางแผน ที่จะใช้ทักษะที่ร้ายกาจ ฆ่า’ชูเฟิง’ให้ตายในครั้งเดียว
 
* พรึบบบ*
 
เมื่อเห็นเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงรีบคลายฝ่ามือจากลูกกลมๆ แล้วดึงชุดคลุมสีเทาของผู้เชื่อมโลกวิญญาณออกมา ด้วยการกระชากอย่างแรง
 

 
” ฮื้อๆ ๆ! “
 
เมื่อผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทาถูกกระชากชุดออก หญิงสาวกำลังร้องไห้ออกมาโดยที่ไร้ชุดคลุมสีเทา ค่ายกลจึงตราตรึงนางได้ผลมากขึ้น
 

 
” บ้าที่สุด ทำไมนางถึงได้งดงามเช่นนี้!!! “
 
ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ จ้องมองอย่างไม่ละสายตา เขาหลงไหลฉากด้านหน้าของเขาเป็นอย่างมากภายใต้ชุดคลุมสีเทาของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณไม่ใช่คนแก่น่ารังเกียจ แต่นางเป็นหญิงที่งดงามอย่างมาก คางเรียวๆ ผิวหน้าที่ขาวเนียนไม่เพียงแต่มันจะเป็นใบหน้าที่แสนเยาว์วัย
 
หน้าตาของนางยังสะสวยงดงาม ตาที่ประกายของนางเหมือนจะดึงดูดทุกอย่างที่จ้องมอง นางไม่ได้มีเสน่ห์เหมือน’ซู่รู่’ หรือน่ารักเหมือน ‘ซูเหม่ย’ นางเปรียบดั่งความงามที่บริสุทธิ์ เหมือนกับดอกไม้ที่งดงามผุดขึ้นกลางสระน้ำเมื่อหญิงสาวถูกสวมด้วยชุดกระโปรงสีม่วงทำให้เห็นผิวขาวๆของนาง
 
ขาเรียวขาวใต้กระโปรง เหมือนกับจะหลอกล่อชายทุกคนที่ได้เห็น แม้หากถูกนางฆ่าตายก็ไม่อาจหลุดออกจากการสะกดของนางได้ผิวของนางนับว่าสมบูรณ์เหนือกว่า ‘ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ ความงามขนาดนี้’ชูเฟิง’เคยพบเห็นมาก่อน คนเดียวที่จะเทียบกับนางได้ คือ เทพธิดาที่อยู่ในโลกวิญญาณของ’ชูเฟิง’
 
แต่ ผู้หญิงคนนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองนับได้ว่างดงามจนชวนหลงไหล ด้านเทพธิดา นางสุดแสนจะงดงามในแบบเด็กๆที่แสนซน แต่นางกับให้ ความรู้สึก เยือกเย็นและบริสุทธิ์ซึ่งแตกต่างจากคนอื่นๆ
 

 
” ไอ้ปีศาจลามก จ้องอะไรนักหนา เจ้าก็เคยเห็นความงามเช่นนี้มาแล้ว ดังนั่นรีบๆฆ่านางซะ “
 
 
” เมื่อทักษะเร้นลับปรากฏออกมา ใครจะรู้ว่ามันจะเลือกเจ้า หรือ นาง”
 
‘ชูเฟิง’ที่จ้องมองโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เทพธิดากล่าวด้วยความผิดหวัง
 

 
” อะไรนะ ฆ่านางงั้นหรอ “
 
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น หัวใจของ’ชูเฟิง’เหมือนถูกบีบ ถ้าหากเป็นคนอื่นที่ร้ายกาจเช่นนี้ ‘ชูเฟิง’ คงจะไม่ลังเลที่จะสังหารอย่างไร้ความปราณี แต่ถ้าบอกให้เขาฆ่าผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้ เขาไม่สามารถลงมือได้
 

 
” เจ้ามันน่ารังเกียจที่สุด ไม่มีใครกล้าทำกับข้าแบบนี้ วันนี้ ข้าจะหั่นเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้น “
 
ในตอนนั้นหญิงสาวระเบิดออกมา ผมสีดำของนางกลายเป็นสีม่วง แม้แต่ดวงตาของนางก็เป็นสีม่วงเช่นกัน
 
อ่อร่าสีม่วงพุ่งออกมาจากร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง เหมือนแสงสว่างที่ส่องออกมา เหมือนวารีที่หมุนรอบตัว เหมือนอัคคีที่พร้อมเผาไหม้ทุกๆสิ่ง มันดูแปลกประหลาด พวกมันเหล่านั้นค่อยหลอมรวมอยู่รอบๆตัวของนางในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงที่เป็นศูนย์กลางของออร่าปล่อยคลื่นพลังที่มองไม่เห็นกระจายออกไป
 
แค่เพียงครั้งเดียวก็นับว่าเลวร้ายแต่นี้นางกับปล่อยมันออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มันแสนจะร้ายกาจ แม้แต่ ‘ชูเฟิง’ ก็ไม่มีทางที่จะฝืนยืนได้ไหว จนร่างของเขาถูกพัดกระเด็น
 
* ปุกกก *
 
เขาเอามือกันคลื่นพลังนั้นไว้ จากนั้นก็กระเด็นตกจากลาน หญิงงามคนนั้นทำให้เขากระแทกลงกับพื้นอย่างแรง ในตอนนั้น’ชูเฟิง’รีบลุกขึ้นพร้อมกับมองไปยังลานนั้นอีกครั้ง เขาไม่สามารถที่จะสงบได้เลยค่ายกลที่เขาวางไว้ หลายชั่วยามถูกทำลายโดยคลื่นพลังสีม่วงของหญิงสาว สัญลักษณ์นับไม่ถ้วนเริ่มที่จะสูญสลายและกลายเป็นขี้เถ้า จากนั้นก็หายไป
 

 
” แม่นางคนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่านางอยู่ในอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 1 แต่นางสามารถทำลายค่ายกลทั้งหมด “
 
‘ชูเฟิง’ แทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะออร่าของแม่นางคนนั้นที่เล็ดลอดออกมามันดูแปลกประหลาด เขาไม่เคยเห็นออร่าลักษณะแบบนี้มาก่อน แต่เขาพอรู้ว่าใช่ฝีมือของคนธรรมดาๆ
 

 
” เป็นไปได้ยังไง ที่นางจะมีร่างกายแบบนี้!!! “
 
เทพธิดาได้แต่ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ น้ำเสียงของนางก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
 

 
” นางมีร่างกาย ประเภทเดียวกับของเทพธิดางั้นหรอ!!! “
 
‘ชูเฟิง’ ก็พอที่จะเข้าใจว่านางมีอะไรที่ไม่ธรรมดา เพราะหญิงสาวตรงหน้าใช้พลังมหาศาลกดดันเขา
 
หลังจากที่ได้รับพลังจากเทพธิดา
 
‘ชูเฟิง’ก็เข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 1 ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้เขาสามารถสังหาร ระดับ 4 แก่นแท้วิญญาณได้ไม่ยาก หากบวกด้วยพลังพิเศษจากสายฟ้าสีทองในเลือดของเขา พลังวิญญาณของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น ระดับ 2 แก่นแท้วิญญาณ
 
ในตอนนั้นการจะสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับ 5 แก่นแท้วิญญาณก็ไม่ใช่เรื่องยาก มีแค่ระดับ 6 แก่นแท้วิญญาณที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเขาแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวตรงหน้าเขา นางมีพลังวิญญาณพอๆกับ’ชูเฟิง’
 
แต่นางให้ความรู้สึกที่กดดันมากว่า ด้วยความสามารถพิเศษของแม่นางคนนั้นทำให้นางเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 6
 

 
” เจ้าโง่ เจ้าไม่เห็นหรอว่านางยังไม่ได้ใช้ทักษะใดๆ นางใช้ความสามารถของนางที่ไม่เหมือนใคร ออร่าสีม่วงที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาลเป็นสิ่งที่ออกมาจากร่างกายของนาง ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับคนทั่วไป นางมีกายศักดิ์สิทธิ์!!! “
 
 
” อะไรนะ กายศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ ! ! ! ! ! ! “
 
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ‘ชูเฟิง’ ตกใจอย่างมาก ขณะนั้นใบหน้าของเขาถึงกับซีดเผือดผู้ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์มีเลือดเนื้อที่ประทานมาจากสวรรค์ พวกเขาต่างเป็นอัจริยะที่มีความสามารถพิเศษ
 
เมื่อพวกเขากำเนิด ก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นสิ่งที่วิเศษบุคคลในตำนานเมื่อหมื่นปีก่อน ผู้สร้างสุสานจักรพรรดิ ‘ชิงหลง เทียน’ ก็มีกายศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
 
เหตุผลที่ ‘ชูเฟิง’ แข็งแกร่งก็อาจเป็นเพราะเขามีกายศักดิ์สิทธิ์แต่นั้นก็แค่การคาดเดาเท่านั้น เขายังไม่มีหลักฐานที่แน่นอน แต่ในตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายนั้นอยู่
 
หญิงสาวที่โกรธกำลังตะโกน ว่านางจะต้องสับเขาออกเป็นหมื่นๆชิ้นให้ได้เป็นครั้งแรกที่ ‘ชูเฟิง’ สู้กับคนในรุ่นเดียวกัน แล้วรู้สึกว่าเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถ้าเขาต้องการเอาชนะ เขาจะต้องใช้พลังกายพลังใจทั้งหมดลงไป
 
เขาต้องรอบคอบ และหาทางจัดการกับนางอย่างจริงๆจังๆ
 
* บูมมมม *
 
แรงระเบิดจากคลื่นพลังขนาดใหญ่ ทำให้สัญลักษณ์มากมายหายไปเหมือนควัน ออร่าสีม่วงกระจายเต็มลาน พอผู้หญิงคนนั้นทำลายค่ายกล’ชูเฟิง’เสร็จ
 
นางก็ค่อยๆเดินลงจากลานผมสีม่วงของนางสะบัดไปมาในอากาศ ดวงตาสีม่วงของนางเต็มไปด้วยความกระหายเลือด กระโปรงสีม่วงของนางถูกพัดไปมาด้วยออร่าสีม่วงที่อยู่รอบๆตัวของนาง
 
” พลังแบบนี้ พลังของกายศักดิ์สิทธิ์ ไม่ผิดแน่ !!! “
 
‘ชูเฟิง’ใบหน้าขาวซีด แม้ว่าเขาจะไม่ก้าวถอยหลัง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่เขาจะโจมตี ตอนนี้เหงื่อเม็ดใหญ่ค่อยๆไหลลงจากหน้าผากของเขา
 
‘ชูเฟิง’รู้สึกได้ถึงอันตราย นี้นับเป็นครั้งแรกที่เขาถูกไล่ต้อนขนาดนี้
 

 
” โฮ่กกกกกกกกกก ~ “
 
*  เสียงดังกึกก้อง *
 
ในตอนนั้น จู่ๆก็มีเสียงดังคำรามออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันดูมากกว่าทุกที ทุกอย่างต่างรุนแรงกว่าเดิม พื้นดินสั่นจนเกิดเป็นรอยแตก เสียงหินที่ค่อยๆถล่มลงมาจนทำให้ได้ยิน
 
ที่สำคัญคือ กลิ่นอายพลังโบราณกำลังกดดันและความรู้สึกที่เหมือนจะทำลายพวกเขา
 
จากนั้น ทักษะเร้นลับ ในตำนาน ก็ได้ปรากฏ
 
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . .
 
ที่มา: