ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“มันคือหยกธรรมชาติ คุณภาพของหยกนั้นแตกต่างกันแต่ด้วยปริมาณเท่านี้คงช่วยได้บ้าง เร็วเข้าไอหนู ถ้าเจ้าฝึกฝนที่นี่ การพัฒนาของเจ้าจะเร็วขึ้นจนหน้าตกใจ ” เฒ่าโลภมากโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ราวกับขอทานที่เจอเหมืองทอง
ซวนหยวนไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขายังจำความรู้สึกของขอทานในชีวิตที่แล้วได้ เขารีบคว้าโอกาสและกระโจนลงไปในเหมืองในขณะที่กำลังนำไข่ออกมา มันยังคงมีสีดำหน้าเกลียด แต่เมื่อไข่ถูกนำออกมามันเริ่มที่จะสั่น ซวนหยวนพบว่ายากที่จะประคองไข่ไว้ ทันใดนั้นเขานำมันไปไว้ตรงกลางของเหมือง ซึ่งเป็นจุดที่พลังปราณถูกกลั่นมากที่สุด ตราบเท่าที่ไข่สัมผัสกับพื้นดิน มันก็เริ่มที่จะดูดซับพลังปราณจากหยก หลังจากนั้นหยกเริ่มสูญเสียสีสันที่สดใสและหมองคล้ำลงอย่างรวดเร็ว
“ไอหนู อย่าได้ลำเอียงมอบแต่สิ่งดีๆให้เจ้านั่น ต้องให้ข้าด้วย เร็วเข้า!!! มันคงจะดูดซับทุกอย่างไปหมดก่อน ถ้าเจ้ายังมัวชักช้า!” เฒ่าโลภมากกรีดร้อง
ซวนหยวนปักกริชลงบนพื้น จากนั้นเขาก็เลือกสถานที่ที่พลังปราณสะสมมากๆ และนั่งสมาธิเพื่อเริ่มท่องทักษะกลืนกิน ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก เลือด และไขกระดูกพวกมันทั้งหมดราวกับสัตว์ร้ายที่หิวโหย ร่างกายของเขาเริ่มดูดซับพลังปราณจากหยกด้านล่างอย่างหิวกระหาย ซวนหยวนรู้สึกได้ในทันทีว่าร่างกายของเขาเริ่มผ่อนคลายและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนอกของเหมืองหยก ซวนหยวนจำเป็นที่จะต้องกำจัดสิ่งสกปกออกจากปราณที่เขาดูดซับจากในอากาศ ซึ่งต้องทำให้มันบริสุทธิ์ก่อนที่จะนำมันมาปรับแต่งส่วนต่างของร่างกาย อย่างไรก็ตาม ในเหมืองหยกแห่งนี้ เขาสามารถดูดซับกระแสพลังปราณที่บริสุทธิ์ได้อย่างไม่รู้จบ ซวนหยวนเริ่มท่องทักษะมังกรสวรรค์ – วิถีแห่งการปรับแต่งไขกระดูก เขาเคยชินกับรูปแบบมังกรสวรรค์แล้ว ตอนนี้เขาต้องการที่จะสลักมังกรสวรรค์ลงไปในกระดูกและไขกระดูก
ซวนหยวนรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นมังกรตัวเล็กๆ เขาเปิดใช้งานไข่มุกและเริ่มดูดซับปราณด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
ในที่สุดซวนหยวนก็ตระหนักได้ถึงผลประโยชน์ที่บ่มเพาะพลังด้วยหยกและคริสตัล ไม่สงสัยเลยว่าทำไมผู้คนถึงคิดว่าพวกมันเป็นทรัพยากรชั้นสูงที่ผู้ฝึกตนทุกคนจะต้องให้ความสนใจ
*******************************************************
“คุณหนู พวกเราไม่สามารถต้านได้นานกว่านี้ นายน้อยซวนหยวนอาจจะทำไม่สำเร็จทันเวลา เราควรจะทำอย่างไรดี?”
“ข้าใช้เม็ดยาไปเกือบหมดแล้ว ข้าจะต้องใช้ที่เหลือในยามจำเป็นเท่านั้น”
“ข้ารู้สึกราวกับว่าปีศาจเหล่านั้นถูกดึงดูดจากเลือดของไอตัวที่พวกเราสังหารไป!”
เหล่าผู้คุ้มกันตระกูลฟางเริ่มหมดหวังหลังจากผ่านการต่อสู้มาครึ่งวัน ใบหน้าของฟางยู่โหยวเริ่มซีดขาว นางเปิดปากและพูดได้เพียง “ต้องเชื่อมั่นต่อไป”
พวกเขาถูกล้อมไว้ด้วยหมอกหนาสีดำและไม่สามารถมองเห็นได้ไกลนัก สิ่งเดียวที่พวกเขามองเห็นคือดวงตาสีแดงนับพันที่จ้องมองกลับมา อย่างไรก็ตามปีศาจพวกนั้นไม่สามารถที่จะเข้าใกล้ได้ รูปแบบสายน้ำของฟางยู่โหยวได้ปกป้องพวกเขาไว้ เมื่อปีศาจก้าวเข้ามามันจะถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ
พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยทะเลเลือดและผลึกอสูร แต่พวกเขาไม่มีเวลาที่จะเก็บมัน เพราะต้องมุ่งเน้นไปที่การรักษารูปแบบป้องกัน
“คุณหนู ข้าเหน็ดเหนื่อยเกินไป ข้ามียาเสริมสร้ามความแข็งแกร่งเหลือเพียง 3 เม็ด พวกเราจะต้องตายที่นี่จริงๆหรือ?” หนึ่งในผู้คุ้มกันสูญเสียความมั่นใจ ซวนหยวนได้จากไป 2 ชั่วโมงแล้ว
“อาจจะเป็นไปได้ที่นายน้อยซวนหยวนพบเจอกับพื้นที่แบบเดียวกัน? เขาก็อาจเผชิญกับอันตราย”
“แม้ว่านายน้อยซวนหยวนจะเป็นอัจฉริยะที่ท้าทายสวรรค์ แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นแค่นักสู้ขอบเขตพฤกษา เฉพาะผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์อย่างดีเท่านั้นจึงจะจัดการกับพื้นที่แถวนี้ได้”
“พวกเราไม่ควรที่จะรออีกต่อไป ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายกันหมด!”
ทุกนาทีที่ผ่านไปราวกับความทรมานที่ไร้ที่สิ้นสุด พวกเขาได้รับความหวัง แต่ในเวลาเดียวกันเวลก็ผ่านไปนานเหลือเกิน ฟางยู่โหยวเองก็เหนื่อยล้าเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะหมดหวังอย่างสมบูรณ์ หมอกสีดำเริ่มจางหายไป ปีศาจมากมายที่รายล้อมพวกเขาเริ่มจะกระสับกระส่าย
“เขาทำสำเร็จ!” ฟางยู่โหยวฉีกยิ้มกว้าง นางยังคงเชื่อมั่นในตัวซวนหยวนถึงวินาทีสุดท้าย และออกคำสั่ง ” รักษาตำแหน่งของพวกเจ้าไว้ พวกเราจะรอจนกว่าหมอกจะหายไป และหลังจากนั้นพวกเราจะไปหาทางออก”
ฟางยู่โหยวรวบรวมสมาธิ คลื่นที่ทรงพลังราวกับกระแสน้ำขนาดใหญ่ปลดปล่อยออกมาจากดาบของนางและฉีกกระชากเหล่าปีศาจนับโหลเป็นชิ้นๆ
แม้ว่าปีศาจเหล่านี้เริ่มที่จะมีสติปัญญา แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เมื่อพลังงานด้านลบเริ่มกระจายตัวออกไป พวกมันเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังที่ดึงดูดพวกมันเริ่มหายไปด้วย เมื่อพลังงานด้านลบกระจายออกไป ปีศาจก็เริ่มออกจากอุโมงค์ และมุ่งหน้าไปยังที่ๆซวนหยวนอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะพลังงานด้านลบ เหล่าปีศาจคงจะไปอาศัยอุโมงค์เหมืองที่มีปราณหนาแน่นเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง และให้ประโยชน์กับพวกมันมากกว่า
อย่างไรก็ตามยังมีความขัดแย้งระหว่างปีศาจมายาต่างชนิด ดังนั้นปีศาจมายาจึงหลีกเลี่ยงการยั่วยุปีศาจมายาภายในอุโมงค์
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปีศาจจำนวนมากเริ่มรายล้อมด้านนอกของอุโมงค์ ทันใดนั้นปีศาจในอุโมงค์ก็แผดเสียงกรีดร้องออกมา มันดึงดูดความสนใจจากปีศาจที่เหลือ พวกมันหยุดโจมตีคนจากตระกูลฟางและเข้าสู่ภาวะบ้าคลั่ง พวกมันทั้งหมดไม่ให้ความสนใจต่อฟางยู่โหยวและผู้คุมกันตระกูลฟางอีกต่อไปและรีบวิ่งไปยังอุโมงค์อย่างรวดเร็ว
ในที่สุดฟางยู่โหยวก็ได้ผ่อนคลายลง มีผลึกอสูรนับสิบที่หลงเหลือจากการต่อสู้ที่รุนแรง ก่อนที่ฟางยู่โหยวจะกรีดร้องออกมา “เร็วเข้า! ไปช่วยนายน้อยซวนหยวน เขาต้องทำบางอย่างที่ทำให้เหล่าปีศาจบ้าคลั่ง!”
ฟางยู่โหยวนำผู้คุ้มกันที่เหลืออีก 18 คนไปที่อุโมงค์ แต่พวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้ได้เนื่องจากเหล่าปีศาจกำลังกระหน่ำโจมตีอยู่ด้านใน
“คุณหนู พวกเราไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ พวกมันมีมากเกินไป ข้าเกรงว่านายน้อยซวนหยวนคงจะไม่รอดแล้ว พวกเราควรจะรีบไปก่อนที่จะมีจุดจบแบบเดียวกัน”
“พวกเราทำดีที่สุดแล้ว คุณหนู นายน้อยซวนหยวนอยู่คนเดียวและคงไม่มีโอกาสรอดถ้าเจอกับปีศาจจำนวนมากขนาดนี้”
“มันเป็นความผิดของข้า ทั้งหมดเป็นผลมาจากการตัดสินใจของข้า” ฟางยู่โหยวบดขยี้หัวปีศาจพร้อมกับปลดปล่อยความรู้สึกผิดออกมา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ซวนหยวนช่วยชีวิตพวกเขาไว้ แต่กลับเป็นเขาเองที่ต้องถูกฆ่าตาย
“ตายหรืออยู่ ข้าจะรู้เองหลังจากที่เห็นร่างของเขา ฆ่าปีศาจทั้งหมดด้านนอกและเคลียร์เส้นทางด้วยยันต์อาคมสายฟ้า” นางสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา แม้จะมีความเหนื่อยล้าแต่เหล่าผู้คุ้มกันก็ไม่กล้าที่จะหลบหนี ที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้ทั้งหมดเป็นเพราะซวนหยวน หลายคนคิดว่าคุณหนูของพวกเขาคงจะตกหลุมรักเด็กหนุ่มคนนี้เสียแล้ว
พวกเขาทั้งหมดเปิดใช้ยันต์อาคมสายฟ้าอย่างพร้อมเพียงกัน ปีศาจที่อยู่ข้างหน้าถูกสังหารในทันที ด้วยการนำของฟางยู่โหยว พวกเขามุ่งหน้าไปที่ส่วนลึกของอุโมงค์
“นายน้อยซวนหยวน รอข้าก่อนนะ!”