I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 142 ความโกรธ

| Devouring The Heavens | 1371 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

 “ซวนหยวนสังหารศิษย์ร่วมนิกายและหลบหนี ถ้าข้าจับมันได้ข้าจะฆ่ามัน” เซี่ย อู๋เฮิ่นประกาศ ณ ส่วนในของนิกาย แม้ซวนหยวนได้รับการคุ้มครองจากเฟิงเลี่ย แต่เมื่อซวนหยวนกระทำความผิดร้ายแรง เซี่ยอู๋เฮิ่นจึงไม่กลัวที่จะแสดงความเกลียดชังของเขา รวมทั้ง หั่วทาว, เซี่ยง เทียนฮ้าว, ลู่ หยู่เชียง, เซียวเทียน ต่างสนับสนุนข่าวลือของซวนหยวนและกระจายมันไปทั่วนิกาย

 

 มีผู้คนมากมายที่ไม่รู้ว่าซวนหยวนเป็นใคร แต่พวกเขาคิดว่าซวนหยวนคืออาชญากรที่กระทำความผิดไว้นับไม่ถ้วน ชื่อเสียงการสังหารหมู่ที่จุดรับรางวัลของซวนหยวนแพร่กระจายไปทั่วนิกายราวกับไฟป่า

 

 “ถูกต้อง ซวนหยวนเป็นคนชั่วช้า สิ่งที่พวกเราควรจะทำก็คือ จัดตั้งกลุ่มและไล่ล่ามัน ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน พวกเราก็จะต้องหามันให้พบ”

 

 “ศิษย์น้องซวนหยวนไม่ใช่คนชั่วช้า พวกเรายังไม่รู้ถึงความจริงที่เกิดขึ้นแล้วพวกเจ้าจะลงโทษเขาโดยปราศจากคำตัดสินได้ยังไง?” จ้าวหมั่นเฟิงปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน เป็นเพราะซวนหยวนที่สร้างความมั่นใจให้กับเขาที่จะก้าวสู้ขอบเขตพลังต่อไป เขาได้ปรับแต่งอวัยวะและก้าวเข้าสู้การเป็นนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ และด้วยสถานะผู้อาวุโสทำให้เขามีความกล้ายิ่งขึ้น

 

 “จ้าวหมั่นเฟิง เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะไม่กล้าแตะต้องเจ้าหลังจากที่เจ้ากลายเป็นผู้อาวุโส? ซวนหยวนสังหารศิษย์น้องปี้เย่ว นางไปยังที่ของเขาเพื่อที่จะแก้ไขความขัดแย้งแต่กลับต้องถูกสังหาร!” เซี่ยงเทียนฮ้าวราวกับเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาหันไปทางจ้าวหมั่นเฟิงและตบหน้าของเขา

 จ้าวหมั่นเฟิงเพิ่งจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตกษัตริย์ เขาจะป้องกันตัวจากเซี่ยงเทียนฮ้าวได้อย่างไร? เขาล้มลงบนพื้นและมีเศษฟันบางส่วนหลุดออกมา เซี่ยงเทียนฮ้าวเหยียบร่างของจ้าวหมั่นเฟิงด้วยเท้าของเขา “จ้าวหมั่นเฟิง เจ้าเป็นถึงผู้อาวุโส เจ้ากล้าที่จะปกปิดความชั่วร้ายของซวนหยวนได้อย่างไร จงรับบทเรียนเสีย”

 

 “ศิษย์พี่เซี่ยง เขากล้าที่จะปกป้องคนชั่ว เขาจะต้องตาย!” เซี่ยอู๋เฮิ่นเตะจ้าวหมั่นเฟิงกระเด็นออกไปหลายเมตร

 

 “ศิษย์น้องซวนหยวนจะต้องกลับมา!   พวกเราจะได้รู้ความจริงทั้งหมด!” จ้าวหมั่นเฟิงพยายามระงับความเจ็บปวดและตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด

 

 “ไปลงนรกซ่ะ!” เซี่ยอู๋เฮิ่นเตะจ้าวหมั่นเฟิงอีกครั้ง มันรุนแรงขนาดทำให้อวัยวะของจ้าวหมั่นเฟิงเสียหายและกระอักเลือดออกมา

 

 ในตอนนั้นเองได้มีนกอินทรีย์ยักษ์โผล่ออกมาพร้อมกับแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวจากฟากฟ้า แรงกดดันที่ทรงพลังพุ่งตรงไปที่เซี่ยอู๋เฮิ่น เสื้อเกราะของเขาถูกเปิดใช้งานอัตโนมัติ แต่ชั่วพริบตาเดียวมันก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เซี่ยอู๋เฮิ่นถูกบดขยี้และกลายเป็นละอองเลือดต่อหน้าผู้คนนับพันในทันที

 

 ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ผมของเขาปลิวไสวไปตามสายลมพร้อมกับเสื้อเกราะสีทอง ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูสูงส่งอย่างมาก ฝูงคนต่างตกตะลึง มันคือซวนหยวน! หลังจากที่เขาลงมาถึงพื้นเขาให้เม็ดยารักษากับจ้าวหมั่นเฟิงในทันที จากนั้นก็เก็บยุทธภัณฑ์และแหวนของเซี่ยอู๋เฮิ่น

 

 หอกจิตวายุในมือของเขาปลดปล่อยจิตสังหารที่น่ากลัวออกมา ครั้งนี้เขามอบแหวนของลู่หยู่เชียงและเซี่ยอู๋เฮิ่นให้กับจ้าวหมั่นเฟิง “ผู้อาวุโสจ้าว รับสิ่งนี้ไปและพักผ่อนเสีย ข้าจะจัดการที่เหลือเอง”

 

 “ศิษย์น้องซวนหยวน เจ้า… เจ้ากลับมาแล้ว นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด!” เซี่ยงเทียนฮ้าวสั่นกลัว พลังที่ซวนหยวนปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่สามารถเทียบได้กับนักสู้ขอบเขตนักพรต เขาแข็งแกร่งกว่าทุกคนที่มีรายชื่อติดอันดับศิษย์ภายใน เซี่ยงเทียนฮ้าวจะต้องตายอย่างแน่นอนถ้าหากซวนหยวนต้องการที่จะสังหารเขา

 

 “ศิษย์พี่เซี่ยง ลาก่อน” ซวนหยวนยิ้มขณะแทงหอกจิตวายุออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เซี่ยงเทียนฮ้าวจะได้มีปฏิกิริยาใดๆ หัวใจก็เขาก็ถูกหอกจิตวายุแทงทะลุและเกิดรูขนาดใหญ่ที่หน้าอกของเขา ทุกคนกลายเป็นหวาดกลัวเมื่อเห็นฉากดังกล่าว

 

 “ตาย!” สองนักสู้ขอบเขตนักพรตได้มาถึงและเห็นฉากตรงหน้า พวกเรารีบพุ่งเข้ามาเพื่อที่จะสังหารซวนหยวน พวกเขาคือชายและหญิงจากตระกูลปี้ แต่พวกเขากลับไม่นำอาวุธออกมา ดังนั้นสำหรับซวนหยวนมันก็เป็นเพียงแค่การฆ่าตัวตาย

 

เขาไม่ได้หลบแต่โจมตีกลับไปด้วยพลังที่เทียบเท่ากับมังกร 450 ตัว นักสู้ขอบเขตนักพรตตระหนักถึงความผิดพลาด แต่ก็สายเกินไปที่จะเสียใจ ลำคอของชายคนนั้นถูกแยกออกจากร่างกายโดยสมบูรณ์ หญิงสาวอีกคนพยายามวิ่งหนี แต่หอกก็ได้เจาะทะลุคอของนางติดกับกำแพงหิน มันตลึงนางไว้กับกำแพงขณะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ซวนหยวนไม่ได้ทำลายหัวใจของนาง แต่นางก็ทำได้เพียงต้องทนต่อความเจ็บปวดเท่านั้น พลังชีวิตและเลือดไหลออกมาจากบาดแผลอย่างช้าๆขณะที่นางกำลังดิ้นรน

 

 “ตั้งแต่ที่พวกเจ้ากล่าวว่าข้าคือฆาตกรที่สังหารศิษย์ร่วมนิกาย ข้าก็จะสังหารพวกมันต่อหน้าพวกเจ้า!” ซวนหยวนเหลือบมองเหล่าศิษย์ที่กำลังสั่นด้วยความกลัว การตายของเซี่ยอู๋เฮิ่น, เซี่ยงเทียนฮ้าวและ 2 สมาชิกตระกูลปี้ ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัวโดยสมบูรณ์

 

 “นั่นคือซวนหยวน? เขาแข็งแกร่งยิ่งนัก” หญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า นางสวมชุดที่งดงาม แต่กลิ่นอายของนางเย็นชาอย่างมาก “นายน้องของตระกูลเจ้าตกตายไปแล้ว เซี่ยเทียน”

 

 ชายที่ถือกรงเล็บเหล็กสีเทา เขาคือศิษย์แท้จริงนามว่า เซี่ยเทียน แรงกดดันของเขาทำให้ซวนหยวนหายรู้สึกหายใจไม่ออก

 

 “ผู้หญิงคนนี้เป็นนักสู้ที่อยู่จุดสู้สุดขอบเขตนักพรต และชายอีกคนคือนักสู้ขอบเขตราชันย์! เขามี ยุทธภัณฑ์ระดับสวรรค์ขั้นต่ำ!” เฒ่าโลภมากกล่าว

 

 “ปี้จี ดูเหมือนว่าเขาจะสังหารปี้เย่วจากตระกูลของเจ้า รวมถึงลู่หยู่เซียงจากตระกูลลู่ ข้าไม่ได้เห็นคนที่บ้าบิ่นเช่นนี้มานานแล้ว เขาสามารถกลายเป็นศัตรูกับ 2 ตระกูลจาก 5 ตระกูลใหญ่ในเวลาสั้นๆ” เซี่ยเทียนกล่าวอย่างเฉยเมย “ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้นกนภาวารีเชื่องได้ น่าประทับใจ มันคือหนึ่งในนกที่ดุร้ายที่สุดในหมู่นกอินทรีย์ยักษ์ เจ้าช่างมีพรสวรรค์ในการฝึกสัตว์ยิ่งนัก ศิษย์น้องซวนหยวน”

 

 ซวนหยวนสั่งให้นกนภาวารีด้วยความคิดให้ลงมาอยู่ข้างกายของเขา เขายืนอยู่หน้าม่อโฉวเพื่อที่จะปกป้องนาง แต่ในตอนนั้นเองได้มีแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งมาหาพวกเขา

 

 “นักสู้ขอบเขตราชันย์อีกคน! จักรพรรดิกลืนกินเองก็มีศัตรูมากมาย อย่าได้ตื่นตระหนกมากนักเจ้าหนู” เฒ่าโลภมากกว่า ซวนหยวนยังคงตั้งปกป้องม่อโฉวมากขึ้น ชายที่มาถึงสวมเพียงแค่เสื้อคุมสีขาวธรรมดา เขาดูสุภาพและหล่อเหลา เขาคือลู่เทียนเซี่ยง เป็นศิษย์แท้จริงจากตระกูลลู่

 

 “ข้าเคยดูแลนกนภาวารีในเวลาสั้นๆ ข้าประทับใจที่เจ้าทำให้มันเชื่องได้ พวกเราไม่ได้เห็นคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ในนิกายนานแล้ว” ลู่เทียนเซี่ยงกล่าว ไม่มีทางบอกได้เลยว่าตอนนี้เขากำลังโกรธอยู่หรือไม่

 

 “บอกข้า ใครจะเป็นคนสังหารเจ้าคนชั่วนี่?” ปี้จีกล่าวอย่างเงียบๆ

 

 “ศิษย์น้องปี้จีโปรดใจเย็น พวกเรายังไม่รู้ว่าศิษย์น้องซวนหยวนมีความผิดจริงหรือไม่?” ชายอีกคนได้มาถึง เขามีเกราะทั่วทั้งตัวและมีค้อนเป็นอาวุธ เขาคือเฉินจิ้นโฉว เขารู้สึกโล่งใจที่ซวนหยวนกลับมา เขาเชื่อว่าซวนหยวนจะไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์แน่นอน

 

 “นั่นไม่เฉินจิ้นโฉวจากกลุ่มผู้บังคับใช้กฎจากส่วนในหรอกหรือ? ทำไมเจ้าต้องขัดจังหวะการลงโทษที่ถูกกำหนดโดยศิษย์แท้จริง?” ปี้จีเหลือบมองไปยังเฉินจิ้นโฉวอย่างเย็นชา

 

 “คารวะ ศิษย์แท้จริงทุกคน” เฉินจิ้นโฉวกล่าว “ตามประมาณกฎหมายมาตราที่ 437 ความผิดของศิษย์ภายในจะถูกบังคับใช้โดยกฏของส่วนใน ถ้าไม่สามารถตัดสินได้ก็จะถูกส่งต่อให้กับกลุ่มผู้บังคับใช้กฎที่เป็นศิษย์แท้จริง ศิษย์น้องปี้จีเจ้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้บังคับใช้กฎ เจ้ากำลังพยายามที่จะแทรกแซงกฎของนิกาย?”

 

“ฮ่าๆๆ เฉินจิ้นโฉว เจ้ากล่าวได้ถูกแล้ว” เฟิงเลี่ยได้มาถึงพร้อมกับม้าเกล็ดมังกรของเขา เฟิงเลี่ยรับรู้ได้ทันทีว่าซวนหยวนกลับมาที่นิกายแล้ว เขามองไปที่ศพของนักสู้ขอบเขตนักพรตซึ่งถูกตลึงไว้ด้วยหอกจิตวายุและหัวเราะด้วยความพึงพอใจ “ศิษย์น้องซวนหยวนบอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ข้ามาที่นี่เพื่อเจ้า ไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องกลัว”

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments