ซวนหยวนแบกศพไปตลอดทางขณะมุ่งไปยังจุดรับรางวัล เหล่าศิษย์จะต้องไปที่นั่นเพื่อแลกเปลี่ยนคะแนนจากภารกิจและกลายเป็นศิษย์ภายในอย่างเป็นทางการ บางคนพยายามโกงโดยการลอบซื้อ หยก, คริสตัลและผลึกอสูรก่อนเข้ารับการทดสอบเหมือง แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะซ่อนความจริงได้เมื่ออยู่ที่จุดรับรางวัล 
 
 
 
ซวนหยวนเดินตามกลุ่มของฟางยู่โหยวและผู้คุ้มกัน แต่เขาก็ไม่ได้เข้าใกล้กลุ่มของนางมากเกินไป พวกเขาจบภารกิจก่อนเวลาที่กำหนด และเส้นทางที่ไปยังจุดรับรางวัลก็ไม่ได้ไกลมากนัก 
 
 
 
ผู้ดูแลไป๋จ้านขมวดคิ้วเมื่อเห็นศพของผู้อาวุโสทั้ง 2 แต่ก็มีบางคนมากระซิบข้างหูอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 
 
 
 
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ศิษย์น้องซวนหยวน ดูเหมือนว่าเจ้าจะยึดถือความยุติธรรมและสังหารเจ้า 2 วายร้ายนั่น”
 
 
 
“ขอบคุณมาก ท่านผู้ดูแล” ซวนหยวนตอบ จากนั้นเขาก็โยนศพไปด้านข้างและหยิบ ผลึกอสูร 100 อัน, ผลึกอสูรยักษ์, ขวดยาและเม็ดยาจำนวนมากมายจากเลี่ยฉาง, นู่หลง, เลี่ยซานและนู่เฟย นอกจากนี้ยังมีหยก100 จินและคริสตัลอีก 55 จินสำหรับผ่านการทดสอบ ไป๋จ้านตกใจเล็กน้อยเพื่อเห็นสิ่งที่ซวนหยวนนำออกมา 
 
 
 
“พระเจ้า! เขาต้องการหยก 100 จินและคริสตัล 55 จินเพื่อผ่านการทดสอบ! และเขายังทำภารกิจเสร็จด้วยเวลาเพียง 4 วัน นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!” 
 
 
 
“ถูกต้อง ข้าคิดว่าศิษย์ที่สามารถปลดปล่อยแสงเซียนเจ็ดสีจะต้องได้รับภารกิจที่ยากกว่าปกติเป็นแน่ แต่ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาทำสำเร็จในเวลาอันสั้น”
 
 
 
ศิษย์ภายในมากมายต่างเกิดความกลัวภายในใจ 
 
 
 
“เขามีศักยภาพที่ไม่จำกัด!” ไป๋จ้านคิดกับตัวเอง และเริ่มประเมินสิ่งของที่ซวนหยวนนำกลับมา “ทั้งหมดเป็น 170 ล้านคะแนน ศิษย์น้องซวนหยวน” 
 
 
 
ตอนนี้ซวนหยวนมี 1,450 ล้านคะแนน ศิษย์ภายในส่วนมากต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะรวบรวมคะแนนได้มากเท่านี้ 
 
 
 
­­______________________________________
 ” ฮ่าๆๆๆๆ ไอหนูนี่สามารถทำสำเร็จได้ใน 4 วัน มันเกินความคาดหมายไปมากนัก!” 
 
 
 
“พวกเราต้องการผลึกอสูรเพียง 10 อันเท่านั้น มันทำให้เขาไม่ต้องเผชิญกับอันตรายมากนัก แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยการที่เขาสามารถรวบรวมมาได้ถึง 100 อัน!” 
 
 
 
“ลองดูดีๆ ความแข็งแกร่งของเขาก้าวกระโดดจากมังกร 108 ตัวเป็น 190 ตัว ข้าจะต้องนำเขามาเป็นศิษย์ของข้าให้ได้!” 
 
 
 
“ด้วยศักยภาพที่ล้ำเลิศเช่นนี้ เขาจะต้องเป็นศิษย์ของข้า! ส่วนเจ้าไปลงนรกซ่ะ!” 
 
 
 
เหล่าเซียนเริ่มโต้เถียงกัน แต่ใครจะกล้าตำหนิพวกเขา? ความสามารถของซวนหยวนน่าเหลือเชื่อเกินไป โชคดีที่เซียนหลายคนมีลูกศิษย์แล้ว มิฉะนั้นการแข่งขันเพื่อที่จะแย่งตัวลูกศิษย์คงจะรุนแรงยิ่งขึ้น 
 
 
 
“เขากำลังแลกเปลี่ยนคะแนนศิษย์ทั้งหมดกับคริสตัลระดับสูงอีกแล้ว ทำไมเขาถึงต้องการคริสตัลจำนวนมากขนาดนั้น? เขาดูดซับคริสตัลก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว?”
 
 
 
“นั่นคงเป็นไปได้มากที่สุด ความแข็งแกร่งของเขาคงจะพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยคริสตัล บางทีเขาอาจจะมี ‘กายาปฐพี’ ในตำนาน มันจะสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงต้องการหินต่อสู้, หยกและคริสตัลจำนวนมาก มันคือวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา!” 
 
 
 
“เจ้าเด็กนี้คงจะเป็นประเภทนักสู้ปฐพีกลับชาติมาเกิด ถูกต้อง มีเพียงร่างกายของธาตุดินเท่านั้นที่อุดมไปด้วยพลังปราณ…” 
 
 
 
­­______________________________________
 เมื่อซวนหยวนเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับฟางยู่โหยว มี 2 แรงกดดันที่น่ากลัวพุ่งตรงมายังจุดรับรางวัล ซวนหยวนเงยหน้าขึ้นและเห็นนักสู้ขอบเขตนักพรตจากตระกูลเลี่ยและตระกูลนู่ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 นั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่นเป็นอย่างมาก ในแง่ของพลังเขาอยู่ระดับเดียวกับชิงหยุน กลิ่นอายของพวกเขาแต่ต่างกับนู่เฟยและเลี่ยซานมากเกินไป พวกเขาจะต้องเป็นศิษย์แท้จริง!
 
 
 
“ศิษย์น้องซวนหยวน ส่งมอบศพเหล่านั้นมา พวกเราจะจัดการที่เหลือต่อเอง” ชายคนหนึ่งพูดขณะที่จ้องมองไปยังซวนหยวน เขาคงจะลงมือสังหารซวนหยวนไปแล้วถ้าไม่ได้อยู่ในเขตจุดรับรางวัล 
 
 
 
ซวนหยวนหรี่ตาและยิ้ม “พวกเจ้าเป็นใคร? แล้วทำไมข้าต้องส่งศพเหล่านี้ให้ด้วย?” 
 
 
 
“ข้ามีนามว่า เลี่ยกู่ เป็นศิษย์แท้จริง และเลี่ยซานก็เป็นสมาชิกตระกูลข้า ข้ามีสิทธิ์จะนำศพของเขากลับไปในนามของตระกูล” เลี่ยกู่ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ยิ่งใหญ่ แรงกดดันที่เขาปล่อยออกมาทำให้ซวนหยวนหายใจไม่ออก แม้ว่าเลี่ยซานและนู่เฟยจะเป็นนักสู้ขอบเขตนักพรตแต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่สามารถนำมาเทียบกับนักสู้ที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนักพรตเช่นเลี่ยกู่ได้ 
 
 
 
“ถูกต้อง ส่งศพของนู่เฟยมา แล้วข้าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้า ถ้าเจ้าขัดขืน พวกเราจะทำให้เจ้าต้องชดใช้ที่ไม่เคารพผู้อาวุโส คุกเข่าลงและส่งมอบศพมา!” ชายอีกคนมีนามว่า นู่ตวน เขาปลดปล่อยแรงกดดันไปที่ซวนหยวน 
 
 
 
“ไอหนู พวกมันต้องการที่จะทำลายหลักฐานทั้งหมด ถ้าเจ้าไม่มีศพเหล่านี้ พวกมันสามารถที่จะกล่าวหาเจ้าได้ว่าสังหารผู้อาวุโสโดยไร้เหตุผล อย่าให้พวกมันเอาศพไปเด็ดขาด” เฒ่าโลภมากรีบกล่าวต่อ ” บัดซบ เซียนพวกนั้นกำลังเฝ้ามองอยู่ ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าจัดการพวกมันได้ มิฉะนั้นพวกมันอาจจะตรวจพบข้า” 
 
 
 
“อย่าได้คิดเอาศพไปจากข้า พวกเจ้าต้องการที่จะทำลายหลักฐาน? สมาชิกตระกูลพวกเจ้าต้องการที่จะลอบทำร้ายข้าแต่กลับถูกฆ่าตายเสียเอง และพวกเจ้ายังต้องการที่จะ….” ซวนหยวนไม่สามารถพูดต่อได้ เขากระอักเลือดออกมา ซวนหยวนรู้สึกว่าอวัยวะของเขาราวกับถูกฉีกกระชากและยังได้ยินเสียงกระดูกค่อยๆถูกบดขยี้จากแรงกดดัน อย่างไรก็ตามเขากัดฟันและพยายามพยุงตัวเองขึ้นโดยปราศจากความกลัว 
 
 
 
ซวนหยวนพยายามที่จะต่อต้านแรงกดดันที่ถูกปล่อยมาจากนักสู้ที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนักพรต แต่ในความจริงแรงกดดันเหล่านั้นเพียงพอที่จะบดขยี้้เขาให้บาดเจ็บสาหัสอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นสิ่งที่้เกิดขึ้น ไป๋จ้านเริ่มช่วยซวนหยวน เนื่องจากเขาเองก็เป็นนักสู้ที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนักพรต เขาสามารถลดแรงกดดันที่กำลังบดขยี้ซวนหยวนได้ครึ่งหนึ่ง เลี่ยกู่ขมวดคิ้วและถามไป๋จ้านอย่างเย็นชา ” ไป๋จ้าน เจ้าเป็นเพียงผู้ดูแลจุดรับรางวัลจากฝ่ายใน นี่ไม่ใช่ที่ๆเจ้าจะแทรกแซงเรื่องของศิษย์แท้จริงได้ หรือเจ้าต้องการที่จะตาย?” 
 
 
 
ไป๋จ้านไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย เขาหัวเราะอย่างเย้ยหยันไปที่เลี่ยกู่ ” เจ้ากล้าที่จะสังหารข้า? ข้ามาจากศูนย์กลางการค้าไท่ไป๋! เจ้าคิดที่ก่อสงครามกับพวกเราด้วยเพียงแค่ตระกูลของพวกเจ้า? ถ้าเจ้ากล้าที่จะฆ่าข้าก็เข้ามา ข้าจะไม่ป้องกันแม้แต่น้อย!” 
 
 
 
ทั้งเลี่ยกู่และนู่ตวนไม่คาดคิดว่าไป๋จ้านจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องของพวกเขา 
 
 
 
“ทำไมพวกเราถึงอยากฆ่าท่านล่ะ ศิษย์พี่ไป๋? ท่านกำลังเข้าใจผิด ซวนหยวนทรยศต่อนิกายและสังหารคนของตระกูลข้า พวกเราต้องการนำหลักฐานกลับไปเพื่อลงโทษคนทรยศ แต่เขากล้าที่จะมองข้ามศิษย์แท้จริง?” นู่ตวนยิ้มและปลดปล่อยแรงกดดันมากขึ้น ซวนหยวนรู้สึกราวกับว่าหัวของเขาจะระเบิด เขากระอักเลือดอีกครั้งกระดูกซี่โครงของเขาแตกหักจากการถูกบดขยี้ภายใต้แรงกดดัน เขาไม่มีพลังพอที่จะต่อต้านอีกต่อไป
 “นั่นแหละ ดีมากไอหนู แม้ว่าเจ้าจะส่งมอบศพให้พวกเรา แต่พวกเราก็จะไม่มีทางเจ้าที่กล้าสังหารผู้อาวุโสของนิกาย” 
 
 
 
“ถูกต้อง! เจ้ากล้าใช้ของๆตระกูลข้าแลกเปลี่ยนกับคะแนน? เจ้ามันหน้าด้านเกินไป คุกเข่าลงและรับความผิดของเจ้าซ่ะ!” เลี่ยกู่ตะโกน เสียงของเขาเต็มไปด้วยพลังปราณที่ทรงพลังเข้าปะทะกับร่างของซวนหยวน
 
 
 
กระดูกทุกส่วนในร่างกายของซวนหยวนเริ่มแตกหัก เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะอดกลั้นความเจ็บปวดและไม่ร้องออกมา เขายังกระอักเลือดอย่างต่อเนื่อง พวกมันตั้งใจที่จะสังหารซวนหยวนอย่างแท้จริง 
 
 
 
“พวกเจ้ากล้าดียังไงที่จะสังหารเขา!” ฟางยู่โหยวคำรามอย่างเกรี้ยวกราด นางหยิบชิ้นส่วนหยกออกมาและบดขยี้มันในทันที ทันใดนั้นชิ้นส่วนหยกที่แตกสลายได้ปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมา