ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปซวนหยวนกำลังท่องทักษะมังกรสวรรค์ ขณะที่เขาปล่อยหมัดออกไป กำปั้นของเขาสร้างคลื่นพลังปราณสีขาวออกมา และแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของมังกรสวรรค์ ร่างกายของเขาล้อมรอบไปด้วยมังกรจำนวนมาก มันกำลังเข้าสู่ร่างกายของซวนหยวนอย่างช้าๆ ด้วยความช่วยเหลือจากรูปแบบ และไข่มุก ทำให้เขาฝึกฝนเพียงแค่วันเดียว แต่มันเทียบได้กับการฝึกฝน 10 วัน
210!
220!
230!
240!
256!
ความแข็งแกร่งของซวนหยวนเพิ่มขึ้นจากมังกร 200 ตัว เป็นมังกร 256 ตัวภายในวันเดียว ในขณะนั้นซวนหยวนสามารถรู้สึกได้ว่าไขกระดูกของเขาได้รับการปรับแต่งจนบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
ตอนนี้ซวนหยวนฝึกฝนเสร็จแล้ว คริสตัลกว่าร้อยจินที่อยู่รอบๆตัวเขาระเบิดกลายเป็นผง และถูกสายลมพัดปลิวไป รูปแบบเริ่มหมดประสิทธิภาพ และหายไป
“ยอดเยี่ยม ในที่สุดข้าก็บรรลุจุดสูงสุดของขอบเขตพฤกษาแล้ว” ซวนหยวนยิ้ม จากนั้นเขาก็นั่งลงบนเตียง และเริ่มศึกษาข้อมูลในตำราแห่งการครอบครองในจิตใจของเขา เขารู้ว่าเทคนิคนี้มีประโยชน์แค่ไหนระหว่างการทดสอบเหมือง เมื่อมีเวลาว่างซวนหยวนก็จะศึกษาข้อมูลต่างๆในตำรา
——————
“ดี ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ เจ้าเด็กนี่สามารถเพิ่มพลังของเขาได้ถึงมังกร 56 ตัวภายในวันเดียว เขาจะต้องแข็งแกร่งอย่างแน่นอนเมื่อเขาบรรลุขอบเขตกษัตริย์ เขาดูคล้ายกับเฟิงเลี่ย ทั้งคู่ล้วนมีการพัฒนาการที่รวดเร็วจนน่าอัศจรรย์” เซียนแห่งเปลวไฟกล่าวร่างของเขาร่ายล้อมไปด้วยเปลวเพลิง เขากำลังปรบมือ และกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ในหมู่พวกเราใครจะเป็นคนสอนเขาเป็นคนแรก? ข้าคิดว่าข้าสมควรเป็นคนแรก เพราะเขาอาจจะเป็นจิตวิญญาณปฐพีกลับชาติมาเกิด” ชายชราที่มีกล้ามเป็นมัดๆกล่าว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ เขาเป็นเซียนปฐพี
“พูดไร้สาระอะไรของเจ้า เจ้าปฐพี เจ้าเป็นคนพูดเองนี่ว่าจะให้พวกเราสอนเขาด้วยกันแต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะได้รับสิทธิพิเศษ ข้าคิดว่าพวกเราควรปรากฏตัวพร้อมกัน และสอนทักษะให้แก่เขา หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจ” เซียนทองคำกล่าว กลิ่นอายของเขาอาจทำให้คนอื่นๆรู้สึกเหมือนกับมีหนามอันแหลมคมล้อมรอบตัวพวกเขาอยู่
“ข้าเห็นด้วย พวกเรามีทักษะที่แตกต่างกัน เจ้าเด็กนี่อาจจะไม่สามารถเข้าได้กับใครบางคน แล้วเราก็จะได้เห็นทักษะที่เหมาะสมกับเขามากที่สุด” เซียนวารีผู้ที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินกล่าวพร้อมกับยิ้ม
“ถ้างั้นเป็นอันตกลง พวกเราเฝ้าดูเขาหลายวันแล้ว ตอนนี้พวกเราควรเปิดเผยตัวเอง” เซียนไม้กล่าว ไม่ว่าที่ใดที่เขาไปดอกไม้จะบานสะพรั่ง และมีชีวิตใหม่งอกเงยขึ้นมาอีกครั้ง
ซวนหยวนหลับตาลง ขณะที่กำลังศึกษาตำราแห่งการครอบครอง ทันใดนั้นได้มีคนห้าคนมุ่งหน้ามาหาเขา เฒ่าโลภมากกล่าวเตือน “เจ้าหนุ่ม มีเซียนกำลังมาหาเจ้า ระมัดระวังด้วย ข้าไม่สามารถพูดคุยกับเจ้าได้ขณะที่พวกเขาอยู่ที่นี่ มิฉะนั้นพวกเขาอาจจะตรวจพบเจอข้า”
ซวนหยวนลืมตาขึ้นปราศจากคำพูด เบื้องหน้าของเขามีชายชรา 5 คน หนึ่งในพวกเขาที่มีเปลวไฟล้อมรอบอยู่เริ่มพูดอย่างช้าๆ
“ข้าจะมอบทักษะจากตำราเปลวไฟจักรพรรดิให้แก่เจ้า มันเป็นทักษะระดับสวรรค์เจ็ดดาว เพื่อปรับแต่งอวัยวะทั้งห้าของเจ้า บางทีมันอาจจะช่วยให้เจ้าบรรลุขอบเขตเซียน และมันสามารถพัฒนาจากทักษะระดับสวรรค์เป็นระดับเซียนได้ด้วยเช่นกัน…”
ทันใดนั้นได้มีแสงไฟสีแดงปรากฏขึ้น มันไหลผ่านเข้าไปสมองของซวนหยวน ตอนนี้ซวนหยวนรู้ว่าเขาสามารถใช้เปลวไฟเพื่อปรับแต่งอวัยวะของเขาได้อย่างไร
“ตำราของเซียนทองคำก็ดีไม่แพ้กัน เจ้าหนูทักษะพวกนี้เป็นของเจ้า!” เซียนทองคำกล่าว เขาพูดแผ่วเบาเล็กน้อย เนื่องจากเปลวเพลิงสามารถละลายทองคำได้ เขาจะเสียเปรียบถ้าต้องสู้กับไฟ แต่เขายังคงโน้มน้าวซวนหยวนต่อไป “ด้วยทักษะนี้เจ้าสามารถมีพลังที่เจาะทะลวงได้ทุกการป้องกัน…”
“ตำราทักษะวารีทมิฬของข้าเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยม…” เซียนวารีพูดพึมพำเบาๆ ขณะที่มีแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นมา และเข้าไปสู่สมองของซวนหยวน
“เจ้าหนุ่มน้อย ข้าคิดว่าตำราปฐพี ของข้าเหมาะสมกับเจ้าที่สุดแล้ว ข้ารู้สึกว่าพวกเราทั้งสองคนกำลังเชื่อมต่อกันอยู่….” เซียนปฐพีมั่นใจเป็นอย่างมากว่าซวนหยวนเป็นจิตวิญญาณปฐพีที่กลับชาติมาเกิด
“และนี่คือตำราไม้พฤกษา…” เซียนไม้กล่าว
ซวนหยวนนิ่งเงียบไม่ตอบกลับ เขาเพียงพยักหน้า ก่อนที่เขาจะหมกมุ่นอยู่กับทักษะที่ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา เหล่าเซียนรู้สึกท้อแท้ที่เห็นซวนหยวนเงียบ ทำให้พวกเขาจากไปโดยปราศจากคำพูด ในที่สุดซวนหยวนก็เปิดปากพูดเมื่อพวกเขาจากไป “นี่ ข้าโชคดีอะไรเช่นนี้เนี่ย…..”
เหล่าเซียนจะต้องรู้สึกโกรธมากแน่ เมื่อพวกเขาจากไปแล้วซวนหยวนเพิ่งจะเปิดปากพูด แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ตระหนักว่าการปรากฏตัวของพวกเขาอย่างกระทันหันภายในห้องอาจจะทำให้ซวนหยวนตกใจ เป็นเรื่องที่ดีที่ซวนหยวนสามารถสงบสติอารมณ์ได้
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหนู เจ้าโชคดียิ่งนัก เจ้าสามารถใช้ทักษะที่พวกเขามอบให้เจ้าเพื่อปรับแต่งอวัยวะทั้งห้าของเจ้าได้!” เฒ่าโลภมากรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นความโชคดีของซวนหยวน
“ข้ารู้ ข้าสามารถใช้เปลวไฟเพื่อปรับแต่งหัวใจ และใช้ทักษะทองคำเพื่อปรับแต่งปอด และใช้ทักษะอื่นๆปรับแต่งส่วนอื่นๆ” ซวนหยวนตอบกลับ
“ถูกต้อง เจ้าสามารถสร้างวงจรของธาตุทั้งห้าได้ เจ้ามีร่างกายแห่งการสรรค์สร้างมันมีพลังที่สามารถดูดกลืนได้ทุกสิ่ง แต่ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้น หยินเฉินลู่จะทิ้งทักษะของนางไว้ให้เจ้า แต่มันก็ไม่ดีเท่าวงจรของธาตุทั้งห้า นี่คือสิ่งที่เจ้าควรจะใช้ประโยชน์จากร่างกายแห่งการสรรค์สร้างของเจ้า! ไม่ใช่ทุกวันที่เจ้าจะได้รับโอกาสเช่นนี้!” เฒ่าโลภมากรู้สึกตื่นเต้น ‘วิถีการปรับแต่งอวัยวะ’ จากทักษะการกลืนกินเพื่อซวนหยวน เมื่อซวนหยวนบรรลุขอบเขตกษัตริย์เขาสามารถปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองได้
“ดี แต่มันไม่ง่ายที่จะทะลวงไปยังขอบเขตถัดไป ข้าต้องการสร้างโอกาสให้ตัวเองก้าวหน้ามากขึ้น ตอนนี้ข้าอยู่ในนิกายส่วนใน ข้าต้องการทำภารกิจบางอย่างเพื่อทำให้ข้าตกอยู่ในสถานการณ์แห่งความเป็นและความตาย” ซวนหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ชั่วครู่ต่อมา เขาก็ใช้ผลึกระดับกษัตริย์ และศึกษาตำราแห่งการครอบครองต่อ
แต่ทันใดนั้น ได้มีเสียงดังขึ้นจากนอกห้องของซวนหยวน “ศิษย์น้องซวนหยวน เจ้าอยู่ในห้องหรือเปล่า?”
ซวนหยวนขมวดคิ้ว และขยับตัวออกจากเตียงเพื่อไปเปิดประตู และเห็นปี้เย่ว
“เหตุใด ศิษย์พี่ปี้เย่วถึงมาที่นี่กัน?” ซวนหยวนถามขณะที่่จ้องมองนาง
“พวกเราไม่ควรเป็นศัตรูกัน เจ้าจะไม่เชิญข้าเข้าไปในห้องหรอ?” การแสดงออกของปี้เย่วมีเสน่ห์มาก เขาได้กลิ่นหอมอันลึกลับจากร่างกายของนาง และเสื้อผ้าที่เปิดเผยรูปร่างของนาง ทำให้ซวนหยวนเห็นผิวที่ละเอียดก่อนของนาง และหน้าอกของนาง ทำให้ซวนหยวนรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมาทันที
“มันดึกแล้ว มันไม่เหมาะสมที่พวกเราจะอยู่ด้วยกัน ท่านสามารถบอกข้าได้ว่าท่านต้องการอะไร” ซวนหยวนไม่เคยมีอารมณ์โรแมนติกกับผู้หญิงมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจเจตนาของนาง นอกจากนี้ซวนหยวนยังรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่กับปี้เย่ว เขารู้สึกว่านางกำลังวางแผนการบางอย่างอยู่
“ศิษย์น้องซวนหยวน ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกไม่ดีกับข้า แต่เมื่อข้าคิดเกี่ยวกับการกระทำอันชั่วร้ายของข้าที่กระทำกับเจ้า ข้าเลยมาที่นี่เพื่อให้เจ้ายกโทษให้ข้า นอกจากนี้ข้ายังนำคริสตัลจำนวน 2 แสนจินมาให้เจ้าด้วย ผู้ดูแลไป๋จ้านบอกให้ข้ามามอบให้เจ้า” ปี้เย่วยิ้มอย่างเขินอาย นางถอดแหวนจากนิ้วอันเรียวยาวของนางออก และมอบมันให้กับซวนหยวน
“ขอบคุณ ศิษย์พี่ปี้เย่ว มีอะไรที่ข้าสามารถทำเพื่อตอบแทนท่านได้บ้าง?” ซวนหยวนสวมแหวน และหัวเราะอย่างมีความสุข
ปี้เย่วหรี่ตาลง นางก็เอนกายเข้าไปหาซวนหยวนอย่างมีเสน่ห์ และถาม “เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าหรือ?”
ซวนหยวนรู้สึกเสน่ห์อันเย้ายวนจากนัยน์ตาของปี้เย่ว ถ้าหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้อยากอยู่กับเขาจริงๆ เขาก็ควรให้โอกาสนาง?