ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ศิษย์พี่หั่วทาว มาเพื่อช่วยศิษย์น้องปี้เย่ว เขาเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในนิกาย ซวนหยวนจะต้องได้รับบทเรียนจากเขาแน่ๆ”
“จัดการมันซะ ข้าไม่ชอบเจ้าเด็กนี่ มันจะต้องตาย”
“เขามันโหดเหี้ยม เขาฆ่าศิษย์ร่วมนิกาย 12 คน ปล้นเงิน และคะแนนจากศพ!”
“มันจะต้องตายภายในวันนี้”
เหล่าผู้คนที่ก่อนหน้านี้นิ่งเงียบ แต่เมื่อกลุ่มของปี้เย่วมาถึงทำให้พวกเขาเปิดปากพูด
“ปี้ฝู เจ้าไม่ละอายใจบ้างเลยรึ? ข้าได้ปล่อยเจ้าไปหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอีกแล้ว” ซวนหยวนไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับพวกมัน เขาค่อยๆมองใบหน้าของพวกมัน และกล่าวว่า “บอกข้ามาว่าพวกเจ้าต้องการอะไร”
เซี่ยง เทียนฮ้าวโกรธ “ศิษย์น้องซวนหยวน เจ้าล้ำเส้นมากเกินไป เจ้าฆ่าศิษย์ภายในไป 12 คน! ศิษย์พี่หั่วทาวเขามาจากฝ่ายคุมกฏของนิกาย ข้าไม่สามารถที่จะปกป้องเจ้าได้!”
เซี่ยง เทียนฮ้าว ได้เห็นหอกจิตวายุอยู่ในมือของซวนหยวน ทำให้เขานึกเรื่องบางอย่างได้ ว่าเฟิงเลี่ยได้มอบหอกของเขาให้กับเด็กคนนี้ ถ้างั้นมันก็ไม่ง่ายเสียแล้วที่จะฆ่าเขา หั่วทาวเป็นความหวังเดียวเท่านั้นที่จะชนะซวนหยวน
หั่วทาวไม่รู้ว่าเซี่ยง เทียนฮ้าววางแผนอะไร แต่เขาก็ไม่ได้โง่
ขุยหยา พูดกระซิบกับหั่วทาว ซวนหยวนรู้ว่าเขากำลังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในงานประมูลให้หั่วทาวฟัง หั่วทาวขมวดคิ้ว และพูดอย่างช้าๆว่า “เจ้าคือซวนหยวน”
ซวนหยวนหรี่ตาของเขา “หยุดพร่ามได้แล้ว เจ้ามีอะไรจะพูดก็พูดออกมา”
หั่วทาวปลดปล่อยพลังปราณของเขาออกมา ทำให้ซวนหยวนรู้สึกกดดัน แต่ซวนหยวนก็ยังคงยืนอย่างมั่นคง
“การฆ่าศิษย์ร่วมนิกายมันเป็นความผิดที่ร้ายแรง!” หั่วทาวกล่าวอย่างเคร่งขรึม เขาหงุดหงิดเล็กน้อยที่เห็นหอกจิตวายุในมือของซวนหยวน เฟิงเลี่ยพาเด็กคนนี้มาภายใต้การดูแลของเขา ถ้าเขาต้องการที่จะฆ่าซวนหยวนเขาจำเป็นต้องมีเหตุผลที่มากพอ มิฉะนั้นแม้แต่พี่ชายของเขาหั่วเลี่ยผู้ที่เป็นศิษย์แท้จริงก็ไม่สามารถช่วยเขาได้
ซวนหยวนตระหนักว่าพวกเขากลัวหอกจิตวายุ เขาหันหน้าไปหาไป๋จ้าน และยิ้ม “ท่านสามารถเป็นพยานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้หรือไม่? ใครกันแน่ที่เป็นคนเริ่มก่อน?”
“ปี้ฝู นำกลุ่มศิษย์ 12 คนมาเพื่อโจมตีซวนหยวน แต่พวกมันกลับถูกซวนหยวนฆ่าตายเสียเอง ตามกฏของนิกายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างศิษย์ควรจะตัดสินกันบนลานประลองแห่งชีวิต นอกจากนี้คำตัดสินของข้า ศิษย์น้องซวนหยวนถือว่าไม่ผิด นักสู้ขอบเขตพฤกษาสามารถฆ่านักสู้ขอบเขตกษัตริย์ได้ 12 คน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมขนาดไหน”
ไป๋จ้านอธิบายอย่างใจเย็น หั่วทาวไม่สามารถหาเหตุผลที่จะคัดค้านได้ ศูนย์กลางการค้าไท่ไป๋มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับนิกายนักสู้มังกร ไม่มีใครกล้าที่จะคัดค้านความคิดเห็นของเขา
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ” หั่วทาวคำนับให้ไป๋จ้านเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ข้าอยากรู้เหตุผลว่าทำไมศิษย์น้องซวนหยวนถึงปล้นทรัพย์สมบัติของปี้ฝู? กระทำเช่นนั้นถือว่าเจ้าละเมิดกฏของนิกายด้วยเช่นกัน”
ซวนหยวนยิ้ม หั่วทาวต้องการเหตุผลเพื่อที่จะฆ่าเขา และทำให้เฟิงเลี่ยไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเขาใดๆได้ แต่เขากำลังพยายามกุเรื่องให้มันเป็นเรื่องร้ายแรง
“ท่านควรถามปี้ฝู นางได้พาศิษย์ภายในจำนวนหนึ่งไปลักพาตัวศิษย์น้องหลิ่ว เซียงเซียงเข้าไปในป่า นางสั่งให้คนพวกนั้นข่มขืนนาง และฆ่านาง ข้าเดินผ่านมาพอดีดังนั้นฆ่าจึงช่วย เซียงเซียง และสอนบทเรียนให้น้องปี้ฝูเล็กน้อย
“ข้าจะฆ่าเจ้า ซวนหยวน!” ปี้ฝูชี้นิ้วไปที่ซวนหยวน และกรีดร้อง “ศิษย์พี่หั่วทาว เขาพูดโกหก! ข้าไม่ได้ทำอย่างนั้น! ท่านสามารถถามศิษย์ 2 คนนี้ได้ พวกเขาเห็นทุกอย่าง ซวนหยวนปล้นข้า!”
“ถูกต้อง พวกข้าเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น” พวกเขาทั้งสอง เป็นผู้คุ้มกันจากตระกูลปี้ ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาได้รับคำสั่งให้ประณามซวนหยวน
“ศิษย์น้องซวนหยวน พวกเรามีพยานอยู่ ณ ที่นี้ เจ้ามีอะไรอยากจะพูดไหม?” หั่วทาวยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่เลือดเย็น เขากำลังถือน้ำเต้าที่มีไฟอันร้อนแรงอยู่ภายใน มันเป็นอาวุธที่อันตรายมากกว่าพัดของลู่ หยู่เชียง
“ท่านกำลังใช้พลังอำนาจทุกอย่างเพื่อใส่ความข้า มีอะไรจะพูดอีกไหม? ถ้าไม่มีก็หยุดพูดไร้สาระ และมาดูกันว่าท่านมีพลังพอที่จะฆ่าข้าไหม” ซวนหยวนชี้หอกจิตวายุของเขาไปที่พวกมัน
“จ้าวหมั่นเฟิงให้ความช่วยเหลือเขา มันต้องตายเช่นกัน” ปี้ฝูพึงพอใจมาก นางโกรธที่จ้าวหมั่นเฟิงอยู่ข้างเดียวกับซวนหยวน
จ้าวหมั่นเฟิงหยิบเหรียญตราออกมา และแสดงให้หั่วทาวเห็น “ข้าเป็นผู้อาวุโสของนิกาย ถ้าพวกเจ้าต้องการฟ้องร้องข้า พวกเจ้าต้องได้รับการอนุมัติจากประมุข และผู้อาวุโสคนอื่นๆ หรือจะให้ข้าเรียกพวกเขามาที่นี่ ?”
ทุกๆคน รวมทั้งหั่วทาวตกตะลึงมาก แต่เขาก็ตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว “ขอบแสดงความยินดีกับท่านด้วยที่ได้รับการเลื่อนขั้น ผู้อาวุโสจ้าว ข้าขอแนะนำให้ท่านหลีกไป ขณะที่ข้ากำลังทำโทษบุคคลที่มีความผิด”
จ้าวหมั่นเฟิง ต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ซวนหยวนได้หยุดเขาไว้ “ไม่ต้องช่วยข้า”
จ้าวหมั่นเฟิงปีกตัวออกไป เขาอ่อนแอเกินไปที่จะแทรกแซงเรื่องนี้ได้
ปี้ฝูดูมีความสุขมาก เหล่าผู้คนที่ยืนเคียงข้างนางทุกคนได้ปลดปล่อยพลังปราณไปทางซวนหยวน แต่ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น ซวนหยวนได้หายตัวไปแล้ว
“หมวกเหล็กไร้ตำหนิ! มันสามาถปกปิดกลิ่นอายของมันได้ ระมัดระวังด้วย” หั่วทาวรู้ทันทีว่าเป็นยุทธภัณฑ์อะไร
แต่มันก็สายไปแล้ว ซวนหยวนปรากฏตัว และมีเสียงกรีดร้องของนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ดังขึ้น จากนั้นคอของเขาถูกแทงด้วยหอก หอกจิตวายุทำให้คอของมันกลายเป็นกองเลือด และเนื้อ
หั่วทาวโกรธมาก เขาปลดปล่อยพลังไฟจากน้ำเต้าของเขาไปที่ซวนหยวน ซวนหยวนจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ทรงพลังนี้ได้ แม้ว่าจะใช้หมวกเหล็กไร้ตำหนิก็ตาม แต่ซวนหยวนไม่จำเป็นที่จะต้องหลบ เขาลุกขึ้นยืน และเปิดใช้งานเกาะทองคำสวรรค์ เกราะช่วยให้เขารับการโจมตีนั้นได้ แต่เขาต้องเสียพลังปราณไปมากกว่าครึ่ง
“แม้ว่าหั่วทาวจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของผู้คุมกฏ เขาใส่ร้ายข้า มันเป็นสถานที่อันตรายอย่างแท้จริง” ซวนหยวนคิด ทันใดนั้นได้มีแรงกดดันมหาศาลอยู่ด้านบนศีรษะของซวนหยวน พลังปราณของเขาจะหมดเร็วๆนี้ และเขาไม่อยากเสี่ยงใช้พลังของเฒ่าโลภมาก เพราะกลัวคนอื่นจะรู้การดำรงอยู่ของเฒ่าโลภมาก
เมื่อซวนหยวนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“โธ่เว้ย, นักสู้ขอบเขตกษัตริย์! มีพลังมากกว่าหั่วทาว!”
“หยุดมือซะ!” ชายผู้ที่มีร่างกายสูง และกล้ามเนื้ออันหนาแน่นกล่าว เขาถือค้อนขนาดใหญ่ กระแทกลงกับพื้น ทำให้นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ 6 คนถูกบดขยี้ ปี้เย่วเกือบจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้ หั่วทาวเป็นคนเดียวที่ไม่ไหวติง เขามองขึ้นไปบนฟ้า
“ศิษย์พี่เฉิน ทำให้ท่านถึงหยุดข้า ข้ากำลังทำตามกฏของนิกายอยู่?”