ตั้งแต่ครั้งแรกที่ซวนหยวนก้าวเข้าสู่ขอบเขตพฤกษา ซวนหยวนสามารถรับรู้ได้ถึงความยากลำบากที่มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ช่องว่างระหว่างขอบเขตพฤกษาและขอบเขตกษัตริย์นั้นกว้างเป็นอย่างมาก อัจฉริยะหลายคนไม่สามารถที่จะทะลวงผ่านสู่ระดับต่อไปแม้ว่าจะมีพรสวรรค์ก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่หลายๆคนจะรู้ว่าส่วนต่างๆในร่างกายเชื่อมต่อกันได้อย่างไร 
 
 
 
ด้วยความช่วยเหลือจากไข่มุกและทักษะการกลืนกิน ซวนหยวนได้ปรับแต่งและเสริมความแข็งแกร่งให้กับไขกระดูกในส่วนของมือและเท้า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ไขกระดูกในส่วนมือและเท้ามีขนาดเล็กที่สุดในร่างกายของคน ความแข็งแกร่งของซวนหยวนยังเพิ่มจากมังกร 96 ตัวเป็น 108 ตัว ความรวดเร็วในการปรับแต่งของซวนหยวนทำให้เหล่าเซียนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดถึงกับตกตะลึง 
 
 
 
“เพียงเวลาแค่ 3 วัน แต่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้เท่ากับมังกร 12 ตัว มันเทียบเท่ากับวันละ 4 ตัว!”
 
 
 
“เป็นพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์อะไรเช่นนี้!”
 
 
 
พวกเขาไม่รู้ว่าภายในใจของซวนหยวนมุ่งมั่นที่จะศึกษาบทแรกของตำราแห่งการครอบครองและไม่ได้เน้นไปที่ความแข็งแกร่งเท่าใดนัก ถ้าเขาฝึกฝนโดยใช้ทักษะมังกรสวรรค์ เขาคงจะยกระดับได้ไกลกว่านี้อีกมาก
 
 
 
ซวนหยวนเหยียดแขนขาขึ้น เขาเริ่มสังเกตฮวงจุ้ยภูมิทัศน์รอบๆตัวเขาหลังจากที่ศึกษาบทแรก ซวนหยวนรีบเดินออกจากห้อง ภูมิทัศน์ของนิกายถูกออกแบบให้สามารถดูดซับพลังปราณที่บริสุทธิ์ที่สุดเพื่อช่วยในการฝึกฝนของเหล่าศิษย์ ด้วยพื้นดินที่เต็มไปด้วยปราณที่หนาแน่น สัตว์อสูรอาจจะได้รับสติปัญญาและวิวัฒนาการตัวเองได้ เพราะแม้แต่มนุษย์ธรรมดาก็ยังได้รับประโยชน์จากมัน 
 
 
 
ที่ดินเกือบทั้งหมดในนิกายถูกสร้างให้มีคุณภาพ คนธรรมดาที่ไม่ได้บ่มเพาะพลังยังได้รับประโยชน์จากมันนั่นเป็นเพราะฮวงจุ้ยของนิกาย แม้แต่คนธรรมดายังสามารถเพิ่มอายุไขของเขาเป็น 2 เท่าได้หากอาศัยอยู่ที่นี่ ในทางกลับกันผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในที่นี้จะอายุสั้น
 ซวนหยวนถอยหายใจยาวๆและผ่อนคลายจิตใจ เขาต้องการเวลามากขึ้นในอนาคตเพื่อที่จะศึกษาตำราแห่งการครอบครองต่อไป 
 
 
 
__________________________________
 
 
 
จ้าวหมั่นเฟิงมาตรงเวลา เมื่อเห็นใบหน้าที่กระปรี้กระเปร่าของซวนหยวน เข้ารู้ได้ทันทีว่าซวนหยวนจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน 
 
 
 
“ศิษย์น้องซวนหยวน ดูเหมือนว่าเจ้าจะอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดแล้ว” เสียงของจ้าวหมั่งเฟิงดูลึกลับและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น 
 
 
 
ซวนหยวนยิ้ม ” ผู้อาวุโสจ้าว ดูเหมือนว่าท่านจะทะลวงผ่านของเขตกษัตริย์แล้ว ประเสริฐ มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะท้าทายสวรรค์ได้ และนี่คือผลที่ได้รับหลังจากที่ท่านทำลายขีดจำกัดของตัวเอง” 
 
 
 
ซวนหยวนรู้ว่าจ้าวหมั่นเฟิงถูกปลุกให้ตื่นจากความสิ้นหวังของเขา ต้องขอบคุณซวนหยวนที่ช่วยให้เขาทำลายอุปสรรคทางจิตใจที่หยุดความคืบหน้าของเขา ซวนหยวนให้ความมั่นใจแก่จ้าวหมั่นเฟิงอย่างมาก
 
 
 
“ข้าต้องขอบคุณเจ้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าเชื่อมาตลอดว่าศักยภาพของข้าถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่ของเขตพฤกษาก่อนที่จะได้เจอกับเจ้า อ่าาา แต่ตอนนี้ถึงเวลาทดสอบเหมืองแล้ว โปรดตามข้ามา ” ใบหน้าของจ้าวหมั่นเฟิงปรากฏรอยยิ้ม 
 
 
 
“ไขมันส่วนเกินที่มากเกินไป คือสัญญาณของม้ามที่เสียหาย เมื่อท่านปรับแต่งม้านเสร็จสมบูรณ์ ท่านจากผอมอย่างเป็นธรรมชาติ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจ้าวจะยังมีแรงจูงใจและเข้าทะลวงสู่ขอบเขตนักพรตในเร็วๆนี้ ” ซวนหยวนกล่าวด้วยความหวังดี เขารู้ดีว่าจ้าวหมั่นเฟิงเป็นผู้ชายที่มีค่าพอที่จะผูกมิตรภาพ 
 
 
 
จ้าวหมั่นเฟิงก็สัมผัสได้เช่นกัน ไม่เคยมีใครแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกับเขา ดังนั้นเขาจึงจดจำความหวังดีในครั้งนี้เอาไว้ 
 
 
 
__________________________________
 
 
 
 
 
“เจ้าเด็กนี่กล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับจ้าวหมั่นเฟิง การทดสอบศักยะภาพไม่ใช่การทดสอบที่น่าเชื่อถือที่สุด หลายคนทะลวงผ่านไปถึงแต่ขอบเขตที่แสดงผลมาจากการทดสอบเท่านั้นและไม่พยายามที่จะทำลายขีดจำกัดของตัวเอง” 
 
 
 
“อย่าได้จุกจิกกับเรื่องแบบนี้ มันมีเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงมีการทดสอบเช่นนี้ มันจะช่วยค้นหาพรสวรรค์ของพวกเขา บางคนเกิดมาเพื่อที่จะบ่มเพาะพลังและทำลายขีดจำกัดของพวกเขา บางคนขวนขวายหาความแข็งแกร่งจอมปลอมที่ได้รับจากยุทธภัณฑ์หรือเม็ดยา… พวกเราจำเป็นต้องมีผู้ที่บริหารทั้งเรื่องการเงินและกฎระเบียบ พวกเราเป็นถึงผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง แล้วเราจะมีนิกายไปทำไปถ้าต้องทำเรื่องพวกนั้นด้วยตัวเอง”
 
 
 
“ถูกต้อง ผู้ฝึกตนมีอิสระในเส้นทางของตน ให้คนอื่นจัดการปัญหาที่น่ารำคาญ ไปกันเถอะ ข้าชักจะชอบเด็กคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ” 
 
__________________________________
 
 
 
ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงลานจัสตุรัสหน้าประตูมิติ 
 
 
 
นิกายนักสู้มั้งกรมีพื้นที่ทั้งหมดแปดล้านตารางไมล์ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกคนที่จะเดินเท้าไปยังเหมือง ดังนั้นจึงมีประตูมิติไว้เพื่อคนที่จะเดินทางไปสถานที่บางแห่ง ทั่วทั้งจัสตุรัสหนาแน่นไปด้วยผู้คน มีกลุ่มของนักสู้ขอบเขตพฤกษาขนาดใหญ่ พวกเขาเป็นผู้ที่จะมารับการทดสอบเป็นศิษย์ภายในจะถูกส่งไปที่เหมืองเพื่อรับการทดสอบเป็นครั้งสุดท้าย 
 
 
 
“ศิษย์น้องซวนหยวน ข้าสามารถนำเจ้ามาได้ถึงที่นี่เท่านั้น เจ้าจะต้องพึงพาความสามารถของตัวเองเท่านั้นใน 10 วันข้างหน้านี้ เจ้าจะต้องทำให้สำเร็จก่อนที่เจ้าจะถูกประกาศให้เป็นศิษย์ภายในอย่างเป็นทางการ
 
 
 
ชื่อของซวนหยวนดึงดูดผู้คนมากมายในจัสตุรัส 
 
 
 
“นั่นมันซวนหยวนนี่ ข้าได้ยินมาว่าเขาคือผู้ที่ปลดปล่อยแสงแห่งเซียน บ้าเอ้ย มันเป็นแบบนั้นจริงๆ?”
 
 
 
“แน่นอน ไม่มีใครอยากได้รับการคัดเลือกจากจ้าวหมั่นเฟิงมาก่อน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อาวุโสแล้ว แสดงว่ามันคงเป็นเรื่องจริง” 
 
 
 
“นิกายจะต้องพยายามอย่างหนักที่จะผลักดันเขา เห้ออ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ” 
 
 
 
“เจ้าเคยได้ยินหรือไม่? เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาสังหารนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ไป 12 คนต่อหน้าผู้คนในจุดรับรางวัล!”
 
 
 
“ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องของเขาเมื่อตอนที่อยู่ส่วนนอกนิกาย?”
 
 
 
“คงจะมีหลายคนที่ทรงพลังตอนที่อยู่ส่วนนอกของนิกายที่ไม่อยากเป็นที่สนใจ” 
 
 
 
ซวนหยวนสนุกกับการเป็นที่สนใจ เขาเป็นเพียงคนธรรมดามาก่อน แต่ตอนนี้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงในนิกายนักสู้มังกร การเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ 
 
 
 
“ผู้อาวุโสจ้าว ข้าต้องไปแล้ว” ซวนหยวนกระโจนเข้าหาฝูงชน เขารวดเร็วราวกับมังกร ก่อนที่ทุกคนจะสังเกตเห็นเงาของเขาก็ได้ผ่านไปแล้ว เขาหยุดอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้ง 4 หน้าทางเข้า
 
 
 
“แสดงเหรียญตราของเจ้า!”
 
 
 
 ซวนยวนหยิบเหรียญตราประจำตัวออกมาเพื่อให้ตรวจสอบและได้รับสิทธิ์ในการเข้าอย่างรวดเร็ว หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าว “การทดสอบเหมืองอันตรายเป็นอย่างมาก ครึ่งหนึ่งของศิษย์ที่เข้ารับการทดสอบไม่สามารถนำชีวิตของพวกเขากลับมาได้ อีก 30% ไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ เจ้าต้องทำให้สำเร็จใน 10 วัน งานของเจ้าคือนำหยกทั้ง 100 จินและคริสตัล 55 จินออกมาโดยไม่ต้องคำนึงถึงคุณภาพ นอกจากนี้เจ้าจะต้องนำผลึกอสูร 10 ชิ้นจากปีศาจมายาที่เจ้าสังหารออกมาด้วย เข้าใจแล้วหรือไม่?”
 
 
 
โดยเฉลี่ย จะพบ 1 ผลึกอสูรจากสัตว์อสูร 100 ตัว ถ้าโชคร้ายบางคนอาจจะไม่พบผลึกอสูรเลยหลังจากสังหารอสูรไป 300 ตัว ทุกๆหินนักสู้ 10 ก้อนอาจจะพบหยก 1 จิน และอาจจะพบคริสตัล 1 จินในทุกๆหินนักสู้ 500 ก้อน 
 
 
 
“ข้าเข้าใจแล้ว” ซวนหยวนพยักหน้า
 
 
 
“โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเจ้ามีทุกอย่างพร้อมก่อนที่จะเข้าไป เช่น เม็ดยาและยันต์อาคม เจ้าสามารถซื้อสิ่งที่เจ้าต้องการได้จากพวกเรา แต่ราคาจะเพิ่มเป็น 2 เท่า” หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าว
 
 
 
มีหลายคนที่ลืมสิ่งสำคัญบางอย่างเพราะพวกเขารู้สึกตื่นเต้นเกินไป ถ้าพวกเขากลับไปเอาของที่ลืมไว้อาจจะทำให้พวกเขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสอบ นี่เป็นวิธีทำเงินของพวกผู้อาวุโส 
 
 
 
“ข้าเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว” ซวนหยวนเก็บเหรียญตราและเข้าไปในประตูมิติ จากนั้นเหล่าผู้อาวุโสก็หันไปทางศิษย์คนอื่นๆ
 
 
 
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ประตูมิติก็เต็มไปด้วยศิษย์นับพัน ด้วยแสงสว่าง ซวนหยวนเห็นประตูเริ่มบิดเบี้ยวและพบว่าตัวเองอยู่ในถ้ำที่มืดมิด เหล่าศิษย์ที่อยู่ข้างๆเขาเมื่อครู่ถูกส่งไปยังส่วนอื่นๆของเหมือง 
 
 
 
เหมืองที่มืดมิด มีเพียงแค่หญ้าเรืองแสง ทันใดนั้นมีดวงตากระหายเลือดสีแดงฉานจ้องมองมาที่ซวนหยวน เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องพบการต่อสู้ในทันที ซวนหยวนเข้าสู่สภาวะต่อสู้อย่างรวดเร็ว