เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตราย จ้าวหมั่นเฟิงตะโกนออกไปอย่างเสียงดัง “ข้าคือเป็นอาวุโสคุมสอบ! การทำร้ายข้าคือการละเมิดกฎของนิกาย!”
 
 
 
“ถ้าเจ้าเป็นผู้อาวุโส ข้าก็คงเป็นศิษย์แท้จริง อย่าพยายามหลอกลวงข้า ไออ้วน!” หนึ่งในนักสู้ขอบเขตกษัตริย์เย้ยหยัน เขาถือดาบยาวและเล็งไปที่แขนขวาของจ้าวหมั่นเฟิง
 
 
 
ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงสายลมที่รุนแรงเข้าปะทะกับศีรษะของเขา ทันใดนั้นเอง ซวนหยวนได้แทงหอกจิตวายุทะลุหัวของศิษย์คนนั้น จากนั้นเขาได้กระชับหอกและเริ่มเข่นฆ่าคนอื่นๆที่พยายามเข้ามาทำร้ายจ้าวหมั่นเฟิง เพียงพริบตาเดียวพวกมันทั้งหมดกลายเป็นเพียงซากศพเหลือทิ้วไว้เพียงแค่บ่อเลือด
 
 
 
ด้วยความช่วยเหลือของหอกจิตวายุและรองเท้ามังกร ความเร็วของซวนหยวนราวกับมังกรทะยาน นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ผู้ที่มีเพียงยุทธภัณฑ์ปฐพีระดับกลางจะต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?
 
 
 
ซวนหยวนฆ่า 4 คนได้อย่างรวดเร็วทำให้อีก 8 คนต่างตื่นตระหนก ในที่สุดพวกมันก็รวบรวมความกล้าหาญและตะโกนออกไป ” ฆ่ามัน!”
 
 
 
พวกมันทั้งปลดปล่อยพลังปราณออกมาและเข้าโจมตีซวนหยวน แต่ก่อนที่จะเข้าถึงซวนหยวน ซวนหยวนได้หายไปจากสายตาแล้ว ทันใดนั้นพลังปราณของพวกมันก็ถูกดูดกลืนโดยแรงกดดันที่ทรงพลัง
 
 
 
พวกมันไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นซวนหยวนก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าพวกมัน เขาควงหอกจิตวายุตามด้วยใช้ทักษะ “มังกรสวรรค์สะบัดหาง”
 
 
 
พวกมันได้ยินเสียงของมังกรที่ทรงพลัง แต่เมื่อเห็นซวนหยวนปรากฏตัวออกมา มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ซวนหยวนฟาดหอกออกไปและบดขยี้อวัยวะของพวกมันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
 
 
 
ซวนหยวนรวดเร็วเกินไปและไร้ความปรานีในทุกการโจมตี ไม่มีแม้คนเดียวที่ยังมีชีวิตรอด
 
 
 
ไป๋จ้านสังเกตการต่อสู้อย่างรอบคอบ เขาเริ่มประเมิน “หมวกเหล็กไร้ตำหนิ, เกาะทองคำสวรรค์, รองเท้ามังกร! เขาเป็นเพียงนักสู้ขอบเขตพฤกษา เขาไปเอายุทธภัณฑ์เหล่านี้มาจากไหน? หรือว่าเขาคือผู้ที่ปลดปล่อยแสงเซียนเจ็ดสี? หรือเซียนกลับชาติมาเกิด?”
 
 
 
“จ้าวหมั่นเฟิง หยิบยุทธภัณฑ์และแหวนทั้งหมดของพวกมัน แลกพวกมันเป็นคะแนนและเก็บเงินไว้ ” ซวนหยวนสั่งก่อนที่เขาจะหายไปอีกครั้ง จ้าวหมั่นเฟิงสั่นสะท้านไปด้วยความตกตะลึง เขาโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอกับคนที่แข็งแกร่ง ซวนหยวนคือวีรบุรุษที่แท้จริง!
 
 
 
ซวนหยวนเพิ่งมาถึงนิกายได้ไม่นานและตอนนี้เขาได้จัดตั้งสถานะของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่เฟิงเลี่ยก็ไม่เคยสร้างฉากที่น่าทึ่งเช่นนี้
 
 
 
จ้าวหมั่นเฟิงได้ปล้นยุทธภัณฑ์, เหรียญตราและเงินจากศพอย่างรวดเร็ว
 
 
 
ซวนหยวนจะไม่ยอมให้ใครก็ตามหนีรอดไปได้ เขาเริ่มกวาดผ่านพวกมันราวกับภูติผี
 
 
 
นักสู้ขอบเขตกษัตริย์อีก 4 คนที่เหลือไม่ทันรู้สึกตัวด้วยซ้ำตอนที่ตัวเองกำลังถูกสังหาร ซวนหยวนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ปราณของเขาเริ่มหมดอย่างรวดเร็ว เขารีบใช้ยาเสริมสร้างความแข็งแกร่งและหันไปทางปี้ฝู
 
 
 
“ถึงตาเจ้าแล้ว เจ้าจะให้ข้าจัดการส่วนไหนของเจ้าก่อน?”
 
 
 
ปี้ฝูคุกเข่าลงและเข้าหาซวนหยวน นางก้มหัวและเริ่มร้องไห้
 
 
 
“น้องชายได้โปรดอย่างฆ่าข้าเลย ข้าจะให้ท่านทำทุกอย่างที่ท่านต้องการ ข้าสัญญา … ไม่สิ ข้าสาบาน!”
 
 
 
ซวนหยวนหัวเราะเยาะ ” ไร้สาระ! เจ้าก็กล่าวแบบนี้ตอนอยู่ในป่าและข้าก็ยังปล่อยเจ้าไป เจ้าไม่เพียงจะไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดของเจ้า เจ้าคิดว่าข้าจะทำเหมือนเดิมอย่างงั้นหรือ?”
 
 
 
เมื่อจำได้ว่าอะไรเกิดขึ้นในป่า นางเปลือยเปล่าและเดินล่อนจ้อนออกมาจากป่า และมายังจุดรับรางวัล นางร้องไห้และเข้ากอดซวนหยวนไว้ “ข้าไม่กล้าที่จะทำอะไรท่านอีกแล้ว ข้าจะทำทุกอย่างที่ท่านพูดขอเพียงอย่างเดียวอย่าฆ่าข้าเลย ข้านั้นทนฝึกหนักมาหลายปี ข้ายังไม่อยากตาย!”
 
 
 
ในขณะที่ปี่ฝูกำลังร้องขอชีวิต จ้าวหมั่นเฟิงได้รวบรวมของมีค่าทั้งหมดและนำไปให้ไป๋จ้านประเมิน นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ทั้ง 12 มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย
 
 
 
“ศิษย์น้องซวนหยวน มีทั้งหมด 260 ล้านคะแนนและเงินอีก 3.6 ล้านเหรียญกษัตริย์!” จ้าวหมั่นเฟิงประกาศอย่างกระตือรือร้น
 
 
 
ซวนหยวนรู้สึกพึงพอใจกับจำนวนเหล่านี้ ” ข้าได้รับเงินจำนวนมากในวันนี้ ข้าจะปล่อยเจ้าไปเพราะเจ้าเป็นคนนำพาความมั่งคั่งเหล่านี้มาให้ข้า” ซวนหยวนกล่าวกับปี้ฝู
 
 
 
ปี้ฝูรีบหนีไปเหมือนกับคนบ้า เหล่าศิษย์ที่เฝ้ามองทำได้เพียงแค่เงียบ พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ทั้ง 12 ไม่แม้แต่จะตอบโต้ พวกมันทั้งหมดถูกสังหารราวกับผักปลา
 
 
 
ซวนหยวนต้องการที่จะแบ่งคะแนนและเงินให้กับจ้าวหมั่นเฟิง แต่เขาปฏิเสธ “ถ้าไม่ใช่เพราะศิษย์น้องซวนหยวน ข้าก็ไม่สามารถที่จะนำคะแนนและเงินเหล่านี้มาได้ ข้าเพียงแค่อยากได้ผลึกอสูรกษัตริย์เพื่อที่จะบุกทะลวงไปสู่ขอบเขตต่อไป
 
 
 
ซวนหยวนไม่ได้พยายามที่จะโน้มน้าวจ้าวหมั่นเฟิงอีกต่อไป ทั้งเฒ่าโลภมากและไข่ลึกลับต่างต้องการคริสตัลจำนวนมาก ยิ่งมีเงินมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น เขาจึงได้แลกเปลี่ยนคริสตัลอีกชุดหนึ่งมา
 
 
 
ตอนนี้ไม่มีใครมีความสุขไปมากกว่าเฒ่าโลภมาก ” ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม! เจ้าเหมาะสมที่จะได้รับร่างกายแห่งการสรรค์สร้าง เจ้าเป็นศิษย์ของจักรพรรดิกลืนกินและใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า! ยอมเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก!”
 
 
 
” ข้าจะมอบผลึกอสูรให้แก่ศิษย์น้องจ้าว ดังนั้นศิษย์น้องซวนหยวน เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนของเจ้า” ไป๋จ้านยิ้ม จ้าวหมั่นเฟิงรู้ดีว่าไป๋จ้านจะใช้สิ่งนี้ในการสร้างความโปรดปรานให้แก่ซวนหยวน จ้าวหมั่นเฟิงจ้องมองไปที่ซวนหยวนอย่างสงสัย
 
 
 
“รับมัน เจ้าสามารถทะลวงผ่านขอบเขตกษัตริย์ได้ด้วยผลึกอสูรนี้ เจ้าต้องยอมรับของขวัญจากผู้ดูแล”
 
 
 
จ้าวหมั่นเฟิงรับผลึกอสูรมา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้หลังจากเจอซวนหยวนได้เพียงแค่ 1 วัน!
 
 
 
พวกเขาวางแผนที่จะออกไปตอนนี้ ซวนหยวนไม่ต้องเป็นที่ดึงดูดความสนใจมากเกินไปเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เขาเหยียบเข้ามาในนิกาย แต่ชื่อเสียงก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่เขาจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงปราศจากปัญหาในอนาคต
 
 
 
ผู้ที่เฝ้ามองล้วนสับสน ไป๋จ้าน นักสู้ขอบเขตนักพรตและยังเป็นผู้ดูแลจุดรับรางวัล พยายามที่จะเอาใจซวนหยวนด้วยของขวัญ ทำให้พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมากและเป็นการสื่อเป็นนัยๆว่าไม่ควรที่จะเข้าไปยั่วยุซวนหยวน
 
 
 
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ชื่อของซวนหยวนก็แพร่สะพัดออกไปราวกับไฟป่า
 
 
 
ทันในั้น กระแสพวกพลังก็ถาโถมเข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับเสียงหัวเราะ
 
 
 
“น้องซวนหยวน ดูเจ้าสิ! ทำไมถึงไม่บอกพี่สาวของเจ้าคนนี้ ปี้เย่ว ว่าเจ้าได้มาถึงนิกายแล้ว ข้าจะได้มาทักทายเจ้า”
 
 
 
กลุ่มของนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ที่ทรงพลังปรากฏตัวขึ้น
 
 
 
ปี้เย่วปรับแต่งอวัยวะไป 2 ส่วนแล้วและครอบครองความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับมังกร 150 ตัว
 
 
 
เซี่ยงเทียนฮ้าวปรับแต่งอวัยวะไป 3 ส่วนและมีความแข็งแกร่งที่เทียบกับมังกร 185 ตัว
 
 
 
ส่วนขุยหยาเพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตกษัตริย์ได้ไม่นาน ทำให้เขามีความแข็งแกร่งของมังกรเพียงแค่ 90 ตัว
 
 
 
นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ไร้ชื่อกำลังเดือดไปด้วยปราณอันร้อนระอุ เขาปรับแต่งอวัยวะทั้ง 5 แล้วและมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยเทียบเท่ากับมังกร 240 ตัว
 
 
 
และยังมีนักสู้ขอบเขตกษัตริย์อีก 2-3 คนที่ยืนข้างๆพวกเขา พวกเขาแข็งแกร่งกว่ากลุ่มก่อนหน้านี้มากแต่ละคนมีความแข็งแกร่งไม่ต่ำกว่ามังกร 100 ตัว
 
 
 
หัวใจของซวนหยวนเต้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าปัญหาจะเข้ามาหาซวนหยวนเสียแล้ว 
 
 
 
ปี้ฝูยืนอยู่ข้างๆพี่สาวของนางและจ้องมองซวนหยวนอย่างกระหายเลือด ” ท่านพี่ ท่านจะต้องฆ่าไอเศษสวะนั่น.. ไม่! อย่าเพิ่งฆ่ามัน ข้าจะสับมันออกเป็นชิ้นๆและให้มันตายอย่างทรมาน”
 
 
 
บุคคลิกของนางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว