I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 120 ตกหลุมพราง

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ปี้เย่วรีบไปที่พักของคนอื่นภายในนิกาย และเคาะประตูอย่างเงียบๆ ขุยหยาเปิดประตู และรู้สึกประหลาดใจว่าเห็นใครเป็นคนเคาะประตู “ศิษย์น้องปี้เย่ว เจ้ามาสาย มันสำเร็จไหม?”

 

“ใช่ข้าล่อลวงเขาสำเร็จแล้ว ท่านควรออกไปติดต่อพ่อของท่านซะตอนนี้ บอกให้เขามาพบพวกเราที่ด้านนอกของป่าระหว่างทางไปเมือง ท่านสามารถรู้ตำแหน่งของข้าด้วยสิ่งนี้ และข้าจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดการเดินทาง ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับพวกท่านแล้ว” ปี้เย่วเรียกลูกกลมๆออกมาจากฝ่ามือของนาง และผลักมันเข้าไปในร่างของขุยหยา

ขุยหยารอเวลาที่จะแก้แค้นนี้มานานมาก ในไม่ช้าเขาก็จะได้รับทรัพย์สมบัติมากมายเพียงแค่ฆ่าซวนหยวน แต่ที่น่าเศร้าคือเขาต้องแบ่งทรัพย์สมบัติที่ได้ให้กับปี้เย่วครึ่งหนึ่ง

 

“ยอดเยี่ยม เจ้าสมควรได้รับผลตอบแทนมากที่สุด เมื่อพวกเราอยู่นอกนิกาย เราจะสามารถฆ่าเขาได้อย่างลับๆ” ขุยหยาขบฟัน และรีบไปหาพ่อของเขาทันที ปี้เย่วจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเขาอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่นางจะจากไป

 

———————————————

 

ภายในห้องของซวนหยวน…….

 

“เฒ่าโลภมาก เจ้ารู้สึกว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า? พวกเรากำลังจะเผชิญหน้ากับเรื่องอัตราย พวกมันจะส่งใครมาฆ่าข้ากัน?”

 

“ข้าจะไปรู้เรอะ? ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเจ้าอาจถูกพวกมันฆ่าตาย แต่มันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่” เฒ่าโลภมากหัวเราะเบาๆ คำตอบของเฒ่าโลภมากทำให้ซวนหยวนหรี่ตาลง มันไม่มีประโยชน์ที่จะถามต่อ

 

ซวนหยวนไม่ต้องการให้เวลามันสูญเปล่า เขาปิดตาลงอีกครั้งเพื่อศึกษาตำราแห่งการครอบครอง เวลามันมันมีค่ามาก เขาไม่ควรเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระอย่างการพูดโต้เถียงกับเฒ่าโลภมาก

 

ในไม่ช้า ท้องฟ้าก็เริ่มสดใสขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ฉายแสง ก็มีเสียงเคาะประตูและกลิ่นหอมของผู้หญิงลอยไปทั่วอากาศ ใช่แล้วมันเป็นกลิ่นหอมของปี้เย่ว ซวนหยวนเปิดประตู และเห็นปี้เย่วสวมเสื้อคลุมสีเขียวอ่อนทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของนางได้ชัดขึ้น ทำให้ซวนหยวนรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกล่อลวงอีกครั้ง

 

“ศิษย์พี่ปี้เย่ว วันนี้ท่านดูงดงามมาก! ข้าพร้อมที่จะตายถ้ามีท่านอยู่เคียงข้างข้า”

 

หัวใจของปี้เย่วเต้นรัว นางยิ้ม และกล่าว “พูดจาเหลวไหล ข้าจะฆ่าพวกมันให้ตายก่อน ก่อนที่พวกมันจะทำร้ายเจ้า”

 

“ท่านช่างเป็นคนดีสำหรับค่ามากเหลือเกิน ถ้างั้นไปกันเถอะ” ซวนหยวนมุ่งหน้าไปยังห้องโถงภายในโดยมีปี้เย่วอยู่เคียงข้าง “ศิษย์พี่ปี้เย่ว มันมีประตูภายในห้องโถงงั้นหรือ? พวกเราจะใช้สิ่งนั้นเพื่อไปที่เมื่อง?”

 

“หั่วทาวควบคุมประตูปิติหลักๆทั้งหมด พวกเราจะติดกับถ้าทำอย่างนั้น ถ้าพวกมันรู้ว่าพวกเราอยู่นอกนิกาย และกำลังมุ่งหน้าไปยังเมือง แน่นอนพวกมันจะต้องส่งคนมาฆ่าเจ้าระหว่างทาง พวกเราควรแอบออกไปอย่างลับๆ แล้วจะได้ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราออกไปนอกนิกาย เจ้าต้องพยายามให้มากศิษย์น้องซวนหยวน เพื่อที่จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง และแกร่งแค้นพวกมัน” ปี้เย่วพูดเบาๆ

 

“ท่านช่างมีจิตใจงดงามยิ่งนัก ข้าจะต้องตอบแทนท่านที่ดูแลข้า ข้าจะให้ยุทธภัณฑ์ทุกอย่างที่ท่านต้องการ” ซวนหยวนยิ้มกว้าง

 

“เจ้าสัญญาแล้วนะ!” ปี้เย่วยิ้มอย่างสดใส แต่ภายในใจของนาง นางกำลังคิดว่า “หึ เจ้ากำลังจะตายในไม่ช้า และข้าจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้ามี แน่นอนข้าสามารถเลือกยุทธภัณฑ์อะไรก็ได้ที่ข้าต้องการ”

 

หลังจากเดินผ่านห้องโถง และเดินผ่านป่า ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงหน้าผา ซวนหยวนแข็งแกร่งพอที่จะบินได้ แม้ว่าจะต้องใช้พลังปราณจำนวนมากเพื่อที่จะทำเช่นนั้นก็ตาม เขากระโดดลงจากหน้าผา และบินไปไกลราวกับมีปีก

 

ท้องฟ้าสดใสด้วยแสงจากดวงอาทิตย์ และมีพลังปราณธรรมชาติมากมายในอากาศ นิกายถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา และป่าไม้ที่มีสัตว์มากมายเริ่มตื่นจากการนอนหลับของพวกมัน

 

สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบทำให้ซวนหยวนรู้สึกรื่นเริง เขาหัวเราะออกมาและกล่าว “ศิษย์พี่ปี้เย่ว ท่านรู้สึกอย่างไรกับสภาพแวดล้อมที่งดงามเช่นนี้?”

 

“แน่นอนข้ารู้สึกสดชื่นมาก ศิษย์น้องซวนหยวน แล้วเจ้ามีผู้หญิงคนใดอยู่ในใจหรือเปล่า??”

 

จู่ๆใบหน้าของซวนหยวนก็เต็มไปด้วยความเขินอาย เขากล่าวอย่างช้าๆ “มีสิ นางเป็นคนสอนข้าให้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง นางเป็นอาจารย์ที่แสนงดงามข้า”

 

ปี้เย่วรู้สึกประหลาดใจที่เห็นซวนหยวนพูดถึงเรื่องอดีตของเขา เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่เขินอายของซวนหยวน ทำให้หัวใจของนางรู้สึกหึงเล็กน้อย “อาจารย์ผู้ที่แสนงดงามของเจ้าคือใครกัน? นางงดงามกว่าข้า?

 

“แน่นอน นางงดงามกว่าท่านมาก นางเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดแห่งราชวงศ์ตะวันออก นางชื่อ หยินเฉินลู่ นางสอนทักษะตระกูลของนางให้ข้าก่อนที่จะจากไป และปล่อยให้ข้าสู้กับนักฆ่าจากตระกูลของนาง พวกมันต้องการฆ่าข้าที่รู้ทักษะของพวกมัน และข้ามาที่นิกายแห่งนี้เพื่อหลบหนีจากตระกูลหยิน ข้าจะกลับไปแก้แค้นเมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้น” ซวนหยวนไม่ปกปิดเรื่องในอดีตของเขาเลยแม้แต่น้อย เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

 

ปี้เย่วรู้สึกตกใจเมื่อนางได้ยินชื่อหยินเฉินลู่ นางมีชื่อเสียงมากในเรื่องความงาม ความหึงหวงของปี้เย่วเริ่มมากขึ้น นางคิดและสงสัยว่าทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเช่นนี้ มันจะต้องเป็นทักษะระดับสวรรค์เจ็ดดาวของตระกูลหยินแน่ๆ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อนักสู้บรรลุขอบเขตราชันย์ ทักษะพวกนั้นมันจะกลายเป็นทักษะระดับเซียน มันมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น หยินเฉินลู่สักวันหนึ่งข้าจะแข็งแกร่งกว่าเจ้า ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้าจะรู้สึกอย่างไรถ้าข้าฆ่าศิษย์ของเจ้า

 

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน พวกเขาก็ได้ออกนอกอาณาเขตของนิกายแล้ว ปี้เย่วพูดถามขึ้นมาทันที

 

“ศิษย์น้องซวนหยวน เจ้าอาจจะไม่รู้สถานที่ที่งดงามต่างๆภายในนิกาย ทางฝั่งตะวันตกมีทะเลที่เรียกว่าทะเลสีคราม มันเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและงดงามมาก แต่ว่าที่แห่งนั้นมันเป็นสถานที่อันตรายมากๆ ไม่มีผู้ใดที่อยู่ในขอบเขตพฤกษาสามารถทนพลังของน้ำทะเลได้ ภายในน้ำมีสัตว์อสูรมากมาย แต่ใต้ทะเลนั้นมีสมบัติมากมายซ่อยอยู่ ถ้าเจ้าไม่ได้เป็นนักสู้ขอบเขตราชันย์ และต้องการไปหาสมบัติมันจะเป็นการฆ่าตัวตายถ้าเจ้าลงลึกไปใต้ทะเลแห่งนั้น”

 

“ส่วนทางทิศตะวันออกของทะเลสีคราม มันมีภูเขาสีแดงอยู่ มันเป็นดินแดนที่มีสีแดง และแผ่กระจายความร้อนไปทั่ว มันเป็นดินแดนที่ร้อนมาก! มีนักสู้ที่มีจิตวิญญาณไฟมากมายที่อาศัยอยู่ภายในดินแดนแห่งนั้น เพื่อดูดซับพลังของมัน นอกจากนี้ยังมีสมบัติมากมายซ่อนอยู่ภายในส่วนลึกของภูเขา ที่แห่งนั้นมันไม่มีน้ำ ทำให้ง่ายต่อการค้นหา ดังนั้นจึงมีนักสู้ขอบเขตนักพรตมากมายไปที่แห่งนั้นเพื่อลองเสี่ยงโชคของพวกเขาดู”

 

ซวนหยวนพยักหน้า “ท่านต้องการไปที่แห่งนั้นเพื่อเสี่ยงโชคหลังจากที่ซื้อยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นสูงงั้นหรือ? ก็ได้ข้าจะไปกับท่าน”

 

ปี้เย่วยิ้ม “ถ้างั้นไปกัน!”

 

พวกเขามุ่งหน้าไปยังทางเข้าของป่า แต่จู่ๆก็มีกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเขา

ซวนหยวนตกใจ และกรีดร้อง “ศิษย์พี่ปี้เย่ว ระวัง!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าจะต้องตาย!” ขุยหยาบินวนไปวนมาอยู่ในอากาศ ด้านหลังของเขามีนักสู้ที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนักพรตอยู่ สายตาของเขาน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขาเป็นพ่อของขุยหย่า ขุยเสวี่ย!

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments